เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2621 งานเลี้ยง / ตอนที่ 2622 เด็กรับใช้ที่ไม่เหมือนคนอื่น
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2621 งานเลี้ยง / ตอนที่ 2622 เด็กรับใช้ที่ไม่เหมือนคนอื่น
ตอนที่ 2621 งานเลี้ยง
หญิงงามที่เดินมาอย่างแช่มช้า สวมชุดกระโปรงสีขาวจันทร์เสี้ยว ดูสูงส่งสง่างาม บนมวยผมที่ถูกเกล้าสูงไม่ได้มีเครื่องประดับที่มากเกินแต่อย่างใด มีเพียงปิ่นสีเขียวมรกตที่เสียบเฉียงไว้ พู่ห้อยลู่เรียบไปตามเอวอันสะโอดสะอง สะบัดไหวเบาๆ ไปตามการเคลื่อนเท้าของนาง งดงามน่ามองอย่างมาก
ยิ่งเห็นหญิงงาม เฟิ่งจิ่วก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ ผู้หญิงที่ไร้วรยุทธ์คนหนึ่ง ยามพบเจออันตรายก็จะแสดงท่าทีอ่อนแอด้วยการหลบอยู่ในอ้อมอกของผู้ชาย แต่เหตุใดบางครั้งกลับสามารถแผ่รัศมีที่ดูลึกลับเช่นนั้นได้?
ถูกต้องแล้ว มันคือความลึกลับ จนตอนนี้ เธอก็ยังมองหญิงงามคนนี้ไม่ออก มักรู้สึกว่านางไม่ได้ดูธรรมดาเหมือนที่เห็นภายนอกแน่นอน
“ขึ้นรถม้าเถอะ!” หญิงงามหันไปเอ่ยกับลูกชายและลูกสาวของนาง
เซี่ยอวี้ถังกับเซี่ยซือซือขึ้นรถม้าไปก่อน จากนั้นเฟิ่งจิ่วก็ประคองหญิงงามขึ้นรถม้าตาม หลังจากที่พวกเขานั่งเรียบร้อยแล้ว เธอก็นั่งลงที่ข้างนอก ขับรถม้ามุ่งหน้าไปยังตระกูลหร่วน
ตระกูลหร่วนอยู่ไม่ไกลจากตระกูลเซี่ยมากนัก กอปรกับเมื่อวานเฟิ่งจิ่วเคยสำรวจเส้นทางแล้ว ค่อนข้างคุ้นเคยกับเส้นทางดี ไม่นานก็มาถึงหน้าประตูจวนตระกูลหร่วน เพียงแต่ที่น่าแปลกคือด้านหน้ามีรถม้าเจ็ดแปดคัน จอดกีดขวางทางสัญจรอยู่
“ฮูหยิน ข้างหน้าไปไม่ได้แล้ว รถม้ากีดขวางทางไป จะลงตรงนี้หรือไม่?” เธอหันกลับไปถาม จากตรงนี้เดินไปข้างหน้าก็เพียงสามจั้งกว่าเท่านั้น จอดรถม้าไว้แถวๆ นี้ก็นับว่าสะดวกด้วย
“ก็ได้ ลงตรงนี้ก็แล้วกัน!” หญิงงามออกมาก่อน หลังลงจากรถม้าก็เอ่ยกับเฟิ่งจิ่วว่า “เจ้าจอดรถไว้แถวๆ นี้ กำชับคนเฝ้าประตูตระกูลหร่วนให้พวกเขาดูแลสักหน่อยก็พอ อีกเดี๋ยวให้ซือซือตามข้า เจ้าก็ติดตามอวี้ถังแล้วกัน!”
เฟิ่งจิ่วพยักหัวรับคำ “ขอรับ”
เธอจอดรถม้าให้เรียบร้อย กำชับคนเฝ้าประตู จากนั้นก็เดินตามพวกเขาเข้าไปข้างใน คอยติดตามเซี่ยอวี้ถังเหมือนเป็นเด็กรับใช้ เงยหน้ามองไปข้างหน้า ก็เห็นฮูหยินคนงามกำลังคุยกับฮูหยินจากรถม้าอีกคันอยู่ พวกนางพูดคุยหยอกล้อตลอดทาง
เธอละสายตากลับมา มองสำรวจรอบๆ แวบหนึ่ง เห็นว่าในตระกูลหร่วนแห่งนี้หรูหราโอ่อ่าไม่เบา นับได้ว่าเทียบเคียงกับเรือนหลักของตระกูลเซี่ยได้เลยทีเดียว แค่รอบๆ ทางเดินเล็กๆ ที่ทอดสู่เรือนหลัง ก็มีองครักษ์ลับคอยเฝ้าอยู่หลายคนแล้ว
งานเลี้ยงของนายหญิงใหญ่ตระกูลหร่วนจัดที่เรือนด้านหลัง เด็กหนุ่มและเด็กสาวถูกแยกให้อยู่คนละที่ เมื่อมาถึงหน้าประตูเรือนด้านหลัง เฟิ่งจิ่วเข้าไปด้านในไม่ได้เพราะเป็นเด็กรับใช้ ด้วยเหตุนี้ ฮูหยินคนงามจึงให้เฟิ่งจิ่วยืนรออยู่หน้าประตูเรือน
ไม่นานหลังจากที่นางพาลูกชายและลูกสาวเข้าไปคารวะนายหญิงใหญ่ของตระกูลหร่วน เซี่ยอวี้ถังก็ออกมาก่อน
“ไปเถอะ! ได้ยินมาว่าลูกหลานตระกูลใหญ่หลายตระกูลในเมืองก็มากัน ไปดูกันหน่อย” เซี่ยอวี้ถังเดินมาหยุดข้างๆ เฟิ่งจิ่ว เอ่ยจบก็สาวเท้าเดินตามหญิงรับใช้ไปอีกทาง
เฟิ่งจิ่วตามไป กระทั่งมาถึงเรือนรับรองหลังหนึ่ง ครั้นเข้าไปก็พบว่ามีชายสิบกว่าคนที่อายุตั้งแต่สิบกว่าปีจนถึงยี่สิบกว่าปีนั่งอยู่ข้างในแล้ว และด้านหลังของทุกคน ก็มีเด็กรับใช้ติดตามอยู่คนหนึ่ง
การมาถึงของเซี่ยอวี้ถังทำให้คนพวกนั้นหันมามอง คุณชายตระกูลหร่วนเมื่อเห็นว่ามีแขกมา จึงเดินเข้ามารับหน้าด้วยรอยยิ้ม “ข้าคือคุณชายใหญ่ของตระกูลหร่วน ไม่ทราบว่าท่านนี้คือ…”
“ข้ามาจากตระกูลเซี่ย ชื่อเซี่ยอวี้ถัง” เซี่ยอวี้ถังจ้องพิจารณาคนตรงหน้า เห็นว่าคนตรงหน้าอายุประมาณยี่สิบกว่าปี คิ้วกระบี่นัยน์ตาดุจดวงดารา ใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่น รูปร่างสูงเพรียวไม่ธรรมดา อดไม่ได้ที่จะมองมากหน่อย
เหล่าเด็กหนุ่มในเรือนรับรองครั้นได้ยินว่าเขามาจากตระกูลเซี่ย จึงคิดว่าเขาเป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลเซี่ย จึงพากันเข้ามาทักทายเขา
………………………………….
ตอนที่ 2622 เด็กรับใช้ที่ไม่เหมือนคนอื่น
“ที่แท้ก็คุณชายจากตระกูลเซี่ย เจ้ามาสายแล้ว พวกข้ามาตั้งนานแล้ว มานั่งนี่เถอะ!”
เซี่ยอวี้ถังเดินตามคุณชายใหญ่ตระกูลหร่วนไป นั่งลงที่ตำแหน่งหนึ่ง ส่วนเฟิ่งจิ่วยืนอยู่ข้างหลังเขา
“ตระกูลเซี่ยมีคุณชายสายตรงหลายคน เจ้าเป็นลำดับที่เท่าใดหรือ? แต่ก่อนทำไมไม่เคยเห็นเจ้าเลย?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้น เขามองเซี่ยอวี้ถังอย่างแปลกใจเล็กน้อย เขากับเหล่าลูกหลานสายตรงจากตระกูลเซี่ยล้วนรู้จักกัน แต่กลับไม่รู้จักคนตรงหน้า
“ข้าไม่ใช่สายตรง ข้าเป็นสายเลือดฝ่ายญาติ” เซี่ยอวี้ถังตอบคำถาม พลางเด็ดองุ่นที่วางบนโต๊ะตัวเล็กด้านหน้าขึ้นมากิน นึกถึงเฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ข้างหลัง จึงหยิบขึ้นมาหนึ่งพวงยื่นให้เขา “ให้”
เฟิ่งจิ่วมองเขาอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเขาส่งสายตามา และคนรอบข้างต่างก็มองอย่างอึ้งๆ จึงยื่นมือไปรับ และเด็ดมากินหนึ่งลูกด้วย
“เป็นอย่างไรบ้าง? หวานใช่ไหม?” เซี่ยอวี้ถังถาม ก่อนจะเด็ดกินอีกหนึ่งลูก
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำ ก่อนส่งสายตาให้เขามองไปข้างหน้า
“เจ้าเป็นสายรองหรือ?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งมองเขาแปลกๆ จากนั้นก็หันไปถามคุณชายใหญ่ตระกูลหร่วนว่า “ฮูหยินหร่วนไม่ได้เชิญนายหญิงใหญ่ตระกูลเซี่ยหรอกหรือ? เหตุใดจึงมีลูกหลานสายรองมาด้วยได้เล่า?”
ในสายตาของลูกหลายสายตรงอย่างพวกเขา ฐานะของสายรองต่ำกว่าพวกเขาหนึ่งระดับ ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ล้วนเป็นลูกหลานสายตรง นึกไม่ถึงว่าคุณชายที่มาจากตระกูลเซี่ยกลับเป็นสายรอง
คุณชายใหญ่หร่วนยิ้มๆ เอ่ยว่า “จากที่ข้ารู้มา ฮูหยินตระกูลเซี่ยที่ท่านแม่เชิญมาวันนี้เป็นฮูหยินสายรองท่านหนึ่ง ข้าได้ยินท่านแม่บอกว่าเป็นสหายเก่ากับฮูหยินท่านนี้น่ะ” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนยิ้มเอ่ยต่อว่า “อย่างที่เขาว่ากันว่าวีรบุรุษมิได้ตัดสินกันที่ชาติกำเนิด ไม่ว่าจะสายตรงหรือสายรอง ขอเพียงมีพรสวรรค์โดดเด่นล้วนได้รับความเลื่อมใสจากผู้คน ทุกท่านว่าใช่หรือไม่?”
ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้าเห็นด้วย “ถูกต้องแล้ว ฐานะเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่พลังและความสามารถของตนเองก็สำคัญมากเช่นกัน” ด้วยเหตุนี้ สายตาของทุกคนจึงหันไปจับจ้องที่เซี่ยอวี้ถังอีกครั้ง
เฟิ่งจิ่วยืนเด็ดองุ่นกินอยู่ข้างหลังเซี่ยอวี้ถัง พลางมองดูสายตาที่จ้องพิจารณามาที่เซี่ยอวี้ถังของคนพวกนั้น ลอบคิดในใจว่า ‘คุณชายใหญ่หร่วนผู้นี้แค่เอ่ยปากก็คลี่คลายสถานการณ์ได้แล้ว ตอนนี้คนพวกนั้นกำลังคอยดูว่าวรยุทธ์ของเซี่ยอวี้ถังเป็นอย่างไร ทว่าด้วยวรยุทธ์ของเซี่ยอวี้ถัง เทียบกับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วนับว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูงเลยก็ว่าได้’
ทุกคนเริ่มหันไปพูดคุยกันคนละคำสองคำ บรรยากาศจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลง เฟิ่งจิ่วยืนกินองุ่นอยู่ข้างหลัง เมื่อกินองุ่นในมือหมด เซี่ยอวี้ถังที่อยู่ข้างหน้าก็ยัดผลไม้ใส่มือเธออีกสองลูก ด้วยเหตุนี้ ไม่เพียงเด็กรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังคุณชายคนอื่นเผยสีหน้าอิจฉา แม้แต่บรรดาคุณชายจากตระกูลผู้ดีที่นั่งอยู่ต่างก็ฉงนฉงายไปด้วย
“อวี้ถัง เจ้าดีกับเด็กรับใช้อย่างนี้ตลอดเลยหรือ?” มีคนถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ ตั้งแต่นั่งลงจนถึงตอนนี้ เขาก็เห็นเด็กรับใช้ที่อยู่ข้างหลังเขากินผลไม้ตลอด ปากไม่เคยว่างเลย
“แน่นอนว่าไม่ เขาไม่เหมือนกัน” เซี่ยอวี้ถังตอบคำ
ทุกคนได้ยินคำตอบ ก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “ไม่เหมือนกันอย่างไร? ดูแล้วก็ไม่เห็นมีตรงไหนโดดเด่นเลยนี่!”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งอดขำขึ้นมาไม่ได้ “ฮ่าๆๆ ไม่มีตรงไหนโดดเด่นเสียทีไหนกัน? พวกเจ้าดูสิ ตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้เด็กรับใช้คนนี้ปากไม่เคยว่างเลย อวี้ถังยื่นอะไรให้เขาก็กินอันนั้น นี่ก็กินไปตั้งมากมายเท่าใดแล้ว พวกเจ้าว่ามีเด็กรับใช้คนไหนกินเก่งเท่าเขาบ้าง?”
เฟิ่งจิ่วที่ได้ยิน ปากที่กำลังเคี้ยวผลไม้หยุดลงทันที เธอเงยหน้ามองเด็กหนุ่มคนนั้นแวบหนึ่ง เด็กหนุ่มถูกเธอจ้องเช่นนั้น ก็อดสะดุดกึกไม่ได้
………………………………….