เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2673 ฟื้น / ตอนที่ 2674 ตกใจจนเป็นลม
ตอนที่ 2673 ฟื้น
“รู้บ้างเล็กน้อย” เฟิ่งจิ่วตอบ เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ?”
กัวซิ่นหนิงสายตาไหวระริก เคยบอกแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อ ทว่าตอนนี้เขากลับอดรู้สึกคาดหวังไม่ได้
“อย่างนั้นอาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสสูงสุด เจ้ายังรักษาได้หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วกระตุกมุมปาก “นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องรักษาได้หรือไม่ได้ แต่อยู่ที่ข้าอยากรักษาหรือไม่ต่างหาก”
กัวซิ่นหนิงครุ่นคิด “อย่างนั้นต้องทำอย่างไร เจ้าถึงจะยอมรักษา?”
“อาวุโสสูงสุดของเจ้าก็ใกล้จะตายแล้ว เดิมทีน่ะ! ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของข้า แต่ตอนนี้หากอยากให้ข้าช่วยรักษา อย่างนั้นก็ต้องเอาสิ่งตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อออกมาแลก” เธอมองกัวซิ่นหนิง หรี่ตาเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “ชีวิตของผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเจ้าสำคัญมากใช่ไหมเล่า?”
กัวซิ่นหนิงพยักหน้า “สำคัญมาก เขาเป็นบุคคลสำคัญในตระกูลของพวกเรา หากเสียเขาไปเท่ากับเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับตระกูลเรา” เขาเงียบไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อว่า “เจ้าวางใจ ขอเพียงเจ้าช่วยเขาได้ ข้ารับปากเจ้า กลับถึงตระกูลเมื่อใดจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม”
“เจ้าดูแล้วข้าเหมือนคนขาดแคลนเงินมากหรือ?” เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว
กัวซิ่นหนิงถาม “อย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?”
“ข้าขอคิดดูก่อน ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันก็แล้วกัน!” เธอสาวเท้าเดินไปข้างหน้า พลางมองไปรอบๆ ก่อนจะถอนหายใจ “เสี่ยวซือ มาทางนี้ เด็ดต้นนี้เสีย”
เพียงเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป พวกเขาก็กลับมาหาทุกคนพร้อมกับกอดสมุนไพรมากมาย คนที่เหลือไม่รู้จักสมุนไพรพวกนั้น จึงเห็นเพียงพวกเขาเด็ดหญ้ากลับมาด้วย จึงอดประหลาดใจไม่ได้
“ในหมู่พวกเจ้าน่าจะมีคนรู้วิชาแพทย์อยู่กระมัง? รู้หรือไม่ว่าควรจัดการของพวกนี้อย่างไร?” เฟิ่งจิ่วถาม พลางกวาดสายตามองพวกเขา
“ข้ารู้” ชายวัยกลางคนเก็บความประหลาดใจไว้เงียบๆ ก่อนจะหันไปกำชับลูกหลานตระกูลกัว “ตำสมุนไพรให้ละเอียดแล้วเอามาทาบนแผล เหล่านี้ล้วนเป็นสมุนไพรห้ามเลือดและลดการอักเสบ”
ได้ยินชายวัยกลางคนว่าอย่างนั้น ทุกคนจึงรีบขยับตัวทันที
“เฟิ่งจิ่ว เจ้าช่วยดูผู้อาวุโสสูงสุดก่อนเถอะ!” กัวซิ่นหยิงเอ่ย
เฟิ่งจิ่วจึงเดินไปทางชายชราที่นอนหมดสติอยู่ตรงนั้น เห็นคนพวกนั้นบ้างก็บาดเจ็บบ้างก็ล้มตาย แม้ชายชราหมดสติอยู่ กลับถูกพวกเขาปกป้องไว้อย่างดี เห็นได้ชัดว่าลูกหลานตระกูลกัวรู้ถึงความสำคัญของเขาเป็นอย่างดี
“อวี้ถัง มาช่วยหน่อย” เฟิ่งจิ่วเรียก เธอให้กัวซิ่นหนิงถอดเสื้อตัวบนของชายชราออก พลางเอามีดเล็กออกมาจากห้วงมิติ
ชายวัยกลางคนเดินกะเผลกเข้ามานั่งดูข้างๆ เขามองดูเฟิ่งจิ่วเอามีดเล็กคมๆ ลนไฟ จากนั้นก็ขูดเอาเนื้อเน่าเหล่านั้นออกทีละน้อย จากนั้นก็เอายาออกมาโรยบนแผล สุดท้ายยังหยิบยาเม็ดหนึ่งยัดใส่ปากของชายชราด้วย
สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายชราที่ตอนแรกยังหมดสติอยู่ค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“ผู้อาวุโสสูงสุด!”
“ผู้อาวุโสสูงสุด!”
“ผู้อาวุโสสูงสุด!”
แต่ละคนรายล้อมเข้ามา เห็นเขาฟื้นต่างก็เผยรอยยิ้มดีใจออกมา
เห็นแต่ละคนที่รายล้อมเข้ามาต่างก็เต็มไปด้วยรอยเลือดกระดำกระด่าง ชายชราขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “กะ เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้า ทำไมพวกเจ้าถึงมีสภาพอย่างนี้?” ชายชราถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง แต่กลับพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เรื่องมันยาวน่ะขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” กัวซิ่นหนิงโล่งอกในที่สุด เขาสั่งให้คนดูแลผู้อาวุโสสูงสุด ส่วนตนเองก็มาหาเฟิ่งจิ่วที่กำลังเล่นกับราชาหมาป่าอยู่
“เฟิ่งจิ่ว ขอบใจเจ้ามาก” เขาขอบคุณจากใจ หากไม่ได้เขา ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเรื่องราวจะกลายเป็นอย่างไรต่อไป
………………………………….
ตอนที่ 2674 ตกใจจนเป็นลม
เขาสีหน้าลังเล ทำท่าจะพูดแต่ก็หยุดไป
เฟิ่งจิ่วช้อนตามองเขา เอ่ยว่า “มีอะไรก็พูดมาเถอะ”
“ข้าอยากขอให้เจ้าช่วยดูว่าขาของท่านลุงซุนยังรักษาได้หรือไม่?” เขาพูดขึ้น หันกลับไปมองชายวัยกลางคนที่ใบหน้าซีดเผือดไปทั้งดวงแล้ว แต่ยังฝืนนั่งพิงอยู่ใต้ต้นไม้อยู่ทางนั้น
“ที่จริงท่านลุงซุนเป็นคนดีคนหนึ่งเลย แม้จะเป็นคนแซ่อื่น แต่เขาภักดีกับตระกูลกัวของเรามาก ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินเจ้า แต่เขาไม่รู้ และไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายปกป้องพวกเราเสียเอง”
เขาพยายามพูดเรื่องดีๆ เกี่ยวกับชายวัยกลางคน หวังว่าเฟิ่งจิ่วจะสามารถช่วยรักษาแผลที่น่องของชายวัยกลางคนให้ได้ ถึงอย่างไรแผลที่ถูกหมาป่ากัดนั่นก็ลึกจนเห็นกระดูก เขาอดทนมาจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าขาข้างนั้นยังใช้การได้อีกหรือไม่
เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะมองตามสายตาของเขาไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ใต้ต้นไม้ เธอครุ่นคิด ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปทางนั้น หยุดยืนต่อหน้าชายวัยกลางคน แล้วเอ่ยว่า “ฉีกขากางเกงออกเสีย”
กัวซิ่นหนิงที่ตามมารีบเข้าไปฉีกขากางเกงของเขาออก เผยให้เห็นแผลที่ลึกจนเห็นกระดูกและยังมีเลือดไหลอยู่ รอยเขี้ยวหมาป่านั่นน่าสยดสยอง เขาเห็นแล้วก็อดสั่นสะท้านไปทั้งตัวไม่ได้
กัดลึกขนาดนี้เชียวหรือ…
“ขาของข้าข้างนี้นับว่าพิการแล้ว รักษาไม่…” ยังพูดไม่จบ ก็เห็นเฟิ่งจิ่วอมสุราพ่นใส่น่องของเขา เจ็บจนเขากรีดร้องโหยหวน แทบจะเป็นลมไปเสียเดี๋ยวนั้น
กัวซิ่นหนิงที่อยู่ด้านหนึ่งเห็นแล้วก็อดกลั้นหายใจไม่ได้ แผลแบบนั้นเดิมก็เจ็บอยู่แล้ว ตอนนี้ยังพ่นสุราใส่อีก? ความเจ็บปวดอย่างนั้นเกรงว่าคงทรมานเสียยิ่งกว่าตายอีกกระมัง?
“แผลนี่เกิดจากเขี้ยวหมาป่า จำเป็นต้องใช้สุราฆ่าเชื้อ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนจะเก็บสุราให้เรียบร้อยแล้ว พลางเอ่ยว่า “เปลืองสุราดีของข้าไปถึงสองอึก”
ชายวัยกลางคนได้ยินก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก แต่กลับไม่พูดอะไรอีก เพียงมองเด็กหนุ่มที่ย่อกายนั่งอยู่ข้างๆ
“เสี่ยวจิ่ว ให้ข้าช่วยหรือไม่?” เซี่ยอวี้ถังเสนอตัว
“อืม ทำความสะอาดแผลหน่อย” เฟิ่งจิ่วบอก พลางหันไปเตรียมของ
“ได้” สองสามวันมานี้เซี่ยอวี้ถังช่วยทำความสะอาดและพันแผลให้คนอื่นจนค่อนข้างคล่องมือแล้ว เขาจึงเข้าไปทำความสะอาดแผลให้ชายวัยกลางคน เพียงแต่เลือดไหลอยู่ตลอดเวลา เขาจึงอดหันไปมองเฟิ่งจิ่วไม่ได้ “เช็ดแล้วก็ยังมีเลือดไหลอยู่ตลอด ทำอย่างไรดี?”
“ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวก็ไม่ไหลแล้ว” เธอตอบ หันกลับมาพร้อมกับเข็มเงินสอดด้ายที่ถือไว้ในมือ มองชายวัยกลางคน เอ่ยว่า “เนื้อก้อนนี้ที่ขาของท่านถูกกัดจนหลุดออกมาเกือบหมดแล้ว ข้าต้องปะมันกลับเข้าไปใหม่ จะเจ็บหน่อยนะ ท่านต้องอดทน”
“นี่กิ่งไม้ กัดไว้เถอะ!” เซี่ยอวี้ถังเก็บกิ่งไว้กิ่งหนึ่งที่หล่นอยู่ข้างขึ้นมา ยื่นให้เขากัดไว้
ชายวัยกลางคนมองเข็มเงินสอดด้ายที่อยู่ในมือของเฟิ่งจิ่ว หัวใจเต้นแรง “นะ นี่เข็มหรือ? ใช้เย็บ? จะ จะทำได้หรือ?”
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “ได้”
ชายวัยกลางคนเองก็ทำได้เพียงกัดกิ่งไม้เพื่อทนต่อความเจ็บปวด
“หากเลือดไหลออกมาเจ้าก็เช็ด อย่าเกะกะจุดที่ข้าเย็บแผลอยู่ก็พอแล้ว” เธอหันไปกำชับเซี่ยอวี้ถัง
“ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” เซี่ยอวี้ถังรับคำ เขาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน จะใช้เข็มเย็บเนื้อได้อย่างไรกันนะ?
กระทั่งเห็นเฟิ่งจิ่วถือเข็มสอดด้ายเย็บเนื้อหนังที่หลุดออกเพราะถูกกัดกลับเข้าไปใหม่เหมือนกำลังเย็บเสื้อผ้า หัวใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างห้ามไม่ได้ ที่แท้ ฝีมือการเย็บปักยังสามารถนำมาใช้อย่างนี้ได้ด้วย?
ชายวัยกลางคนมองดูเข็มเงินสอดด้ายแทงทะลุกลับไปกลับมาบนเนื้อหนังของตนเอง ความเจ็บปวดแสนสาหัสและแรงกระทบกระเทือนทางจิตใจที่ได้รับจากภาพนั้นทำให้เขาหมดสติอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป…
………………………………….