เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2763 ใครอยู่ในห้อง / ตอนที่ 2764 คิดบัญชีย้อนหลัง
ตอนที่ 2763 ใครอยู่ในห้อง
เอ่ยจบ นางย่อเข่าเล็กน้อย “ศิษย์พี่ ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ” พูดจบก็ไม่รอเขา เดินตรงไปทางเรือนของเหลิ่งซวงทันที
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเห็นดังนั้นก็สาวเท้าเดินไปข้างหน้า
ขณะเดียวกันในเรือนของเหลิ่งซวง เจ้าตัวน้อยหยุดร้องแล้ว เพราะเฟิ่งจิ่วอุ้มเขาและถือกลองไม้เขย่าเล่นกับเขาอยู่ เด็กน้อยจ้องหน้าเธอด้วยดวงตากลมโตสุกสกาว ในดวงตายังมีน้ำใ ใสๆ รื้นอยู่ เขาจ้องมองเธอราวกับลูกกวางตัวน้อยๆ ทำเอาหัวใจของเฟิ่งจิ่วอ่อนยวบ
“ไม่ร้องแล้วหรือ? เจ้าใจแคบเช่นนี้ใช้ไม่ได้นะ” เธอหยิกจมูกเขาเบาๆ บอกว่า “แม่นางคนอื่นหอมส่งเดชไม่ได้ แต่ท่านแม่หอมเจ้าได้ เข้าใจหรือไม่?”
“อาๆ…แอ้ เอิ้กๆ…”
เด็กน้อยอ้าปากส่งเสียงอ้อแอ้ จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วก็ยิ้มอย่างชอบใจ ทว่า ไม่นานนัก รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหายไป ก่อนจะเงยหน้ามองไปข้างนอก
“นายท่าน มีอะไรหรือ?” เหลิ่งซวงถาม
“มีคนมา” เฟิ่งจิ่วบอก “ออกไปไล่เสีย” เธออุ้มเด็กน้อยนั่งอยู่ข้างเตียง
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงรับคำ ก่อนจะเดินออกไป และปิดประตูห้องด้วย ตอนที่นางออกมาข้างนอกก็เห็นเงาร่างสีขาวเดินเข้ามาแล้ว
“ข้าได้ยินเด็กร้องไห้ คิดอยู่ว่าเป็นเพราะหิวข้าวหรือเปล่า จึงยกข้าวต้มเละมาให้” อวิ๋นเสวี่ยซินว่า สายตาจับจ้องไปที่ประตูห้องที่ปิดสนิทด้านหลังเหลิ่งซวง ก่อนถามว่า “เด็กอย ยู่ในห้องหรือ?”
“เมื่อครู่ข้าเพิ่งป้อนข้าวให้นายท่านน้อย แม่นางอวิ๋นเอาข้ามต้มของท่านกลับไปเถอะ!” เหลิ่งซวงเอ่ย หันไปมองคนที่ตามมาข้างหลัง หัวใจสั่นไหวเล็กน้อย
เจ้าตำหนักก็มาด้วยหรือ? นายท่านยังอยู่ในห้อง! เจ้าตำหนักจะรู้หรือไม่? นายท่านบอกว่าให้ไล่คนกลับไป นี่หมายถึงเจ้าตำหนักด้วยหรือไม่?
“เด็กเล่า?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม
ครั้นเห็นว่าในห้องไม่มีเสียงอะไร เหลิ่งซวงจึงตอบว่า “อยู่ในห้อง เพิ่งหลับไปเมื่อครู่เจ้าค่ะ”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อหันไปมองอวิ๋นเสวี่ยซิน กล่าวว่า “ในเมื่อหลับแล้ว อย่างนั้นเจ้าก็กลับไปก่อนเถอะ!”
“เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ อย่างนั้นข้ากลับก่อนแล้ว” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คารวะเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไป
หลังจากที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อเห็นนางกลับไปแล้ว ก็คิดจะเข้าไปดูในห้อง แต่เสียงของเหลิ่งซวงกลับดังมาก่อน เขาจึงชะงักฝีเท้า
“เจ้าตำหนัก นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าเองก็เตรียมจะพักผ่อนพร้อมกับนายท่านน้อยแล้ว”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อหันไปมองนางแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าของนางเป็นปกติ ก้มหน้าหลุบตามองพื้น ท่าทางนอบน้อมมาก นึกได้ว่านี่ก็ดึกมากแล้วจริงๆ เขาจึงบอกว่า “ก็ดีเหมือนกัน ให้เขานอ อนเถอะ! หากหิวก็สั่งให้ห้องครัวทำอาหารมาให้”
เขากำชับ ก่อนจะหันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิทแวบหนึ่ง ก่อนจะเอามือไขว้หลังแล้วเดินออกไป แต่ทว่า ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากลานสวน จู่ๆ กลับได้ยินเสียงหัวเราะเอิ้กๆ ของเด็ก ดังออกมา
ฝีเท้าของเขาชะงัก หันกลับไปมอง สายตาจับจ้องไปที่ห้องนั้น ก่อนจะหันไปมองเหลิ่งซวง เห็นนางหันขวับมาทางนี้ ปฏิกิริยาตามจิตใต้สำนึกนั้นของนาง ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างไม ม่รู้สาเหตุ
เหลิ่งซวงกำลังตื่นตระหนก? ทำไมนางถึงตื่นตระหนก? หรือว่าในห้องนั้นนอกจากเด็กแล้วยังมีคนอื่นอยู่ด้วย?
ในจวนเฟิ่ง จะมีใครแฝงตัวเข้ามาได้อย่างเงียบงันอีก? หนำซ้ำเหลิ่งซวงยังปกป้องอีกฝ่ายด้วย? ชั่วขณะหนึ่ง ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเขา ฝีเท้าที่เดิมทีจะก้าวจากไป เวลานี้ก กลับเดินย้อนกลับเข้ามาในลานสวน
“เจ้าตำหนักยังมีธุระใดหรือ?” เหลิ่งซวงถาม จำต้องบอกว่าตอนนี้หัวใจของนางตึงเกร็งไปหมดแล้ว
………………………………….
ตอนที่ 2764 คิดบัญชีย้อนหลัง
“เด็กอยู่ในห้องคนเดียวหรือ?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม ฝีเท้ากลับไม่ได้หยุดแต่อย่างใด เขาเดินผ่านเหลิ่งซวง ตรงดิ่งไปที่ประตูห้อง
เหลิ่งซวงเดินตามข้างๆ ไม่ได้พูดอะไร เพียงมองเขาผลักประตูเข้าไปด้วยหัวใจอันตื่นตระหนก ตอนที่เขาสาวเท้าเข้าไป นางอดเดินนำเขาเข้าไปก่อนไม่ได้ นางนึกว่าจะเห็นเงาร่างของนาย ยท่าน แต่กลับนึกไม่ถึงว่าในห้องด้านในมีเพียงนายท่านน้อยที่กำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ในมือยังถือกลองไม้เขย่าเล่นอยู่เองด้วย
เมื่อไม่เห็นนายท่าน นางอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ แต่กลับประหลาดใจขึ้นมาในขณะเดียวกัน นายท่านจะไปพบเจ้าตำหนักไม่ใช่หรือ? แล้วนี่ทำไมต้องซ่อนตัวด้วยเล่า? ในที่แห่งนี้ นายท่านยัง งจะซ่อนตรงไหนได้อีก?
นางเก็บงำความคิด สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปถาม “เจ้าตำหนัก เป็นอะไรไปหรือ?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเด็กน้อยที่กำลังเล่นด้วยตนเองอยู่บนเตียง ไม่เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ในห้อง สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่เหลิ่งซวง “นายท่านของเจ้ากลับมา แล้วหรือ?”
เหลิ่งซวงเงยหน้าด้วยความตกใจ “นายท่านกลับมาแล้ว?” เจ้าตำหนักรู้แล้วหรือ? นางมองเขา ข่มความรู้สึกผิดไว้ในใจ ตอบว่า “เรื่องนี้ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อชะงักเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไป “ดูแลเด็กให้ดีๆ”
เหลิ่งซวงส่งเขากลับ หลังจากเห็นเขาออกจากลานสวนไป จึงถอนหายใจแล้วกลับเข้าห้อง ทว่าพอเห็นนายท่านที่ปรากฏตัวอีกครั้งและนั่งอยู่ข้างเตียง นางอดประหลาดใจไม่ได้ “นายท่าน ท่าน นไม่อยากให้เจ้าตำหนักรู้หรือว่าท่านกลับมาแล้ว?”
“ข้าแค่ไม่อยากให้อวิ๋นเสวี่ยซินนั่นรู้ว่าข้ากลับมาแล้ว” เฟิ่งจิ่วบอก เธอนั่งหยอกเด็กน้อยเล่นอยู่ข้างเตียง “ผู้หญิงคนนั้นดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดา ซ้ำไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน อีก! จู่ๆ ก็มาอยู่บ้านข้าแล้ว”
เหลิ่งซวงอดเผยยิ้มออกมาไม่ได้ “เจ้าตำหนักคิดถึงนายท่านมาก”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ข้ารู้ ข้าก็คิดถึงเขาเหมือนกัน ถึงได้กลับมาหาเงียบๆ แบบนี้ ที่จริง ข้ากลัวว่าการกลับมาที่นี่จะดึงดูดความสนใจของคนพวกนั้นมาที่นี่ ทำให้พวกเจ้าเดือดร้อนไปด้วย ”
เธอถอนหายใจ “ด้วยพลังของข้าตอนนี้ไม่ต้องกลัวพวกเขาแล้ว แต่หากพวกเจ้าต้องเผชิญหน้ากับพวกนั้น อย่างไรก็ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน”
“นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ตอนนี้วรยุทธ์ของพวกข้าล้วนพัฒนาขึ้นแล้ว” เหลิ่งซวงบอก ขณะมองหน้าเธอ “อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นที่หอยาสวรรค์หรือที่จวนของเราล้วนเพิ่มความเข้มงวดในก การคุ้มกันแล้ว นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป”
“อืม เจ้าพักก่อนเถอะ! ข้าจะไปทำอะไรให้เขากินที่ห้องครัวหน่อย” เฟิ่งจิ่วบอก ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป ตั้งใจว่าจะไปทำอาหารแล้วส่งไปให้เขากินหน่อย
หลังจากส่งเธอออกไป เหลิ่งซวงกลับเข้าห้อง
บ่าวรับใช้ในจวนเฟิ่งไม่ได้มีมากนัก หนำซ้ำล้วนผ่านการอบรมมาแล้ว ไม่ใช่คนธรรมดาจะเทียบได้ เวลานี้พอเห็นเฟิ่งจิ่วปรากฏตัวที่นี่ ต่างก็พากันคารวะแล้วถอยออกไป
พอเฟิ่งจิ่วออกจากครัวไป องครักษ์ลับที่อยู่ในมุมมืดก็ออกมากำชับให้พวกเขาปิดปากให้สนิท อย่าพูดถึงเรื่องที่นายท่านกลับมาแล้ว แม้จะมีคนถาม ก็ห้ามบอก
ด้วยเหตุนี้ ตลอดทางที่มาห้องครัว จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากทางเรือนของเซวียนหยวนโมเจ๋อ
ในห้องครัว เฟิ่งจิ่วทำอาหารที่มีทั้งไข่ เนื้อสัตว์และผักสองชาม จากนั้นก็ใช้ฝาปิดไว้ ก่อนจะยกไปทางเรือนของเธอ เพราะเธอรู้ว่าเธอไม่อยู่ในจวน โม่เจ๋อจะต้องอยู่ที่เรือนของ เธอแน่นอน
ขณะเดินผ่านจุดหนึ่ง เธอหยุดเดิน หันไปกำชับองครักษ์ที่อยู่ในมุมมืด “โยนฮุยหลางออกไปนอกจวน ให้เขาเป็นขอทานสักสองสามวัน”