เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2657 ตื่นตะลึง / ตอนที่ 2658 รักษา
ตอนที่ 2657 ตื่นตะลึง
ท่ามกลางความมืด เด็กหนุ่มชุดสีเขียวยืนอยู่เบื้องหน้าของสองพี่น้องตระกูลเซี่ย ในมือถือกระบี่ยาวที่ดูไม่สะดุดตาเล่มหนึ่ง สีหน้าเรียบเฉยมองไม่เห็นความหวาดกลัว ด้านหลังของเขา เ เซี่ยอวี้ถังแบกน้องสาวของเขาไว้บนหลัง ระหว่างคิ้วยังคงปรากฏแววแตกตื่นให้เห็น
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหนุ่มชุดเขียวหรือสองพี่น้องตระกูลเซี่ย บนตัวล้วนไร้บาดแผล มีเพียงรอยเลือดที่ถูกกระเด็นใส่ไม่กี่จุด
เห็นทั้งสามคนมีสภาพอย่างนี้ เขาอึ้งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองลูกหลานตระกูลกัวที่อยู่รอบๆ ด้วยสัญชาตญาณ เห็นพวกเขาไม่มีใครที่มีสภาพครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ละคนเนื้อตัวเต็มไปด้วย บาดแผลไม่มากก็น้อย นั้นยังมีบางคนบาดเจ็บจนหายใจรวยริน ทั้งที่พลังของพวกนั้นเหนือกว่าสามคนนี้มากนัก
เพราะพวกเขาคุ้มกันไว้ สามคนนี้จึงไม่บาดเจ็บอย่างนั้นหรือ?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังอดหัวเราะไม่ได้ ยังไม่พูดถึงคนของตระกูลบาดเจ็บกันถ้วนหน้า แม้จะไม่บาดเจ็บ พอค่ายกลแตก ฝูงหมาป่ากระโจนเข้ามา เขาเองก็ไม่คิดว ว่าคนของตระกูลกัวจะปกป้องพวกเขาด้วยชีวิตอยู่แล้ว
“ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว” เนิ่นนาน เขาก็ทำได้เพียงเอ่ยประโยคนี้ออกมา จากนั้นก็เดินไปดูคนบาดเจ็บคนอื่นๆ ก่อน
อาจเพราะสายตาของกัวซิ่นหนิง และแววตกตะลึงในดวงตาของเขา ทำให้เซี่ยอวี้ถังนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันกลับมาดูที่พวกตนเอง และพบว่าไม่มีใครบาดเจ็บเลยจริงๆ
และที่พวกเขาไม่บาดเจ็บ ล้วนเป็นเพราะเฟิ่งจิ่วคอยปกป้องพวกเขาอยู่ตลอด
เฟิ่งจิ่ว เป็นเพราะเฟิ่งจิ่วอีกแล้ว
เขามองเงาร่างผอมบางที่ยืนอยู่ข้างหน้า ทั้งที่รูปร่างก็ไม่ได้ใหญ่กว่าเขา แต่กลับยืนปกป้องพวกเขาอยู่ข้างหน้า คอยปัดป้องอันตรายให้พวกเขาอยู่ตลอด ครั้งนี้ หากไม่มีเขา พวกเขา จะปลอดภัยและมีสภาพครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนตอนแรกภายใต้การโจมตีของฝูงหมาป่าได้อย่างไร
“ท่านพี่ ปล่อยข้าลงเถอะ! ท่านไปดูว่าพวกเขาต้องการให้ช่วยอะไรหรือไม่ ไปช่วยพวกเขาทำแผลหน่อย” เซี่ยซือซือรู้สึกว่าบรรยากาศดูแปลกๆ แต่กลับไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงกระซิบบอกเบา ๆ ทำลายบรรยากาศแปลกๆ นี้ลงเสีย
“ได้” เซี่ยอวี้ถังว่า จากนั้นก็ปล่อยนางลง หันไปบอกกับเฟิ่งจิ่วว่า “เจ้ากับเสี่ยวซือพักอยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปดูว่าพวกเขาต้องการให้ช่วยอะไรหรือไม่”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ เซี่ยซือซือ หยิบผ้าผืนหนึ่งออกมาเช็ดกระบี่ยาวจากนั้นก็เก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะหลับตาพิงต้นไม้ ราวกับมองไม่เห็นเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปว วดเหล่านั้นที่ดังอยู่รอบๆ
เซี่ยซือซือเห็นคนพวกนั้นมีบาดแผลเหวอะหวะ บ้างก็เลือดไหลอาบย้อมจนเสื้อผ้าแดงไปทั้งตัว บ้างก็ถูกกรงเล็บหมาป่าข่วนแขน แผลลึกจนเห็นกระดูก นางอดขดตัวอย่างหวาดกลัวไม่ได้
“เสี่ยวจิ่ว เจ้าไม่กลัวหรือ?” เซี่ยซือซือกระซิบถามเบาๆ
เฟิ่งจิ่วลืมตามองนางแวบหนึ่ง ก่อนตอบว่า “ไม่กลัว” เงียบไปครู่หนึ่ง สายตาของเธอหันไปมองพวกคนที่มีบาดแผลบนตัวและกำลังร้องคร่ำครวญ เอ่ยอีกว่า “เพราะข้ามีความสามารถที่จะปกป ป้องตัวเองได้”
เซี่ยซือซือมองเขาอย่างอึ้งๆ พูดขึ้นว่า “เสี่ยวจิ่ว เจ้ายอดเยี่ยมมาก”
“อืม ข้ายอดเยี่ยมมาก” เธอเอียงหน้ามองนาง เผยรอยยิ้มออกมา ก่อนเอ่ยรับอย่างทีเล่นทีจริง
เซี่ยอวี้ถังช่วยคนอื่นทำแผล ยามเห็นบาดแผลเหล่านั้นหัวใจของเขากระตุกสั่น หากเปลี่ยนเป็นแต่ก่อนตอนอยู่บ้านแล้วเห็นแผลอย่างนี้ เขาจะต้องแหกปากร้องไห้หาพ่อแม่อย่างแน่นอน แต่พ พอมาอยู่ที่นี่ถึงเพิ่งรู้ว่าสำหรับคนที่มาฝึกวรยุทธ์ข้างนอก เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องประสบพบเจอ
“ข้าช่วยเจ้าห้ามเลือดก่อน มียารักษาแผลหรือไม่? แผลนี้พันปิดไว้ก่อน” เสียงของเซี่ยอวี้ถังดังขึ้นท่ามกลางผู้คน
เฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่กับเซี่ยซือซือที่มุมหนึ่งมองดูเซี่ยอวี้ถังที่เดินฝ่าอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน กลีบปากหยักโค้งขึ้นเล็กน้อย
………………………………….
ตอนที่ 2658 รักษา
“พี่ชายของเจ้าที่จริงเป็นคนที่ไม่เลวเลย” ยากนักที่เธอจะเอ่ยอย่างนี้
เซี่ยซือซือได้ยินก็ยิ้ม “อืมๆ พี่ชายของข้าเป็นคนดีมาก เขาดีกับข้ามาก แต่ก่อนตอนเด็กๆ มีคนรังแกข้าเขาก็ชกต่อยกับคนนั้น ที่บ้านเดิมของพวกข้า คนในอำเภอต่างเรียกเขาว่า จอมเผด็จการน้อย”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ พูดกับนางว่า “เจ้าแกะยาที่ห่อขาไว้ออกมาเถอะ! ข้าจะดูให้”
เซี่ยซือชะงักไปเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ตอนนี้หรือ? ที่จริงขาของข้าก็แค่พลิกเล็กน้อย ข้าว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว”
“อืม ฉวยโอกาสตอนพี่ชายของเจ้าไม่อยู่ ให้ข้าดูหน่อย เขาจะได้ไม่กลับมาแล้วว่าข้าว่าเอาเปรียบเจ้าอีก” เฟิ่งจิ่วพูดยิ้มๆ
เซี่ยซือซือได้ยินก็ยิ้มแย้ม “เจ้าไม่เอาเปรียบข้าหรอก” ขณะเอ่ย นางถอดรองเท้าออก แกะผ้าที่ห่อยาไว้ออก ห่อไว้แค่วันเดียว ผิวหนังจุดที่ถูกยาห่อไว้ก็ยับย่นเล็กน้อยแล้ว
เฟิ่งจิ่วใช้มือแตะเท้าของนางดู ได้ยินเซี่ยซือซือสูดปากเบาๆ “ซี้ด ขยับอย่างนี้ก็ยังคงเจ็บอยู่”
เฟิ่งจิ่ววางฝ่ามือลงไป สายตาจับจ้องเซี่ยซือซือ ถามว่า “ออกมาคราวนี้ เรื่องราวที่ได้เจอเจ้ากลัวหรือไม่?”
“กลัว แต่มีเจ้าอยู่ ข้ากลับไม่ได้รู้สึกกลัวขนาดนั้น”
เซี่ยซือซือตอบไปตามความจริง นางมองเฟิ่งจิ่วพลางเอ่ยว่า “ตอนแรกที่ข้าตกลงมาคนเดียวข้ากลัวมาก แต่พอเจ้ากับท่านพี่มาข้าก็ไม่กลัวแล้ว แต่เมื่อกี้ตอนเห็นฝูงหมาป่าข้าก็กลัว มากเหมือนกัน หมาป่าอสูรมากมายขนาดนั้นข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คนพวกนั้นเก่งกาจขนาดไหน พวกเขายังบาดเจ็บเลย ข้านึกว่าพวกเราต้องตายแน่แล้ว!
เฟิ่งจิ่วพูดคุยกับนาง พลางขยับฝ่ามือที่วางไว้บนข้อเท้านางเบาๆ ท่ามกลางความมืด ไม่มีใครเห็นว่าฝ่ามือของเธอกำลังปลดปล่อยประกายแสงสีเขียวขุมหนึ่งออกมา ถ่ายเทเข้าสู่ข้อเท้าขอ องเซี่ยซือซือทีละน้อย
“เสร็จแล้ว ขาของเจ้าห่อยาบ่อยๆ ก็ไม่ดี ให้มันได้ระบายอากาศบ้างเถอะ!” เฟิ่งจิ่วว่า พยักหน้าให้นางสวมรองเท้า ก่อนที่ตนเองจะหยิบน้ำออกมาล้างมือ
ทางนั้น ชายชรากับชายวัยกลางคนกลับมาแล้ว ทั้งสองก็บาดเจ็บเช่นกัน โดยเฉพาะชายชรา สีหน้าของเขาซีดเล็กน้อย เสื้อคลุมบนตัวเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด
กัวซิ่นหนิงเดินเข้าไปประคองชายชราให้นั่งลงด้านหนึ่ง เห็นเหล่าลูกหลานตระกูลกัวได้รับบาดเจ็บ ชายชรากระแอมเบาๆ กล่าวว่า “บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไรบ้าง?”
“ผู้อาวุโสสูงสุดวางใจ ไม่มีใครตาย เพียงแต่บาดเจ็บค่อนข้างหนัก คนอื่นล้วนมีบาดแผลไม่มากก็น้อย” กัวซิ่นหนิงตอบคำ
ผู้อาวุโสสูงสุดที่เพิ่งนั่งลงเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ลุกขึ้นอีกครั้ง “ข้าไปดูหน่อย”
“ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านก็บาดเจ็บเหมือนกัน นั่งพักสักหน่อยก่อนเถอะ!” ชายวัยกลางคนเอ่ย ประคองเขาไว้ไม่ให้ลุกขึ้น
กัวซิ่นหนิงเพิ่งสังเกตเห็น ไหล่ของผู้อาวุโสสูงสุดมีเลือดไหล แต่เห็นว่าเสื้อไม่ได้ขาด จึงชะงักงัน ถามว่า “ผู้อาวุโสสูงสุดบาดเจ็บหนักหรือไม่?”
“กลัวพวกเจ้าเป็นห่วง จึงพันแผลไว้ลวกๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยกลับมา” ชายวัยกลางคนมองหน้าชายชราพลางถอนหายใจ
ได้ยินอย่างนั้น กัวซิ่นหนิงรู้สึกหนักอึ้งในใจ หากเป็นเช่นนี้ เกรงว่าจะบาดเจ็บไม่น้อย
“เอาละ ข้าไม่ได้เป็นอะไร พักหน่อยก็ดีแล้ว” ชายชราบอก พยักหน้ากล่าวว่า “ไปดูคนอื่นๆ หน่อยเถอะ! ข้าอยู่ทางนี้ไม่ต้องการเจ้า”
กัวซิ่นหนิงแม้ในใจเป็นห่วง แต่กลับยังคงรับคำ ก่อนจะหันตัวเดินไปดูคนอื่นๆ
ท่ามกลางความมืด นอกจากเซี่ยซือซือ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเฟิ่งจิ่วในชุดสีเขียวกำลังสาวเท้าเดินไปบริเวณนี้รอบหนึ่ง…