เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2709 ไม่พอใจ / ตอนที่ 2710 บิดเบี้ยว
ตอนที่ 2709 ไม่พอใจ
หร่วนหรูอวิ๋นมองเขา ไม่เข้าใจความหมายของเขา นี่ตกลงว่าเห็นด้วย? หรือไม่เห็นด้วย? ด้วยเหตุนี้ นางจึงก้มหน้า ม้วนชายชุดกระโปรงของตนเองเล่น “พี่ชายเสี่ยวจิ่ว ข้าถูกรับตัวออก กมาจากป่าไผ่แล้ว ตอนนี้คนในตระกูลดีกับข้ามาก ผู้นำตระกูลยังบอกว่าของที่ให้ข้าต้องเป็นของที่ดีที่สุด ตอนนี้ข้าอยู่ในเรือนหลักมีคนไปเยี่ยมข้าบ่อยมาก พวกเขาอยู่คุยกับ บข้า ยังให้ของขวัญข้าด้วย
ข้ารู้ว่าหากไม่ใช่เพราะพี่ชายเสี่ยวจิ่ว ตอนนี้ข้าจะต้องยังอยู่ในป่าไผ่แน่ๆ” เอ่ยไป นางก็เหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ เงยหน้ามองเฟิ่งจิ่ว “พี่ชายเสี่ยวจิ่ว อาจารย์ของข้า อาจา ารย์ของข้าถูกท่านบรรพจารย์ฆ่าแล้ว ในสองคืนก่อนนี้เอง ท่านบรรพจารย์กับผู้นำตระกูลไม่รู้ว่าใช้วิธีใด พวกเขาฆ่าท่านอาจารย์แล้ว”
นางก้มหน้า “เรื่องนี้คนนอกไม่มีใครรู้ พวกเขาไม่ปล่อยให้ข่าวเล็ดรอดออกไป อาจารย์ที่เก่งกาจของข้าก็ตายไปอย่างนั้นเอง”
เฟิ่งจิ่วฟังเงียบๆ สายตาสงบนิ่งมองดูเด็กสาวขณะเล่าเรื่อง สีหน้าของนางดูเศร้าสร้อยเล็กน้อย เดี๋ยวก็ถอนหายใจ เดี๋ยวก็ดูโศกาอาดูร
“พี่ชายเสี่ยวจิ่ว…” นางเพิ่งจะเอ่ยปาก เฟิ่งจิ่วก็ตัดบทก่อนแล้ว
“พวกเราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว ยังไม่นับว่าเป็นคนคุ้นเคย เจ้าเป็นถึงคุณหนูสี่แห่งตระกูลหร่วน อย่าเรียกข้าว่าพี่ชายเลย” เฟิ่งจิ่วแนะนำ เห็นสาวรับใช้ยกสุราอาหารมาจากด้านนอก เธอพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้สาวรับใช้วางของแล้วถอยออกไปเสีย
เธอรินสุราแล้วยกขึ้นมาจิบหนึ่งคำ ไม่ได้มองหร่วนหรูอวิ๋น เพียงเอ่ยว่า “ที่นี่เป็นเขตเรือนหลัง เจ้ากลับไปเถอะ!”
หร่วนหรูอวิ๋นมองเฟิ่งจิ่ว พูดขึ้นว่า “ท่านไม่อยากไปเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลหร่วนหรือ?”
“ไม่สนใจ” เฟิ่งจิ่วตอบ พลางเขย่าถ้วยสุราในมือ
“แต่ว่า นี่เป็นภารกิจแรกที่ผู้นำตระกูลมอบหมายให้ข้าทำ หากทำได้ไม่ดี ผู้นำตระกูลจะต้องผิดหวังแน่” นางขบเม้มริมฝีปาก มองเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ
“นั่นเกี่ยวอะไรกับข้า?” เฟิ่งจิ่วมองนางแวบหนึ่ง ถามอย่างไม่ยี่หระ
“ต้องเกี่ยวอยู่แล้ว! เป็นเพราะท่านข้าถึงได้ออกจากป่าไผ่ แต่ไหนแต่ไรพวกเขาล้วนเพิกเฉยต่อข้า ไม่ชอบข้า แต่ตอนนี้พวกเขาล้วนชอบข้า ดีกับข้ามาก นี่ล้วนเป็นเพราะท่าน!” นางมอง งเฟิ่งจิ่ว เอ่ยต่ออีกว่า “ข้าไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง ข้าอยากให้พวกเขาชอบข้าอย่างนี้ไปตลอด”
มือของเฟิ่งจิ่วที่กำลังคีบอาหารชะงักหยุด เธอมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง ชุดกระโปรงที่ทำจากผ้าโปร่งชั้นดีสวมใส่อยู่บนตัว หยกห้อยเอวประดับด้วยพู่ระย้าดูงดงามย ยิ่ง ข้อมือนางสวมใส่กำไล ไม่ใช่กำไลทั่วไป แต่เป็นกำไลห้วงทมิติ
ยิ่งพอเลื่อนสายตาขึ้นข้างบน ลำคอสวมใส่สร้อยไข่มุกประณีต ติ่งหูห้อยต่างหูที่มีจี้ส่องประกายวิบวับน่าหลงใหล ผ้าโปร่งปิดหน้าที่เคยปิดหน้าไว้เพราะรูปโฉมอัปลักษณ์ในอดีตถูกถอด ดทิ้งแต่แรกแล้ว เผยให้เห็นดวงหน้าที่งดงามประณีตดุจหยก เครื่องหน้าทั้งห้าโดดเด่น ดวงตาแฝงแววไร้เดียงสา
ความรู้สึกต่ำต้อยได้หายไปจากหว่างคิ้วแล้ว สิ่งที่เข้ามาแทนที่มีแต่ความเย่อหยิ่งและความเอาแต่ใจที่ทำให้ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย จำต้องบอกว่า เด็กสาวที่วางท่าสูงส่งเหมือนกับคุณหนูผู ดีส่วนใหญ่ในตอนนี้ เทียบกับนางที่รู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยในอดีตแล้ว นางในตอนนี้ดูเปล่งประกายสะดุดตา และดูเหมือนคุณหนูผู้ดีมากกว่า
เพียงแต่ เด็กสาวตรงหน้ากลับทำให้เฟิ่งจิ่วไร้ความรู้สึกอยากช่วยอีกแล้ว มีแต่ความไม่พอใจเท่านั้น
“แค่ไม่กี่วัน เจ้าเปลี่ยนไปมากนะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า มองหน้านางขณะเอ่ยอย่างคาดเดาความหมายไม่ถูก “นั่นทำให้ข้าประหลาดใจเล็กน้อย”
………………………………….
ตอนที่ 2710 บิดเบี้ยว
“ไม่ใช่ข้าเปลี่ยนไป แต่เพราะตอนนี้ฐานะและตำแหน่งของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้าชอบข้าในตอนนี้ คนในตระกูลล้วนชอบข้าที่เป็นอย่างนี้” หร่วนหรูอวิ๋นเอ่ย นางมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้าจะช ช่วยข้าใช่หรือไม่? เจ้าเคยช่วยข้าแล้ว ยังช่วยข้าได้อีก”
เฟิ่งจิ่วส่ายหัว “ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากช่วย เจ้าไปเสียเถอะ!” เฟิ่งจิ่วไม่มองนางอีก เพียงรินสุราดื่ม ตั้งใจว่าหลักงานเลี้ยงเลิก เธอจะให้ของขวัญวันเกิดแก่ฮูหยินคนงา าม จากนั้นก็จะออกเดินทางแล้ว
หร่วนหรูอวิ๋นก้าวเข้ามา “ไม่ เจ้าช่วยข้าได้! ขอแค่เจ้าตามข้าไปที่ตระกูลหร่วนก็พอแล้ว แทนที่เจ้าจะอยู่เป็นหัวหน้าผู้ดูแลที่ตระกูลเซี่ย ไปตระกูลหร่วนกับข้าไม่ดีกว่าหรือ?”
เฟิ่งจิ่วกินอาหารของตนเองไปเงียบๆ ไม่สนใจนาง แต่หมาป่าสีเงินที่นอนหมอบอยู่ด้านหนึ่งในลานสวนเห็นเหตุการณ์ ดวงตาฉายแววเหี้ยมโหด
มนุษย์คนนี้ช่างบังอาจนัก กล้าพูดจาเช่นนี้กับนายของมัน
“หากเจ้ายังไม่ไป ข้าจะให้คนมาเชิญเจ้าออกไป ถึงตอนนั้นเกรงว่าเจ้าจะเสียหน้า” เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ลอบส่ายหน้ากับตนเองเงียบๆ ใจคนเปลี่ยนง่าย และโลภจนน่ารังเกียจ
ได้ยินอย่างนั้น หร่วนหรูอวิ๋นสีหน้าเปลี่ยน นางอารมณ์พลุ่งพล่าน สายตาก็แปรเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว นางแผดเสียงใส่เฟิ่งจิ่ว “เหตุใดเจ้าไม่ช่วยข้า? ทั้งที่เจ้าช่วยข้าได้แท้ๆ เจ้าคว วรจะช่วยข้า!”
เสียงที่แผดออกมาแฝงไว้ด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่านและความโกรธ ทำให้เฟิ่งจิ่วตะลึงงัน มองนางด้วยความตกใจ คนเราเปลี่ยนแปลงง่ายก็แล้วไป เหตุใดจิตใจก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวไปถึงขนาดนี้ ด้วย? ผ่านไปแค่ไม่กี่วันก็ทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวหรือ?
หรือว่าท่าทางต่ำต้อยที่เคยเห็นเป็นเพียงด้านเดียวของนางเท่านั้น ตอนนี้ต่างหากที่เป็นนิสัยที่แท้จริงของนาง นางในตอนนี้มีตระกูลคอยปกป้อง มีการปฏิบัติพิเศษจากผู้นำตระกูล ฉะนั้ นอีกด้านหนึ่งจึงค่อยๆ เผยออกมา?
ทว่า สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าคือหลังจากนี้ นางจ้องหน้าเฟิ่งจิ่ว เผยรอยยิ้มประหลาดออกมา จู่ๆ นางก็ฉีกเสื้อผ้าของตนเองจนขาด
เสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้น ทำให้เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุชั้นดีขาดไม่เหลือชิ้นดี ชุดกระโปรงสวยๆ กลับถูกทำลายไปทั้งอย่างนั้น
หร่วนหรูอวิ๋นมองเฟิ่งจิ่วที่กำลังมองนางด้วยสีหน้าตกตะลึง นางกลับหัวเราะในลำคอขึ้นมา “แม้จะเป็นผู้ดูแล แต่ก็เป็นเพียงบ่าวรับใช้คนหนึ่ง เจ้าว่า หากพวกเขาเห็นเจ้าฉีกเสื้อผ ผ้าของข้าด้วยเจตนาร้าย จะเป็นอย่างไรนะ?”
นางพูดไปพลาง ปลดเสื้อผ้าของตนเองไปพลาง ขณะเดียวกันก็ฉีกแขนเสื้อข้างหนึ่งด้วย เผยให้เห็นผิวขาวเนียนดุจหิมะ จากนั้นก็ยีเส้นผมที่เกล้าไว้อย่างสวยงามให้ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ก่อนจะมองพิจารณาสภาพตนเอง สุดท้ายก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“เหมือนใช่ไหมเล่า? ครั้งที่แล้วข้าก็เห็นพี่สามของข้าใส่ร้ายคนที่นางไม่ชอบ คนคนนั้นไม่ยอมทำตามที่นางสั่ง สุดท้ายก็เหมือนจะถูกตีจนขาหักทั้งสองข้างแล้วโยนออกนอกเมืองไปแ แล้ว”
นางเอ่ยด้วยสีหน้าไร้เดียงสา พลางมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้าฉลาดขนาดนี้ แต่กลับไม่ยอมรับใช้ข้า แล้วก็ไม่ยอมเข้าตระกูลหร่วน อย่างนั้นข้าก็ทำได้แค่คิดหาวิธี ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวข้าร ร้องขอความช่วยเหลือ คนด้านหน้าจะต้องวิ่งมาที่นี่ เจ้ารังแกข้า เอาเปรียบข้า คนในบ้านของข้าจะต้องไม่ยอมจบง่ายๆ แน่ พี่ชายเสี่ยวจิ่ว เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วมองนางด้วยสีหน้าแปลกๆ ตอนนี้เธอมั่นใจได้ว่า จิตใจของเด็กสาวคนนี้ได้บิดเบี้ยวไปแล้วจริงๆ