เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2691 มาหาถึงที่ / ตอนที่ 2692 หาเรื่อง
ตอนที่ 2691 มาหาถึงที่
เช้าตรู่อย่างนี้ ขณะที่คนของตระกูลกัวกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมออกเดินทาง มีคนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้ามาถึงหน้าตระกูลกัวด้วยท่าทางดุดัน พวกเขาโอบล้อมตระกูลกัวเอาไว้
“ไป! เคาะประตู!”
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าออกคำสั่ง ชายคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปเคาะประตูใหญ่ของตระกูลกัว “เปิดประตูๆ!”
คนเฝ้าประตูได้ยินก็เปิดประตูออกมาดู เห็นข้างนอกมีคนกลุ่มใหญ่ล้อมอยู่ หนำซ้ำแต่ละคนยังสีหน้าเหี้ยมเกรียม จึงอดตกใจไม่ได้ “พวกเจ้าเป็นใคร? จะทำอะไรน่ะ?”
กลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าแหวกออกเป็นสองฝั่ง เผยให้เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งและชายหนุ่มที่พันแขนห้อยไว้ที่คอด้วยผ้าสีขาวยืนอยู่ข้างหลัง
ครั้นเห็นสองคนนั้น คนเฝ้าประตูจำได้ทันที “ทะ ท่านคือผู้นำตระกูลหลี่?” ผู้นำตระกูลหลี่มาที่นี่ได้อย่างไรกัน?
“เหอะ!” ผู้นำตระกูลหลี่สะบัดเสียง ยืนเอามือไขว้หลัง เขาเหลือบมองชายแก่เฝ้าประตูแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “วันนี้ข้ามาจับคน! ไปรายงานผู้นำตระกูลของเจ้า ให้เขาส่งตัวคนออกมาเสี ย!”
ชายแก่เฝ้าประตูตกตะลึง รีบเรียกองครักษ์คนหนึ่งมา ให้เขาไปรายงานโดยด่วน
ผู้นำตระกูลกัวที่กำลังนั่งพูดคุยกับผู้นำตระกูลกัวอยู่ในห้องโถงเห็นพ่อบ้านเข้ามาด้วยสีหน้าลนลาน จึงถามว่า “มีเรื่องอะไรจึงได้ตื่นตูมเช่นนี้?”
“ผู้นำตระกูล ท่านผู้เฒ่า มีคนของตระกูลหลี่มา ผู้นำตระกูลหลี่พาคนมาล้อมหน้าประตูจวนของเรา บอกว่าจะให้พวกเราส่งตัวคนออกไปให้” พ่อบ้านรายงานสถานการณ์ข้างนอก
ผู้เฒ่าตระกูลกัวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาหันไปมองลูกชายของตนเอง ถามว่า “ตระกูลหลี่มาทำอะไร? ส่งมอบตัวใครกัน?”
“ท่านพ่อยังไม่ทราบ เมื่อคืน…”
ผู้นำตระกูลกัวเล่าเรื่องที่กัวซิ่นหนิงบอกเขาเมื่อคืนให้พ่อของเขาฟัง สุดท้ายก็เอ่ยว่า “ต่อมาข้าส่งคนไปถามที่หอหลิงหลง ได้เรื่องว่าคุณชายตระกูลหลี่ผู้นั้นดื่มจนเมามาย แล้วมาเกี้ยวพาแม่นางน้อยตระกูลเซี่ย นึกไม่ถึงเกี้ยวพาไม่สำเร็จจึงคิดจะเหวี่ยงหมัดใส่เซี่ยอวี้ถัง เฟิ่งจิ่วจึงถีบเขาตกบันได”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “เดิมทีข้าคิดว่าเรื่องนี้คนของตระกูลหลี่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ พวกเขาคงไม่ทำให้เรื่องราวใหญ่โต แต่ว่า เดาว่าคงไปสืบเจอว่าพวกเขาไม่ใช่คนของต ตระกูลกัว ถึงได้กล้ามาเอาตัวคนถึงที่อย่างนี้!”
ผู้เฒ่ากัวส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “เจ้าหนูตระกูลหลี่คนนี้จิตใจคับแคบ สายตายิ่งตื้นเขิน เทียบกับตาเฒ่าหลี่พ่อของเขาไม่ได้เลยจริงๆ”
“ท่านพ่อ ข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน!” ผู้นำตระกูลกัวเอ่ยพลางลุกขึ้นยืน
ผู้เม่ากัวยกถ้วยชาขึ้นมาจิบหนึ่งคำ เอ่ยด้วยน้ำเสียงแช่มช้า “ในเมื่อเขามาหาถึงที่ได้ เดาว่าคงไม่ยอมจบง่ายๆ เจ้าจัดการตามเห็นสมควรเอาก็แล้วกัน! เรื่องนี้อย่าให้เดือดร้อนไป ปถึงแขกของเราก็แล้วกัน”
“ขอรับ” ผู้นำตระกูลกัวรับคำ ก่อนจะเดินออกไป
กัวซิ่นหนิงได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างนอก ถามแล้วจึงรู้ว่าคนของตระกูลหลี่มาหาถึงที่ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง เขาจึงเดินไปที่เรือนที่พักของเฟิ่งจิ่ว
เรื่องนี้พ่อของเขาจะจัดการเอง เขาไปดูพวกเฟิ่งจิ่วดีกว่าว่าเตรียมตัวพร้อมหรือไม่
ครั้นมาถึงที่เรือน เห็นพวกเขากำลังจะออกมา เขาจึงประหลาดใจ “พวกเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรือ? กินข้าวหรือยัง?”
“กินแล้ว กำลังจะไปหาท่านอยู่พอดี!” เซี่ยอวี้ถังเอ่ย จึงถาม “ข้าได้ยินเสี่ยวจิ่วบอกว่าพี่ชายกัวกับท่านปู่ของท่านจะเดินทางไปพร้อมกับพวกเราหรือ?”
“ใช่ พวกเราจะไปหอแลกสมบัติ” กัวซิ่นหนิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็เอ่ยว่า “ใช่แล้ว มีคนเอาขนมว่างจากหอหลิงหลงมาส่งแล้ว”
………………………………….
ตอนที่ 2692 หาเรื่อง
เขาเอากล่องใส่ของว่างเหล่านั้นจากห้วงมิติมายื่นให้พวกเขา “ที่นี่มีหลายรสชาติ หน้ากล่องมีเขียนบอกไว้”
“ขอบคุณพี่ชายกัว” เซี่ยซือซือยิ้มหวานแล้วรับไป นางเอาบางส่วนเก็บใส่ถุงฟ้าดิน จากนั้นก็เอาส่วนหนึ่งให้เฟิ่งจิ่ว “เสี่ยวจิ่ว พวกนี้เจ้าเก็บไว้เถอะ!”
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับไป ก่อนจะเก็บใส่ห้วงมิติ
“ข้าได้ยินเสียงโวยวายข้างนอก คนเมื่อคืนมาหาหรือ?” เฟิ่งจิ่วถาม
ได้ยินอย่างนั้น กัวซิ่นหนิงตะลึงงัน เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนยิ้มเอ่ยว่า “นึกไม่ถึงว่าเจ้าอยู่ที่นี่ก็รู้ด้วย ใช่แล้ว คนของตระกูลหลี่มาหาถึงที่ แต่ไม่ต้องห่วง ท่านพ่ อของข้าไปจัดการแล้ว ข้ามาหาพวกเจ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เพราะอยากพาพวกเจ้าไปพบท่านปู่ของข้า จากนั้นพวกเราก็เตรียมตัวออกเดินทางได้แล้ว”
เฟิ่งจิ่วครุ่นคิด กลับไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้า จากนั้นก็ตามเขาออกไปที่เรือนด้านหน้า
หมาป่าสีเงินตามหลังพวกเขา หันไปมองรอบๆ เป็นระยะ กระทั่งมาถึงห้องโถงด้านหน้า มันเห็นเจ้านายของมันเข้าไป มันจึงเข้าไปด้วย จากนั้นก็เดินไปนั่งที่มุมห้อง
มาถึงห้องโถง สายตาของเฟิ่งจิ่วจับจ้องไปที่ชายชราที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องโถง เห็นเขามีบุคลิกที่สุขุม สีหน้าแดงเรื่อ ท่าทางกระปรี้กระเปร่า หนวดสีขาว และท่าทางน่าเกรงขามแฝง งแววอ่อนโยน ทำให้เธอคิดถึงท่านปู่อย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าตอนนี้ท่านปู่ของเธอจะยิ่งเด็กลงเรื่อยๆ แต่เทียบกับใบหน้าเยาว์วัยของเขา แต่น้ำเสียงและใบหน้าแก่ชราอ่อนโยนในปีนั้นกลับตราตรึงอยู่ในใจของเธอยิ่งกว่า
สายตาของผู้เฒ่ากัวกวาดมองผ่านสองพี่น้องตระกูลเซี่ย ก่อนจะหยุดอยู่ที่เฟิ่งจิ่ว ตอนที่มองไปแวบแรก รู้สึกเพียงว่าเด็กหนุ่มคนนี้ช่างธรรมดาเหลือเกิน ดวงหน้าที่นับได้ว่าแค่สะอ อาดสะอ้านนั่นในสายตาของคนที่เคยเห็นชายหญิงรูปงามมานับไม่ถ้วน ก็เรียกได้แค่ว่าธรรมดามาก ไม่มีอะไรสะดุดตาเลยสักนิด
ทว่า เพราะความธรรมดาที่ไม่สะดุดตานี้เอง ที่ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ธรรมดา เด็กหนุ่มเช่นนี้ หากไม่สังเกตดีๆ ก็อาจมองข้ามไปง่ายๆ และนี่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้
ครั้นสังเกตวรยุทธ์ของเด็กหนุ่มอีก กลับพบว่าแม้แต่เขาก็ยังมองวรยุทธ์ของอีกฝ่ายไม่ออกว่าลึกล้ำแค่ไหน เขาประหลาดใจเล็กน้อย ลุกขึ้นลูบหนวดพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะในลำคอ “ท ท่านนี้จะต้องเป็นเฟิ่งจิ่ว คุณชายเฟิ่งแน่ๆ ข้าผู้เฒ่ากัวแห่งตระกูลกัว หากคุณชายเฟิ่งไม่รังเกียจ เรียกข้าว่าอาวุโสกัวก็ได้”
สองพี่น้องตระกูลเซี่ยตะลึงงัน ยืนมองเฟิ่งจิ่วอยู่ด้านหนึ่ง ก่อนหันไปมองผู้เฒ่ากัว ผู้เฒ่าที่มีฐานะสูงส่งขนาดนี้กลับบอกให้เฟิ่งจิ่วเรียกเขาว่าอาวุโสกัวก็พอ?
เทียบกับความตกตะลึงของทั้งสอง รวมถึงสายตาที่ไหวระริกเล็กน้อยของกัวซิ่นหนิง เฟิ่งจิ่วกลับสีหน้าปกติ เพียงเผยยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ได้เรียกว่าอาวุโสกัวอย่างที่อีกฝ่ายเสนอจริ งๆ แต่กลับขานเรียกว่า “ท่านผู้เฒ่ากัว”
“หึๆ เดิมทีนึกว่าพวกเราสองปู่หลานจะต้องเดินทางกันเอง กลับนึกไม่ถึงว่าจะเดินทางไปพร้อมกับคุณชายเฟิ่งได้ด้วย การเดินทางครั้งนี้จะต้องไม่น่าเบื่อแน่ๆ” ชายชราลูบหนวดขณะเอ่ยด้วย ยรอยยิ้ม เขาหันไปพูดกับสองพี่น้องตระกูลเซี่ย “ไปถึงทางนั้น ข้าจะหาเวลาไปเยี่ยมเยือนอย่างแน่นอน”
สองพี่น้องตระกูลเซี่ยตะลึง เซี่ยซือซือยังตั้งสติไม่ได้ เซี่ยอวี้ถังกลับรู้ว่านี่หมายความอย่างไร เขาอดดีใจไม่ได้ เอ่ยว่า “อย่างนั้นก็ดีเลย อยู่ทางนี้ได้รับการดูแลต้อนรับจา ากตระกูลกัว ไปถึงาทางนั้น ท่านผู้เฒ่ากัวกับพี่ชายกัวไม่จำเป็นต้องหาที่พักข้างนอก ไปพักที่บ้านของข้าได้เลย!”
คนในห้องโถงพูดคุยกันอย่างเบิกบาน แต่ไม่นานก็เห็นพ่อบ้านสาวเท้าเร็วๆ มาจากข้างนอก…