เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2771 พบกันคั้งแรก / ตอนที่ 2772 ขอทานสกปรก
ตอนที่ 2771 พบกันคั้งแรก
อวิ๋นเสวี่ยซินมองตามสายตาของเขาไป ก็เห็นเงาร่างสีแดงกำลังเดินมาทางนี้ นางหันไปมองพิจารณาอย่างละเอียด เห็นว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีแดงสะดุดตา ชุดกระโปรงสีแดง บนตัวนางดูโอ่อ่าโดดเด่น สายคาดเอวนั่นขับเน้นให้เห็นเอวอันบอบบางอย่างชัดเจน ตรงเอวมีขนนกเคลือบแก้วหลากสีห้อยไว้ ยามนางเดิน ขนนกเคลือบแก้วหลากสีพลิ้วไหวตามไปด้วย ช่างน่ ามองยิ่งนัก
เมื่อมองขึ้นไปอีก สายตาจับจ้องไปที่ดวงหน้าของผู้หญิงคนนั้น หลังจากเห็นหน้าของนาง แม้แต่นางที่นับว่างามล้ำเลิศแล้วก็ยังอดหวั่นไหวไม่ได้
ผู้หญิงชุดแดงคนนี้นับว่าเป็นคนที่วิเศษมากจริงๆ เส้นผมดุจไหมใช้ปิ่นปักผมสีเขียวมรกตม้วนปักไว้เพียงส่วนเดียว ที่เหลือปล่อยสยายลงกลางหลัง ยาวลงไปจนถึงเอว
นางไม่เคยเห็นผู้ใดใส่ชุดสีแดงแล้วงดงามถึงขนาดนี้มาก่อน คนทั่วไปเมื่อสวมใส่ชุดสีแดง มักดูงดงามขึ้นไม่มากก็น้อย ทว่า ผู้หญิงคนนี้กลับสวมชุดสีแดงได้โดดเด่นไม่เหมือนใคร
เดิมทีนึกว่าจะให้ความรู้สึกงามเลิศล้ำ แต่ทว่า นัยน์ตาเย็นชาลึกล้ำไม่เห็นก้นบึ้งที่อยู่ใต้คิ้วเรียวเหมือนใบหลิวคู่นั้นของหญิงชุดแดง ทำให้บุคลิกและความงามของนางขัดแย้งกัน ตรงกันข้ามกลับให้ความรู้สึกงดงามทว่าเย็นชา
เครื่องหน้าทั้งห้าที่งามล้ำเมื่ออยู่ภายใต้การขับเน้นของชุดกระโปรงสีแดง กลับให้ความรู้สึกเย็นชาทว่าน่าหลงใหล นัยน์ตาของนางลึกล้ำมองไม่เห็นก้นบึ้ง แต่กลีบปากของนางกลับประด ดับไว้ด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ยามสาวเดินมาทางนี้ ฝีเท้าเบาและดูเฉื่อยชา แต่กลับมีกลิ่นอายสง่างามกระจายอยู่รอบตัว รวมถึง…บารมีอันน่าเกรงขามของผู้มีอำนาจ
นี่ก็คือภูตหมอเฟิ่งจิ่วกระมัง! ดังคาด ได้ยินร้อยครั้งไม่สู้พบหน้าหนึ่งครั้ง
“ท่านนี้ก็คือแม่นางอวิ๋นกระมัง?” เฟิ่งจิ่วเดินมา สายตาจับจ้องพิจารณาอวิ๋นเสวี่ยซินรอบหนึ่ง ก่อนยิ้มบอกว่า “ได้ยินว่าในจวนมีแขกคนงามมา วันนี้ได้พบ ไม่ธรรมดาดังคาด”
อวิ๋นเสวี่ยซินยิ้มอย่างอ่อนโยน นางมองเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “แม้เสวี่ยซินจะเฉิดฉายเพียงใด ก็ไม่เทียบความงดงามของภูตหมอ” ขณะเอ่ย นางย่อเข่าคารวะ “ภายหน้าฝากเนื้อฝากตัวให้ภูตหมอช่ วยดูแลด้วย”
“แม่นางอวิ๋นกล่าวหนักไปแล้ว” เฟิ่งจิ่วเอ่ย “ผู้มาเป็นแขก ข้าในฐานะเจ้าบ้าน ย่อมต้องทำตามธรรมเนียมอยู่แล้ว”
“ข้าได้ยินว่าศิษย์พี่บอกว่าภูตหมอออกเดินทางไกล นี่คงเพิ่งกลับมา จะต้องมีเรื่องพูดคุยกับศิษย์พี่มากมายแน่ๆ ข้าไม่รบกวนทั้งสองท่านแล้ว” นางยิ้มเอ่ย ก่อนจะปลีกตัวออกไปอย่า างมีมารยาท
หลังจากที่นางจากไป เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไปข้างใน เดินไปได้ไม่กี่ก้าว โม่เจ๋อก็ดึงมือเธอไว้ก่อน
“ยังโกรธอยู่อีกหรือ?”
เฟิ่งจิ่วหันไปมองเขาแวบหนึ่ง ถามว่า “ท่านทำอะไรให้ข้าโกรธหรือ? เหตุใดข้าต้องโกรธด้วย?”
“อย่างนั้นข้าไปกินมื้อเช้ากับเจ้า” โม่เจ๋อเอ่ย
“ตอนกลับมาข้ากินแล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบ บิดแขนออกจากมือเขาแล้วเดินเข้าไปข้างใน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเดินตามไป แต่ใครจะรู้ เฟิ่งจิ่วกลับถึงเรือนก็ปิดประตูเรือนแล้ว ถึงเขาอยากจะเข้าไป ก็เข้าไม่ได้
เขาจึงนั่งลงข้างโต๊ะในลานสวน หันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิท อดคิดไม่ได้ว่า จิตใจของหญิงสาวช่างเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร บางครั้งก็โกรธได้เพียงเพราะคำพูดประโยคเดียว แค่เขายัง ไม่ได้ว่าอะไรนาง เพียงกำชับเล็กน้อยเท่านั้น ว่าอย่าทำอะไรอวิ๋นเสวี่ยซินเท่านั้น นั่นถึงกับทำให้นางโกรธจนไม่สนใจเขา
จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าข้างกายขาดอะไรบางอย่างไป เขาตะโกนเรียก “อิ่งอี”
“นายท่าน” อิ่งอีที่อยู่ในที่ลับเดินออกมา
“ฮุยหลางเล่า?”
………………………………….
ตอนที่ 2772 ขอทานสกปรก
เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม เหมือนจะไม่เห็นฮุยหลางตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เมื่อคืนเพราะเฟิ่งจิ่วกลับมา กอปรกับต่อมานางก็โกรธเขาอีก เขาจึงไม่มีเวลาสนใจว่าฮุยหลางอยู่หรือไม่อยู่ ตอนนี้ พอได้นั่งลงแล้วจึงค้นพบว่าฮุยหลางที่มักเดินไปเดินมา และพูดไม่หยุดอยู่เสมอเหมือนจะหายตัวไปแล้ว?
อิ่งอีชะงักงัน ก่อนตอบว่า “เมื่อคืนตอนที่ภูตหมอมา ได้สั่งให้องครักษ์ลับตีเขาสลบก่อนจะแบกออกไป บอกว่าให้โยนเขาไปเป็นขอทานในเมืองสองสามวันขอรับ”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อตะลึงเล็กน้อย ครั้นคิดอย่างถี่ถ้วน จึงนึกออกว่าเมื่อวานตอนที่พวกเขาเจอเฟิ่งจิ่ว เหมือนว่าฮุยหลางจะพูดมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นเขาจึงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เจ้าถอยไปเถ ถอะ!”
“ขอรับ” อิ่งอีรับคำ ก่อนจะถอยออกไป
และในเมือง ฮุยหลางที่ถูกทุบตีจนจมูกเขียวหน้าบวมถูกผนึกกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างกาย เขานั่งร้องไห้คร่ำครวญอยู่ที่มุมหนึ่งของถนนในสภาพเสื้อผ้าเก่าและขาด
เขายังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น? ถูกคนตีสลบพอฟื้นมาก็กลายเป็นขอทานอยู่ตรงนี้แล้ว อีกทั้งกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างก็ถูกผนึกไว้แล้ว เดินทีเขาอยากวิ่งกลับจวน แต่ใครจะ ะรู้ว่ามีคนคอยจับตาดูเขาอยู่ในที่มืด บอกว่าจะให้เขาเป็นขอทานอยู่ที่นี่สักสองสามวันจนติดใจ
เป็นขอทานมีอะไรให้ติดใจกัน? เนื้อตัวมอมแมมถูกคนมองด้วยสายตารังเกียจทั้งวัน เขาไม่ชอบเป็นขอทานหรอกนะ
แต่ทว่า สิ่งของบนตัวของเขาถูกยึดไปทั้งหมดแล้ว อยากได้เงินไม่มีเงิน อยากได้ของกินไม่มีของกิน นี่เพิ่งจะผ่านไปครึ่งวัน ท้องของเขาก็ร้องโครกครากแล้ว
“ดูขอทานนี่สิ มือเท้ายังอยู่ครบ ร่างกายก็สูงใหญ่ยังมาเป็นขอทานอยู่ตรงนี้ ช่างหน้าไม่อายเลยจริงๆ” ฮูหยินคนหนึ่งที่ผ่านทางมามองฮุยหลางที่นั่งอยู่ตรงหัวมุมถนน ก่อนจะด่าไปหน นึ่งประโยค
ฮูหยินอีกคนที่มาด้วยกันกลับเอ่ยว่า “ตอนนี้มีคนมากมายที่มือเท้ายังอยู่ครบแต่ก็ไม่ทำงาน จึงทำได้เพียงไปเป็นขอทานเท่านั้น”
“คนอย่างนี้ไม่ควรไปทำบุญด้วย”
“นั่นสิ”
ฮุยหลางได้ยินก็ก้มหน้าต่ำ พลางใช้มือบังหน้า ราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักจำเขาได้ พอฮูหยินสองคนนั้นเดินผ่านไป เขาก็พึมพำกับตนเองอยู่ตรงนั้น
“ข้าไม่ได้อยากมาเป็นขอทานเสียหน่อย ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันนะ!”
องครักษ์ลับที่อยู่ในที่มืดอดหัวเราะอย่างเงียบๆ ไม่ได้ ตอนที่ได้ยินนายท่านบอกว่าให้จับฮุยหลางมาเป็นขอทาน พวกเขาตื่นเต้นมากทีเดียว ยังมีบางคนที่ฉวยโอกาสอัดฮุยหลาง ตอนนี้ พอได้เห็นเขานั่งอยู่ตรงนั้นในสภาพขอทานมอมแมมอย่างนี้ พวกเขาอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ฮุยหลางไปทำอะไรให้นายท่านโกรธกันแน่นะ?
“โอย ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว”
ท้องของเขาส่งเสียงดังโครกคราก ฮุยหลางอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นมา ถือชามเก่าๆ เดินไปตามถนน กระทั่งเดินมาถึงจุดที่มีซาลาเป่าร้อนๆ ขายอยู่ เขาจ้องซาลาเปาที่มีควันร้อนๆ ลอยโขมง อ อดแลบลิ้นเลียปากและกลืนน้ำลายไม่ได้ ขณะกำลังจะพูด ก็เห็นเจ้าของร้านถือไมกวาดวิ่งออกมา
“ขอทานสกปรก! เจ้าคิดจะขัดขวางการค้าขายของข้าหรือ? รีบไปเสีย รีบไป หากยังไม่ไปอีกข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ!” เจ้าของร้านโบกไม้กวาดในมือ จ้องฮุยหลางที่เนื้อตัวสกปรกและมีกลิ่นเหม็ นตาขวาง
ฮุยหลางยังอ้าปากค้าง ไม่ทันได้พูดอะไรเลย! ก็ถูกไล่แล้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บใจ เขากลืนน้ำลาย บอกว่า “เถ้าแก่ ข้าหิวแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ท่านเอาซาลาเปาไส้เนื้อให้ ข้าสองสามลูก อีกไม่กี่วันข้าจะเอาเงินมาให้ท่าน สองเท่าเลย! สองเท่าเป็นอย่างไร?”
“เจ้าขอทานสกปรก! ยังไม่ไปอีกหรือ? ถ้าไม่ไปข้าจะตีจนเจ้าไปเอง!” เจ้าของร้านถือไม้กวาดฟาดไปที่ฮุยหลาง พลางก่นด่า “ยังจะมาสองเท่าอะไรอีก! คิดจะโกหกใคร!”