เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2735 ปรากฏ / ตอนที่ 2736 พบกันอีกครั้ง
ตอนที่ 2735 ปรากฏ
ยามที่เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงปรากฏตัวต่อหน้าคนพวกนั้น คนพวกนั้นจ้องพิจารณาเฟิ่งจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้ฝึกตนที่นี่ส่วนมากจะมีคนติดตามมาด้วย ถึงอย่างไรสถานที่เช่นนี้แม้จะมั่น นใจในตนเองมากแค่ไหนก็ไม่มีทางมาคนเดียว แต่พวกเขากลับเห็นเด็กหนุ่มชุดสีแดงปรากฏตัวที่เพียงลำพัง
ที่สำคัญที่สุดคือ คนคนนี้กลับอายุน้อยมาก ทว่ากลับมีดวงหน้าและบุคลิกที่ไม่ธรรมดา
เฟิ่งจิ่วไม่สนใจสายตาของคนพวกนั้นที่มองมา แต่หันไปมองหลุมขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่าตรงหน้า เธอเดินไปหยุดที่ขอบ เห็นว่าข้างในนั้นไม่มีน้ำแล้วจริงๆ ก็อดกระพริบตาถี่ๆ ไม่ได้
“สหายน้อย เจ้าเองก็มาเพราะบันไดสู่แดนเซียนหรือ?” ชายชราผู้หนึ่งถามขึ้น สายตาจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่ว
“อืม” เฟิ่งจิ่วพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนเอ่ยเสริมว่า “ได้ยินว่ามีน้อยคนมากที่จะสามารถขึ้นบันไดสู่แดนเซียนได้ จึงอยากมาร่วมผสมโรงด้วย”
ครั้นได้ยินคำตอบ คนพวกนั้นจึงถึงบางอ้อ ที่แท้ก็แค่มาร่วมผสมโรงด้วยนี่เอง ก็ไม่ต่างจากคนอื่นมาก หากมาเพื่อขึ้นบันไดสู่แดนเซียน ด้วยอายุและระดับวรยุทธ์ของเขา กลับยังไม่มี คุณสมบัติมากพอ
“ได้ยินว่าบันไดสู่แดนเซียนต้องมีวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเซียนจึงจะขึ้นได้” ชายชราลูบหนวดขณะเอ่ย สายตาทอดมองไปยังบนท้องฟ้า
เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนถามว่า “ด้วยวรยุทธ์ระดับอาวุโสเซียนของสหายผู้เฒ่า ท่านก็อยากลองสักครั้งหรือ?”
ชายชราได้ยินคำถามก็ชะงักงัน ก่อนจะยิ้ม กลับนึกไม่ถึงเขาเรียกอีกฝ่ายว่าสหายน้อย เด็กหนุ่มกลับเรียกเขาตอบว่าสหายผู้เฒ่า เขาลูบหนวด ยิ้มตอบว่า “ย่อมอยากลองดูสักครั้ง”
“ถึงจะบอกว่ามีแค่จักรพรรดิเซียนที่ขึ้นบันไดสู่แดนเซียนได้ แต่เส้นทางการฝึกเซียนเดิมก็คือการต่อสู้กับชะตาฟ้าลิขิตอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? เล่าลือกันว่าหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน มีผู้ฝ ฝึกตนระดับผู้อาวุโสเซียนทะลวงขั้นพลังระหว่างขึ้นบันไดสู่แดนเซียนไปได้ครึ่งทาง จากนั้นก็ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ เหล่าผู้ฝึกตนที่มารอที่นี่ ย่อมอยากท้าทายกับลิขิตสวรรค์สักครั้ ง”
“อย่างนั้นบันไดสู่แดนเซียนจะปรากฏเมื่อใดหรือ?”
เธอมองไปรอบๆ แวบหนึ่ง มีผู้ฝึกตนประมาณหนึ่งร้อยกว่าคนที่นั่งอยู่แถวๆ นั้น บ้างก็นั่งสมาธิฝึกวรยุทธ์ บ้างก็หลับตาทำสมาธิ บ้างก็จ้องมองรอบๆ อย่างระแวดระวัง
“คำนวณดูแล้ว น่าจะใกล้แล้วล่ะ” ชายชราตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พลันถามว่า “สหายน้อยมาผู้เดียวหรือ?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ “คนเดียวก็พอ”
“ฮ่าๆๆ สหายน้อยช่างมีความมั่นใจนัก” เงียบไปครู่หนึ่ง มองเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาลึกซึ้งแวบหนึ่ง “แล้วก็มีความสามารถนัก” สามารถมาถึงที่นี่ได้ด้วยตัวคนเดียว เห็นได้ว่ามีความสามารถไม่น้ อย
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “แค่โชคดีเท่านั้น”
“ในเมื่อสหายน้อยมาคนเดียว ไม่สู้มานั่งกับพวกเราดีหรือไม่!” ชายชราเบี่ยงตัว พยักเพยิดไปทางจุดที่มีผู้ฝึกตนสิบกว่าคนนั่งอยู่
เฟิ่งจิ่วมองแวบหนึ่ง เธอครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหัว “ก็ดีเหมือนกัน” ด้วยเหตุนี้จึงเดินไปทางนั้นพร้อมกับชายชรา
คนในตระกูลของชายชราเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นเดินมาพร้อมกับบรรพจารย์ของพวกเขาอย่างผ่อนคลาย พวกเขาอดตะลึงงันไม่ได้ ประหลาดใจที่บรรพจารย์ของพวกเขากลับปฏิบัติต่อเด็กหนุ่มเป็นพิเศษ พวกเขาจ้องพิจารณาเด็กหนุ่มอย่างละเอียด แต่กลับอดไม่ได้ที่จะลอบอุทานเงียบๆ ในใจ ‘ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่สง่างามนัก’
เด็กหนุ่มคนนี้สวมใส่ชุดสีแดงทั้งตัว ดวงหน้างดงามดุจเทวดา บุคลิกโดดเด่นมีกลิ่นอายสูงส่ง แม้ไม่รู้ว่าวรยุทธ์เป็นอย่างไร แต่ดวงหน้าและบุคลิกนี่ก็มากพอที่จะทำให้ได้รับการปฏิบั ติแบบพิเศษแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ยามเห็นทั้งสองสาวเดินมาช้าๆ พวกเขาที่ตอนแรกนั่งอยู่ต่างก็พากันลุกขึ้น
………………………………….
ตอนที่ 2736 พบกันอีกครั้ง
“ท่านบรรพจารย์” พวกเขาคารวะบรรพจารย์ของพวกเขา แต่สายตากลับจับจ้องไปที่เด็กหนุ่ม
“พวกเจ้าไปพักผ่อนตามอัธยาศัยเถอะ” ชายชราโบกมือสั่งให้พวกเขาแยกย้ายไปพักผ่อน ไม่จำเป็นต้องมากพิธี
“ขอรับ” ผู้ฝึกตนเหล่านั้นรับคำ ก่อนจะถอยหลังไป จากนั้นก็นั่งลง บ้างก็นั่งขัดสมาธิฝึกวรยุทธ์ บ้างก็นั่งขัดสมาธิเงียบๆ
“สหายน้อย เล่นหมากรุกเป็นหรือไม่?” ชายชราถามกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ
“เป็นเล็กน้อย” เฟิ่งจิ่วตอบ
“อย่างนั้นพอดีเลย ถึงอย่างไรตอนนี้ก็อยู่ว่างๆ พวกเรามาเล่นหมากรุกฆ่าเวลากันเถอะ!” ชายชราเอาโต๊ะสี่ขาตัวเล็กตัวหนึ่งออกมาวางไว้ตรงกลางระหว่างพวกเขาสองคน จากนั้นก็เอาหมาก ชุดหนึ่งออกมา ก่อนจะยื่นสีขาวให้เฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงนั่งลงบนท่อนไม้กลมที่ถูกเหลาอย่างเกลี้ยงกลมแล้ว จากนั้นก็หยิบหมากสีขาวตัวหนึ่งขึ้นมาวาง เริ่มเล่นหมากรุกกับชายชรา ตอนแรกที่พวกเขาวางหมาก ก สีหน้าของชายชรายังเป็นปกติ ความเร็วในการวางหมากก็ไม่นับว่าช้า ทว่าเมื่อหมากบนกระดานถูกวางมากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วของเขาช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ก็เหมือนกับตอนนี้ ที่ถึงตาเขาแล้ว แต่เขากลับหยิบหมากตัวหนึ่งค้างไว้อย่างครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่วางหมากสักที เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่รีบ เพียงมองดูอยู่เงียบๆ สุดท้าย ยเห็นเขาวางหมากช้ามากจริงๆ จึงเอาสุราออกจากห้วงมิติ ถามเขาว่า “สหายผู้เฒ่า ดื่มสักถ้วยหรือไม่?”
“ไม่ล่ะๆ ข้ายังคิดไม่ตกว่าจะวางหมากตัวนี้อย่างไรดี!” ชายชราตอบโดยไม่เงยหน้า ครุ่นคิดอยู่นานมาก ในที่สุดก็วางหมากสักที ขณะกำลังจะเงยหน้าบอกเด็กหนุ่มตรงหน้าว่าถึงตาเขาแล้ว กลับเห็นหมากสีขาวถูกวางลงมาแล้ว
ครั้นเห็นตำแหน่งของหมากสีขาวตัวนั้น ชายชราเบิกตากว้าง ถามว่า “เจ้าวางหมากไม่ต้องคิดเลยหรือ?”
“ปกติล้วนไม่ต้อง” เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ ขณะเดียวกันก็แหงนหน้าดื่มสุรา มองชายชราที่ถือหมากอย่างกลัดกลุ้ม เมื่อใดที่เขาวางหมากลงไป เฟิ่งจิ่วก็จะวางหมากตามลงไปทันที
“ท่านแพ้แล้ว” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ขณะมองดูหมากสีดำที่ไร้หนทางไปต่อแล้ว ก่อนเอ่ยกับชายชรา
ชายชราเป่าหนวด บอกว่า “อีกหนึ่งตา!” เขาแบ่งหมากสีขาวสีดำ พลางเอ่ยว่า “ข้าเล่นหมากรุกยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ จะแพ้ให้เจ้าหนูอย่างเจ้าได้อย่างไร!”
“ที่จริงก็ถือว่าแพ้เพียงครึ่งเดียว” เฟิ่งจิ่วยิ้ม พลางดันหมากที่แบ่งสีเสร็จแล้วไปตรงหน้าชายชรา “ถ้าอย่างไร ท่านเอาหมากสีขาวดีหรือไม่!”
“ไม่ต้องๆ ข้าใช้สีดำดีกว่า มา อีกหนึ่งตา” เขาพยักเพยิด ก่อนจะวางหมากอย่างกระตือรือร้น
ด้วยเหตุนี้ เฟิ่งจิ่วเล่นหมากรุกกับเขาอีกสองตา ทั้งสองตานี้ชายชราล้วนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หนำซ้ำยังแพ้แค่ครึ่งเดียว สุดท้าย ชายชราเงยหน้ามองเฟิ่งจิ่ว ก่อนเอ่ยอย่างทอดถอนใจว่ า “วันนี้ข้าเจอยอดฝีมือเข้าเสียแล้ว จำต้องยอมรับ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ก็แค่โชคดีเท่านั้น”
ชายชรายิ้มๆ เขาเก็บหมากรุก ก่อนเงยหน้าถามเฟิ่งจิ่วว่า “ยังไม่รู้ว่าสหายน้อยชื่ออะไรเลย?”
“คนอื่นต่างเรียกข้าว่าคุณชายจิ่ว” เธอจิบสุราก่อนจะตอบ
“คุณชายจิ่ว?” ชายชราชะงักงัน ก่อนยิ้มตอบว่า “อย่างนั้นข้าเรียกเจ้าว่าสหายน้อยดีกว่า”
ทั้งสองพูดคุยกัน จากการคุยกันเฟิ่งจิ่วได้รู้ว่า ที่แท้วรยุทธ์ของชายชราก็ชะงักหยุดอยู่ที่ระดับผู้อาวุโสเซียนนานแล้ว ครั้นเห็นว่าอยู่ในตระกูลอย่างไรก็ไม่อาจทะลวงขั้นได้ อีก เขาจึงได้คิดที่จะมาลองขึ้นบันไดสู่แดนเซียนสักครั้ง
“คุณชายจิ่ว?”
เสียงเรียกด้วยความดีใจดังมา ทำให้เฟิ่งจิ่วที่กำลังคุยกับชายชราชะงักงัน หันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นกลุ่มคนที่เคยเจอในป่าต้นไม้แดง
“คุณชายจิ่ว เป็นท่านจริงหรือ? ฮ่าๆๆ นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอท่านที่นี่” เหอซูยิ้มทักทาย ก่อนจะหันไปมองชายชราอย่างประหลาดใจเล็กน้อย