เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2729 คุณชายจิ่ว / ตอนที่ 2730 เคลื่อนย้ายดอกบัวสีทอง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2729 คุณชายจิ่ว / ตอนที่ 2730 เคลื่อนย้ายดอกบัวสีทอง
ตอนที่ 2729 คุณชายจิ่ว
“นั่งเถอะ! ฟ้าสางแล้วค่อยออกเดินทาง” เฟิ่งจิ่วบอกขณะโยนน้ำเต้าหยกขาวในมือเล่น ไม่มองหน้าพวกเขาอีก
ชายวัยกลางคนได้ยินก็โบกมือสั่ง ให้พวกคนข้างหลังพักผ่อนอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุนี้ กองไฟอีกหนึ่งกองจึงถูกก่อขึ้นมา หนึ่งในนั้นยังร่ายค่ายกลป้องกันรอบๆ บริเวณนี้ด้วย
“ข้าแซ่เหอ ชื่อซู เจ้าชื่ออะไรหรือ?” ชายวัยกลางคนถาม เดินมานั่งข้างกองไฟตรงหน้าเด็กหนุ่ม
“เรียกข้าว่าคุณชายจิ่วก็ได้” เฟิ่งจิ่วตอบโดยไม่เงยหน้า
เหอซูพยักหน้า “คุณชายจิ่ว เจ้าอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่ทราบจะไปไหนหรือ?”
เฟิ่งจิ่งเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง กลีบปากมีรอยยิ้มเบ่งบาน ก่อนพูดอย่างทีเล่นทีจริงว่า “ว่างก็เลยออกท่องเที่ยวไปทั่ว”
คนของตระกูลเหอตะลึงงัน ว่างก็เลยออกท่องเที่ยวไปทั่วงั้นหรือ? ใครจะไปเชื่อกันเล่า! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะมาเที่ยวเล่นได้ หากไม่ระวังแค่นิดเดียวก็อาจต้องตายอยู่ในนี้
ทว่า ขณะที่เหอซูยังอยากจะถามอะไรอีก ก็เห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าเอาน้ำเต้าหยกขาวห้อยเอว จากนั้นก็เอนตัวพิงต้นไม้ข้างหลังหลับไปแล้ว ครั้นมองไปที่ต้นไม้ต้นนั้นที่ลำต้นเคยมีหนามแหลม แต่เวลานี้กลับถูกตัดออกจนเรียบหมดแล้ว ต้นไม้ทั้งต้นก็ดูเหี่ยวเฉาราวกับแห้งตายไปแล้ว
เห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทีอยากคุย เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงลุกขึ้นเดินกลับไปที่กลุ่มตนเองแล้วนั่งลง พูดกับพวกเขาว่า “รีบฉวยโอกาสนี้พักผ่อนเสีย พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางไกลอีก!”
ค่ำคืนนี้ กลับน่าประหลาดใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ตอนเที่ยงคืน เฟิ่งจิ่วลืมตาขึ้นมา เห็นเพียงดวงวิญญาณไม่กี่ดวงลอยอยู่กลางอากาศแถวๆ นี้ แต่กลับไม่กล้าเข้ามาใกล้
ก็จริง กลิ่นอายพลังและพลังหยางของคนพวกนี้แข็งแกร่งขนาดนั้น เพียงดวงวิญญาณไม่กี่ดวงจะกล้าเข้าใกล้ได้อย่างไร?
พวกเขานอนหลับเต็มอิ่ม กระทั่งเช้าตรู่วันต่อมา
กองไฟถูกดับ เธอใช้น้ำล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายๆ จัดแจงเสื้อผ้าบนตัว หยิบผลไม้ออกมากิน ก่อนหันไปมองทางกลุ่มคนตระกูลเหอ ทุกคนลุกขึ้นและจัดแจงระเบียบเสร็จอย่างรวดเร็ว
เธอยักคิ้วเล็กน้อย ไม่นานก็เห็นเหอซูเดินมาทางนี้ จึงเอ่ยว่า “ไปเถอะ!” เธอเดินนำหน้าพวกเขาไปด้านหน้า
ทุกคนในกลุ่มองหน้ากันแวบหนึ่ง ชายฉกรรจ์ที่คนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างหลังอดพึมพำไม่ได้ “คุณชายเฟิ่งผู้นี้ยังเด็กขาดนี้ ดูวรยุทธ์ของเขาก็ไม่ได้สูงมาก จะออกจากป่าผืนนี้ไปได้จริงหรือ? คงไม่ได้หลอกพวกเราหรอกกระมัง?”
ชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะ เอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวาน “เจ้าไม่รู้ เขาคนเดียวกล้าเข้ามาที่นี่ เห็นได้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา”
“นั่นก็จริง ที่นี่คนปกติมาเดาว่าคงตายไปแต่แรกแล้ว” ชายฉกรรจ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงเดินตามหลังเงียบๆ และสังเกตการเคลื่อนไหวรอบกายไปด้วย
เดินไปหนึ่งชั่วยาม เห็นว่าเด็กหนุ่มชุดแดงมีผลไม้กินอยู่ตลอด ยามได้ยินเสียงเคี้ยวกรุบกรอบ ทำให้คนข้างหลังต่างอดอิจฉาไม่ได้
อยู่ที่นี่ไม่ได้สบายเหมือนอยู่บ้าน ของอย่างผลไม้นี้ พวกเขาทำได้เพียงหาดูว่าในป่ามีผลไม้ป่าหรือไม่ แต่ผลไม้ป่าที่เจอมักจะเปรี้ยวจนฟันแทบหลุด ทว่าผลไม้ที่เด็กหนุ่มข้างหน้ากำลังกินอยู่นั้น กลับราวกับหอมหวานมาก ทำให้พวกเขาอดกลืนน้ำลายเป็นพักๆ ไม่ได้
ไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าใดแล้ว รู้แค่ว่าคนข้างหน้ายิ่งเดินก็ยิ่งเร็ว พวกเขาที่เดินตามหลังก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วย สุดท้าย แต่ละคนราวกับกำลังวิ่งเหยาะๆ ชั่วขณะหนึ่ง ความสนใจทั้งหมดของพวกเขาล้วนอยู่กับเงาร่างสีแดงที่อยู่ข้างหน้านั่น เพราะกลัวว่าหากเผลอเพียงแวบเดียว เด็กหนุ่มชุดแดงจะหายไป
………………………………….
ตอนที่ 2730 เคลื่อนย้ายดอกบัวสีทอง
และเพราะอย่างนั้น ยามที่คนข้างหน้าจู่ๆ ก็หยุดฝีเท้า พวกเขาต่างก็ตะลึงงัน ก่อนถามอย่างไม่เข้าใจ “เป็นอะไรไป? ทำไมไม่ไปต่อแล้วเล่า?”
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้าหันหลังมา มองพวกเขาและยิ้มเอ่ยอย่างผ่อนคลาย “ออกจากป่าผืนนั้นมาแล้ว เชิญทุกท่านตามสบาย” เอ่ยจบก็โบกชายเสื้อคลุม เขย่งปลายเท้าเหยียบสายลมอ่อนและเหาะจากไป ทิ้งให้คนพวกนั้นปากอ้าตาค้างด้วยความตะลึงงัน
พวกเขามองไปรอบๆ ก่อนพึมพำอย่างตกใจ “ออกมาแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“พวกเราออกมาได้อย่างไร? ติดอยู่ในนั้นหลายวันแล้วก็ยังออกจากที่นั่นไม่ได้ แต่ครั้งนี้กลับออกมาได้แล้ว?”
เหอซูมองเด็กหนุ่มที่หายลับไปจากครรลองสายตาแล้ว เขาพึมพำเบาๆ “คนที่เข้ามาในนี้ล้วนไม่ธรรมดาดังคาด!”
ไม่น่าเล่าเด็กหนุ่มถึงกล้าเข้ามาที่นี่ตามลำพัง วรยุทธ์ของคนคนนี้ น่าจะห่างชั้นจากพวกเขามากกระมัง! ไม่อย่างนั้นจะเดินทางเพียงลำพังได้อย่างไร?
“เอาล่ะ พวกเราเดินทางกันต่อเถอะ!” เขาหันไปบอก ก่อนพาทุกคนเดินทางต่อ
เฟิ่งจิ่วเหยียบสายลมมุ่งหน้าเข้าไปในป่าเบื้องหน้า เดินทางเพียงลำพังนั้นอิสระเสรี ไม่จำเป็นต้องรอใคร ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย เธอเดินตามเส้นทางบนแผนที่ตลอด ไม่ได้เดินออกนอกเส้นทางแต่อย่างใด หลังจากผ่านไปหลายวัน เธอก็มาถึงใจกลางเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของบันไดสู่แดนเซียน
“ที่นี่สินะ?” เธอพึมพำ เงาร่างสีแดงทิ้งตัวลงมาอย่างพลิ้วไหว สังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ พบว่าที่นี่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ยอดเขาสูงชะลูด ราวกับมุดทะลุขึ้นไปบนชั้นเมฆ
และบนจุดที่เธอยืนอยู่นั้น แม้แต่หินใหญ่ก้อนเดียวก็ยังหาได้ยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต้นไม้ใบหญ้าเลย กลับมีทะเลสาบสีเขียวอยู่ตรงกลาง เหนือผิวน้ำทะเลสาบมีควันจางๆ ลอยปกคลุมอยู่ ท่ามกลางความเรือนราง ราวกับเห็นดอกบัวกำลังเบ่งบานอยู่ในทะเลสาบ
“เอ๊ะ?”
เธออดอุทานออกมาไม่ได้ ก้าวไปข้างหน้า มาหยุดมองอยู่ข้างทะเลสาบ น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียว ผิวน้ำดูใสสะอาด ข้างในมืดจนดูไม่ออกว่าลึกขนาดไหน ทว่าเหนือน้ำทะเลสาบนั่น กลับมีดอกบัวสีทองเบ่งบานอยู่มากมาย ดอกบัวสีทองเหล่านั้นส่องประกายวิบวับ เปี่ยมด้วยพลังวิญญาณ เมื่อนับอย่างละเอียด กลับพบว่ามีดอกบัวสีทองอยู่เก้าดอกพอดี
“เก้าดอก? ดอกบัวสีทองนี้กลับพิเศษนัก” เธอพึมพำเบาๆ สังเกตดอกบัวพวกนั้นทีละดอก ดอกบัวแต่ละดอกดูอุดมสมบูรณ์มาก
‘ทะเลสาบนี้น่าแปลกมาก ไม่รู้ว่าจะเก็บใส่ห้วงมิติไว้เป็นทิวทัศน์อันงดงามของเธอได้หรือไม่?’ เฟิ่งจิ่วเริ่มคิดอย่างหมายปอง เธอจ้องทะเลสาบสีเขียวมรกตผืนนี้ เห็นว่าแถวๆ นี้ไม่มีคน เธอจึงเดินไปรอบๆ สังเกตดูอย่างละเอียด
แหล่งน้ำของทะเลสาบเกรงว่าจะมาจากตาน้ำของเกาะเซียนเฝิงไหลแห่งนี้ หากเป็นเช่นนั้น หากจะย้ายเข้าไปในห้วงมิติก็เกรงว่าจะยาก และคงต้องสิ้นเปลืองพลังวิญญาณไม่น้อย หากเพียงเด็ดดอกบัวสีทองแต่ไม่เคลื่อนย้ายทะเลสาบ กลับรู้สึกเสียดายอีก
ด้วยเหตุนี้ เฟิ่งจิ่วครุ่นคิด สุดท้ายยังคงตัดสินใจที่จะย้ายทะเลสาบผืนนี้เข้าไปในห้วงมิติ อย่างไรในห้วงมิติของเธอก็มีโลกอีกใบหนึ่ง แม้จะมีน้ำทะเลสาบมากมายอีกเพียงใด ห้วงมิติของเธอก็สามารถรับไหว
เมื่อคิดได้ก็ลงมือทำทันที เธอใช้พลังวิญญาณเป็นตัวนำ เมื่อควบคุมจิต กลิ่นอายรอบด้านก็เปลี่ยนแปลงไปทันที โดยเฉพาะผิวน้ำในทะเลสาบที่กำลังสั่นสะเทือน ปรากฏริ้วน้ำเป็นชั้นๆ…
แรงดึงดูดอันยิ่งใหญ่ป่วนพล่านอยู่ใต้น้ำทะเลสาบ เธอดูดน้ำในทะเลสาบเข้าไปใส่ตรงที่สามารถทำเป็นทะเลสาบได้ในห้วงมิติ จากนั้นก็ย้ายดอกบัวสีทองเข้าไปในห้วงมิติ แต่ทว่า ขณะที่เธอกำลังจะหยุด กลับค้นพบว่าน้ำทะเลสาบกำลังสะบัดไปมาราวกับหางมังกร ทำให้กระแสน้ำเชี่ยวกราด กระทั่งผืนดินโดยรอบสั่นสะท้านไปด้วย…
………………………………….