เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2727 คนเดียว / ตอนที่ 2728 น้ำเต้าหยกขาว
ตอนที่ 2727 คนเดียว
เธอเดินต่อไปข้างหน้า เมื่อความมืดแผ่ปกคลุมท้องฟ้าและยามราตรีมาเยือน กลับยังเดินไม่พ้นป่าผืนนี้อีก เธอจึงหาที่พัก นั่งลงก่อกองไฟ
ท่ามกลางป่าต้นไม้สีแดงที่เย็นเยียบและเงียบสงัด ไร้ซึ่งสรรพเสียง มีเพียงกองไฟกองเดียวที่ลุกโชติช่วงอยู่ในป่า และเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงที่นั่งอยู่ข้างกองไฟรามกลับเป็นหนึ่งเดียวก กับรอบข้าง หากไม่เพ่งมองอย่างละเอียด แทบมองไม่ออกว่าตรงนั้นมีคนนั่งอยู่
คนกลุ่มหนึ่งที่เดินอยู่ในป่า เห็นเปลวไฟที่กำลังลุกโชติช่วงอยู่กลางป่ารางๆ หัวหน้ากลุ่มหันไปพูดกับคนข้างหลัง “ทางนั้นเหมือนมีเปลวไฟ มีคนพักอยู่ในป่าในเวลากลางคืนอย่างนี้? ?”
“ใครกันที่ไม่รักชีวิต กล้าพักในนี้? ช่างไม่กลัวตายเลยจริงๆ!” ชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างหลังว่า เขาชะโงกหน้ามองไปทางนั้น
“พวกเราเดินวนในป่าผืนนี้มาก็หลายวันแล้ว ยังหาทางออกไม่ได้เลย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ลองไปดูกันว่าคนที่อยู่ข้างหน้านั่นเป็นใคร ดูว่ากลุ่มของพวกเขารู้ทางออกจากป่าผืนนี้ห หรือไม่”
ฟังคำเสนอแนะของชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม พวกคนข้างหลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับ “ก็ดีเหมือนกัน” ด้วยเหตุนี้ พวกเขาเดินไปทางนั้น ใบไม้รอบๆ หลบออกไปโดยอัตโนมัติเมื่อสัมผัส สถูกตัวของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกมันก็เคยถูกคนกลุ่มนี้สั่งสอนจนเข็ดหลาบมาแล้วเหมือนกัน
เฟิ่งจิ่วนั่งดื่มสุราวานรอยู่ใต้ต้นไม้ เธอได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ดวงตาหรี่เล็กลง หนไปมองทางเสียงฝีเท้าพวกนั้น ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นคบเพลิงยี่สิบกว่าด้ามเคลื่อนไหวอยู ในป่าและกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ แวบแรกที่เห็น เปลวไฟที่ลอยอยู่กลางป่าพวกนั้นดูเหมือนดวงวิญญาณท่ามกลางราตรีอันมืดมิดนี้จริงๆ
คนพวกนั้นในสายตาเธอเป็นอย่างนี้ แล้วเธอในสายตาของพวกเขา จะไม่เหมือนกันหรือ?
ตอนที่พวกเขาเดินมาทางกองไฟ พวกเขาเห็นกองไฟที่กำลังแผดเผาอยู่บนพื้นจากที่ไกลๆ แต่แรกแล้ว ครั้นมองดูอีกที กลับมองเห็นแค่หัวของคนจ้องมองมาทางพวกเขา ดึกดื่นค่ำคืนเช่นนี้ แล ล้วยังเห็นภาพนั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาชายฉกรรจ์สองคนที่เดินนำหน้าตกใจขวัญเตลิด พวกเขาตั้งท่าป้องกันตัวโดยสัญชาตญาณ ขณะเดียวกันก็ตะโกนเสียงดังกร้าว
“ตัวอะไรวะนั่น!”
เฟิ่งจิ่วอึ้งงัน มองคนพวกนั้นแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้ามองเสื้อผ้าสีแดงของตัวเอง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ บอกว่า “ข้าไม่ใช่ผีนะ”
ได้ยินเสียงหัวเราะ ชายฉกรรจ์สองคนนั้นยิ่งขนลุก กระทั่งเพ่งมองอย่างละเอียด ว่านั่นคือเด็กหนุ่มที่สวมใส่ชุดสีแดงต่างหาก ความเลือนรางก่อนหน้าชัดเจนขึ้นในเวลานี้ และทำให้หัวใจท ที่ตึงเกร็งของพวกเขาผ่อนคลายลงมา
“ข้ายังนึกว่าเป็นผีเสียอีก! ตกใจหมดเลย เมื่อกี้แวบแรกเห็นแค่หัวคนจ้องมองมาทางพวกข้า นึกว่าเจอผีจริงๆ เสียแล้ว” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพึมพำ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ดวงตาก็จับจ้ องพิจารณ์เฟิ่งจิ่วไปด้วย
“ห้ามเสียมารยาท”
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าเอ็ดด้วยสีหน้าเข้มๆ เหลือบมองชายฉกรรจ์คนนั้นแวบหนึ่ง ชายฉกรรจ์คนนั้นที่ยังอยากจะพูดต่อถูกตวัดสายตามองเช่นนี้ จึงรีบปิดปากแล้วถอยหลังไป
ชายวัยกลางคนมองเด็กหนุ่มชุดแดงที่นั่งอยู่ เก็บซ่อนความประหลาดใจในดวงตา ประสานมือเอ่ยว่า “อย่าได้ถือสา สหายของข้ามิได้มีเจตนาร้าย”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ มองชายวัยกลางคนที่กำลังพูด ก่อนตอบว่า “ไม่เป็นไร” เธอดื่มสุราต่อ ลิ้มรสสุราวานรอย่างละเอียด
ชายวัยกลางคนจึงถามต่อ “เจ้าอยู่คนเดียวหรือ? ไม่ทราบพวกเราขอรวมกลุ่มด้วยได้หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินอย่างนั้นก็ยักคิ้วเล็กน้อย เธอหันไปมองชายวัยกลางคน หยักยกมุมปากเล็กน้อยเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
………………………………….
ตอนที่ 2728 น้ำเต้าหยกขาว
“ข้าอยู่คนเดียว แต่พวกท่านที่อยู่กันเป็นกลุ่มจำเป็นต้องมารวมกลุ่มกับข้าด้วยหรือ?” น้ำเสียงของเธอแฝงแววขบขัน เอ่ยออกไปอย่างเนิบช้า
ชายวัยกลางคนยิ้มตอบว่า “บอกเจ้าตามตรง พวกเราติดอยู่ในนี้มาหลายวันแล้ว หาทางออกไม่เจอเลย เห็นเจ้าอยู่ที่นี่ ฉะนั้นจึงอยากขอให้เจ้าพาพวกข้าออกจากป่าผืนนี้ด้วย”
เขากลับไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด บอกความตั้งใจของตนเองออกมาตรงๆ สำหรับเขา เด็กหนุ่มคนนี้กล้ามาที่นี่ลำพังทั้งที่อายุยังน้อย เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดพวกเขามากัน เป็นกลุ่มยังติดอยู่ในนี้ แต่เขามาเพียงลำพัง กลับดูผ่อนคลายไร้กังวล เห็นได้ว่ามีความมั่นใจไม่น้อย
คนที่มาที่นี่ได้ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา แม้เด็กหนุ่มตรงหน้าดูมีพลังไม่สูงมาก แต่เขาก็ไม่กล้าสบประมาท และบาดหมางกับเขาง่ายๆ
“อย่างนี้เองหรือ!” เฟิ่งจิ่วเอามือข้างหนึ่งชันคางจ้องมองพวกเขาอยู่แวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “จะให้ข้าพาพวกท่านออกจากป่าผืนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่อย่างไรเสีย ก็ควรมีอะไรตอบแทนกันหน่อย ไม่ใช่หรือ?”
คนกลุ่มนั้นตะลึงค้างไปทันที พวกเขาไม่เคยเจอคนอย่างเด็กหนุ่มคนนี้มาก่อน เปิดปากก็พูดถึงสิ่งตอบแทนแล้ว แม้จะรู้สึกอึ้ง แต่คิดดูแล้วกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ
หากเขาพาพวกเขาออกจากสถานที่บ้าๆ นี่ได้ อย่างนั้นการที่พวกเขาให้อะไรตอบแทนเขาก็เหมือนจะเป็นเรื่องสมควรแล้ว
ชั่วขณะหนึ่ง คนที่อยู่ด้านหลังต่างมองไปที่ชายวัยกลางคน เหมือนกำลังรอให้เขาตัดสินใจ
ชายวัยกลางคนมองเด็กหนุ่มชุแดงที่กำลังนั่งอย่างสบายใจ เขาไม่ได้ตอบตกลงทันที แต่กลับถามว่า “เจ้าต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทนงั้นหรือ?”
“แก้วแหวนเงินทองอะไรทำนองนั้นอย่าพูดถึงเลย หากมีของแปลกๆ ที่หายาก หรือยาทิพย์ที่ล้ำค่า ข้าก็พอรับได้” เธอยิ้มตาหยีขณะตอบ มองดูชายวัยกลางคนครุ่นคิดอยู่ตรงนั้น
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังไม่ได้พูดอะไร เพียงจ้องมองเฟิ่งจิ่วอย่างพิจารณาเงียบๆ
ชายวัยกลางคนครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบของจำนวนหนึ่งในห้วงมิติออกมาวางเรียงตรงหน้า “เจ้าลองดูว่ามีที่ชอบหรือไม่?” เด็กหนุ่มต้องการของแปลกหายากก็เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ เ เหตุใดยาทิพย์ที่ล้ำค่าก็จะเอาด้วย? เขาเอาไปแล้วจะทำอะไรได้?
เฟิ่งจิ่วมองของที่วางเรียงตรงหน้า เห็นยาทิพย์ที่ถูกวางเรียงอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ชนิดที่หายากมากนัก มองเพียงแวบเดียวก็ละสายตาจากของเด็กเล่นพวกนั้นไปแล้ว
บอกว่าเป็นของเด็กเล่น กลับไม่ได้หมายความเป็นของเด็กเล่นที่วางขายอยู่ตามถนนใหญ่หรือตรอกซอกซอยพวกนั้น สำหรับเธอ ของพวกนี้เหมือนเป็นของขวัญชิ้นเล็กๆ มากกว่า เดาว่าเขาคงต้อ องการจะเอากลับไปเป็นของขวัญให้คนที่บ้าน
ขณะกำลังคิด เสียงของชายวัยกลางคนก็ดังมา
“ของพวกนี้มีบางส่วนที่ข้าเก็บได้ระหว่างทาง และมีบางส่วนที่ข้าซื้อมา ที่จริงตั้งใจว่าจะเอากลับไปเป็นของฝากติดไม้ติดมือ เจ้าดูว่ามีที่ชอบหรือไม่”
นิ้วมือของเฟิ่งจิ่วเลื่อนผ่านของพวกนั้น สุดท้ายก็หยุดอยู่ตรงน้ำเตาหยกขาวที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ เธอหยิบขึ้นมาดู สุดท้ายก็บอกว่า “ได้ เอาอันนี้ก็แล้วกัน!” ของพวกนี้ล้วนดู ธรรมดา มีแค่น้ำเต้าหยกขาวใบนี้เท่านั้นที่ถูกใจเธอ
ชายวัยกลางคนอะตะลึงไม่ได้ เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง สีหน้าดูแปลกๆ น้ำเต้าหยกขาวใบนั้นเขาเก็บได้ในป่า ค้นพบว่าเป็นอาวุธวิเศษชิ้นหนึ่ง จึงล้างทำความสะอาดอย่างดี ตั้งใจว่าจ จะเอากลับไปให้ลูกๆ ของเขา นึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มกลับถูกใจมัน