เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2613 ตาแหลม / ตอนที่ 2614 ถาม
ตอนที่ 2613 ตาแหลม
เซี่ยอวี้ถังกลืนน้ำลาย หน้าผากมีเหงื่อเม็ดหนึ่งไหลลู่ลงมาถึงแก้ม มือของเขาสั่นไหว สายตามองลงไปบนพื้น พริบตาต่อมา ความเดือดดาลก็เข้ามาแทนที่
เขาเก็บมีดบินขึ้นมา กำไว้ในมือแล้วจ้องหน้าทุกคน “ใคร! เป็นใครที่คิดจะลอบเล่นงาน! ให้ดีก้าวออกมาด้วยตนเองเสียดีๆ ไม่อย่างนั้น เรื่องนี้ข้าจะเอาเรื่องให้ถึงเรือนหลักแน่นอ อน!”
หลานชายของผู้อาวุโสสูงสุดหน้าซีด ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เขาแค่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้นึกถึงผลที่ตามมา ตอนนี้ได้ยินเซี่ยอวี้ถังบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงเรือนหลัก ก็ลนลาน ขึ้นมาทันที
หากท่านปู่ของเขารู้ จะต้องถูกตีตายแน่ๆ!
“ไม่ใช่ข้า”
“ข้าก็ไม่ใช่”
“ข้าก็ไม่ได้ทำ”
“ข้าไม่ได้ยืนอยู่ทิศทางนั้นเลย”
เด็กหนุ่มที่ยืนล้อมอยู่แต่ละคนโบกมือปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนทำ
“เป็นใคร? ใครกันแน่ที่ทำเรื่องขาดคุณธรรมและไม่ได้เรื่องเช่นนี้!” เซี่ยอวี้ถังตะคอกด้วยความเดือดดาล สายตาตวัดมองทุกคน พลันนั้นจับจ้องไปที่หลานชายของผู้อาวุโสสูงสุดที่ตอนนี้ กำลังยืนหน้าซีดอยู่ทางนั้น เขาสาวเท้าเข้าไปทันใด “เป็นเจ้าใช่หรือไม่! เจ้าทำใช่หรือไม่?”
“มะ ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่นะ ไม่ใช่!”
เขาถอยหลังไปหลายก้าว พลางโบกมือปฏิเสธ แต่กลับไม่กล้ามองหน้าเขา ท่าทางแตกตื่นลนลานเช่นนั้น กลับทำให้เหล่าเด็กหนุ่มเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมารางๆ แล้ว
เฟิ่งจิ่วยืนดูอยู่ด้านหนึ่ง เธอกวาดมองเด็กหนุ่มพวกนั้น ก่อนจะหันไปมองเซี่ยอวี้ถัง บอกได้แค่ว่าเจ้าหนูนี่ดวงแข็ง หากเขาไม่ได้ลากเธอมาด้วย และประกอบกับเธอยืนอยู่ตรงนี้ พอดี เดาว่าเขาต้องลำบากแน่แล้ว
เห็นเซี่ยอวี้ถังบีบเค้นอยู่ตรงนั้น ไล่ต้อนเข้าไปทีละก้าวๆ เด็กหนุ่มอีกคนถอยหลังไปทีละก้าว กระทั่งสุดท้ายก็ขาอ่อนทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น ยอมรับด้วยใบหน้าซีดเผือด
เธอยักคิ้วอย่างคาดไม่ถึง เพราะเธอเห็นเซี่ยอวี้ถังเพียงยืนด่าเด็กหนุ่มคนนั้นชุดใหญ่ จากนั้นก็ตักเตือนไปอีกชุดหนึ่ง สั่งให้เขาขอโทษและรับปากว่าต่อไปจะไม่ทำเช่นนี้อีก สุดท้า ายก็คืนมีดบินเล่มนั้นให้กับเขา
“เมื่อกี้เหตุใดมีดบินจู่ๆ ก็ร่วงลงไป?” เห็นเซี่ยอวี้ถังไม่ถือสาเด็กหนุ่มอีก คนอื่นๆ เริ่มพากันพูดคุยถกเถียงกันขึ้นมา
“นั่นสิ! เมื่อกี้ข้าตกใจแทบตาย อวี้ถัง ตอนที่มีดบินพุ่งไปทางเจ้า เจ้าก็ตกใจค้างไปแล้วกระมัง? ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเลย”
อาจเพราะวิธีการจัดการปัญหาของเขา ทำให้บรรดาเด็กหนุ่มยอมรับในตัวเขา ชั่วขณะหนึ่ง แต่ละคนรายล้อมกันเข้ามาถามเขา กอดหลังกอดไหล่พูดคุยหยอกล้อกับเขา
“พวกเจ้าอย่าพูดถึงเลย เมื่อกี้มีดบินเล่มนั้นใกล้จะแทงถูกข้าแล้ว แต่เหมือนถูกกระแสพลังสายหนึ่งโจมตีจนร่วงลงไป” เซี่ยอวี้ถังย้อนคิด จำได้ว่าตอนที่มีดบินพุ่งเข้ามา มีกระแ แสพลังสายหนึ่งโจมตีมันจนร่วงลงไป หนำซ้ำกระแสพลังสายนั้นพัดผ่านใบหน้าเขาไป ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน
“กระแสพลัง? จะเป็นไปได้อย่างไร! น่าจะเป็นเจ้าเซี่ยอวี้หลางออกแรงไม่พอ มีดบินเล่มนั้นถึงได้ร่วงลงไปอย่างนั้น”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? น่าจะไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” เด็กหนุ่มอีกคนแย้ง
“ไม่อย่างนั้นเล่า? ที่นี่เป็นพื้นที่โล่งกว้างแม้แต่องครักษ์สักคนก็ไม่มี เจ้าอย่าบอกนะว่าเป็นองครักษ์ลับปัดมีดบินเล่มนั้นตก” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น หันมองไปรอบๆ สนามประล ลองอันโล่งกว้างแห่งนี้หนึ่งรอบ
เฟิ่งจิ่วได้ยินพวกเขายืนคุยกันอยู่ทางนั้น จึงหันกายตั้งใจจะไปเดินออกไปแล้ว ก่อนออกมาเธอดื่มน้ำแกงบำรุงคอไปหลายชาม ตอนนี้อยากหาที่ปลดทุกข์เหลือเกิน
แต่ในขณะที่เธอกำลังจะหันตัว เสียงตะโกนแหลมๆ ของเซี่ยอวี้ถังก็ดังขึ้น “ข้ายังไม่ไปเลย! เจ้าจะไปไหน?”
………………………………….
ตอนที่ 2614 ถาม
เฟิ่งจิ่วชะงักฝีเท้าหันกลับไปมองเขา ยกมือวาดไปวาดมา เสร็จก็ออกไปก่อนโดยไม่สนว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่
“อวี้ถัง เจ้านั่นทำอะไรน่ะ? เขาเป็นเพื่อนร่วมเรียนของเจ้าจริงหรือ? ทำไมดูไม่ค่อยเหมือนเลยเล่า!”
“นั่นสิ! ที่เขาวาดมือไปมานั่นหมายความว่าอย่างไรกัน? เขาพูดไม่ได้หรือ?”
เซี่ยอวี้ถังตอบว่า “เจ้านั่นเป็นเพื่อนร่วมเรียนของข้าจริงๆ เขาเจ็บคอพูดไม่ได้ อีกไม่กี่วันก็หายแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อน วันหลังข้าจะเลี้ยงเหล้าพวกเจ้าเอง” เขาตบไหล่บรรดา าเด็กหนุ่ม พลางผลักพวกเขาออกแล้วรีบสาวเท้าตามเฟิ่งจิ่วไป
“วันหลังเลี้ยงเหล้าพวกข้า เจ้าจำให้ดีเล่า!”
คนข้างหลังยังตะโกนตามมา แต่ละคนยิ้มอย่างเบิกบาน มีแค่หลานชายของผู้อาวุโสสูงสุดที่ไม่รู้ว่าปลีกตัวออกไปเงียบๆ ตั้งแต่เมื่อใด…
“เจ้าจะไปไหน? ข้ายังไม่ไปเลยนะ!” เซี่ยอวี้ถังเดินมาข้างกาย พลางถาม
เฟิ่งจิ่วเขียนอักษรยื่นให้เขา รีบเดินกลับโดยไม่พูดอะไร
“ห้องน้ำ?” เห็นอักษรสองตัวนี้ เซี่ยอวี้ถังมุมปากกระตุก จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงเดินกลับจวนไปพร้อมกับเขา กลับถึงจวนจึงค่อยบอกเขาว่า “เจ้าไปเถอะ! เข้าห้องน้ำเสร็จก็กลับม มาที่เรือน ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”
เขาไม่เห็นว่าใครเป็นคนปัดมีดบินตก เฟิ่งจิ่วยืนดูอยู่ข้างๆ ตลอด น่าจะเห็นกระมัง?
ทางนี้ เซี่ยอวี้ถังไม่รู้เลย หลังจากที่เขากับเฟิ่งจิ่วกลับไป ก็มีองครักษ์ลับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในสนามประลองให้ผู้นำตระกูลทราบ…
หลังจากที่เฟิ่งจิ่วกลับมาที่เรือน ก็เห็นเซี่ยอวี้ถังเข้ามาถามว่าเป็นฝีมือใคร เธอย่อมต้องส่ายหน้าบอกเขาว่าไม่รู้อยู่แล้ว เรื่องนี้จึงจบแต่เพียงเท่านี้
เพียงแต่ยามหัวค่ำ ผู้อาวุโสสูงสุดพาหลานชายของเขาเซี่ยอวี้หลางมาเยี่ยมพร้อมกับของขวัญแทนคำขอโทษ ด้วยเหตุนี้ หญิงงามและพวกเซี่ยเหยียนจึงรู้เรื่องนี้ด้วย
ในห้องโถง
“ล้วนเป็นเพราะอวี้หลางไม่รู้ความ ข้าพาเขามาขอโทษอวี้ถัง จากนั้นก็จะจับเขาไปขังในคุกฝึกฝนสามเดือนเพื่อเป็นการลงโทษ” ผู้อาวุโสสูงสุดเอ่ยขึ้น เขามองเซี่ยเหยียน พูดว่า “ข้ายั งเอาของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาปลอบขวัญอวี้ถังด้วย เรื่องนี้อย่างไรก็เป็นอวี้หลางที่ผิด ข้าจะสั่งสอนเขาให้ดี หวังเพียงว่าพวกเราครอบครัวเดียวกันจะไม่แตกแยกเพราะเรื่องนี้”
เซี่ยเหยียนกับฮูหยินของเขามองหน้ากันแวบหนึ่ง สุดท้ายก็เอ่ยว่า “หากไม่ใช่ผู้อาวุโสสูงสุดมาเยี่ยมถึงเรือน พวกข้ายังไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้ด้วย แต่ในเมื่ออวี้ถังไม่ได้ป่าวประกาศ ศอะไร ข้าคิดว่าเขาคงให้อภัยอวี้หลางแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้อีก”
“ดีๆ อย่างนั้นก็ดี ได้ยินพวกเจ้าพูดอย่างนี้ ข้าก็วางใจแล้ว” ผู้อาวุโสสูงสุดพยักหน้ายิ้ม รู้สึกโล่งอก ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เอ่ยว่า “ท่านผู้นำตระกูลยังให้ข้ามาบอกความต่อ เด็กหน นุ่มที่ติดตามอวี้ถังเป็นใครหรือ?”
สองสามีภรรยาได้ยินคำถามก็มองหน้ากัน ก่อนจะเล่าให้ผู้อาวุโสสูงสุดฟังคร่าวๆ
“อ้อ ที่แท้ก็อย่างนี้เอง” ผู้อาวุโสสูงสุดพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ขอตัวพาอวี้หลางกลับก่อน ท่านผู้นำตระกูลถ่ายทอดคำสั่งลงมาแล้ว ให้เขาเข้าคุกฝึกฝนตั งแต่พรุ่งนี้เลย”
ทั้งสองออกไปส่งผู้อาวุโสสูงสุด จากนั้นก็เรียกตัวอวี้ถังมาถามให้เข้าใจ สุดท้ายก็ให้เขากลับออกไปก่อน ก่อนจะเรียกตัวเฟิ่งจิ่วมา
เฟิ่งจิ่วที่เข้ามาในห้องโถงมองสองคนที่นั่งอยู่ข้างบน ก้าวเข้ามาคารวะ จากนั้นก็เงยหน้ามองพวกเขาด้วยแววตาตั้งคำถาม
“เฟิ่งจิ่ว เรื่องที่เกิดขึ้นกับอวี้ถังในเรือนหลักวันนี้พวกข้ารู้หมดแล้ว พวกข้าเรียกเจ้ามาเพราะอยากถาม ตอนนั้นเจ้าเห็นคนที่ยื่นมือช่วยเหลืออวี้ถังหรือไม่?”