เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2665 ไม่เชื่อ / ตอนที่ 2666 เจ็บปวดแสนสาหัส
ตอนที่ 2665 ไม่เชื่อ
“สัตว์ร้าย! ตั้งท่าเตรียมสู้เร็วเข้า!” ชายวัยกลางคนตะโกนสั่งให้ทุกคนตั้งท่าเตรียมสู้ทันที
ทว่าฟังจากเสียงคำรามสูงต่ำที่ดังมาจากรอบข้าง หัวใจของเขาหนักอึ้งจมดิ่งทันที ทำไมมีเสียงสัตว์ร้ายมากมายขนาดนี้? ฟังจากเสียงแล้วอย่างน้อยก็มีสัตว์ร้ายหลายสิบตัว?
“สัตว์ร้าย! เร็วเข้า! รีบเตรียมสู้เร็ว!”
ลูกหลานตระกูลกัวแตกตื่นขึ้นมา พวกเขาแต่ละคนล้วนบาดเจ็บ ตอนนี้ฟังจากเสียงแล้วรอบข้างมีสัตว์ร้ายมากมายขนาดนี้ก็รู้แล้วว่าจะต้องเป็นฝูงสัตว์ร้ายอีกแล้วแน่ๆ ชั่วขณะหนึ่ง ภาพการต ต่อสู้เมื่อคืนพลันผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
รับมือกับสัตว์ร้ายไม่กี่ตัวพวกเขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่หากมีสัตว์ร้ายมาอีกฝูงหนึ่ง เกรงว่าครั้งนี้พวกเขาจะต้องกลายเป็นอาหารที่ตกไปอยู่ในท้องของสัตว์ร้ายอย่างแน่นอน!
กัวซิ่นหนิงฟังเสียงสัตว์ร้ายที่รายล้อมอยู่รอบๆ หัวใจพลันสั่นสะท้านไปทั้งดวง ราวกับมีบางสิ่งระเบิดออกในสมองของเขา เรื่องราวที่เขาไม่เข้าใจในตอนแรก รางสังหรณ์ที่เขารู้สึกใ ในตอนแรก พลันกระจ่างชัดขึ้นมาในเวลานี้
เขาหันขวับไปมองทิศทางที่พวกเฟิ่งจิ่วเดินจากไป แต่กลับพบว่าไม่เห็นเงาของสามคนนั้นแล้ว ทว่าสิ่งที่ปรากฏกลับเป็นสัตว์ร้ายหลายตัวที่กำลังแยกเขี้ยวอันแหลมคมและย่างกรายมาหาพวกเ เขา…
พวกเขาได้แต่ยืนตะลึงนิ่งๆ ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและตื่นตะลึง แม้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ยังไม่อาจตั้งสติได้
เห็นสัตว์ร้ายกระโจเข้ามา กัวซิ่นหนิงยืนเหม่อลอยราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง ชายวัยกลางคนรีบตะโกน “ซิ่นหนิง! เจ้าทำอะไรอยู่! รีบเตรียมตัวสู้เร็วเข้า!”
เสียงตะโกนของชายวัยกลางคน ปลุกกัวซิ่นหนิงที่กำลังเหม่อลอยให้ตื่นจากภวังค์ เขาหันไปมองชายวัยกลางคน เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา “ท่านลุงซุน ในที่สุดข้าก็รู้แล้ว”
ใช่ ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมเมื่อคืนตอนที่ฝูงหมาป่าโจมตี พวกเขาเฟิ่งจิ่วกลับไร้รอยขีดข่วน ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว เหตุใดกลิ่นคาวเลือดที่เกิดหลังจากการฆ่าฟั นกันจึงไม่ได้ดึงดูดเหล่าสัตว์ร้ายให้โจมตีเข้ามาอีกครั้ง…
ที่แท้ ที่แท้ก็เป็นเพราะเขา เพราะเขาอยู่ในขบวนของพวกเขา
นึกถึงรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มก่อนไป รวมถึงประโยคนั้นของเฟิ่งจิ่ว ‘ใครปกป้องใครก็ยังไม่รู้แน่ชัด’ เขาได้แต่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า
ที่แท้ก็เป็นเขาที่คอยปกป้องพวกเขาจริงๆ แต่พวกเขากลับไม่รู้ ซ้ำยังพูดจาตะคอกดูแคลน กระทั่งขับไล่พวกเขาไปอีก…
นึกมาถึงตรงนี้ เขารู้สึกขมฝาดไปทั้งใจ นี่ล้วนเป็นผลกรรมที่ตระกูลกัวของพวกเขาก่อ แล้วจะโทษใครได้อีก?
เห็นสีหน้าของเขาอมทุกข์ ชายวัยกลางคนอึ้งงัน ถามว่า “รู้อะไร?”
“ท่านลุงซุนคิดว่าเหตุใดกลิ่นคาวเลือดเมื่อคืนจึงไม่ดึงดูดสัตว์ร้ายให้โจมตีเข้ามาอีกครั้ง? ท่านลุงซุนคิดว่าในเวลาที่ลูกหลานตระกูลกัวของเขาแทบรับมือกับสัตว์ร้ายไม่ไหว ยังจ จะมีเวลาไปปกป้องสองพี่น้องตระกูลเซี่ยอีกหรือ? แล้วเหตุใดพอสามคนนั้นจากไป ฝูงสัตว์ร้ายก็ปรากฏตัวทันที?”
ชายวัยกลางคนแม้เป็นคนแซ่อื่น แต่อยู่ในตระกูลกัวก็นับว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง เวลานี้ครั้นกัวซิ่นหนิงเอ่ยขึ้นมา ย่อมต้องเข้าใจความหมายของเขา
เขามองกัวซิ่นหนิงอย่างตกตะลึง “เจ้าหมายความว่า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะพวกเขาสามคน?”
“ไม่ใช่พวกเขาสามคน แต่เป็นเพราะเฟิ่งจิ่ว” กัวซิ่นหนิงเอ่ยอย่างทอดถอนใจ “น่าเสียดาย ตระกูลกัวของเราหมาดบางกับเขาอย่างร้ายแรงเสียแล้ว”
ร่างของชายวัยกลางซวนเซไปเล็กน้อย รู้สึกขาอ่อน สีหน้าของเขาซีดเผือด หันไปมองสัตว์ร้ายที่รายล้อมพวกเขาไว้ รวมถึงลูกหลานตระกูลกัวที่ถอยหลังไปทีละก้าวด้วยสีหน้ากวาดกลัว เขาข ขยับกลีบปาก ในใจยังคงไม่อยากเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะมีความสามารถถึงเพียงนั้น
“ซิ่นหนิง เจ้าประเมินเขาสูงไปแล้ว เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง”
………………………………….
ตอนที่ 2666 เจ็บปวดแสนสาหัส
“กรรซ์!”
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังขึ้น กระแสอากาศสั่นสะเทือน ไม่นานก็เห็นราชสีห์ที่เหยียบเปลวเพลิงด้วยเท้าทั้งสี่ข้างวิ่งโถมเข้าใส่ลูกหลานตระกูลกัว
“ซี้ด! อสูรศักดิ์สิทธิ์!”
เหล่าลูกหลานตระกูลกัวหน้าซีดเผือด ด้วยวรยุทธ์ของพวกเขา อย่าว่าแต่ตอนนี้ที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บเลย แม้แต่ตอนที่ไม่บาดเจ็บพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว!
“โฮก!”
ทันใดนั้น เสียงหมาป่าหอนพลันดังขึ้น การปรากฏตัวของราชสีห์เพลิงที่เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเสียงหอนของหมาป่า ทำให้สมองของพวกเราแทบจะระเบิดออกมาในพริบตานั้น พวกเขาเกิดคว วามคิดอยากจะหนีขึ้นมา
“เป็นราชาหมาป่าของหมาป่าฝูงนั้น!”
“จ่าฝูงของหมาป่าฝูงนั้น!”
“ซี้ด! ราชาหมาป่าตัวนั้นมาแก้แค้นแล้ว!”
“ ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนแตกตื่นลนลานเพราะความหวาดกลัวสุดขีด และความตื่นตะลึงพรั่นพรึง ทำให้พวกเขาตอบสนองช้ากว่าปกติ เพียงชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ ก็เห็นลูกหลานตระกูลกัวคนหนึ่งถูกราชสีห ห์เพลิงกัดตาย และมีอีกหลายคนที่ถูกราชสีห์ตัวนั้นข่วนบาดเจ็บ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นเป็นระยะ สถานการณ์โกลาหลวุ่นวาย…
“ใจเย็นๆ! ทุกคนใจเย็นอย่าแตกตื่น! อย่าลนลาน! ซี้ด!” ชายวัยกลางคนพยายามทำให้ทุกคนใจเย็นเพื่อรับมือการต่อสู้ แต่เขาที่มัวแต่สนใจคนอื่นไม่ทันระวัง ถูกสัตว์ร้ายตัวหนึ่งกระโจนเข ข้ามากัด เลือดไหลทะลักทันที!
“อ๊าก!”
เขากรีดร้องโหยหวน ยกขาขึ้นพยายามสะบัดสัตว์ร้ายที่กัดขาของเขาออกไป แต่สัตว์ร้ายตัวนั้นราวกับต้องการจะกัดกินเนื้อที่ขาของเขาทั้งเป็น เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย
“ชิ้ง!”
ประกายเยือกเย็นสายหนึ่งพาดผ่าน พลังกระบี่อันดุดันบั่นคอของสัตว์ร้ายตัวนั้นให้ขาดในพริบตา เลือดสาดกระเซ็น ชายวัยกลางคนล้มนั่งลงไปบนพื้น
“ท่านลุงซุน!”
กัวซิ่นหนิงมือหนึ่งถือกระบี่รีบเดินเข้ามาประคองเขา พลางคอยระวังสัตว์ร้าย และถอยกลับไปข้างๆ ชายชราที่หมดสติไปด้วย
พวกคนที่คอยคุ้มกันชายชราเวลานี้ร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยเลือดเช่นกัน เลือดที่เปื้อนใบหน้าก็ไม่รู้ว่าเป็นของพวกเขา หรือเป็นของสัตว์ร้ายกันแน่ พวกเขาฆ่าฟันจนดวงตาแดงก่ำ เฝ้ าคุ้มกันด้วยชีวิต
“อึก!”
เพื่อปัดป้องการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตให้ชายชรา กัวซิ่นหนิงถูกราชาหมาป่าสีขาวหิมะที่ไม่รู้โผล่มาจากที่ใดพุ่งชนกระเด็นออกไป แรงกระแทกมหาศาลพุ่งเข้ามา ทำให้เขาล้มกระเด็น นออกไปอย่างเสียศูนย์ เลือดลมในร่างกายปั่นป่วน ก่อนที่จะอักเลือดออกมา
“ซิ่นหนิง!”
ชายวัยกลางคนรีบเอามือยันต้นไม้ลุกขึ้นยืน แต่ครั้งเห็นราชาหมาป่าที่ย่างกรายเข้ามาทีละก้าวๆ ด้วยสายตาดุร้าย เขาพลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว…
ในอีกด้านหนึ่ง
ได้ยินเสียงสัตว์ร้ายดังมาจากข้างหลัง สองพี่น้องตระกูลเซี่ยมองหน้ากันแวบหนึ่ง ลังเลเล็กน้อย ก่อนที่เซี่ยอวี้ถังจะถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “เสี่ยวจิ่ว เสียงสัตว์ร้ายข้างหลังนั่น เ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก “ยังจะเกิดอะไรขึ้นได้อีก? ราชาหมาป่าของหมาป่าฝูงนั้นกลับมาแก้แค้นน่ะสิ น่าจะพ่วงด้วยสัตว์ร้ายตัวอื่นด้วยกระมัง! ถึงอย่างไรสัตว์ร้ายพวกนั้นก็ตามพวกเข ขามาตลอดทางอยู่แล้ว”
“หา? ตามมาตลอดทาง? ทำไมพวกข้าไม่รู้เรื่องเลย?” สองพี่น้องตระกูลเซี่ยถามขึ้นพร้อมกัน
“คนของตระกูลกัวยังไม่รู้ แล้วพวกเจ้าจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า!” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ก่อนเอาผลไม้ลูกหนึ่งออกมากิน
“ยะ อย่างนั้นคนของตระกูลกัวจะรอดหรือไม่?” เซี่ยอวี้ถังถามอย่างลังเล
เซี่ยซือซือได้ยินอย่างนั้นก็อดเป็นห่วงไม่ได้ นางหันไปมองเฟิ่งจิ่วที่กำลังกินผลไม้อย่างสบายใจ “พี่ชายกัวจะรอดหรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วเอียงหัวครุ่นคิดเล็กน้อย “เดาว่าคงยากมาก”