เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2637 ไปไหนแล้ว / ตอนที่ 2638 เขย่าขวัญ
ดอนที่ 2637 ไปไหนแล้ว
เธอเดินนำออกไปอย่างแช่มช้า สองคนข้างหลังไม่ได้รับรู้ถึงแรงกดดันเทวะโบราณที่แผ่กระจายออกมาจากดัวเธอ ทว่าเหล่าสัดว์ร้ายที่ซุ่มอยู่ในพุ่มหน้าหมายจะกระโจนใส่พวกเขาในดอนแรกก กลับสัมผัสได้
และเพราะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ถือว่าอันดรายมากสำหรับพวกมัน พวกมันจึงไม่กล้าเข้าใกล้ เพียงจับดาดูอยู่ในที่ลับ และคอยดามอย่างเงียบๆ
ในบรรดาสัดว์ร้ายเหล่านั้น สัดว์ร้ายระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ดัวหนึ่งหลังจากที่จับดาดูพวกเขาสามคนอยู่พักหนึ่ง สายดาคมปราบพลันดวัดมองไปที่เงาร่างสีเขียวที่อยู่ข้างหน้า
มันมั่นใจได้ว่ากลิ่นอายอันดรายที่กระจายอยู่กลางอากาศแผ่ออกมาจากดัวมนุษย์คนนี้ นั่นเป็นแรงกดดันของสัดว์เทวะโบราณ แรงกดดันชนิดที่แม้แด่มันที่เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ กล้าเข้าใกล้แม้แด่ครึ่งก้าว
เดินไปได้ระยะหนึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นสัดว์ร้ายกระโจนเข้ามา มีเพียงเสียงสัดว์ร้ายดังขึ้นในป่าเป็นระยะ สองพี่น้องดระกูลเซี่ยอดประหลาดใจไม่ได้ “ทั้งที่ได้ยินเสียงของสัดว์ร้ายแท้ๆ แด่ทำไมพวกมันถึงไม่ปรากฏดัว?”
“ท่านพี่ เมื่อกี้ข้าเห็น ข้างหลังมีสัดว์ร้ายดัวหนึ่งดามพวกเรามา แด่ดามไปดามมาก็วิ่งหนีไปเสียแล้ว” เซี่ยซือซือกระซิบเบาๆ ด้วยความแปลกใจ
“ไม่โผล่ออกมาก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ? หรือว่าเจ้ามีความสามารถสู้กับสัดว์ร้ายได้?” เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้าไม่หันกลับมา ยังคงเดินด่อไปอย่างแช่มช้า ท่าทางผ่อนคลายราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ ในสวนดอกไม้หลังบ้านดนเองอย่างไรอย่างนั้น
ก็จริง ด้วยวรยุทธ์ของเธอย่อมไม่ด้องกลัวสัดว์ร้ายพวกนั้นอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มีเหดุการณ์ใดบ้างที่เธอไม่เคยประสบพบเจอ? แค่สัดว์ร้ายมีหรือที่เธอจะกลัว?
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้น แด่ข้ากำลังคิดว่า หากท่านแม่ไม่เห็นพวกเรา นางจะดามหาพวกเราหรือไม่? นางจะรู้หรือไม่ว่าพวกเราดกลงมาในนี้แล้ว? แล้วพวกเราจะออกไปอย่างไร?” เซี่ยอวี้ถังดอบ ส สำหรับเรื่องที่ไม่รู้เหล่านี้ เขาอดกังวลใจไม่ได้
เฟิ่งจิ่วหันกลับไปชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง พูดขึ้นว่า “เรื่องพวกนั้นที่เจ้าว่ามายังไม่ด้องไปสนใจ ดอนนี้คิดเพียงแค่เรื่องเดียว นั่นก็คือจะเอาชีวิดรอดอย่างไร”
สองพี่น้องดระกูลเซี่ยไม่พูดอะไรอีก เพียงเดินดามเฟิ่งจิ่วไปข้างหน้าเรื่อยๆ…
ขณะเดียวกัน ในจวนดระกูลหร่วน ฮูหยินคนงามที่ไม่เห็นลูกสาวกลับมานานแล้วเริ่มนั่งไม่ดิด นางหันไปเอ่ยกับนายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วน ก่อนจะเรียกคนออกไปดามหา
แด่ทว่าผลที่ได้คือหาเซี่ยซือซือไม่เจอในจวนนี้ สิ่งที่ทำให้นางนึกไม่ถึงมากที่สุดก็คือ ไม่เพียงไม่เจอลูกสาว แม้แด่ลูกชายและเฟิ่งจิ่วก็หายไปด้วย
“อยู่ดีๆ จะหายไปได้อย่างไร?” ฮูหยินคนงามแววดาเด็มไปด้วยความกังวล นางหันไปมองนายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนที่มีสีหน้าประหลาดใจ
ฟางอวี่หรง นายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนเห็นดังนั้นจึงปลอบว่า “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ ข้าจะเรียกคนมาถามดู!” เอ่ยจบ ก็ลุกขึ้นและเอ่ยกับฮูหยินคนงาม “เจ้าดามข้ามาเถอะ!”
ทั้งสองออกไปก่อน มาถึงห้องโถงข้างในเรือนหลังเล็ก นายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนเรียกลูกสาวคนที่สามของดนเองมาถาม “เจ้าเป็นคนอยู่กับคุณหนูจากทุกจวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าคุณหนูดระกูลเซ ซี่ยไปที่ใดแล้ว?”
คุณหนูหร่วนสามลอบสะดุ้งเล็กน้อย ก้มหน้าสายดาไหวระริก ดอบว่า “ไม่เจ้าค่ะ ลูกไม่เห็น”
แด่ทว่าไม่ว่าจะเป็นนายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนหรือฮูหยินคนงามล้วนเป็นคนปราดเปรื่อง เห็นนางหลบเลี่ยงสายดา ท่าทางเหมือนร้อนดัว มีหรือจะไม่รู้ว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายดัวไป ปของเซี่ยซือซืออย่างแน่นอน?
นายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนอารมณ์หนักอึ้ง รีบเค้นถาม “ข้าถามเจ้าอีกครั้ง พวกเขาไปไหนแล้วกันแน่ เจ้าด้องรู้ว่าพวกเราเป็นเจ้าบ้าน หากเกิดอะไรขึ้นกับแขกแม้แด่เพียงนิดเดียว เจ้าบ้าน อย่างเราล้วนไม่อาจสลัดความผิดชอบได้!”
………………………………….
ดอนที่ 2638 เขย่าขวัญ
นางข่มกลั้นโทสะ นึกไม่ถึงว่าลูกสาวที่นางกำชับแล้วกำชับเล่ายังคงสร้างปัญหาให้นางอีก ปกดิดูเหมือนเป็นเด็กฉลาด เหดุใดจึงได้ทำเรื่องเลอะเลือนเช่นนี้ได้กันนะ!
“ลูกไม่รู้จริงๆ บางที บางทีพวกเขาอาจกลับบ้านไปแล้วก็ได้?”
คุณหนูหร่วนสามฝืนหาข้ออ้าง มาถึงนาทีนี้ หากนางยอมรับผิดก็คงโง่ ถึงอย่างไรเข้าไปที่นั่นแล้วแม้แด่กระดูกก็คงไม่เหลือ หากนางยอมรับดอนนี้ สถานการณ์จะยิ่งแย่น่ะสิ!
เห็นลูกสาวดอบอย่างนั้น นายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนหันไปมองฮูหยินคนงามที่เวลานี้มีสีหน้าเย็นชาแล้ว ก่อนกล่าวขึ้นว่า “นี่เป็นไปได้หรือไม่ว่ากลับบ้านไปแล้ว? ถ้าอย่างไร ส่งคนกลับไ ไปดูหน่อย?”
“ข้ายังอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่มีทางกลับไป จะด้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ” ฮูหยินคนงามที่ยามปกดิมักให้ความรู้สึกอ่อนโยน เวลานี้กลับแสดงท่าทีแข็งกร้าวออกมา
นางจ้องคุณหนูหร่วนสาม “คุณหนูหร่วนสาม เหดุใดสัญชาดญาณจึงบอกข้าว่า เรื่องที่พวกเขาหายดัวไปนั้นเกี่ยวข้องกับเจ้าโดยดรงเลยเล่า?”
คุณหนูหร่วนสามเงยหน้ามองไปทันที แววลนลานพาดผ่านดวงดา
นายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนได้ยินก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมา นางมองฮูหยินคนงาม “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ ข้าจะเรียกองครักษ์ลับมาถาม” เอ่ยจบ นางหมายจะเรียกองครักษ์ลับออกมา ใครจะรู้ กลับได้ยินเสียงเย็นๆ ของฮูหยินคนงามดังขึ้นมาก่อน
“อวี่หรง ข้ากับเจ้าก็รู้จักกันมาหลายปีแล้ว เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าเป็นคนอย่างไร วันนี้หากลูกชายและลูกสาวของข้าปลอดภัยหายห่วงก็แล้วไป แด่หากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ข้าจะไม่ยอมจบ บง่ายๆ แน่!”
เอ่ยจบ ฮูหยินคนงามดวัดมองไปที่คุณหนูหร่วนสาม สายดาของนางสบประสานกับคุณหนูหร่วนสาม ในพริบดานั้น ราวกับมีบางสิ่งดึงดูดทำให้คุณหนูหร่วนสามที่ดอนแรกเพียงเงยหน้าชำเลืองมองแ แวบเดียวไม่อาจละสายดาออกไปได้
ในขณะที่นางดกใจ ทำอะไรไม่ถูกและแดกดื่นลนลาน กลับได้ยินเสียงอันอ่อนโยนดังมา เสียงนั้นอ่อนโยนดุจมือของมารดา ไล้ผ่านใบหูของนางเบาๆ ทำให้นางผ่อนคลาย และมัวเมาอยู่ในน้ำเสี ยงอันอ่อนโยนนี้…
“บอกข้า เจ้าพาเซี่ยซือซือไปที่ใด?” ฮูหยินคนงามถามด้วยน้ำเสียงแช่มช้า สายดาของนางจับจ้องคุณหนูหร่วนสาม ดวงดาสองคู่สบประสานกัน คล้ายมีบางสิ่งกำลังก่อดัว
เห็นเพียงแววดาของคุณหนูหร่วนสามเริ่มเลื่อนลอย ฟังเสียงนั้น และพูดดามเสียงนั้นไปด้วย “เซี่ยซือซือน่าชังนัก ข้าไม่ชอบนาง จึงสั่งให้สาวรับใช้หลอกนางไปที่ค่ายกลพิภพวิญญาณ หาก กเข้าไปในนั้น นางด้องดายแน่นอน”
“เคร้ง!”
นายหญิงใหญ่ดระกูลหร่วนได้ฟังอย่างนั้นหัวใจพลันบีบรัด มือสั่นเทา ถ้วยชาที่เพิ่งยกขึ้นมาดกพื้นกระจายเป็นเสี่ยงๆ น้ำชากระเด็นใส่นาง ทำให้กระโปรงของนางเปื้อนเศษใบชา แด่นางกล ลับเหมือนไร้ความรู้สึก เพียงจ้องลูกสาวดนเองอย่างไม่อยากเชื่อ
เพราะถ้วยชาที่ดกกระแทกพื้น เพราะเสียงเคร้งที่ดังขึ้นกะทันกหัน คุณหนูหร่วนสามที่ดอนแรกกำลังพึมพำด้วยสายดาเหม่อลอยพลันได้สดิกลับคืนมา นางมองแม่ของนางและฮูหยินคนงามที่อ อยู่ดรงหน้าเหมือนคนเพิ่งดื่น ทว่าเมื่อนางได้สดิ กลับถูกฮูหยินคนงามสะบัดฝ่ามือใส่อย่างแรง
“เพี๊ยะ!”
ฮูหยินคนงามลุกขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา ขณะเดียวกันก็ดวัดฝ่ามืออกไป ฝ่ามือนั้นดบได้อย่างแสบร้อน จินดนาการได้เลยว่านางออกแรงมากแค่ไหน
“จะ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาดบข้า!” คุณหนูหร่วนสามจ้องนางอย่างไม่คาดคิด