เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2681 ความคิด / ตอนที่ 2682 รบกวนแล้ว
ตอนที่ 2681 ความคิด
“ผิดหรือ?” ผู้นำตระกูลกัวอึ้งงัน ไม่ค่อยเข้าใจนัก
“ขอรับ ผิด คืนนั้นแม้มีกลิ่นคาวเลือดแรงมาก แต่กลับไม่มีสัตว์ร้ายเข้าใกล้เลยสักตัว หลังเที่ยงคืนทุกอย่างเงียบสงบมาก ทุกคนต่างก็ได้นอนพักผ่อนทั้งคืน”
“เป็นไปไม่ได้”
ผู้นำตระกูลกัวลุกขึ้น เอามือไขว้หลังขณะกล่าว “อย่าว่าแต่เวลากลางคืนเลย แม้แต่กลางวัน หากอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างนั้นอย่างไรก็ต้องถูกสัตว์ร้ายโจมตี คืน นั้นพวกเจ้าไม่ได้จากไป เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีสัตว์ร้ายเข้าใกล้เลยสักตัว? นี่มันไม่สมเหตุสมผล”
ผู้นำตระกูลกัวเอ่ย เขาเดินกลับไปกลับมาอยู่ในลานสวน จู่ๆ ก็หยุดเดินเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันกลับไปมองกัวซิ่นหนิง ถามว่า “คืนนั้นพวกเจ้าได้ส่งคนไปลาดตระเวนหรือไม่? แล้ วใครเป็นคนออกไปลาดตระเวน”
ได้ยินอย่างนั้น กัวซิ่นหนิงรู้สึกเลื่อมใสจากใจ ไม่น่าเล่าท่านพ่อถึงได้กุมอำนาจทั้งตระกูลกัว และกลายเป็นผู้นำของตระกูลกัวได้ ความสามารถในการอ่านสถานการณ์ของเขาช่างเฉียบขาด ยิ่งนัก
“เป็นข้า และเฟิ่งจิ่วขอรับ” พูดมาถึงตรงนี้ เขาเชื่อว่าด้วยความความปราดเปรื่องของท่านพ่อ เขาจะต้องรู้เหตุผลแน่นอน
ฝูงหมาป่าโจมตีแต่กลับไร้ร่องรอยขีดข่วน คืนนั้นไม่ได้จากไปซ้ำยังออกไปลาดตระเวน ความคิดหนึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นในสมองของเขา เขามองหน้าลูกชายอย่างเหลือเชื่อ “เป็นเฟิ่งจิ่ว? เป็นเพ พราะเฟิ่งจิ่ว คืนนั้นถึงได้ไม่มีสัตว์ร้ายกล้าเข้าใกล้พวกเจ้า? นี่เป็นไปได้ด้วยหรือ วรยุทธ์ของเขา…” เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มลังเลขึ้นมา
วรยุทธ์ของเด็กหนุ่มชุดเขียวคนนั้นอยู่ในระดับสร้างรากฐานจริงหรือ? เป็นไปไม่ได้ หากแค่ระดับสร้างรากฐานจะปกป้องสองพี่น้องตระกูลเซี่ยได้อย่างไร? แล้วจะปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนใน สถานการณ์ที่อันตรายเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?
“ใช่ขอรับ เป็นเพราะเฟิ่งจิ่ว แต่น่าเสียดาย ตอนนั้นพวกข้าไม่มีใครรู้เลย”
เขาถอนหายใจ ก่อนเอ่ยว่า “ไม่เพียงไม่รู้ว่าเขาเป็นคนปกป้องพวกข้าจากการโจมตีของสัตว์ร้าย ลูกหลานของตระกูลกัวเรายังเอ่ยวาจาว่าร้าย ดูถูกดูแคลนคนอื่นเขาเพียงเพราะตนเองบาดเจ จ็บในขณะที่พวกเขาสามคนไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน กระทั่งสุดท้ายยังถึงขั้นขับไล่พวกเขาให้ไสหัวออกไป”
ผู้นำตระกูลกัวตะลึงวัน ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี เพียงยืนฟังลูกชายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นจนจบ ครั้นฟังจบ เขาก็เพียงส่ายหน้าและถอนหายใจ “พวกเจ้าหนอ พวกเจ้า!”
“หากไม่ใช่เขามาช่วยพวกข้าในตอนท้าย เกรงว่าพวกข้าคงไม่อาจรอดกลับมาได้แล้ว” กัวซิ่นหนิงเอ่ย
ผู้นำตระกูลกัวมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหมาย “นั่นเพราะตอนนั้นพวกเจ้าเพียงดูแคลนและไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา หากตอนนั้นพวกเจ้าคิดจะฆ่าเขา เดาว่าไม่ต้องรอให้ สัตว์ร้ายพวกนั้นเข้ามาโจมตี เขาคงลงมือสังหารพวกเจ้าก่อนแล้ว”
เขาเป็นผู้นำมานาน สามารถคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายได้ไม่มากก็น้อย แม้จะเป็นเขา หากตอนนั้นพวกเขาเกิดจิตสังหาร เขาก็จะลงมืออย่างไม่ปรานีเช่นกัน
“ตอนนั้นชีวิตของผู้อาวุโสสูงสุดแขวนอยู่บนเส้นด้าย ข้ารับปากเขา ขอเพียงช่วยชีวิตผู้อาวุโสสูงงสุดได้ กลับถึงจวนข้าจะตอบแทนเขาอย่างสมน้ำสมเนื้อ เพียงแต่…” เขามองหน้าผู้เป็นพ่อ อ “กลับไม่รู้ว่าควรตอบแทนเขาด้วยอะไรดี”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เรื่องที่เหลือข้าจะจัดการเอง” ผู้นำตระกูลกัวเอ่ย ชะงักเล็กน้อย “ในเมื่อเขาบอกว่าไม่อยากให้แพร่งพรายเรื่องของเขา อย่างนั้นงานเลี้ยงคืนนี้ก็จัดเงียบๆ หน่อย อย่าให้มีคนมากเกินไป”
“ท่านพ่อ ข้าเดาว่าเขาคงไม่มาร่วมงานเลี้ยงด้วย” กัวซิ่นหนิงเอ่ย
“ไม่ร่วมหรือ?”
“ขอรับ อีกอย่างคงไม่อยู่ในจวนของเรานานนัก พวกเขาน่าจะรีบเดินทางกลับ”
ผู้นำตระกูลกัวครุ่นคิด ก่อนเอ่ยว่า “อย่างนั้นเจ้าหยั่งเชิงเขาดู เรื่องอื่นข้าจะจัดการเอง!”
………………………………….
ตอนที่ 2682 รบกวนแล้ว
กัวซิ่นหนิงพยักหัว ส่งท่านพ่อเขาออกไป เงยหน้ามองท้องฟ้า จากนั้นก็เข้าไปพักผ่อนในห้องครู่หนึ่ง ตั้งใจว่าจะไปหาพวกเขาตอนหัวค่ำ
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ไฟในจวนตระกูลกัวสว่างขึ้น ส่องจวนตระกูลกัวให้สว่างไสวไปทั้งจวน
กัวซิ่นหนิงมาที่เรือนที่พวกเฟิ่งจิ่วพักอยู่ พอเข้ามาก็ไม่เห็นใครสักคน เห็นเพียงหมาป่าสีเงินที่หดขนาดตัวให้เล็กลงกำลังนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตู เห็นเขา สายตาคมปราบตวัดม มองมาทันที
“เฟิ่งจิ่ว” เขาหยุดฝีเท้าแล้วเรียก ไม่ได้เข้าไปใกล้อีก
“เฟิ่งจิ่ว”
ครั้นได้ยินเสียงตอบรับ เขาจึงตะโกนเรียกอีกครั้ง และในตอนนี้เอง ประตูห้องสองห้องที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดออก สองพี่น้องตระกูลเซี่ยเดินขยี้ตาออกมาอย่างง่วงงุน
“พี่ชายกัว? ท่านมีเรื่องอะไรหรือ?” เซี่ยอวี้ถังถามพลางหาว เดินขยี้ตามาหาเขา
เซี่ยซือซือเองก็เดินมาด้วย นางหันไปกำชับสาวรับใช้ที่เฝ้าอยู่นอกเรือน “ยกชามาให้พวกข้า เอาผลไม้มาด้วยก็ดี”
สาวรับใช้รับคำ ก่อนจะถอยออกไป
“นอนหลับดีหรือไม่?” กัวซิ่นหนิงถามพวกเขาสองคน
“ก็ดี เพียงแต่เพิ่งหลับไปได้ไม่นานก็ตื่นแล้ว รู้สึกยังนอนไม่ค่อยพอ” เซี่ยอวี้ถังตอบ ก่อนถามว่า “พี่ชายกัว ท่านมาหาเสี่ยวจิ่วหรือ? เดาว่าเขาน่าจะกำลังหลับอยู่ ยังไม่ตื่น หรอก!”
“ไม่เป็นไร ข้ารอเขาอยู่ที่นี่ก็ได้” เขานั่งลงข้างโต๊ะ จากนั้นก็พยักหน้าให้พวกเขาสองคนนั่งลงด้วย ก่อนจะถามว่า “คืนนี้พ่อของข้าจะจัดงานเลี้ยง เชิญพวกเจ้าไปร่วมงานด้วย”
ทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง “พวกข้าต้องถามเสี่ยวจิ่วก่อน ดูว่าเขาจะไปหรือไม่”
“ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวลองถามเขาดูก็ได้” เขายิ้มๆ ก่อนเอ่ยต่อว่า “อุตส่าห์ได้มาที่บ้านข้าแล้ว พวกเจ้าต้องพักอยู่สักหลายวันหน่อย ให้ข้าได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างเต็มที่”
“เรื่องนี้…” เซี่ยอวี้ถังลังเล ก่อนตอบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้ออกไปสอบถามระยะทางจากเมืองนี้ไปถึงที่บ้านข้า กลับมาก็บอกเสี่ยวจิ่ว เขาบอกว่าพรุ่งนี้พวกเราก็ต้องไปแล้ว อาจจะไ ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก”
“จะไปพรุ่งนี้แล้วหรือ? รีบขนาดนี้เชียว?” กัวซิ่นหนิงตะลึงงัน
“ใช่แล้ว! พวกเราออกจากบ้านมาหลายวันแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ที่อยู่บ้านจะต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ ตอนนี้ออกมาแล้วย่อมต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด”
กัวซิ่นหนิงพยักหน้า ตอนอยู่ในป่าพวกเขาก็บอกแล้ว พวกเขาไม่ได้หลงทางเพราะออกมาฝึกวรยุทธ์จริงๆ แต่ถูกส่งตัวเข้ามาในป่านั้นผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายด้วยความผิดพลาด และเพราะเหตุผ ผลนี้ คนในบ้านของพวกเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาปลอดภัยดีหรือไม่
ได้ยินเสียงประตูเปิดแอ๊ด เฟิ่งจิ่วที่ยามนี้ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเดินออกมา “คุยอะไรกันอยู่หรือ?”
“เสี่ยวจิ่ว พี่ชายกัวบอกว่าคืนนี้พวกเขาจะจัดงานเลี้ยง เชิญเราไปร่วมด้วย” เซี่ยอวี้ถังเอ่ย
“ไม่ล่ะ คืนนี้ข้าจะออกไปเดินเที่ยวหน่อย จากนั้นก็รีบกลับมาพักผ่อนเร็วๆ เตรียมออกเดินทางพรุ่งนี้” เฟิ่งจิ่วตอบ ก่อนจะนั่งลงข้างโต๊ะ เวลานี้ สาวรับใช้ยกชาและผลไม้มาให้ จากนั้น ก็ถอยออกไปอย่างนอบน้อม
กัวซิ่นหนิงเอ่ยว่า “ข้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านพ่อฟังแล้ว ส่วนค่าตอบแทนที่ช่วยชีวิตผู้อาวุโสสูงสุด ท่านพ่อจะเป็นคนเตรียมให้เอง”
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำ ท่าทางดูไม่ค่อยใส่ใจนัก
“ข้าคุ้นเคยกับเส้นทางในเมือง ในเมื่อพวกเจ้าจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก ไม่สู้ให้ข้าพาพวกเจ้าไปดีหรือไม่!” เขาเสนอขึ้น
“เรื่องนี้…” สองพี่น้องตระกูลเซี่ยหันไปมองเฟิ่งจิ่ว
“อย่างนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว” เฟิ่งจิ่วเอ่ย กลับไม่ได้ปฏิเสธ
“ไม่ลำบาก” กัวซิ่นหนิงยิ้มๆ ก่อนจะยกชาขึ้นมาจิบหนึ่งคำ