เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2693 คำอธิบาย / ตอนที่ 2694 ถอนหายใจ
ตอนที่ 2693 คำอธิบาย
ทุกคนหยุดพูดคุยกันชั่วขณะ ผู้เฒ่ากัวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไม? ยังไม่ถอยไปอีกหรือ?”
“ท่านผู้เฒ่า คนของตระกูลหลี่ใช้กำลังกับองครักษ์ของเราแล้วขอรับ” พ่อบ้านรายงานเสียงเบา
“ผู้นำตระกูลหลี่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่ได้เรื่องแล้วจริงๆ!” เขาตวาดเสียงทุ้มต่ำ ก่อนหันไปเอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว “พวกเจ้านั่งกันไปก่อน ข้าไปดูสักหน่อย”
“เรื่องเกิดขึ้นเพราะข้า ให้ข้าไปดีกว่า!” เฟิ่งจิ่วเอ่ย ก่อนหันตัวเดินออกไป
ผู้เฒ่ากัวชะงักงันเล็กน้อย มองดูพวกเฟิ่งจิ่วเดินออกไป จึงเรียกองครักษ์ลับบางส่วนมากำชับ ก่อนจะเดินตามออกไป
นอกจวน คนที่มามุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนมามุงดูผู้นำตระกูลกัวกับตระกูลหลี่ที่ไม่รู้ว่ากำลังมีปากเสียงกันเรื่องอะไรอยู่หน้าจวน สองตระกูลนี้นับเป็นตระกูลเก่าแก่อายุร้อย ยปีในเมืองนี้ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่จะหันมาสู้กันเองอย่างนี้ด้วย
เพียงแต่ เรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้พวกเขามีปากเสียงกันเช่นนี้?
“นี่ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าที่คนของตระกูลหลี่มาหาตระกูลกัวด้วยเรื่องอะไร? ทำไมอยู่ดีๆ ผู้นำตระกูลหลี่ถึงได้พาคนมาหาเรื่องที่อย่างนี้เล่า?” ชายฉกรรจ์ที่ยืนมุงดูถามคนข้างๆ
ชายหนุ่มที่รู้สถานการณ์จึงยิ้มตอบว่า “จะมีเรื่องอะไรได้อีก? เห็นคุณชายใหญ่หลี่นั่นหรือไม่? เมื่อคืนดื่มจนเมามายอยู่ที่หลิงหลง จากนั้นก็ไปเกี้ยวพาสตรีนางหนึ่งเข้า ได้ยิ นว่าข้างกายหญิงสาวคนนั้นมีผู้ชายอยู่สองคน แล้วก็มีคุณชายรองกัวอยู่ด้วย เขาเกี้ยวพาไม่สำเร็จกลับถูกถีบตกบันได คนที่กินข้าวอยู่ที่หอหลิงหลงในตอนนั้นก็เห็นกันหลายคน น”
“ที่แท้ก็อย่างนี้เองหรือ! อย่างนั้นคนของตระกูลหลี่ยังกล้ามาหาเรื่องถึงที่อีกรึ? นิสัยของคุณชายใหญ่หลี่ผู้นี้ไม่ได้เรื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนนี้สร้างเรื่องอย่างนี้ไว้แล้ว วยังกล้ามาหาเรื่องถึงที่ คงมีอยู่คนเดียวนี่ล่ะ”
“ได้ยินมาว่าคนที่ถีบคุณชายใหญ่หลี่ไม่ใช่คนของตระกูลกัว เดาว่าคนของตระกูลหลี่คงสืบข่าวมาก่อนแล้วถึงได้กล้ามาหาเรื่องคนคนนั้น หากคนของตระกูลกัวทำร้ายเขา เดาว่าคงไม ม่กล้าทำให้เรื่องราวบานปลายขนาดนี้”
“ก็จิรง อย่างไรแต่ก่อนตอนที่ท่านผู้เฒ่าหลี่ยังมีอำนาจปกครองอยู่ ก็นับว่ามีสายสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับท่านผู้เฒ่ากัว เพียงแต่พอมาถึงสมัยของลูกชายของพวกเขาสายสัมพันธ์ก็ค่อยๆ เร ริ่มห่างหายไป”
คนรอบข้างพาวันวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เสียงเหล่านั้นลอยเข้าหูผู้นำตระกูลหลี่และผู้นำตระกูลกัว ผู้นำตระกูลกัวสีหน้าตึงเครียด มองผู้นำตระกูลหลี่ที่ยืนเอามือไพล่หลัง เอ่ย ยว่า “ข้าเตือนด้วยความหวังดี ท่านปล่อยให้เรื่องนี้จบๆ ไปเสียเถอะ! ทำให้เรื่องราวบานปลายก็ไม่เป็นผลดีกับท่าน”
“ทำไมเล่า? ตระกูลกัวของพวกท่านแม้แต่คนแซ่อื่นก็จะปกป้องอย่างนั้นหรือ? เจ้าหนูนั่นเป็นอะไรกับตระกูลกัวของพวกเจ้ารึ?” ผู้นำตระกูลกัวแค่นหัวเราะ ไม่ได้เห็นคำพูดของเขาอยู่ ในสายตาแม้แต่น้อย
“ทำร้ายลูกชายข้าจนบาดเจ็บขนาดนี้ ท่านไม่คิดว่าตระกูลกัวของพวกท่านควรอธิบายอะไรกับข้าหน่อยหรือ?”
ผู้นำตระกูลกัวขมวดคิ้วเล็กน้อย เพียงมองเขาไม่ได้พูดอะไร กระทั่งเสียงเฉื่อยชาเกียจคร้านหนึ่งดังมาจากข้างหลัง เขาจึงหันขวับกลับไปมอง
เห็นเพียงเฟิ่งจิ่วในชุดสีเขียวเดินย่างเท้าออกมาอย่างแช่มช้า นัยน์ตาสุกใสของเขาจับจ้องไปที่ผู้นำตระกูลหลี่ แววตาอ่านไม่ออก แฝงกลิ่นอายอันตรายไว้หลายส่วน เขาที่เห็นภาพนี้ถอย ยหลังไปก้าวหนึ่งโดยสัญชาตญาณ แม้แต่จะยืนก็ยังยืนอยู่ข้างๆ เขาเท่านั้น
แวบหนึ่ง ประกายดุดันเยือกเย็นที่พาดผ่านดวงตานั่น ทำให้เขาเย็นสะท้านไปทั้งตัว เขาว่าแล้ว เฟิ่งจิ่วผู้นี้ดูอย่างไรก็เป็นคนอันตรายและมีวรยุทธ์ลึกล้ำยากคาดเดา มีเพียงคนวู่วา ามอย่างผู้นำตระกูลหลี่เท่านั้นที่จะทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างนี้
“คน ข้าเป็นคนทำเจ็บ ไม่ทราบท่านต้องการคำอธิบายแบบใดหรือ?”
เฟิ่งจิ่วหยุดเดิน นัยน์ตาสุกใสกวาดมองทุกคน ก่อนหยุดมองที่ผู้นำตระกูลหลี่
………………………………….
ตอนที่ 2694 ถอนหายใจ
ผู้นำตระกูลหลี่หรี่ตาจ้องเด็กหนุ่มชุดเขียวที่เดินออกมาจากข้างใน สายตาตวัดสำรวจ วรยุทธ์ของอีกฝ่ายก็ต่ำต้อยนัก สีหน้าเขาพลันบึ้งตึง ก่อนจะแค่นเสียงอย่างดูแคลน
“เหอะ!”
เสียงนั้นแฝงไว้ด้วยแรงกดดันของผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียนแผ่ปกคลุมไปทางเฟิ่งจิ่ว กลิ่นอายและแรงกดดันอันแข็งแกร่งทำให้คนรอบข้างหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
เพราะพวกเขาเองก็ดูออกว่าวรยุทธ์ของเด็กหนุ่มชุดเขียวอยู่ในระดับสร้างรากฐานเท่านั้น วรยุทธ์แค่นั้นจะต้านทานแรงกดดันของผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียนได้อย่างไรกัน
ทว่าผู้นำตระกูลกัวที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งกลับมีประกายเย้ยหยันพาดผ่านดวงตา เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว ขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปดันสองพี่น้องตระกูลเซี่ยที่กำลังเดินตามมาข้างหลังให้ถอย ยออกไปด้วย พวกเขาจะได้ไม่บาดเจ็บเพราะแรงกดดันขุมนั้น ส่วนเฟิ่งจิ่วยังคงยืนอยู่ตรงนั้น หยัดยืนแผ่นหลังตรง สีหน้าเรียบเฉย ท่าทางผ่อนคลาย
เธอยืนเงียบงันอยู่ตรงนั้น ราวกับไม่ได้รับรู้ถึงแรงกดดันที่แผ่ปกคลุมตัวเธอเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสุกใสคู่นั้นจับจ้องไปที่ผู้นำตระกูลหลี่อย่างเฉยชา ไม่ได้ยินที่เขาพูด เธอจึงถา ามอีกครั้ง
“เจ้ามาหาคำอธิบายจากข้าใช่หรือไม่? อยากได้คำอธิบายแบบใดล่ะ?” เธอหันไปมองคุณชายตระกูลหลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้มหยัน “ข้าไม่รู้เลยว่าที่แท้เกี้ยวพาหญิงสาวแล้วตกบันใ ใด ยังไปขอคำอธิบายจากใครได้ด้วย”
ผู้นำตระกูลหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าย่ำแย่ ในใจคาดเดาคนตรงหน้าไม่ได้ แรงกดดันของเขาก็พุ่งออกไปแล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้ากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่น้อย? น นี่มันไม่ใช่แล้ว
เพียงแต่ แม้เขาจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าวรยุทธ์ของเด็กหนุ่มจะแข็งแกร่งกว่าเขา ด้วยเหตุนี้ เขาเพียงจ้องเด็กหนุ่มอย่างเย็นชา พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แค่คนอ่อนแอคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาพูดจา!”
“คนอ่อนแอ?”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้วขณะพึมพำเบาๆ คล้ายกำลังใคร่ครวญความหมายของคำนี้ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอหัวเราะเบาๆ มองหน้าผู้นำตระกูลหลี่ที่เต็มไปด้วยไอสังหาร พูดขึ้นมาว่า “เจ้าเชื่อหรือไม่ ค คนอ่อนแออย่างข้านี่แหละ สามารถทำให้เจ้าหมอบคลานลุกไม่ขึ้น?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! เด็กสามหาว! วันนี้ แม้ใครจะว่าข้ารังแกเด็กอย่างเจ้า ข้าก็จะสั่งสอนเจ้าให้เข็ดหลาบ! ให้เจ้ารู้ซึ้งถึงจุดจบของคนที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา!”
ครั้นเสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งจองหองเงียบลง ก็เห็นร่างกายของผู้นำตระกูลหลี่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณพวยพุ่ง ฝีเท้าขยับเคลื่อน พุ่งตัวเข้ามาดุจลูกธนูที่หลุดจากแล่ง ยื่นมือออกมาห หมายคว้าคอเฟิ่งจิ่ว
“ซี๊ด!”
“ผู้นำตระกูลหลี่ผู้นี้ไม่นึกเลยว่าจะใช้กำลังกับเด็กหนุ่มคนนั้น วรยุทธ์ของสองคนนั้นแตกต่างกันขนาดนั้น นี่มันไม่ต่างจากผู้ใหญ่รังแกเด็กเลยนะ”
“นี่ดูอย่างไรก็ผู้ใหญ่รังแกเด็กอยู่แล้ว ผู้นำตระกูลหลี่อายุตั้งเท่าไรแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นยังอายุเท่าไนเอง? เดาว่ายังไม่โตเท่าลูกชายของเขาเลยกระมัง! ใช้กำลังอย่างนี้เท ท่ากับต้องการเอาถึงชีวิต จิตใจเหี้ยมโหดอย่างนี้ไม่มีใครอื่นแล้วล่ะ”
“เด็กหนุ่มชุดเขียวคนนั้นเป็นแขกของตระกูลกัวไม่ใช่หรือ? เหตุใดผู้นำตระกูลกัวจึงเอาแต่ยืนดูเฉยๆ เล่า?”
“คงไม่อยากยื่นมือเข้ามาเกี่ยวเพื่อสร้างปัญหากระมัง ถึงอย่างไรตระกูลหลี่ก็มีฐานะที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลกัวเลยนี่”
ผู้คนรอบข้างต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็มองเด็กหนุ่มชุดเขียวอย่างสงสาร ผู้นำตระกูลหลี่ลงมือหมายเอาถึงชีวิต ดูท่า วันนี้เด็กหนุ่มชุดเขียวคงต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว
สองพี่น้องตระกูลเซี่ยและกัวซิ่นหนิงที่อยู่ข้างหลังเห็นเหตุการณ์ก็อดกลั้นหายใจไม่ได้ แม้พวกเขาจะรู้ว่าวรยุทธ์ของเฟิ่งจิ่วไม่ได้อ่อนแอ แต่อีกฝ่ายเป็นถึงระดับผู้นำตระกูล เขา จะสามารถหลบการโจมตีถึงชีวิตครั้งนี้ไปได้หรือ?
มีเพียงผู้นำตระกูลกัวเท่านั้นที่สายตาไหวระริก เขาลอบถอนใจและส่ายหน้า นอกจาเขา เดาว่าคนอื่นคงไม่มีใครรู้เลยกระมังว่าเขาถอนหายใจเพื่อใคร!