เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2721 จากลา / ตอนที่ 2722 ชุดแดง
ตอนที่ 2721 จากลา
“แม้ต้องตาย! ข้าก็จะลากเจ้าไปตายด้วย!”
ผู้เฒ่าหร่วนพุ่งเข้าไปอย่างสุดแรงเกิด พลังวิญญาณล้นทะลัก ราวกับตัดสินใจจะตายไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่ว ทว่า เขาเพิ่งจะโถมใส่เฟิ่งจิ่ว มือของเฟิ่งจิ่วก็จับมือของเขาไว้ก่อน ส่วนมือ อีกข้างวางไว้เหนือนศีรษะของเขา ขณะเดียวกับที่ทำลายวรยุทธ์ของเขา ก็ได้ทำลายเส้นชีพจรของเขาไปด้วย
อย่างไรเสียคนแก่ที่มีอายุมากแล้ว ยามมีพลังคอยเกื้อหนุนภายนอกจะดูเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา แต่ครั้นกลิ่นอายพลังวิญญาณถูกทำลาย เขาแก่ชราลงอีกครั้งอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ด้วย ยตาเปล่า ใบหน้ากลายเป็นเหมือนคนอายุเจ็ดสิบแปดสิบ เอวโค้งงอ ร่างกายผ่ายผอม สองขาสั่นเทา กระทั่งเฟิ่งจิ่วดึงมือกลับไป เขาตัวสั่นล้มลงไป
คนของตระกูลหร่วนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแล้ว พวกเขาได้แต่ยืนมองอย่างตกตะลึงและเหลือเชื่อ
“เทียบกับฆ่าเจ้า ข้าคิดว่าทำลายวรยุทธ์ของเจ้าจะทำให้เจ้าเหมือนตายได้ทั้งเป็นได้มากกว่า” เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา เธอมองสองคนที่ล้มอยู่บนพื้น หยักยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหันตัวสาวเดินไปทางฮูหยินคนงาม
“ฮูหยิน ข้าจะไปแล้ว ขอบคุณที่ผ่านมาที่ดูแลข้า” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ ยื่นให้นาง “นี่คือยาประทินโฉมที่ข้ากลั่นขึ้นมาเอง ขอมอบใ ให้เป็นของขวัญวันเกิดฮูหยินก็แล้วกัน! ขอเพียงกินยานี้เข้าไป จะช่วยรักษาความงดงามของฮูหยินไว้ได้ตลอดกาล รูปโฉมไม่เปลี่ยนแปลง”
ฮูหยินคนงามทั้งดีใจระคนตกใจ นางเดินเข้าไปรับไว้ เปิดออกดู จากนั้นก็เก็บอย่างระมัดระวัง “ขอบคุณมาก”
เฟิ่งจิ่วมองสองพี่น้องตระกูลเซี่ยที่มีสีหน้าอาลัยอาวรณ์ ก่อนยิ้มๆ และหยิบอีกขวดหนึ่งออกมา “ของข้างในนี้ให้พวกเขาสองคน ฮูหยินรับไว้แทนเถอะ!”
ฮูหยินคนงามได้ยินก็มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า “ได้” นางหันไปมองลูกชายและลูกสาว พยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ขอบคุณ
“เสี่ยวจิ่ว…” เซี่ยซือซือรู้สึกเศร้าใจ ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้นางไม่อยากให้เขาจากไป
“วันข้างหน้าข้าจะแข็งแกร่งขึ้น” เซี่ยอวี้ถังกลับเอ่ยขึ้น เขามองเฟิ่งจิ่ว ก่อนพูดอย่างจริงจัง “ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!”
เฟิ่งจิ่วพยักหัว ตบไหล่เขาเบาๆ “ตั้งใจฝึกฝนวรยุทธ์ รักษาตัวด้วย” เอ่ยจบ เธอปลดขนนกที่เอวแล้วขว้างออกไป เมื่อขนนกขยายใหญ่ เธอหันไปมองหมาป่าสีเงิน
หมาป่าสีเงินราวกับรับรู้ได้ จากขนาดตัวใหญ่มหึมามันหดตัวจนมีขนาดเท่าลูกหมา จากนั้นก็กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ เธอเขย่งปลายเท้า กระโดดขึ้นไปนั่งบนขนนก
หร่วนซื่อมองเธอด้วยแววตาอ้อนวอน หากเขาไม่พานางไปด้วย เกรงว่าจุดจบของนางคงหนีไม่พ้นความตายเป็นแน่
“ขึ้นมาเถอะ!” เฟิ่งจิ่วมองนาง ก่อนขานเรียก
“เจ้าค่ะ พี่ชายเสี่ยวจิ่ว” หร่วนซื่อรับคำอย่างดีใจ ผลักมือของพี่สามของนางที่กำลังประคองอยู่ สาวเท้าวิ่งไปหาเฟิ่งจิ่ว กระโดดขึ้นไปบนอาวุธบินชิ้นนั้น เพียงแต่ นางไม่กล้าน นั่ง ได้แต่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างเฟิ่งจิ่ว
“ทุกท่าน ขอลา” เธอหันไปมองคนของตระกูลเซี่ยที่อยู่ข้างล่าง รวมถึงสองคนจากตระกูลกัว ก่อนจะพาหนึ่งคนหนึ่งสัตว์ร้ายจากไป…
เห็นพวกเขาค่อยๆ ห่างออกไป กระทั่งหายลับไปจากขอบฟ้า ทุกคนยืนมองนิ่งๆ เนิ่นนานจึงเพิ่งได้สติ ไม่อยากเชื่อว่าสุดท้ายเรื่องราวจะจบเช่นนี้
คนของตระกูลหร่วนถูกพาตัวกลับไปแล้ว คนของตระกูลเซี่ยกลับบ้านตนเอง เพียงแต่ ผู้นำตระกูลเซี่ยก็ตามไปด้วย เหมือนต้องการถามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่…
………………………………….
ตอนที่ 2722 ชุดแดง
ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วที่พาหร่วนซื่อมาด้วยเมื่อมาถึงถนนเส้นเล็กๆ ที่ไร้ผู้คนก็หยุด ก่อนหันไปเอ่ยกับหร่วนซื่อว่า “ลงไปเถอะ!”
หร่วนซื่ออึ้งงัน อดลนลานขึ้นมาไม่ได้ “พี่ชายเสี่ยวจิ่ว…”
“พาเจ้าออกมาจากที่นี่ ก็ถือเป็นการช่วยชีวิตเจ้า หากไม่ใช่ตอนนั้นข้าเตือนสติเจ้า บางทีเจ้าอาจะไม่ต้องมีปัญหาเช่นนี้ วันนี้ที่ช่วยเจ้าก็เพราะสงสารเจ้า แต่สำหรับคนที่ข้าไม่ชอบ ข้าไม่เก็บไว้ข้างกายแน่นอน มาส่งเจ้าถึงนี่นับว่าข้าทำดีที่สุดแล้ว”
เธอเอ่ยอย่างเฉยชาขณะนั่งอยู่บนขนนก ยกมือโบกพาเอาร่างของนางส่งถึงพื้น มองหร่วนซื่อที่มีสีหน้าแตกตื่น พลางเอ่ยว่า “ผ่านเรื่องราวพวกนี้มา นิสัยใจคอของเจ้าก็คงเปลี่ยนไปบ้ าง ข้าคิดว่าแม้เจ้าอยู่คนเดียว หลังออกมาจากคนพวกนั้น เจ้าก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้”
“พี่ชายเสี่ยวจิ่ว ขะ ข้าไม่เคยออกจากบ้าน ยิ่งไม่เคยออกเดินทางไกล ตอนนี้ข้าไร้ญาติขาดมิตร จะไปไหนได้เล่า?” นางละล่ำละลักด้วยความแตกตื่น ไม่รู้ว่าตนเองจะไปไหนได้?
เฟิ่งจิ่วเอาสุราออกมาดื่มคำหนึ่ง มองหน้านางด้วยสีหน้าเอื่อยเฉื่อย “ไปกราบอาจารย์ที่สำนักใดสำนักหนึ่ง บางทีอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้า” เอ่ยจบ ก็จิบสุราอีกหนึ่งค คำ
“พี่ชายเสี่ยวจิ่ว ถ้าอย่างไรท่านพาข้าไปด้วยเถอะ! ขะ ข้ายอมเป็นหลูติ่งให้ท่าน”
“พรืด! แค่กๆ!”
เฟิ่งจิ่วไม่ทันได้เตรียมใจกับประโยคนี้ จึงสำลักสุรา เธอไออยู่สองสามครั้ง หลังสงบอารมณ์ก็กวาดสายตามองนาง “ขอบใจจริงๆ แต่ข้าไม่ต้องการ”
เหอะ! จะเป็นหลูติ่งให้เธอ เธอเป็นผู้หญิงจะเอานางไปทำอะไร?
เธอขมวดคิ้ว มองหร่วนซื่อที่ก้มหน้าก้มตา เอ่ยว่า “หากอยากมีชีวิตที่ดี ก็จงซ่อนพื้นฐานร่างกายที่ไม่เหมือนใครของเจ้าไว้ให้ดี อย่าให้ใครรู้ ไม่อย่างนั้น แม้เจ้าจะเข้าสำนักไป ปแล้ว หากไม่ระวังก็อาจถูกคนถลกหนังแร่กระดูก”
เอ่ยจบ สายตาของเฟิ่งจิ่วกวาดมองผ่านกำไลห้วงมิติที่ข้อมือของนาง ลอบคิดว่า ของที่คนพวกนั้นให้นางน่าจะถูกนางเก็บติดตัวไว้ทั้งหมด อย่างไรเสียพอรู้ว่าคนในตระกูลคิดร้ายก กับนาง นางย่อมไม่อาจให้สิ่งของอยู่ห่างตัวได้
“เจ้าดูแลตนเองให้ดีก็แล้วกัน!” เธอละสายตากลับไป นั่งขนนกมุ่งหน้าไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
หลายวันต่อมา ในป่าแห่งหนึ่ง
เฟิ่งจิ่วที่ใส่ชุดสีแดงนั่งพิงอยู่บนกิ่งไม้ ชายเสื้อห้อยลงมากลางอากาศ เมื่อสายลมพัดโชยมาชายเสื้อพลิ้วไสว ท่ามกลางป่าไม้ หมาป่าสีเงินวางเหยื่อที่มันล่ากลับมาได้ไว้ใต้ต้น นไม้ ก่อนจะขานเรียกเจ้านายของมันที่อยู่บนต้นไม้
“นายท่าน เนื้อมาแล้ว กิ่งไม้ก็เตรียมพร้อมแล้ว”
นึกดูแล้วมันที่เป็นถึงสัตว์ร้ายระดับสัตว์เทวะ ซ้ำยังเป็นถึงเจ้าแห่งหมาป่า พอติดตามนายท่านมามันกลับมีประโยชน์แค่ล่าสัตว์และเก็บกิ่งไม้ แต่มันกลับพูดอะไรไม่ได้อีก
เฟิ่งจิ่วที่อยู่บนต้นไม้ลืมตา พลิกตัวกระโดดลงมาจากกลางอากาศ เสื้อสีแดงโบกสะบัด ใบไม้ร่วงกระจาย ก่อนเท้าถึงพื้นเงาร่างหมุนพลิ้วหนึ่งรอบ ปลายเท้าแตะถึงพื้นก่อน จากนั้นก็ยืนอ อย่างมั่นคง
เธอเอื้อมมือไปลูบหัวหมาป่า ยิ้มเอ่ยว่า “ทำได้ดี” เธอยกเหยื่อที่ล่ามาได้ไปยังแหล่งน้ำ หลังจากจัดการอย่างง่ายๆ ก็เอากลับมาย่าง เมื่อเปลวไฟลุกไหม้ เสียงกิ่งไม้แตกก็ดังขึ้น น
เฟิ่งจิ่วนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น หยิบแผนที่ออกมาดู หลังจากรู้เส้นทางคร่าวๆ ก็เก็บแผนที่ พอกลิ่นหอมของเนื้อย่างกระจายออกไป รอบข้างก็มีฝูงสัตว์ร้ายรายล้อมเข้ามา เพียงแต่ สัตว์ร ร้ายพวกนั้นไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่มองหนึ่งคนหนึ่งสัตว์ร้ายจากที่ไกล…