เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2635 ปกป้อง / ตอนที่ 2636 โอกาส
ตอนที่ 2635 ปกป้อง
“หากอยากได้ ก็ฆ่าด้วยตัวเองสิ อย่างไรเสียที่นี่ก็น่าจะมีสัตว์ร้ายไม่น้อย” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา หันไปมองรอบๆ แวบหนึ่ง เธอเองก็นึกไม่ถึงเลย จวนตระกูลหร่วนจะมีถ้ำฟ้าแยก กออกมาอีกต่างหากด้วย!
“ในจวนตระกูลหร่วนมีสถานที่เช่นนี้อยู่ได้อย่างไรกัน?” เซี่ยอวี้ถังขมวดคิ้วถาม
“เจ้าถามข้า ข้าจะไปถามใคร? เอาเป็นว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในจวนตระกูลหร่วนแน่นอน”
“อย่างนั้นพวกเราจะออกไปอย่างไร?” เซี่ยซือซือถาม มองดูรอบๆ ที่มีแต่ป่าทึบ อดกล่าวอย่างกังวลใจไม่ได้ว่า “ที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีทางเดิน”
เฟิ่งจิ่วยักไหล่ ตอบว่า “ตอนเข้ามากะทันหันเกินไป ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะออกไปอย่างไร” เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อว่า “พวกเจ้ารอข้าเดี๋ยว ข้าไปควักผนึกอสูรตัวนั้นก่อน” พูด ดจบ ก็เดินกลับไปทางเดิม
“เสี่ยวซือ นี่อาวุธวิเศษบินได้ของเจ้า ยังมีกระบี่ของเจ้าที่ตกอยู่ข้างหน้านั้นด้วย เก็บไว้ให้ดี” เซี่ยอวี้ถังเก็บอาวุธบินที่ตกอยู่ด้านหนึ่ง ก่อนจะคืนให้นางพร้อมกับกระบี่ ที่เก็บได้เมื่อกี้
“ขอบคุณท่านพี่มาก” นางรับของไป สาวเท้าไปข้างหน้า แต่กลับลงน้ำหนักโดนข้างที่ข้อเท้าพลิก จึงอดสูดปากไม่ได้ ก่อนจะล้มลงไปอย่างยืนไม่อยู่
เซี่ยอวี้ถังที่อยู่ข้างๆ เห็นก็รีบเข้าไปประคองนาง ถามอย่างเป็นห่วงว่า “เป็นอะไรไป? ขาเจ้าเป็นอะไรรึ?”
“เมื่อกี้ข้อเท้าแพลงตอนที่ตกลงมา เจ็บนิดหน่อย” นางกัดฟันตอบ
“นั่งลงๆ รีบนั่งลง” เขาประคองนางให้นั่งลง แต่กลับได้ยินเสียงของเฟิ่งจิ่วที่ย้อนกลับมาดังขึ้น
“กลิ่นคาวเลือดที่นี่กระจายออกไปแล้ว จะต้องดึงดูดสัตว์ร้ายตัวอื่นเข้ามาแน่ นั่งที่นี่ไม่ได้แล้ว ไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ!” เธอเอ่ยขณะเดินกลับมา สายตาจับจ้องไปที่เท้าของเซี่ย ยซือซือ
เซี่ยอวี้ถังได้ยินดังนั้นก็หันไปเอ่ยกับน้องสาวของเขาว่า “มา เสี่ยวซือ ข้าแบกเจ้าเดินเอง”
“อืม” เซี่ยซือซือพยักหน้า ก่อนจะขึ้นขี่หลังพี่ชายของนาง
“พวกเราไปทางไหน?” เซี่ยอวี้ถังหันไปถามเฟิ่งจิ่ว
“ทางนี้ก็แล้วกัน!” เฟิ่งจิ่วชี้ไปทางซ้าย ก่อนจะสาวเดินไปทางนั้น เซี่ยอวี้ถังแบกน้องสาวของเขาเดินตามไป
หลังจากที่พวกเขาเดินมาได้ไกลพอสมควร เฟิ่งจิ่วหยุดเดิน ก่อนจะเอ่ยว่า “พักที่นี่กันก่อนเถอะ!”
เซี่ยอวี้ถังได้ยินก็อดถอนหายใจไม่ได้ เขาปล่อยน้องสาวลงจากหลัง ประคองนางนั่งลงแล้วปาดเหงื่อ จากนั้นก็ตั้งใจจะเอายารักษาอาการข้อเท้าแพลงออกมาจากแหวนห้วงมิติ แต่กลับเห็นเฟิ งจิ่วเดินเข้ามาแล้วย่อตัวนั่งลงข้างน้องสาวของเขาก่อน
“ถอดรองเท้าเสีย ถลกกระโปรงขึ้นสูงหน่อย” เฟิ่งจิ่วสั่ง
“อ้อ” เซี่ยซือซือรับคำ ทำตามที่เฟิ่งจิ่วบอก ดึงกระโปรงขึ้นสูงเล็กน้อย เผยให้เห็นข้อเท้าที่บวมแดง
“ทำไมบวมขนาดนี้?” เซี่ยอวี้ถังเองก็ย่อตัวนั่งลงด้วย เห็นเฟิ่งจิ่วยังยื่นมือไปลูบขาของน้องสาวเขา ก็อดไม่ได้ที่จะปัดมือเขาออกอย่างไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรของเจ้าน่ะ?”
เฟิ่งจิ่วเงยหน้าชำเลืองมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “อะไรคือทำอะไร?”
“เจ้าลูบขาน้องสาวของข้า! เท้าของผู้หญิงเจ้าจะลูบส่งเดชได้อย่างไร?” เขาเอ่ยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะควักยาออกมาด้วยตนเอง “ข้ามียา ข้าจะทายาให้น้องสาวของข้าเอง”
เฟิ่งจิ่วอึ้งงัน ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “เจ้านี่ก็ปกป้องน้องสาวเจ้ามากเหมือนกันนะ”
“แน่นอนสิ ข้าเป็นพี่ชายของนาง ไม่ปกป้องนางแล้วจะปกป้องใคร?” เซี่ยอวี้ถังเชิดคาง หลังจากทายาให้น้องสาวของเขาอย่างลวกๆ ก็เอ่ยว่า “เสร็จแล้ว ทายาเท่านี้ไปก่อนแล้วกัน!”
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเล็กน้อย มุมปากกระตุก “แค่นี้ก็เสร็จแล้ว?”
………………………………….
ตอนที่ 2636 โอกาส
เซี่ยอวี้ถังอึ้งงัน ถามกลับว่า “ไม่อย่างนั้นจะให้ทำอย่างไร?”
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ตอบว่า “ทายาให้หนากว่านี้หน่อย จากนั้นก็ใช้ผ้ารัดไว้ ให้ยาประคบอยู่ตรงจุดที่บวมแดง”
เซี่ยอวี้ถังครุ่นคิดดูแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงทำตามที่เฟิ่งจิ่วบอก หลังจากทายาเพิ่มเข้าไปอีก เขาเอาเสื้อเก่าในห้วงมิติออกมาฉีกเป็นสองเส้น จากนั้นก็ใช้ห่อข้อเท้าน้องสาว วของเขา
“เสี่ยวซือ มา สวมรองเท้าเสีย”
เขาไม่ได้รัดผ้าหนามาก กอปรกับรองเท้าไม่ได้แน่นมากเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ขาที่ทายาเสร็จแล้วยังคงสามารถสวมรองเท้าเข้าไปได้ เพียงแต่ หลังจากที่เขาช่วยน้องสาวของเขาใส่รองเท้าเสร ร็จ กลับได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังมาจากรอบข้าง
“กรรซ์!”
“โฮก!”
ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่ดังมาจากในป่า เซี่ยอวี้ถังตื่นตัวขึ้นมาทันที เขาประคองน้องสาวของเขาลุกขึ้นมา จากนั้นก็แบกนางขึ้นหลัง รีบเดินไปยืนข้างๆ เฟิ่งจิ่ว
“เหมือนจะเป็นสัตว์ร้าย ทำไมฟังดูเหมือนมีจำนวนมาก? นี่มันสถานที่บ้าๆ อะไรกันแน่เนี่ย!” เขาเพ่งมองรอบๆ อย่างหวาดระแวง เห็นเพียงใบไม้สั่นไหว ส่งเสียงสวบสาบ แต่กลับไม่รู้ว่าสัต ตว์ร้ายอยู่ห่างจากพวกเขาเท่าใด
เซี่ยอวี้ถังที่ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้แม้จะตกใจ และมีเหงื่อไหลออกจากหน้าผากก็ตาม แต่กลับยังคงฝืนวางท่าเข้มแข็งหนักแน่น แต่พอเขาเห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านของเฟิ่งจิ่ว กลับแผดเ เสียงร้องเหมือนแมวขนพองขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“มีสัตว์ร้ายนะ! เจ้าไม่ได้ยินเสียงคำรามนั่นหรือ? สัตว์ร้ายพวกนั้นอาจกำลังมาทางพวกเราก็ได้ เจ้าไม่ตระหนก ไม่กลัวเลยหรือ?” เขาถลึงตา พลางตะคอกอย่างเสียการควบคุมอารมณ์
เขาตกใจจนแทบจะตายอยู่แล้ว หัวใจน้อยๆ ตึงเกร็งไปทั้งดวง แต่ใครจะรู้เฟิ่งจิ่วกลับดูผ่อนคลายขนาดนั้น เขารู้หรือไม่กันแน่ว่าที่นี่เป็นสถานที่แบบใด? รู้หรือไม่ว่าตอนนี้พวก กเขาตกอยู่ในอันตรายแค่ไหน?
หากไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียว พวกเขาสามคนอาจต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด แม้แต่กระดูกก็ไม่เหลือ
เฟิ่งจิ่วมองเขาแปลกๆ แวบหนึ่ง ก่อนตอบว่า “เจ้าไม่ต้องแตกตื่นไป นี่ก็ยังไม่โผล่ออกมาไม่ใช่หรือ? อีกอย่าง ที่นี่จะต้องไม่ได้มีแค่สัตว์ร้ายอยู่แค่นี้แน่นอน หากแค่สัตว์ร้ายไม่ก กี่ตัวนี้ก็ทำให้เจ้าตกใจได้ขนาดนี้ อย่างนั้นหลังจากนี้จะไม่แย่เอาหรือ?”
เซี่ยอวี้ถังที่ตอนแรกยังฝืนทำตัวหนักแน่นพอได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเสียไปทันที เขาเริ่มลนลานขึ้นมาแล้ว “อย่างนั้นจะทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดีเล่า? ข้ามีวรยุทธ์แค่ระดับสร้างรากฐา าน ไม่ใช่แม้กระทั่งระดับหลอมแก่นพลัง แต่ก่อนไม่เคยเจอสัตว์ร้ายจำนวนมากขนาดนี้ ข้าสู้สัตว์ร้ายพวกนั้นไม่ได้หรอกนะ”
“ท่านพี่ เฟิ่งจิ่วอยู่นี่ ท่านไม่ต้องกลัว” เซี่ยซือซือที่ขี่หลังเขาอยู่กะพริบตาปริบๆ ปลอบเขา นางหันไปมองเฟิ่งจิ่ว เผยรอยยิ้มอ่อนหวาน “เจ้าจะต้องปกป้องพวกข้าแน่นอน ใช่หรือไม่ ?”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว มองนางแวบหนึ่ง ก่อนยิ้มตอบว่า “วางใจเถอะ! สัตว์ร้ายกินพวกเจ้าไม่ได้หรอก”
เธอมองรอบๆ แวบหนึ่ง ก่อนพูดกับทั้งสองว่า “แม้ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่จำต้องยอมรับว่าที่นี่มีสัตว์ร้ายอยู่ไม่น้อยเลย พวกเจ้าเองก็ไม่มีสัตว์คู่พันธสัญญาที่แข็งแกร่ง อุต ตส่าห์ได้เข้ามาที่นี่ทั้งที ไม่สู้ฉวยโอกาสนี้ผูกพันธสัญญากับสัตว์ร้ายสักตัว?”
อารมณ์แตกตื่นของเซี่ยอวี้ถังค่อยๆ สงบลง เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนพึมพำว่า “ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงเสียหน่อย จะผูกพันธสัญญากันได้ง่ายๆ อย่างนั้นเสียที่ไหน?”
“แต่ระดับวรยุทธ์อย่างพวกเรา ยากมากที่จะผูกพันธสัญญากับสัตว์ร้ายที่ยอดเยี่ยมได้” เซี่ยซือซือเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม สัตว์คู่พันธสัญญาที่มีพลังต่อสู้ธรรมดาพวกเขาก็ไม่อยากได้ แต่ตั วที่มีพลังต่อสู้แข็งแกร่ง พวกเขากลับไม่มีปัญญาไปผูกพันธสัญญาด้วยอีก
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ยิ้มๆ “ไปเถอะ! ลองเดินไปดูข้างหน้ากัน”