เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2759 อวิ๋นเสวี่ยซิน / ตอนที่ 2760 สืบไม่เจอ
ตอนที่ 2759 อวิ๋นเสวี่ยซิน
เมื่อเสียงตะคอกเงียบลง คนสิบกว่าคนปรากฏตัวและล้อมเธอไว้ เห็นกระบี่ที่ถูกชักออกมา เฟิ่งจิ่วตะลึงงัน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “ระแวดระวังเสียจริง ข้าตั้งใจจะกลับมาเงียบๆ เสียหน่อ อย”
ได้ยินอย่างนั้น สิบกว่าคนนั้นตะลึงงัน มองขอทานน้อยที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ถามอย่างลังเลว่า “นะ นายท่าน?”
“อืม ข้าเอง” เฟิ่งจิ่วตอบ มองพวกเขาแต่ละคนที่กำลังตกใจด้วยนัยน์ตาแฝงรอยยิ้ม ถามว่า “ตู้ฝานกับเหลิ่งหวาเล่า?”
ได้ยินเสียงแล้วรู้ว่าเป็นนายท่านจริงๆ สิบกว่าคนนั้นรีบเก็บกระบี่ทันที ก่อนจะคารวะอย่างนอบน้อม “ข้าน้อยคารวะนายท่าน ล่วงเกินนายท่านแล้ว ขอนายท่านได้โปรดอภัย”
“ไม่เป็นไร” เฟิ่งจิ่วโบกมือ ระแวดระวังเช่นนี้จึงจะเป็นเรื่องดี
หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาว่า “ตู้ฝานกับเหลิ่งหวากำลังตรวจนับเงินและทำความสะอาดอยู่ด้านหน้า ข้าน้อยจะไปตามพวกเขามา”
“ไม่ต้องแล้ว” เฟิ่งจิ่วบอก ก่อนจะสาวเท้าไปข้างหน้า พลางกำชับว่า “สั่งการลงไป เรื่องที่ข้ากลับมาแล้วห้ามแพร่งพรายออกนอกหอยาสวรรค์”
สิบกว่าคนชะงักงัน อดถามไม่ได้ว่า “แล้วเจ้าตำหนักกับพวกเขาเล่า? ตอนบ่ายเจ้าตำหนักเพิ่งมาที่นี่ด้วย”
เฟิ่งจิ่วฝีเท้าชะงัก ตอบว่า “เรื่องนี้รอข้าได้พบตู้ฝานกับเหลิ่งหวาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ขอรับ” พวกเขารับคำ เห็นเธอเดินออกไปด้านหน้าแล้ว จึงถอยกลับเข้าไปในมุมมืดอีกครั้ง
ตู้ฝานกับเหลิ่งหวาที่กำลังคำนวณบัญชีและทำความสะอาดอยู่ด้านหน้าเมื่อได้ยินองครักษ์ลับบอกว่านายท่านกลับมาแล้ว ต่างก็ตะลึงงัน ตอนที่พวกเขาเดินไปที่เรือนหลัง ก็เห็นขอทานน น้อยคนหนึ่งเดินเข้ามา ทั้งสองจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างลังเลว่า “นายท่าน?”
การแต่งกายเช่นนี้ดูคุ้นเคยมาก แต่หน้าตาอย่างนี้เหมือนจะ…
“อืม ขึ้นมาที่ห้องใต้หลังคา ข้ามีเรื่องจะถามพวกเจ้า” เฟิ่งจิ่วว่า กวาดมองในหอด้วยสายตาเรียบเฉย เพราะทำความสะอาดและปิดประตูหอแล้ว ยามนี้ในหอจึงมีเพียงพวกเขาเท่านั้น
ทั้งสองได้ยินก็มองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะเผยยิ้มออกมา “ขอรับ” จากนั้นก็สาวเท้าเดินตามเธอขึ้นไปที่ห้องใต้บันได
ข้างโต๊ะในห้องใต้บันได เฟิ่งจิ่วรินชาดื่ม ก่อนถามขึ้นว่า “ผู้หญิงที่อยู่กับโม่เจ๋อเป็นใครมาจากไหน? เหตุใดจึงมาอยู่กับเขาได้?”
ทั้งสองชะงักงัน “นายท่านเจอนางแล้วหรือท”
“บังเอิญเจอระหว่างทางกลับมา” เธอจิบน้ำชาคำหนึ่ง
ตู้ฝานนกับเหลิ่งหวามองหน้ากันแวบหนึ่ง ลอบคิดในใจว่า ดูจากสถานการณ์ นายท่านหึงแล้วหรือ? ฉะนั้นจึงไม่ให้พวกเขาบอกเจ้าตำหนักว่านางกลับมาแล้ว?
“เจ้าพูดสิ” ตู้ฝานใช้ศอกกระทุ้งเหลิ่งหวา
เหลิ่งหวามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบคำถามเฟิ่งจิ่วว่า “นายท่าน ผู้หญิงคนนี้แซ่อวิ๋น ชื่อเสวี่ยซิน เดินทางมาถึงเมืองร้อยนทีหนึ่งเดือนกว่าแล้ว ตอนนั้นนางตรงมาหาเจ้าตำหนักที่ หอยาสวรรค์ บอกว่าเป็นศิษย์น้องของเจ้าตำหนัก
ตอนนั้นข้าเคยได้ยินฮุยหลางบอกว่า อวิ๋นเสวี่ยซินเอาจดหมายที่อาจารย์ของเจ้าตำหนักเขียนด้วยมือตนเองมาให้เจ้าตำหนัก บอกว่าขอให้เขาช่วยดูแลนางด้วย เดิมทีเจ้าตำหนักต้องการให้นา างพักที่จวนหลิง แต่นางบอกว่าระหว่างทางมาได้ยินเรื่องจวนเฟิ่งด้วย นางว่าจวนเฟิ่งคึกคักกว่า อยากพักที่จวนเฟิ่ง เจ้าตำหนักจึงตามใจนาง ตอนนี้นางจึงพักอยู่ที่จวนของเรา
หลังจากนั้นข้าให้คนตรวจสอบที่มาที่ไปของนาง แต่กลับสืบไม่พบอะไรเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้พวกข้าจึงตัดสินว่านางเป็นคนของตระกูลเร้นลับ หรือไม่ก็เป็นคนจากนอกมหาสมุทร เพียงแต่ เรื่องที่ว่านางมาจากที่ใด อวิ๋นเสวี่ยซินเองก็ไม่เคยพูดถึงเช่นกัน”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “ที่แท้ก็อย่างนี้เอง”
เธอยังคิดผู้หญิงจากที่ไหนมาอยู่ข้างกายโม่เจ๋อได้! ที่แท้ก็ศิษย์น้องของเขานี่เอง เพียงแต่ สายสัมพันธ์ศิษย์พี่ศิษย์น้องอะไรนี่ ทำไมเธอฟังแล้วรู้สึกอึดอัดใจชอบกล
………………………………….
ตอนที่ 2760 สืบไม่เจอ
“เข้ามาอยู่ในบ้านแล้วกลับสืบไม่เจอประวัติของอีกฝ่าย? พวกเจ้ายังทำงานได้ไม่ดีพอนะ!” เธอเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเกิดเป็นเสียงก๊อกๆ ดวงตาสุกใสจับจ้องไปที่พวกเขาทั้งสอง
“นายท่านโปรดระงับโทสะ” ทั้งสองก้มหน้าเล็กน้อย “พวกข้าจะสืบต่อไป อย่างไรก็จะต้องสืบให้เจอประวัติของนางให้ได้”
ขณะเอ่ย เหลิ่งหวาชะงักเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า “นายท่าน ตอนบ่ายเจ้าตำหนักมาที่นี่ เขาถามว่านายท่านส่งข่าวกลับมาบ้างหรือไม่ ยังกำชับว่าหากมีข่าวของนายท่านจะต้องบอกเขาทันที ด้วย”
“ไม่ต้องรีบ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง ปกติพวกเจ้าทำอะไรก็ทำอย่างนั้นไป ทำเหมือนข้าไม่เคยกลับมาก็พอ” เฟิ่งจิ่วเอ่ย ก่อนพูดอีกว่า “ข้ากลับมาครั้งนี้ไม่อยากให้ใครรู้ คนที่ เล่นงานข้ายังจับตาดูข้าอยู่ หากคนพวกนั้นรู้ว่าข้ากลับมา เดาว่าจะต้องตามมาที่นี่แน่”
ตู้ฝานกับเหลิ่งหวาชะงักเล็กน้อย “หมายความว่านายท่านไม่คิดจะแสดงตัวและกลับไปที่จวน?”
หากแสดงตัวและกลับไปที่จวน ในจวนมีคนมากปากก็มากตาม ยังมีอวิ๋นเสวี่ยซินอยู่ด้วย อย่างนั้นข่าวเรื่องการกลับมาของนางก็จะแพร่งพรายออกไปได้ง่ายๆ ไม่ใช่หรือ?
แต่หากไม่แสดงตัว อย่างนั้นนางจะกลับจวนด้วยสถานะใดเล่า?
“ตอนแรกตั้งใจว่าจะกลับมาเงียบๆ พักหนึ่ง แต่ในจวนมีอวิ๋นเสวี่ยซินเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง ดูท่าคงต้องคิดใหม่อีกรอบ ขอเวลาให้ข้าคิดก่อนก็แล้วกัน!” เธอถอนหายใจ หน้าตาราวกับจนใจ
ทั้งสองกลับยิ้มออกมา ตู้ฝานถามว่า “นายท่าน เหตุใดท่านกลับมาเร็วเช่นนี้? พวกข้านึกว่าครั้งนี้กว่าท่านจะกลับมาก็คงครึ่งปี”
“จากที่นี่ไปหากคำนวณระยะทางไปกลับ และเวลาที่รออยู่ที่นั่นแล้ว บางทีอาจใช้เวลาประมาณครึ่งปี แต่ข้ามีแกนเคลื่อนย้ายที่ตาเฒ่าให้มา สามารถกลับมาที่นี่ได้อย่างอิสระ ประหยัดเวลา าได้ไม่น้อยเลยล่ะ” เธอเอามือชันแก้มขณะอธิบาย
“นายท่าน เกาะเซียนเฝิงไหลเป็นอย่างไรบ้าง? คนที่นั่นแข็งแกร่งหรือไม่? ท่านไปบันไดสู่แดนเซียนมาหรือยัง?” เหลิ่งหวาถามสิ่งที่อยากรู้อยู่ในใจ
“ก็มีสองตาหนึ่งปากเหมือนกัน ส่วนพลังน่ะหรือ พวกเขาไม่ได้พัฒนาพลังขึ้นไปทีละขั้นด้วยตนเอง ฉะนั้นโดยทั่วไปแล้วพลังของพวกเขาสูงกว่าคนที่นี่ แต่หากสู้กันขึ้นมาจริงๆ อย่างนั้น ก็พูดยากแล้ว”
เธอพึมพำ ก่อนเงียบแล้วเอ่ยขึ้นอีกว่า “ส่วนบันไดสู่แดนเซียนก็ไม่ได้ขึ้นกันง่ายๆ ขึ้นนั้นขึ้นไปแล้ว แล้วก็ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุดแล้วด้วย เพียงก้าวเดียวข้าก็จะก้าวข้ามประตูนั นและจะไม่ได้กลับมาอีก”
ทั้งสองสายตาไหวระริก “ประตู? บนบันไดสู่แดนเซียนยังมีประตูด้วย?”
“มีสิ! ที่นั่นเป็นอีกโลกหนึ่งเลยล่ะ เพียงแต่ไม่ได้ดูให้ชัด แต่ตอนที่ข้าขึ้นไปถึง อีกฝั่งหนึ่งของประตูมีตาเฒ่าอยู่กลุ่มหนึ่ง พวกเขากลับมองออกว่าข้าเป็นผู้หญิง ยังบอกให้ข ข้าข้ามไปฝั่งนั้นด้วย” พูดมาถึงตรงนี้ เฟิ่งจิ่วหัวเราะขึ้นมา “โชคดีที่ไม่ได้ข้ามไป หากข้ามไปแล้วไม่รู้ข้าจะได้กลับมาเมื่อไร”
ทั้งสองฟังแล้วก็ประหลาดใจ พวกเขารู้ว่าใต้หล้ากว้างใหญ่มีเรื่องประหลาดมากมาย แต่กลับไม่เคยรู้ว่าบนท้องฟ้า บนจุดสูงสุดของบันไดสู่แดนเซียนจะยังมีประตูสู่โลกอีกใบหนึ่งอยู่ด้วย ย
“นายท่าน ท่านสามารถไปที่ยังสถานที่เช่นนั้นได้ แล้วเหตุใดจึงไม่ไปเล่า? บางทีหากท่านไปทางนั้นแล้ว คนพวกนั้นอาจตามหาท่านไม่พบแล้ว” ตู้ฝานอดพูดขึ้นไม่ได้ โอกาสเช่นนี้กลับถ ถูกปล่อยทิ้งไปให้เสียเปล่าแล้ว
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “จะเป็นสถานที่ดีอีกแค่ไหนแล้วอย่างไรเล่า? ครอบครัวและสหายของข้า คนที่ข้าคำนึงหาล้วนอยู่ทางนี้ ไปทางนั้นแล้วจะมีความหมายอะไร?”