เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2725 ป่ากินคน / ตอนที่ 2726 หลบเลี่ยง
ตอนที่ 2725 ป่ากินคน
อสูรกลืนเมฆานอนหมอบอยู่บนพื้น เห็นหมาป่าสีเงินที่เข้ามาใหม่ยังไม่ได้ผูกพันธสัญญากับเจ้านายของมัน จึงจ้องมันอยู่ครู่หนึ่ง ทำเอาหมาป่าสีเงินสั่นสะท้านไปชั่วขณะ
มันนึกว่านายท่านจะมีสัตว์คู่พันธสัญญาเพียงตัวเดียว แต่เหล่าสัตว์ร้ายตัวน้อยใหญ่และรูปร่างหน้าตาแปลกๆ พวกนี้มันอะไรกัน? ทำไมแต่ละตัวล้วนเป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอดทั้งนั้น ? ทำให้สัตว์เทวะอย่างมันที่เข้ามาในนี้ได้แต่ก้มหน้าก้มตา และเก็บความดุดันเอาไว้อย่างว่านอนสอนง่าย
มันตกใจที่ในนี้มีผืนฟ้าและแผ่นดินแยกออกมาต่างหาก และกลิ่นอายพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์นั่นด้วย มันสูดหายใจเอาอากาศในนี้เข้าไปอย่างละโมบ ไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ร้ายพวกนั้นมากน นัก ได้แต่เดินไปนอนหมอบอยู่ด้านหนึ่งเงียบๆ
“ฮี่ๆ นี่ น้องใหม่ เจ้ายังไมได้เป็นสัตว์คู่พันธสัญญาของเจ้านายใช่หรือไม่?” เหล่าไป๋ยิ้มยิงฟัน จ้องมองหมาป่าสีเงินขณะเดินส่ายหางเข้ามาทีละก้าวๆ หยุดอยู่ตรงหน้ามัน
“นี่ ลุกขึ้นๆ พวกเรามาประลองกำลังกันหน่อย” เหล่าไป๋ใช้เท้าเตะหมาป่าสีเงิน เป็นเชิงบอกให้มันลุกขึ้น
“ไม่ เจ้าเป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอด ข้าสู้ไม่ได้” หมาป่าสีเงินพูดอย่างกลัวๆ พลางขดตัวถอยหลัง ทำไมมันรู้สึกว่าข้างในนี้อันตรายกว่าข้างนอกอีก?
“พลังต่อสู้ของข้าไม่แข็งแกร่ง “เหล่าไป๋ถ่อมตัวมาก มันฉีกยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันสีขาวเรียงราย ทว่ายังคงทำให้หมาป่าสีเงินตัวสั่น
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างนอกไม่รู้ว่ามันทำอะไรอยู่ข้างใน เธอในเวลานี้กำลังเดินฝ่าดงหญ้าที่สูงเท่าครึ่งคน หลังออกจากตรงนั้น เธอค้นพบว่าพลังต้องห้ามหายไปแล้ว กลิ่นอายพลังวิญญาณใน นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
ด้านหน้าของเธอ สิ่งที่ปรากฏไม่ใช่ป่าที่เต็มไปด้วยหญ้ารกชัฏ แต่เป็นป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงเสียดฟ้า สิ่งที่น่าประหลาดก็คือ ใบไม้ของต้นไม้เหล่านี้ล้วนเป็นสีแดง ลำต้นมีหนามแหลม มมากมาย ทอดมองออกไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด มีแต่สีแดงทั่วทั้งแถบ
เธอที่เฟิ่งเดินผ่านป่ารกมาเริ่มเข้าใจที่นี่บ้างเล็กน้อย ที่นี่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด แต่อาจเป็นไปได้ว่าด้านหลังของป่าต้นไม้แดงผืนนี้จะมีหมอกควันบดบังการมองเห็นอยู่ อย่างไรเสีย ย ก่อนหน้านี้ตอนที่เธออยู่ในป่ารกและมองไปข้างหน้า เธอก็เห็นแค่ป่าที่เต็มไปด้วยหญ้ารกผืนนั้น แต่กลับไม่เห็นป่าต้นไม้แดงนี่
เธอยืนอยู่ตรงนี้ไม่ขยับ ไม่ได้สาวเท้าเดินไปข้างหน้า เพราะเธอรู้สึกว่างขอเพียงก้าวไปข้างหน้าก้าวเดียว อาจมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรเสีย ที่นี่ก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ ๆ โดยเฉพาะหนามแหลมบนต้นไม้พวกนั้น ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าที่แห่งนี้มีอันตรายที่ซ่อนอยู่
เฟิ่งจิ่วเพ่งมองไปข้างหน้าครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบแผนที่ออกมาอีกครั้ง ใต้มุมของป่าต้นไม้สีแดงผืนนี้ เธอเห็นหมายเหตุที่เขียนไว้ด้วยตัวอักษรเล็กๆ
“ป่ากินคน?”
เธอพึมพำ ก่อนจะรู้สึกตกใจ เหตุใดจึงเรียกว่าป่ากินคน? ป่าผืนนี้มีสัตว์ร้าย? หรือว่า…
สีหน้าของเธอไหวระริก สายตาจับจ้องไปที่ใบไม้ที่มีสีแดงเหมือนเลือด และหนามแหลมบนต้นไม่เหล่านั้น ดูท่าอย่างไรก็ต้องเข้าไปก่อนถึงจะรู้ว่าเหตุใดจึงชื่อป่ากินคน
หลังจัดระเบียบความคิด เธอเก็บแผนที่ก่อนจะสาวเดินไปข้างหน้า เธอเดินเข้าไปข้างในสิบเมตร รอบข้างยังคงเงียบสงัด มีเพียงลมเบาๆ พัดผ่านทำให้เกิดเสียงใบไม้เสียดสีกัน
ทว่า ขณะที่เธอเดินไปได้ประมาณหกจั้ง จู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังเธอ เธอหันหลัง ทว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ดูไม่ออกว่ามีอะไรแตกต่างจากเดิม กระทั่งตอนที่ เธอหันกลับไปอีกครั้ง เธอก็เห็นกิ่งไม้กำลังพุ่งเข้ามาทางเธอ
………………………………….
ตอนที่ 2726 หลบเลี่ยง
กิ่งไม้ที่กำลังขยับไหวนั่น ราวกับกรงเล็บที่พุ่งเข้ามาหาเธอ ขณะเดียวกัน ส่วนลำต้นของต้นไม้พวกนั้นปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้นมา ราวกับว่านั่นเป็นปากของต้นไม้พวกนั้น ข้างในถึงกับม มีฟันอันแหลมคมอยู่ด้วย
“ฮือ…”
เสียงคร่ำครวญที่ราวกับเสียงโหยหวนของภูตผีดังก้องไปทั่วป่า กิ่งไม้ที่ขยับไหวพยายามจับเธอส่งเข้าไปในปากขนาดใหญ่ที่มีเลือดไหลออกมาพวกนั้น
เฟิ่งจิ่วเห็นดังนั้นก็ดึงกระบี่คมพยับออกมา เธอตวัดฟันออกไป กิ่งไม้ที่พุ่งเข้ามาถูกฟันขาดในดาบเดียว ทว่า กิ่งไม้ที่ถูกฟันขาดก็งอกออกมาใหม่ ก่อนจะพุ่งเข้ามาอีกครั้ง
รอบข้างมีกิ่งไม้ที่พุ่งเข้ามามากเกินไป และเร็วเกินไปด้วย เธอไม่ระวังเพียงแวบเดียว ขาข้างหนึ่งก็ถูกรัด ก่อนที่ทั้งตัวจะห้อยกลับหัวอยู่กลางอากาศ ถึงกระนั้นกิ่งไม้พวกนั้นที่อย ยู่ข้างล่างก็ยังคงพุ่งเข้ามาทางเธอไม่หยุด
ครั้นเห็นว่าแม้ถูกฟันขาดแล้วกิ่งไม้พวกนั้นก็ยังงอกขึ้นมาใหม่ได้ เธอจึงขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณในตัว ไล้นิ้วมือผ่านกระบี่คมพยับในมือ เสียงพรึ่บดังขึ้นพร้อมกับเปลวเ เพลิงที่ลุกไหม้อยู่บนกระบี่ยาว ก่อนจะฟาดฟันออกไปเมื่อเธอตวัดกระบี่ เปลวไฟลุกท่วม กิ่งไม้ที่ถูกตัดหยุดงอกใหม่ในที่สุด
กิ่งไม้ที่รัดข้อเท้าของเธอหมายจะขว้างเธอเข้าไปในปากขนาดใหญ่นั่น เธอรีบตัดกิ่งไม้ที่รัดเท้าของเธอ ขณะเดียวกันก็เงื้อมือซัดเปลวไฟลูกหนึ่งใส่ปากขนาดใหญ่ที่กำลังอ้ากว้างอ อยู่ข้างล่างนั่น
“ฟู่ว! ปึง!”
เสียงเปลวไฟลุกไหม้ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงระเบิด เปลวไฟลูกนั้นระเบิดปากที่เต็มไปด้วยเลือดนั่นจนกลายเป็นจุณ กลิ่นเหม็นไหม้กระจายออกไปพร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่า
“ฮือ…โฮก!”
ราวกับกำลังส่งเสียงกรีดร้อง ต้นไม้ต้นนั้นค่อยๆ เหี่ยวเฉาลง กิ่งไม้ที่กำลังขยับไหวก็ลู่ลงตามไปด้วย ราวกับสูญสิ้นพลังชีวิตไปหมดแล้ว
ครั้นหาจุดตายของต้นไม้พวกนั้นเจอ เฟิ่งจิ่วก็เริ่มรับมือได้ง่ายขึ้น ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ต้นไม้พวกนั้นพากันปิดปาก กิ่งไม้พวกนั้นก็หดกลับไปด้วย ไม่กล้าไปแตะต้องเธออี ก
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองแวบหนึ่ง ก่อนจะเก็บกระบี่ยาว สะบัดชายเสื้อ ปัดใบไม้สีแดงที่อยู่บนไหล่ ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ละครั้งที่ก้าวเดิน กิ่งไม้เหล่านั้นที่ขวางทางอยู่ต่างก็ หดตัวกลับไปเพื่อเปิดทางให้เธอราวกับรู้หน้าที่ ดูท่าทางแล้ว อาจเพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายรากต้นไม้ได้ ไม่อย่างนั้นเดาว่าพวกมันคงดึงรากตัวเองแล้วหลบไปอยู่ไกลๆ แล้ว
ท่ามกลางป่าต้นไม้แดง ใบไม้สีแดงร่วงโรยลงมาอย่างช้าๆ บนเส้นทางที่ต้นไม้ใหญ่พวกนั้นเปิดทางให้ เงาร่างสีแดงสาวเท้าอย่างเชื่องช้าราวกับเหยียบเมฆ ชายเสื้อพลิ้วไหว เส้นผมสีหมึกปล ลิวสยาย ราวกับเซียนลงมาเยือนโลกมนุษย์ในภาพวาด เพียงแผ่นหลังที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับรอบข้าง ก็งดงามดุจภาพวาดแล้ว…
เพียงแต่ เมื่อยามพลบค่ำมาเยือน ไอเย็นข้างในนี้ยิ่งรุนแรงขึ้น บนพื้นที่เต็มไปด้วยใบไม้สีแดง จู่ๆ ก็มีดวงวิญญาณหลายดวงปรากฏขึ้นมา พวกมันตามหลังเฟิ่งจิ่ว อยากเข้าใกล้ แต่กลับไ ไม่อาจทำได้
เฟิ่งจิ่วที่ตอนแรกกำลังเดินทอดน่องอยู่ราวกับสัมผัสได้ เธอหยุดเดินแล้วหันหลัง ดวงวิญญาณเหล่านั้นรีบซ่อนตัวทันที
มองดูป่าที่เงียบสงัดและมีไอเย็นกระจายไปทั่วอย่างนี้ นัยน์ตาของเธอไหวระริก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “จะให้ดีอย่าตามข้ามาดีกว่า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
น้ำเสียงเย็นชาแฝงแรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายออกไป สั่นสะท้านจนใบไม้ในป่าร่วงโรย และทำให้ดวงวิญญาณที่กำลังซ่อนตัวพวกนั้นมองเธอเพียงแวบเดียว จากนั้นก็ถอยห่างออกไป