เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2645 คนของตระกูลกัว / ตอนที่ 2646 เป็นใคร
ตอนที่ 2645 คนของตระกูลกัว
เธอเงียบไปครู่หหนี่ง สายตกวาดมองผ่านชายหนุ่มคนนั้น จากนั้นหันไปมองชายชราและชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลัง ก่อนเอ่ยว่า “นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอคนอื่นที่นี่ด้วย จึงอยากมาถามดูว ว่าจะออกจากที่ได้อย่างไร?”
คนของตระกูลนั้นไม่ได้ตอบคำถาม เพียงจ้องพิจารณาทั้งสองอยู่อย่างนั้น
ผู้พูดเป็นเด็กหนุ่มชุดสีเขียว รูปร่างหน้าตาธรรมดาไม่มีอะไรสะดุดตา กลับเป็นเด็กหนุ่มและเด็กสาวข้างหลังที่หน้าตาโดดเด่น ดูจากเสื้อผ้าบนตัวก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา เพียงแต่บนตัวเ เด็กหนุ่มมีรอยเลือดกระดำกระด่าง คล้ายบาดเจ็บไม่น้อย แต่กลับแบกเด็กสาวไว้ ส่วนเด็กสาวคนนั้นทั้งที่อยู่ในป่าลึกเช่นนี้ นางกลับสวมชุดกระโปรงผ้าไหม ไม่ได้ใส่ชุดฝึก
เทียบกับเด็กสาวและเด็กหนุ่มสองคนข้างหลัง เด็กหนุ่มชุดเขียวที่หน้าตาดูซื่อๆ เหมือนเป็นบ่าวรับใช้ เพียงแต่ ตระกูลเซี่ยหรือ? ตระกูลเซี่ยไหน?
ทั้งสามมีวรยุทธ์ที่ไม่แข็งแกร่ง ล้วนอยู่ในระดับสร้างรากฐาน กลับกล้าเข้ามาในนี้? ไม่รู้ว่าตระกูลเซี่ยเป็นตระกูลแบบใดกัน สถานที่อย่างนี้กลับส่งลูกหลานที่อ่อนแอเช่นนี้เข้ามา
ต้องบอกก่อนว่า แม้แต่กลุ่มของพวกเขา ลูกหลานที่มีวรยุทธ์ต่ำสุดยังอยู่ในระดับหลอมแก่นพลังแล้ว
“ในป่าหมื่นพิษแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย สัตว์ร้ายปรากฏตัว วรยุทธ์อย่างพวกเจ้าก็กล้าเข้ามาฝึกฝน? แล้วยังพลัดหลงกับคนในตระกูลอีก?” ชายหนุ่มคนหนึ่งตั้งคำถาม จ้องพิจารณาพวกเขา ก่อนพูดต่อว่า “พวกเจ้ารอดมาจนถึงป่านนี้ได้อย่างไร?”
คำถามนี้ถามอย่างไม่ไว้หน้า เพียงแต่นอกจากพวกเฟิ่งจิ่ว คนของตระกูลนั้นล้วนไม่คิดว่าคำถามนี้มีปัญหาแต่อย่างใด
ก็จริง เห็นอยู่ว่าวรยุทธ์ของพวกเขาเป็นอย่างไร ผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานเพียงสามคน จะอยู่ในสายตาของพวกเขาได้อย่างไรกัน!
แต่ทว่าชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มเมื่อมองพิจารณาพวกเฟิ่งจิ่วอยู่ครู่หนึ่งก็ก้าวออกมา
เขาเดินไปหยุดยืนข้างชายชราและชายวัยกลางคน “ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านลุงซุน พวกเขาดูแล้วก็ยังอายุแค่สิบกว่าปี อยู่ในนี้หากไม่มีคนในตระกูลปกป้องจะมีอันตรายได้จริงๆ พวกเราเองก ก็จะกลับอยู่แล้ว ไม่สู้พาพวกเขาไปด้วยกันเถอะ! ภายหน้าหากคนในตระกูลของพวกเขารู้ จะต้องซาบซึ้งในน้ำใจของเราแน่”
ในสายตาของเขา ผู้ฝึกตนน้อยระดับสร้างรากฐานทั้งสามคนอ่อนแอเกินไปแล้ว หากไม่มีคนที่มีพลังแข็งแกร่งคอยปกป้อง พวกเขาไม่อาจรอดชีวิตออกไปจากป่าผืนนี้ได้แน่นอน สำหรับพวกเขา สามค คนนี้ไม่มีภัยคุกคามอะไร ย่อมไม่กลัวว่าพวกเขาจะมีแผนร้ายอะไร
ชายชราและชายวัยกลางคนมองหน้ากันแวบหนึ่ง ทั้งสองพูดคุยกันไม่กี่ประโยค สุดท้ายชายวัยกลางคนก็ลุกขึ้น กล่าวว่า “พวกเราเป็นคนของตระกูลกัวทางใต้ ในเมื่อได้เจอพวกเราที่นี่แล้ว นับว่าเป็นโชคดีของพวกเจ้า พวกเรากำลังจะกลับพอดี พวกเจ้าไปกับพวกเราเลยก็แล้วกัน!”
สองพี่น้องตระกูลเซี่ยพลันลิงโลด รีบกล่าวขอบคุณทันที “ขอบคุณผู้อาวุโส” พวกเขาก้าวเข้ามา ยืนอยู่ท่ามกลางคนของตระกูลกัว
คนอายุน้อยในตระกูลกัวกลับไปนั่งพูดคุยกันเหมือนเดิม เพียงแต่สายตายังคงจับจ้องมาที่ทั้งสามคน ออกเดินทางครั้งนี้พวกเขามากันแต่ผู้ชาย ไม่มีผู้หญิงติดตามมาด้วย เวลานี้ยามเห็นหญ ญิงงามพริงเพราอยู่ต่อหน้า จึงอดไม่ได้ที่จะมองให้มากหน่อย ส่วนเฟิ่งจิ่วนั้น กลับถูกพวกเขามองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง
“พวกเจ้าเป็นพี่น้องกันหรือ?” ชายวัยกลางคนถาม สายตาจับจ้องไปที่สองพี่น้องตระกูลเซี่ย
“ใช่ พวกเราเป็นพี่น้องกัน น้องสาวของข้าขาพลิก ข้าจึงแบกนางเดิน” เซี่ยอวี้ถังอธิบาย ก่อนจะเห็นสายตาของชายวัยกลางคนหันไปทางเฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านหนึ่ง
………………………………….
ตอนที่ 2646 เป็นใคร
“แล้วนี่ใครหรือ?” ชายวัยกลางคนถาม
“เขาชื่อเฟิ่งจิ่ว เป็นเด็กรับใช้ของข้า” เซี่ยอวี้ถังรีบตอบคำ พลางเหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง เห็นเขาแค่ยิ้มซื่อๆ ยืนเงียบอยู่ด้านหนึ่งไม่ได้พูดอะไร จึงลอบถอนหายใจอย่างโล่ง งอก
“ในเมื่อจะเดินออกไปพร้อมกับพวกเรา อย่างนั้นก็ต้องทำตามกฎของพวกเรา อยู่ในนี้ห้ามไปไหนมาไหนโดยพลการ ห้ามสร้างปัญหาให้พวกเรา” ชายวัยกลางคนเอ่ย ก่อนพยักหน้า “นั่งพักสักหน่อย เถอะ!” เอ่ยจบ ก็ไม่มองพวกเขาอีก เพียงเดินกลับไปนั่งข้างกายชายชราอีกครั้ง
“ขอบคุณผู้อาวุโส” เซี่ยอวี้ถังฉีกยิ้มกว้าง หันไปมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนเดินมานั่งพักที่ด้านหนึ่ง
สำหรับการเข้าร่วมคณะเดินทางของพวกเขา คนอื่นๆ เพียงสนใจแค่เดี๋ยวเดียว จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ชายหนุ่มที่เอ่ยปากในตอนแรกเดินเข้ามาหยุดยืนต่อหน้าพวกเซี่ยอวี้ถัง ก่อนจะ ะถามว่า “เท้าของแม่นางเซี่ยบาดเจ็บหนักมากหรือไม่? ใส่ยาหรือยัง?”
“ใส่แล้ว ข้าใส่ยาให้น้องสาวของข้าแล้ว” เซี่ยอวี้ถังว่า ลุกขึ้นประสานหมัดคารวะ “ขอบคุณพี่ชายท่านนี้ที่ช่วยพูดให้พวกเรา”
ชายหนุ่มยิ้มๆ “ข้าชื่อกัวซิ่นหนิง โตกว่าพวกเจ้าไม่กี่ปี เรียกข้าว่าพี่ชายกัวก็พอ”
“พี่ชายกัว” เซี่ยอวี้ถังขานเรียกด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยซือซือรีบหันไปมองชายหนุ่มท่าทางอ่อนโยนแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าขานเรียกเสียงเบา “พี่ชายกัว”
เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ด้านหนึ่ง เพียงมองดูอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มซื่อๆ เดิมทีเธอเพียงอยากจะถามพวกเขาว่าจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร จากนั้นก็พาเซี่ยอวี้ถังกับเซี่ยซือซือออกกันไปเอง ใ ใครจะรู้สุดท้ายกลับกลายเป็นร่วมเดินทางกับพวกเขา
ช่างเถอะๆ ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็ปล่อยพวกเขาไปก็แล้วกัน! เธอนั่งลง ฟังกัวซิ่นหนิงพูดคุยกับพวกเซี่ยอวี้ถังอยู่ทางนั้น พลางลอบมองพิจารณาเขาเงียบๆ
เห็นว่าเขาสวมชุดฝึกกระชับตัวสีดำ กระบี่ห้อยสายคาดเอว เส้นผมสีหมึกรวบสูง ดวงหน้าดุจหยก บุคลิกอ่อนโยน การเคลื่อนไหวสะท้อนราศีคุณชายตระกูลผู้ดี จึงอดเหลือบมองเซี่ยซือซือแวบ บหนึ่งไม่ได้ ลอบยิ้มเงียบๆ
กัวซิ่นหนิงผู้นี้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา วาจาแสดงออกถึงความใส่ใจ การกระทำสมเป็นคุณชายตระกูลสูง ไม่แปลกที่แม่หนูน้อยนี่จะพวงแก้มแดงผ่าว แววตาสะท้อนทิวทัศน์แห่งวสันตฤดู ดูท่าคงหว วั่นไหวเข้าแล้ว
เพียงแต่แค่เห็นระดับวรยุทธ์และรัศมีของคนกลุ่มนี้ก็รู้แล้วว่า พวกเขาจะต้องมาจากตระกูลใหญ่แน่นอน โดยเฉพาะกัวซิ่นหนิงผู้นี้ เดาว่าจะต้องเป็นลูกหลานสายตรงที่ได้รับความสำค คัญอย่างมากแน่นอน แม่หนูคนนี้ใจเต้นง่ายๆ เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องดีอะไร
“เอาละ เตรียมออกเดินทางต่อเถอะ!” ชายชรากับชายวัยกลางคนลุกขึ้น เอ่ยจบ ลูกหลานที่อยู่รอบๆ ต่างก็ลุกตามด้วย
เซี่ยอวี้ถังแบกน้องสาวของเขาเดินตามหลังไป เฟิ่งจิ่วเดินอยู่ข้างๆ พวกเขา กัวซิ่นหนิงที่เดินอยู่ข้างหน้าเห็นพวกเขาเดินข้างหลัง จึงเดินมาหาพวกเขา
“พวกเจ้าตามข้าไปข้างหน้าเถอะ! เดินอยู่ตรงกลางจะปลอดภัยกว่าหน่อย” กัวซิ่นหนิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จะพาพวกเขาเดินไปข้างหน้า
“นะ นี่ไม่ค่อยดีกระมัง?”
เซี่ยอวี้ถังเองก็รู้ว่าเดินข้างหลังไม่ค่อยปลอดภัย แต่แค่พวกเขายอมพาพวกเขาไปจากที่นี่ด้วยก็นับว่าดีแล้ว จะกล้าเดินไปอยู่ตรงกลางเพื่อให้พวกเขาคอยปกป้องได้อย่างไร
“ไม่เป็นไร มาเถอะ!” กัวซิ่นหนิงเผยยิ้มอ่อนโยน ก่อนพาพวกเขาไปข้างหน้า
ชายหนุ่มคนอื่นๆ เพียงมองแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังเดินไปพักหนึ่งแล้ว ลมหายใจของคนตระกูลกัวยังคงสม่ำเสมอ แต่เพราะต้องแบกน้องสาวเดินด้วย เซี่ยอวี้ถังจึงเริ่มหอบแล้ว