เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2749 ฆ่านางเสีย / ตอนที่ 2750 กำราบ
ตอนที่ 2749 ฆ่านางเสีย
“ข้าขอลาตรงนี้ ทุกท่าน รักษาตัวด้วย” เธอประสานหมัดบอกลาทุกคน
ผู้เฒ่าเซี่ยและคนในตระกูลอดไม่ได้ที่จะมองหน้าเขา สุดท้ายทำได้เพียงเอ่ยว่า “อย่างนั้นเจ้าก็ขอให้เจ้าเดินทางปลอดภัย” จะต้องมีคนคอยจับตาดูเขาอยู่ในมุมมืดแน่ๆ แต่ด้วยวรยุทธ์ข ของเขา บางทีอาจไม่จำเป็นต้องกลัวคนพวกนั้น!
เฟิ่งจิ่วพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเรียกกระบี่บินออกมา จากนั้นก็ออกเดินทางไปตามลำพัง ในตอนที่เธอจากไปได้ไม่นาน คนที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามาตลอดรีบขี่กระบี่บินตามเธอไป
เหอซูสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่ปั่นป่วนอยู่ในอากาศ เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ “คนพวกนั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก ไม่รู้ว่าคุณชายจิ่วจะรับมือไหวหรือไม่?”
“น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
เซี่ยเหยียนเอ่ยขึ้น เห็นพวกเขามองมา เขาจึงยิ้มอธิบายว่า “พวกเจ้าไม่รู้ความสามารถของเขา เขาเก่งกาจมากจริงๆ ข้าคิดว่าคนที่จับตาดูเขาอยู่ สุดท้ายก็ต้องพบจุดจบที่ต้องโดนฆ่า า”
“ดูเหมือนสหายเซี่ยจะรู้จักคุณชายจิ่วดี?” เหอซูมองพวกเขาอย่างอดสงสัยไม่ได้
“หึๆๆ เรื่องนี้พูดแล้วก็ยาว” เซี่ยเหยียนหัวเราะในลำคอ กล่าวว่า “พวกเราเดินไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้”
“ก็ดีเหมือนกัน” ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งสามตระกูลจึงได้เริ่มเดินทางกลับพร้อมกัน
ขณะเดียวกัน ณ มุมหนึ่งของป่า เฟิ่งจิ่วที่ขี่กระบี่บินออกมาหยุดเดินทางชั่วขณะ เธอนั่งอยู่บนต้นไม้มองผู้ฝึกตนสิบกว่าคนที่ไล่ตามมาข้างหลัง
“ตามมาจนถึงที่นี่เชียว พวกเจ้าก็ช่างไม่รู้จักยอมแพ้เลยสินะ!” เธอนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ขาข้างหนึ่งยืดตรง อีกข้างหนึ่งชันขึ้น มือข้างหนึ่งวางลงบนเข่าข้างที่ชันขึ้นอย่างผ่อ อนคลาย มือข้างหนึ่งกำลังหมุนใบไม้เล่น
ดวงตาสุกใสสะท้อนแววเย็นชา กลีบปากหยักโค้งเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอดูเฉื่อยชาทว่ามีเสน่ห์ เธอนั่งอยู่บนต้นไม้อย่างนั้น มองผู้ฝึกตนสิบเจ็ดสิบแปดคนที่ล้อมรอบเ เธอ
“เฟิ่งจิ่ว! เอาบัวเขียวโบราณออกมาให้พวกเราเสีย!”
ในนั้น ผู้ฝึกตนระดับผู้อาวุโสเซียนสองคนจ้องเธอด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะตวาดเสียงเกรี้ยว น้ำเสียงเย็นเยียบเหี้ยมโหด
เฟิ่งจิ่วกวาดสายตามองผู้ฝึกตนสิบกว่าคนนั่น ก่อนที่สายตาของเธอจะสะดุดอยู่ที่คนคนหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะในลำคอขึ้นมาเบาๆ “อยากได้บัวเขียวโบราณ? อย่างนั้นก็ต้องดูว่าพวกเจ้ามี ปัญญามาเอามันไปหรือไม่!”
เอ่ยจบ ใบไม้ที่เธอหนีบเล่นอยู่กลางนิ้วมือพุ่งออกไปราวกับอาวุธบิน ปักเข้าไปในแขนของผู้ฝึกตนคนหนึ่ง ไม่นาน เธอกระเด้งตัวเหาะขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะพุ่งตัวออกไป กระบี่คมพยั บพลันปรากฏกลางฝ่ามือ พลังกระบี่พาดผ่าน ปลิดชีพผู้ฝึกตนหนึ่งในนั้นไปด้วยความเร็วสูง
ชั่วพริบตาที่ประกายเยือกเย็นพาดผ่าน ผู้ฝึกตนคนหนึ่งล้มลงไป บนตัวเขาไม่มีบาดแผล มีเพียงรอยแผลเล็กๆ เส้นหนึ่งบนลำคอที่มีเลือดไหลออกมา ครั้นเห็นเธอสามรถปลิดชีวิตผ้ฝึกตนคน นหนึ่งได้ในพริบตา ผู้ฝึกตนคนอื่นๆ รีบชักกระบี่ออกมา ชั่วขณะหนึ่ง เงาดาบและกระบี่ฟาดฟันเชือดเฉือน ไอสังหารและแรงกดดันอันแข็งแกร่งป่วนพล่านไปทั่วบริเวณ ทำให้บรรยากาศในป่าลึก แห่งนี้ยิ่งกดดันขึ้นไปอีก
“ชิ้ง!”
“อึก!”
กระบี่คมพยับพาดผ่าน เลือดสีแดงสดซ่านเซ็นเต็มพ้น แขนข้างหนึ่งลอยกระเด็นตกลงบนพื้น ผู้ฝึกตนระดับผู้อาวุโสเซียนร้องครวญในลำคอ เขารีบถอยกรูดไปข้างหลัง ฝีเท้าซวนเซแทบยืนไม่ อยู่
ยกมือกุมแขนข้างที่ถูกฟันขาด ระหว่างนิ้วมือมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา กลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้นเสียแทงจมูกของเขา สายตาของผู้ฝึกตนระดับผู้อาวุโสเซียนเย็นเยียบ สีหน้าปรากฏแววกระ ะหายเลือด เขาเค้นเสียงออกมาทีละคำ
“ฆ่านาง!”
………………………………….
ตอนที่ 2750 กำราบ
พลังกระบี่อันเย็นเยียบสิบกว่าสายประสานกันเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ผืนหนึ่งโอบล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ พลังกระบี่อันยิ่งใหญ่ส่งเสียงหึ่งๆ ก่อเกิดสายลมแรงพาดผ่านกลางอากาศ พริบตาเดียวต้นไม้ร รอบข้างถูกฟันขาด ในรัศมีประมาณสามจั้งโดยมีเฟิ่งจิ่วเป็นจุดศูนย์กลาง แม้แต่ต้นไม้ใหญ่ก็ยังถูกกระแสลมแรงฟันจนโค่นล้ม ภายในรัศมีสิบห้าจั้ง ต้นไม้ใบหญ้าปลิดปลิว ป่าไม้ที่อุดมสมบู รณ์กลายเป็นพื้นที่โล่งเตียนในพริบตา
ต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์โค่นล้ม เผยให้เห็นผืนฟ้าสีครามและดวงอาทิตย์ในยามเช้า ยามแสงอาทิตย์ตกกระทบกระบี่เกิดเป็นแสงสะท้อน ประกายวาบวับที่ผสมผสานกับพลังกระบี่ทำให้การมองเห็นไม่ ชัดเจน
แต่ทว่า ท่ามกลางตาข่ายผืนใหญ่นี้ ณ จุดที่กระบี่คมสิบกว่าเล่มนั้นชี้ไป เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงมีแรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายอยู่รอบตัว กลิ่นอายพลังวิญญาณแผ่รอบกายเธอ โอบล้อมเธอร ราวกับกระแสน้ำวน ป้องกันเธอจากพลังกระบี่มากมายพวกนั้น ทำให้พลังกระบี่พวกนั้นไม่อาจทำร้ายเธอได้แม้แต่ปลายเส้นผม
เสื้อสีแดงส่งเสียงพึบพับท่ามกลางกระแสอากาศหมุนวน เส้นผมสีหมึกลอยสยาย กระบี่ยาวในมือถูกยกขึ้น เห็นเพียงมีกระแสพลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกจากกระบี่คมพยับราวกับคลื่นซัดสาดกลา างผืนทะเล กระบี่ยาวฟาดฟันออกไปพร้อมกับเสียงคำรามเกรี้ยวของเธอ ฟันตาข่ายผืนใหญ่จนขาดกระจาย
“ชิ้ง!”
“บึ้ม!”
กระแสพลังอันดุดันพวยพุ่ง ราวกับมังกรพิโรธ ขับไล่พลังกระบี่รอบๆ ให้กระจายหายไปในอากาศ รัศมีผู้แข็งแกร่งบนตัวเธอถูกปลดปล่อยออกไปพร้อมกับกระบี่ที่ตวัดฟันออกไป
นั่นไม่ใช่กลิ่นอายแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเซียนอีกต่อไป แต่เป็นแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนสวรรค์ เมื่อแรงกดดันและบารมีน่าเกรงขามรวมเข้าด้วยกัน ผู้ฝึกตนสิบ กว่าคนนั้นราวกับถูกภูเขาไท่ซานถล่มทับ เสียงพลั่กดังขึ้น พวกเขาแต่ละคนนอนหมอบลงไปบนพื้น ร่างกายแนบชิดติดดิน ไม่สามารถลุกขึ้นมา
“ซี๊ด!”
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องเจ็บปวดดังขึ้น ผู้ฝึกตนสิบกว่าคนนอนหมอบร่างกายแนบชิดติดพื้น ราวกับบนพื้นมีแม่เหล็กใหญ่ๆ ก้อนหนึ่งดูดพวกเขาไว้ก็ไม่ปาน ทำให้ร่างกายของพวกเขาไม่อาจออกห่างจาก กพื้นได้ หากเพียงแค่นี้ก็ยังดี แต่พวกเขากลับรู้สึกมีเรี่ยวแรงมหาศาลหนึ่งราวกับภูเขาขนาดใหญ่กดทับอยู่บนทุกส่วนของร่างกาย เจ็บจนต้องกรีดร้องออกมาไม่หยุด
“พรืด!”
มีคนกระอักเลือดออกมาอย่างทนไม่ไหว อวัยวะภายในราวกับถูกกดทับจนแบนราบ เลือดลมในร่างกายปั่นป่วน แต่กลับไม่อาจหลุดพ้นจากแรงกดดันอันทรงพลังนั่นได้
พวกเขามองเฟิ่งจิ่วอย่างไม่อยากเชื่อ ประกายหวาดกลัวและตกตะลึงพาดผ่านใดวงตา หากไม่ได้เห็นกับตา พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อว่าในชั่วเวลาสั้นๆ นี้ เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งทะลวงขั้นเข้าส สู่ระดับจักรพรรดิเซียน วันนี้กลับทะลวงขั้นเข้าสู่ระดับเซียนสวรรค์อีกแล้ว!
วรยุทธ์ที่พวกเขาใฝ่ฝันหาเช่นนี้ เพียงแววตาเดียว เพียงแรงกดดัน ก็สามารถกำราบพวกเขาได้ ทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป!
หากรู้ว่าเธอมีวรยุทธ์ระดับนี้ แม้จะมีจำนวนคนมากกว่านี้อีกหนึ่งเท่า พวกเขาก็ไม่กล้าซุ่มโจมตีอย่างนี้แน่นอน
เทียบกับความตื่นตะลึงของพวกเขา เฟิ่งจิ่วกลับย่างกรายเข้ามาอย่างแช่มช้า หยุดยืนต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสเซียนสองคน มองผู้แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสเซียนสองคนที่ถูกตรึ งร่างติดอยู่กับพื้น เธอหรี่ตา พูดขึ้นว่า “ตามข้ามาตลอดทาง ข้าเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้ว พวกเจ้ามาจากไหนกันแน่?”
ผู้ฝึกตนพวกนั้นกัดฟัน เอ่ยว่า “จะฆ่าก็ฆ่า! เจ้าอย่าหวังว่าจะได้อะไรจากปากพวกข้าเลย!”