เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2711 แตกตื่น / ตอนที่ 2712 ปรักปรำ
ตอนที่ 2711 แตกตื่น
สมองนางคิดอะไรอยู่กันแน่? ไม่นึกเลยว่าจะใช้วิธีต่ำๆ เช่นนี้มาใส่ร้ายเธอได้? มองดูนางฉีกเสื้อผ้าตนเอง จัดแจงให้ตนเองมีสภาพเสื้อผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนถูกรังแกและเอาเปรียบ เธ ธออยากจะบอกนางเหลือเกิน ไม่ต้องฉีกเสื้อผ้าแล้ว เธอเป็นผู้หญิง แม้จะถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าต่อหน้าเธอ แล้วจับเธอและนางมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ไม่สามารถทำเรื่องอย่างนั้นได้
แต่พอเห็นนางเล่นสนุกอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วก็คิดว่าช่างเถอะ รอดูก็แล้วกันว่านางจะทรมานตนเองอย่างไร! ถึงอย่างไรทำไปทำมา สุดท้ายก็เป็นการทำร้ายตัวเองอยู่ดี
หมาป่าสีเงินที่นอนหมอบอยู่บนพื้นลุกขึ้นมานั่ง เพียงแต่มันที่หดตัวเล็กจนเหมือนลูกหมาน้อยๆ กลับดูไร้ตัวตน หร่วนหรูอวิ๋นเองก็ไม่ได้เห็นมันอยู่ในสายตา ย่อมไม่เห็นท่าทาง แยกเขี้ยวอยากจะพุ่งเข้ามากัดนางเสียให้ตายของหมาป่าสีเงินอยู่แล้ว
เห็นเฟิ่งจิ่วไม่แยแสนางแม้แต่น้อย หร่วนหรูอวิ๋นกัดฟัน “เจ้าไม่ยอมรับปากจริงๆ หรือ? เจ้าต้องรู้ว่าขอเพียงข้าตะโกนเรียกคนมาที่นี่ ถึงตอนนั้นแม้แต่ฮูหยินตระกูลเซี่ยก็ปกป้องเจ้ าไม่ได้ สุดท้ายเจ้าก็ต้องตกอยู่ในกำมือของตระกูลหร่วนอยู่ดี”
เฟิ่งจิ่วกินอาหารต่อ ไม่ได้สนใจนาง
เห็นดังนั้น นางถอยหลังไปสองสามก้าว ประกายมาดมั่นพาดผ่านดวงตา ก่อนจะอ้าปากตะโกนเสียงดัง “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย…”
ถึงอย่างไรก็เป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง ย่อมมีกลิ่นอายพลังวิญญาณปนอยู่ในเสียงด้วย เสียงของนางแผ่กระจายออกไปอย่างง่ายดาย แม้แต่คนในลานสวนก็ยังได้ยินเสียงนั้นอย่างชัด ดเจน
ผู้คนด้านหน้ากำลังสนุกสนานกันอยู่ โดยเฉพาะผู้เฒ่ากัวเองก็กำลังพากัวซิ่นหนิงมาเยี่ยมเยียนที่จวนด้วย เซี่ยเหยียนกำลังรับหน้าพวกเขา แต่ใครจะรู้ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนขอความช ช่วยเหลือดังขึ้นมา
เซี่ยเหยียนตะลึงงัน หันไปกำชับพ่อบ้านที่อยู่ข้างกาย “ไป ไปดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น”
ขณะเดียวกันที่ลานสวน ฮูหยินคนงามกับคนอื่นได้ยินก็ตกใจเช่นกัน มีคนเอ่ยด้วยความแปลกใจ “เหตุใดจึงมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ?”
“นั่นเสียงน้องสี่ของข้า!” หร่วนซานอุทานขึ้นมา สาวเท้าวิ่งไปทางเสียงนั้นทันที
ทุกคนได้ยินก็อดมองหน้ากันด้วยความตกใจไม่ได้ จากนั้นก็วิ่งไปทางที่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือด้วยเช่นกัน…
เซี่ยซือซือวิ่งตามทุกคนไป นางไม่ระวังถูกชนจนเกือบล้ม เวลานี้เอง มือคู่หนึ่งประคองนางไว้ “ระวัง”
เสียงอ่อนโยนดังมา นางเงยหน้ามอง ครั้นเห็นว่าเป็นใครก็อดดีใจไม่ได้ “พี่ชายกัว! ขอบคุณพี่ชายกัวมาก” เมื่อกี้นางได้ยินว่าพวกเขามาแล้ว นางยังไม่ทันได้ไปพบเขาเลย!
“ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” กัวซิ่นหนิงถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ไม่เป็นไร” เซี่ยซือซือยิ้มกว้าง
“เหตุใดไม่เห็นเฟิ่งจิ่วเลย?” เขาถาม
“อ๊ะ! เสี่ยวจิ่วอยู่กับคุณหนูสี่หร่วน เสียงนั้นเป็นเสียงของคุณหนูหร่วนสี่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเรารีบไปดูกันดีกว่า” เอยจบ นางดึงมือเขาไปทางเรือนหลังอย่างไม่ลังเล
กัวซิ่นหนิงได้ยินนางพูดก็ตะลึงเล็กน้อย เฟิ่งจิ่วอยู่กับคุณหนูสี่หร่วนที่เรือนหลัง?
ขณะเดียวกัน เซี่ยอวี้ถังที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเรือนหลังพอได้ยินเสียงกรีดร้อง ก็อดสบถไม่ได้ “ข้าว่าแล้วเชียว คนของตระกูลหร่วนมาจะต้องมีแต่เรื่องไม่ดีแน่ๆ!”
ทว่า เมื่อทุกคนมาถึงเรือนหลัง และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ต่างก็อดตะลึงงันไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้
เด็กสาวในชุดกระโปรงฉีกขาดท่าทางแตกตื่นลนลานขดตัวอยู่ที่ด้านหนึ่งของลานหน้าบ้าน ส่วนอีกหนึ่งคนที่อยู่ในลานหน้าบ้าน ซึ่งก็คือเด็กหนุ่มชุดเขียวกลับนั่งกินสุราอาหารอยู่ที่ โต๊ะหินด้วยท่าทางเรียบเฉย ท่าทางที่เหมือนบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเขาทำให้ทุกคนไม่เข้าใจ
………………………………….
ตอนที่ 2712 ปรักปรำ
คุณหนูหร่วนสามเห็นเหตุการณ์ก็อดสูดหายใจไม่ได้ นางรีบวิ่งเข้าไปประคองน้องสาว “เสี่ยวซื่อ เจ้าเป็นอะไรไป?”
ทว่า ยังไม่ทันแตะโดนตัวนาง นางก็กรีดร้องเสียงแหลม “พี่ชายเสี่ยวจิ่ว พี่ชายเสี่ยวจิ่วอย่านะ…”
พอคำพูดนี้หลุดจากปากนาง สีหน้าของคนรอบข้างเปลี่ยนไปทันที สายตาทุกคู่ค่อยๆ หันมาจับจ้องเด็กหนุ่มชุดเขียวที่กำลังดื่มสุรากินอาหารอย่างสบายใจ
เด็กหนุ่มคนนี้พวกเขารู้จัก เขาชื่อเฟิ่งจิ่ว เป็นหัวหน้าผู้ดูแลในจวนนี้ สองคนนี้อยู่ด้วยกันตามลำพังในเรือนหลังนี้ ซ้ำคุณหนูหร่วนสี่ยังมีสภาพเหมือนถูกคนรังแก นั่นอดทำให้ คนคิดไปต่างๆ นานาไม่ได้จริงๆ
หรือว่า เด็กหนุ่มชุดเขียวคนนี้เอารัดเอาเปรียบคุณหนูหร่วนสี่?
นึกดูแล้วก็เป็นไปได้ อย่างไรก็เป็นเด็กหนุ่ม หากจะยับยั้งอารมณ์ตนเองไม่อยู่บ้างก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ เด็กสาวคนนี้กลับไม่ใช่คนธรรมดา นางเป็นถึงคุณหนูสี่แห่งตระกูล ลหร่วน นางที่พักนี้กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง ตระกูลหร่วนจะต้องไม่ยอมง่ายๆ แน่
ชั่วขณะหนึ่ง ผู้คนรอบข้างเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ เซี่ยซือซือที่เบียดมาจากข้างหลังกลับวิ่งเข้าไปผลักคุณหนูหร่วนสี่ ด่านางอย่างเดือดดาล “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เสี่ยวจิ่วไม่ใช่คนอย่า างนั้น! หากเจ้ายังพูดเหลวไหลอีกข้าจะตบปากเจ้าเสีย!”
“เสี่ยวซือ!”
เซี่ยอวี้ถังเข้าไปดึงนางไว้ ส่งสายตาเป็นเชิงบอกนางว่าอย่าวู่วาม เขาหน้าตาขเคร่งเครียด จ้องคุณหนูสี่หร่วนหรูอวิ๋นด้วยสายตาคมปลาบ ก่อนเอ่ยทีละคำอย่างชัดเจน “ของกินนั้นกิน นส่งเดชได้ แต่คำพูดไม่อาจพูดส่งเดชได้! เสี่ยวจิ่วไม่ใช่คนที่เจ้าจะปรักปรำส่งเดชได้!”
กัวซิ่นหนิงที่ยืนอยู่ด้านหลังฝูงชนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง เขาหันไปสังเกตเด็กสาวที่กำลังร่ำไห้แวบหนึ่ง เห็นว่าชุดกระโปรงของนางถูกฉีกขาด สภาพไม่น่าดูนัก อีกทั้งส สีหน้าก็ดูแตกตื่นลนลาน หนำซ้ำยังทำท่าจะพูดแต่ก็หยุดขณะมองไปที่เฟิ่งจิ่วหลายครั้ง
เฟิ่งจิ่วหรือจะเอาเปรียบนาง? พูดตามตรง เขาไม่เชื่อจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงของฮูหยินคนงามดังมาจากข้างหลัง ทุกคนหันไปมอง เห็นนางเดินมาพร้อมกับฮูหยินคนอื่น จึงเปิดทางให้
“ท่านแม่ หร่วนซื่อผู้นั้นปรักปรำเสี่ยวจิ่วเจ้าค่ะ” เซี่ยซือซือรีบวิ่งไปหยุดข้างกายแม่ของนาง ก่อนจะเอ่ยอย่างเดือดดาล
เวลานี้เอง เมื่อเห็นทุกคนล้อมวงกันเข้ามาหมดแล้ว และเห็นว่าสายตาแต่ละคู่ล้วนจับจ้องมาที่เธอ ในที่สุดเฟิ่งจิ่วก็วางตะเกียบลง เรียกสาวใช้มาเก็บถ้วยชาม เหลือไว้เพียงสุรา จา ากนั้นก็หันไปมองฮูหยินคนงาม
“ข้าดื่มสุราอยู่ตรงนี้ คุณหนูหร่วนสี่ก็ฉีกเสื้อผ้าของนางอยู่ตรงนั้น จากนั้นก็กรีดร้องขอความช่วยเหลือ” เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนเล่าเรื่องทุกอย่างอย่างไม่ยี่หระ
“เจ้าเหลวไหล! น้องสี่ของข้าเป็นผู้หญิง จะทำเรื่องอย่างนั้นเพื่อปรักกรำเจ้าได้อย่างไร? เห็นอยู่ว่าเป็นเจ้าที่หลงในความงามจนคิดร้ายกับนาง!”
หร่วนซานพูดอย่างโมโห ดวงตางามจับจ้องไปที่ใบหน้าของเฟิ่งจิ่ว “แม้แต่คนของตระกูลหร่วนเราก็กล้าแตะต้อง วันนี้ข้าจะควักดวงตาของเจ้าออกมาเสีย โทษฐานที่เจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สู ง!”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว นัยน์ตาสุกใสมีประกายเยือกเย็นพาดผ่าน เธอชำเลืองมองคุณหนูหร่วนสี่ด้วยรอยยิ้มเยาะ “คุณหนูหร่วนสี่ เจ้าก็อย่าเอาแต่ร้องไห้ ลองว่ามาสิ ข้าทำอะไรเจ้านะ?”
หร่วนซื่อได้ยินอย่างนั้นก็อดก้มหน้าไม่ได้ ปกปิดความละอายใจในสายตา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของนางมีแต่ความหวาดกลัวและเจ็บปวด “พี่ชายเสี่ยวจิ่ว ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจ จะทำอย่างนี้กับข้า ท่านทำให้ข้าตกใจมากจริงๆ”