เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2705 พูดถึงการบอกลา / ตอนที่ 2706 เชิญอีกครั้ง
ตอนที่ 2705 พูดถึงการบอกลา
เธอส่ายหน้า “ไม่ไป พวกเจ้าจะไปก็ไปเถอะ!”
“อย่างนั้นก็ได้ ข้าไปบอกท่านแม่ก่อน” เขาเอ่ย จากนั้นก็หันตัวเดินออกไป
เฟิ่งจิ่วเดินออกมา ยืดเส้นยืดสายในลานสวน ก่อนจะขานเรียก “หยินจื่อ”
หมาป่าสีเงินที่อยู่ในห้องกระโจนออกมา ย่อตัวนั่งข้างๆ เฟิ่งจิ่ว
“ไปกันเถอะ! ออกไปเดินเล่นด้านหน้ากัน” เฟิ่งจิ่วย่อตัวลูบหัวของมัน สาวเท้าเดินออกไป ตั้งใจจะไปกล่าวอำลากับพวกฮูหยินคนงาม
ในห้องโถงด้านหน้า พอได้ฟังสารจากลูกชาย ฮูหยินคนงามครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็สั่งให้คนไปปฏิเสธคนที่ตระกูลหร่วนส่งมา
“ไปตระกูลหร่วนครั้งนี้ ลูกชายและลูกสาวของข้าเกือบไม่รอดชีวิตแล้ว พวกเราคบค้ากับตระกูลหร่วนให้น้อยที่สุดดีกว่า” ฮูหยินคนงามว่า ก่อนจะเอ่ยอย่างเจ็บใจว่า “เพียงแต่ คุณหนูสามหร่วนทำตัวเช่นนั้น จะปล่อยนางไปง่ายๆ อย่างนี้ก็ยากจะสงบความโกรธ”
ทำร้ายลูกๆ ของนางแต่กลับไม่ได้รับโทษ แม้นางจะมีเมตตาขนาดไหน ก็อดทนให้เกิดเรื่องอย่างนี้ไม่ได้
เซี่ยเหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตบหลังมือนางเบาๆ กล่าวว่า “นิสัยของหร่วนซานนั่นก็เป็นอย่างนั้น แม้พวกเราจะไม่สั่งสอนนาง ภายหน้าก็ต้องมีคนจัดการนางแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปโกรธเพราะคนอย่างนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญที่สุดก็คือลูกทั้งสองของเราเป็นคนดีมีฟ้าคุ้มครอง ทำให้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินคนงามหันไปมองลูกทั้งสองที่นั่งอยู่ข้างล่าง ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “เจ้าค่ะ ท่านพี่พูดได้ถูกต้องแล้ว อวี้ถังกับเสี่ยวซือกลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว”
“เสี่ยวจิ่วมาแล้ว!” เซี่ยซือซือที่กำลังนั่งลูบไข่สัตว์ร้ายเล่นอยู่ด้านล่างเห็นเฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างนอกก็ร้องขึ้นด้วยความดีใจ รีบสาวเท้าเข้าไป “เสี่ยวจิ่ว เจ้ามาได้อย่างไร?”
“ข้ามีเรื่องนิดหน่อย” เฟิ่งจิ่วเอ่ย ก่อนหันไปมองสองคนที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุด “นายท่าน ฮูหยิน ข้ามาบอกลา”
ครั้นเอ่ยจบ คนในห้องโถงต่างก็ชะงักงัน สุดท้ายคนที่ได้สติก่อนก็คือเซี่ยอวี้ถัง
“อะไรนะ? เจ้าจะไปแล้วหรือ? เจ้าที่ไร้ญาติขาดมิตรจะไปไหน?” เซี่ยอวี้ถังถามอย่างร้อนใจ เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าเฟิ่งจิ่วจะมาบอกลา
“เสี่ยวจิ่ว เจ้าจะไปตอนนี้เลยหรือ? พวกเราเพิ่งกลับมาก็จะไปแล้วหรือ? เจ้าอย่าไปเลยนะ! อยู่ที่บ้านพวกเราดีจะตาย” เซี่ยซือซือเองก็เอ่ยอย่างอาลัยอาวรณ์
เซี่ยเหยียนและภรรยารู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะถูกผูกมัดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ช้าเร็วย่อมต้องไปจากบ้านพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป ด้วยเหตุนี้ พอได้ยินว่าเขาจะไปแล้ว กลับไม่ได้ประหลาดใจมากนัก
“เสี่ยวจิ่ว พวกเจ้าเพิ่งกลับมา ยังไม่ได้พักผ่อนให้ดีด้วยซ้ำกระมัง! ถึงจะไป ก็ไม่ต้องเร่งรีบในสองสามวันนี้” ฮูหยินคนงามเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองหน้าลูกชายและลูกสาวของนาง กล่าวว่า “อีกอย่าง พวกเขาก็อยากให้เจ้าอยู่ต่ออีกหลายวันด้วย”
“ใช่แล้วๆ เสี่ยวจิ่ว พวกเรายังไม่ได้ไปเที่ยวในเมืองอีกตั้งหลาบที่ ถึงเจ้าจะไป ก็อยู่อีกสักสองสามวันแล้วค่อยไปเถอะ!” เซี่ยซือซือดึงแขนเสื้อเขา มองเขาด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์
เฟิ่งจิ่วครุ่นคิด สุดท้ายก็พยักหน้า “อย่างนั้นก็ได้! ข้าอยู่ต่ออีกสองสามวันแล้วค่อยไป”
“อย่างนั้นพวกเราออกไปเที่ยวเล่นกันเถอะ! พวกเราออกไปเที่ยวในเมือง หาของอร่อยกินกัน” เซี่ยซือซือว่า ก่อนหันไปมองพี่ชายของนาง “ท่านพี่ พวกเราไปด้วยกันเถอะ!”
“ได้” เซี่ยอวี้ถังตอบ ทั้งสามเดินออกไปข้างนอก หารือกันว่าจะไปเที่ยวที่ไหน
“ท่านพี่ บ้านเราก็ไม่มีงานคึกคักมานานแล้ว ตอนนี้ย้ายมาทางนี้ยิ่งเงียบเหงา ฉวยโอกาสตอนที่เสี่ยวจิ่วยังอยู่ ข้าอยากจัดงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆ สักงาน ท่านคิดว่าอย่างไร?”
………………………………….
ตอนที่ 2706 เชิญอีกครั้ง
“หลายวันมานี้เอาแต่เป็นห่วงลูกๆ ทั้งสองจนเกือบลืมไปแล้ว อีกสองวันก็วันเกิดเจ้าแล้ว” เซี่ยเหยียนเอ่ย เขาพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกัน เรื่องนี้เจ้าจัดการเถอะ!”
ในอีกด้านหนึ่ง ด้านหลังของทั้งสามคนที่ออกจากจวนมาแล้วมีหมาป่าสีเงินตัวเล็กๆ เดินตาม มองแวบแรกราชาหมาป่าผู้น่าเกรงขามดูเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ มากจริงๆ มันสะบัดหางเดินตามหลังเฟิ่งจิ่ว ท่าทางเชิดคางอย่างเย่อหยิ่งของมันดูน่าเอ็นดูอย่างมาก ดึงดูดให้เหล่าเด็กสาวและเด็กเล็กอดหันมองไม่ได้
“พวกเราไปเที่ยวที่ไหนดี?” เซี่ยซือซือหันไปถามสองคนข้างๆ
“ผู้ชายไม่ค่อยเดินเที่ยวตลาดกันหรอก จะไปเที่ยวที่ไหนเจ้าตัดสินใจเองก็แล้วกัน” เซี่ยอวี้ถังตอบ เขาหันไปมองเฟิ่งจิ่ว ลังเลเล็กน้อย ก่อนถามว่า “เสี่ยวจิ่ว เจ้าไปจากที่นี่แล้วจะไปไหนหรือ? ต่อไปจะกลับมาอีกหรือไม่?”
“ข้ามีเรื่องต้องไปทำ น่าจะไม่กลับมาที่นี่แล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบ ขณะสาวเท้าไปช้าๆ
“อย่างนั้นต่อไปพวกเราจะได้เจอกันอีกหรือไม่?” เซี่ยซือซือถาม
เซี่ยอวี้ถังชำเลืองมองนาง กล่าวว่า “เขาบอกว่าจะไม่กลับมาแล้ว จะได้เจอกันอีกเสียที่ไหน? ย่อมไม่ได้เจออีกแล้ว”
เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ แต่กลับไม่พูดอะไร
“อย่างนั้นหรือ!” เซี่ยซือซือมองเฟิ่งจิ่ว ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “แม้ต่อไปจะไม่ได้เจอกันอีก แต่ข้าจะไม่ลืมเจ้า เสี่ยวจิ่ว”
“ขอบคุณ” เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ
“อ๊ะ ใช่แล้ว อีกสองวันก็จะวันเกิดท่านแม่แล้ว พวกเราซื้ออะไรให้นางหน่อยก็แล้วกัน! อีกอย่างข้าก็อยากซื้อเครื่องประดับผมด้วย ข้าได้ยินว่าในเมืองมีร้านเครื่องประดับที่ใหญ่มากอยู่ร้านหนึ่ง พวกเราไปดูกันเถอะ!”
“ได้” เฟิ่งจิ่วตอบ หลังจากที่สอบถามตำแหน่งที่ตั้ง ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปที่นั่น
ซื้อของเสร็จทั้งสามก็เดินเที่ยวตลาดต่อ กระทั่งฟ้าเริ่มมืดจึงค่อยกลับจวน ทว่า ทันทีที่เข้าจวนก็ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าฮูหยินหาพวกเขา พวกเขาจึงไปที่เรือนหลัง
“ท่านแม่ ท่านหาพวกข้ามีอะไรหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซือซือวิ่งเข้าไปนั่งลงข้างๆ นาง
ฮูหยินคนงามมองเฟิ่งจิ่ว “เสี่ยวจิ่ว อวี้ถัง คุณหนูสี่หร่วนให้คนส่งเทียบเชิญมา เชิญพวกเจ้าไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนพรุ่งนี้” นางมองทั้งสองด้วยสายตาประหลาดใจ “คุณหนูหร่วนสี่ผู้นี้พวกเจ้าไปรู้จักกับนางตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
เซี่ยอวี้ถังได้ยินก็ตะลึง “คุณหนูหร่วนสี่?” เขาหันไปมองเฟิ่งจิ่ว นึกไม่ออกในทันที จึงถามว่า “พวกเรารู้จักด้วยหรือ?”
เฟิ่งจิ่วสายตาไหวระริก ตอบว่า “เด็กสาวในป่าไผ่นั่น หร่วนหรูอวิ๋น”
“อ้อ นางเองรึ!” เซี่ยอวี้ถังอุทานอย่างถึงบางอ้อ ก่อนเอ่ยว่า “แต่พวกเราไม่ได้สนิทสนมอะไรกับนาง อย่างมาก็แค่เคยพบหน้ากันครั้งหนึ่ง”
“คุณหนูสี่หร่วนเป็นบุตรีสายตรงที่มีวรยุทธ์โดดเด่นของตระกูลหร่วน ได้ยินว่าโรคร้ายที่เคยเป็นไม่รู้ว่าหายได้อย่างไร ครั้นหายก็พบว่านางมีพรสวรรค์และรูปโฉมที่งดงาม ตอนนี้จึงถูกเลี้ยงดูดุจความภูมิใจของตระกูลหร่วน” ฮูหยินคนงามมองพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อว่า “ระหว่างที่พวกเจ้าไม่อยู่ ตระกูลหร่วนทุ่มเทเพื่อคุณหนูสี่ผู้นี้ไปไม่น้อยเชียวล่ะ”
นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “นี่เป็นเทียบเชิญที่นางส่งมา หนำซ้ำยังเชิญแค่พวกเจ้าด้วย เมื่อครู่พวกเจ้าไม่อยู่บ้าน ฉะนั้นข้าจึงรับเทียบเชิญไว้ พวกเจ้าดูเองก็แล้วกันว่าจะไปหรือไม่! หากไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร เตรียมตัวจัดงานเลี้ยงวันเกิด ถึงตอนนั้นพวกเจ้าเชิญนางมาร่วมงานที่จวนเราก็ได้”
ครั้นเสนอความคิดนี้ออกไป ฮูหยินพยักหน้าเอง “คิดดูแล้วเชิญนางมาที่บ้านเราดีกว่า! จะได้ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก” อย่างไรอยู่ในบ้านของพวกเขา มีพวกเขาคอยดูแลไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นแน่
………………………………….