เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2777 ข้าคือฮุยหลาง / ตอนที่ 2778 คึกคัก
ตอนที่ 2777 ข้าคือฮุยหลาง
เฟิ่งจิ่วถอนหายใจ “ท่านเชื่อหรือไม่ หากเราแต่งงานกัน ยังไม่ต้องพูดถึงคนที่หมายตาบัวเขียวในตัวข้า คนของเผ่ามารจะต้องจ้องฉวยโอกาสนี้โจมตีแน่นอน ข้าไม่อยากให้ครอบครัวและส สหายของเราที่มีร่วมงานแต่งต้องเสี่ยงอันตรายเพราะเรื่องนี้ ยิ่งไม่อยากให้งานแต่งของเรากลายเป็นโอกาสโจมตีของคนพวกนั้น”
เธอมีหรือจะไม่อยากแต่งงานกับเขาเร็วๆ? มีหรือจะไม่อยากจัดงานแต่งใหญ่โต และเชิญญาติพี่น้องมาร่วมงานแต่ง และร่วมอวยพรให้พวกเขา?
แต่ เธอเองก็รู้ หากจัดงานแต่งจริงๆ เกรงว่าเรื่องจะไม่เป็นอย่างที่พวกเขาหวัง
ได้ยินคำพูดเหล่านั้นของเฟิ่งจิ่ว เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองนางอย่างลึกซึ้ง ที่แท้นางก็เคยคิดเหมือนกัน เพียงแต่คิดมากเกินไป คิดถึงความกังวล และเรื่องที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด
เขาครุ่นคิด หากต้องการกำจัดเรื่องที่นางกังวลให้หมดไป อย่างนั้นก็ต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งใต้หล้านี้ กลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่แค่ดีดนิ้วก็สามารถทำลายฟ้าดินได้!
“คิดอะไรอยู่หรือ?” เฟิ่งจิ่วโบกมือตรงหน้าเขา เห็นเขาเหม่อลอยไม่รู้คิดอะไรอยู่ จึงบอกว่า “อาหารจะเย็นแล้ว รีบกินกันเถอะ! อีกเดี๋ยวพวกเราไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืนแล้วค่อยกลับกั น”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยักหน้า “ดี” เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงคีบอาหารกิน
หลังกินเสร็จ พวกเขานั่งต่อครู่หนึ่ง ดื่มชาถ้วยหนึ่งแล้วจ่ายเงินก่อนจะลุกออกไป เหลิ่งซวงอุ้มเด็กเดินตามพวกเขา พอออกจากหอ เฟิ่งจิ่วอุ้มเด็กเดินตามพวกเขาไปตามถนนใหญ่
“ซื้อของเล่นให้เสี่ยวห้าวเอ๋อร์กันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วหยุดเดินตรงหน้าร้านแผงลอยเล็กๆ ร้านหนึ่ง หยิบของเล่นชิ้นเล็กจากแผงลอยขึ้นมาดู สุดท้ายก็เลือกมาจำนวนหนึ่งแล้วให้เหลิ่งซว วงจ่ายเงิน ก่อนจะเดินไปข้างหน้าต่อ
พวกเขาสามคนเดินไปตามถนน ยามเดินผ่านแผงลอยขายขนมแป้งทอด เฟิ่งจิ่วหยุดเดิน หันไปบอกกับเหลิ่งซวงข้างหลังว่า “ซื้อขนมแป้งทอดสักสองชิ้นก็แล้วกัน!”
เหลิ่งซวงได้ยินก็ชะงักเล็กน้อย นายท่านยังกินไม่อิ่มอีกหรือ? เหตุใดยังจะให้ซื้อขนมแป้งทอดอีก? แม้จะสงสัย แต่นางก็ไม่ได้ถาม เพียงควักเงินออกมาซื้อขนมแป้งทอดสองชิ้น
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่กลีบปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อย สายตากวาดมองไปด้านหน้า ก่อนจะเดินออกไป
ทั้งสามคนเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งตอนที่มาถึงหัวมุมถนนแห่งหนึ่ง จู่ๆ เฟิ่งจิ่วก็หยุดเดิน หันไปมองเงาร่างที่นั่งอยู่ที่หัวมุมถนนในชุดขอทาน
“คืนนี้อากาศไม่เลว คนบนถนนก็คึกคักมาก”
เฟิ่งจิ่วกล่าวขึ้น ยามเสียงนี้ดังเข้าหูของขอทานที่นั่งอยู่ตรงหัวมุมถนน เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที มองคนพูดด้วยสีหน้าตกใจระคนดีใจ
“นายท่าน ภูตหมอ เหลิ่งซวง!”
เขาวิ่งเข้ามาอย่างล้มลุกคลุกคลาน หมายจะดึงชายเสื้อของนายท่าน แต่กลับรู้สึกว่ามือของตนเองสกปรก จึงยืนมองพวกเขาอย่างดีใจอยู่อย่างนั้น
ครั้นเห็นฮุยหลางที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวตรงหน้าฮุยหลาง แววตาของเซวียนหยวนโม่เจ๋อเหมือนคนที่รู้อยู่แล้ว
แต่เหลิ่งซวงที่อยู่ข้างหลังกลับตะลึงเล็กน้อย นี่ฮุยหลางหรือ? ทำไมเขามีสภาพเช่นนี้? ด้วยความสงสัย นางมองพิจารณาเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณของเขาถูกผนึ ก หนำซ้ำใบหน้าก็ถูกทุบตีจนบวมช้ำ หากไม่สนิทกับเขา คงดูไม่ออกจริงๆ
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ มองฮุยหลางในชุดขอทานที่อยู่ตรงหน้า เธอบอกว่า “เจ้าเป็นใคร? อย่าได้เรียกส่งเดช พวกข้าไม่รู้จักเจ้าเสียหน่อย”
ฮุยหลางได้ยินอย่างนั้นก็ร้อนใจขึ้นมา “ภูตหมอๆ ข้าก็คือฮุยหลางอย่างไรเล่า!”
………………………………….
ตอนที่ 2778 คึกคัก
“เจ้าจะเป็นฮุยหลางได้อย่างไร? ถึงฮุยหลางจะไม่นับว่ารูปงาม แต่ก็ไม่ได้จมูกเขียวหน้าบวมเหมือนหัวหมูอย่างเจ้า” เฟิ่งจิ่วเบ้ปาก พลางหยอกเย้าเด็กในอ้อมแขนเล่นไปด้วย
ฮุยหลางอดตะลึงไม่ได้ เหตุใดภูตหมอจึงไม่ยอมรับเขา? ทำไมเล่า? เขายืนอึ้ง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ
“เจ้ายังมีมือเท้าครบอยู่แท้ๆ เหตุใดไม่หางานทำเล่า?” เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนส่ายหัวเอ่ย
ฮุยหลางอ้าปาก อยากจะพูด แต่กลับไม่รู้จะพูดกับเธออย่างไรดี
เฟิ่งจิ่วมองเขาที่ยืนอึ้งอยู่ ก็อดยิ้มไม่ได้ “หิวแล้วใช่หรือไม่?”
ฮุยหลางรีบพยักหน้า “หิวแล้วๆ ข้าหิวมาทั้งวันแล้ว ไม่ได้กินอะไรเลย นายท่าน ภูตหมอ พวกท่านพาข้ากลับไปเถอะ! ข้าคิดว่าข้าจะต้องทำอะไรผิดไปแน่ๆ ไม่อย่างนั้น นายท่านกับภูต ตหมอคงไม่ลงโทษข้าเช่นนี้” เขาเกาหัวพูด
ถึงเขาจะไม่ได้ฉลาดเหมือนอิ่งอี แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้โง่ เห็นท่าทางของพวกเขาสองคน มีหรือจะไม่เข้าใจว่าจะต้องเป็นเพราะเขาทำอะไรผิดแน่ๆ
ไม่แน่ว่าเขาอาจไปทำอะไรให้ภูตหมอไม่พอใจเข้า ไม่อย่างนั้นเขาจะกลายมาเป็นขอทานอย่างนี้ได้อย่างไร?
ทันใดนั้น สมองของเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ขอทาน? ใช่แล้ว เหตุใดเขาจึงกลายเป็นขอทาน? เมื่อวานเขาเพิ่งเจอขอทานน้อยคนหนึ่ง จากนั้นก็พูดอะไรบางอย่างไม่ใช่หรือ?
นึกมาถึงตรงนี้ เขาตะลึงค้างไปทันที ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าเหตุใดตนเองถึงถูกจับมาเป็นขอทาน ที่แท้เขาก็ทำให้ภูตหมอไม่พอใจเข้าแล้วจริงๆ!
นึกถึงคำพูดที่เขาพูดตอนเจอขอทานน้อยเมื่อวาน จากนั้นก็มองหน้าภูตหมอกับนายท่านที่อยู่ตรงหน้า แม้แต่ความคิดจะตายเขาก็มีแล้ว เหตุใดเขาจึงได้สมองช้าอย่างนี้นะ เพิ่งมานึกได้ป ป่านนี้!
เห็นเขายืนเปลี่ยนสีหน้าไปมาอยู่ตรงหน้า เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ก่อนหันไปบอกเหลิ่งซวงที่อยู่ข้างหลังว่า “ยังมีขนมแป้งทอดอยู่อีกสองชิ้นไม่ใช่หรือ? ยกให้เขาไปเถอะ!”
เหลิ่งซวงก้าวออกมาหนึ่งก้าว ยื่นขนมแป้งทอดที่ยังมีควันร้อนๆ ให้ฮุยหลาง ตอนนี้นางรู้แล้วว่าที่แท้นายท่านก็ซื้อขนมแป้งทอดสองชิ้นนี้มาให้ฮุยหลางนั่นเอง
ฮุยหลางรับขนมแป้งทอดสองชิ้นไปก่อนจะร้องไห้ออกมา “นายท่าน ภูตหมอ ข้าสำนึกผิดแล้ว ให้ข้ากลับไปเร็วหน่อยได้หรือไม่?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่เงียบมาตลอดเอ่ยขึ้นในตอนนี้ว่า “ในเมื่อให้เจ้าเป็นขอทานอยู่ตรงนี้ อย่างนั้นก็เป็นไปอีกสักสองสามวันเถอะ! ถือเป็นการฝึกฝน”
เอ่ยจบ เขาก็เดินจากไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่วและเหลิ่งซวง ไม่สนใจฮุยหลางอีก
ฮุยหลางที่ถือขนมแป้งทอดอยู่ยืนมองพวกเขาเดินผ่านหน้าเขาไปทั้งอย่างนี้ ทิ้งให้เขายืนอยู่ที่หัวมุมถนนคนเดียว หากไม่ใช่เพราะในมือถือขนมแป้งทอดสองชิ้นที่ยังร้อนอยู่ เขายัง งไม่อยากเชื่อเลยว่าเมื่อครู่พวกเขามา…
เฟิ่งจิ่วหยอกเล่นกับเด็กน้อยระหว่างทาง ทั้งสามไม่ได้นั่งรถม้า แต่เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ แต่ทว่า ตอนที่พวกเขาเดินไปถึงทางโค้งตรงหัวมุมถนน ก็เห็นด้านหน้ามีคนกำลังยืนมุงกันอย่างคึ กคัก เสียงพูดคุยของคนพวกนั้นดังมาแว่วๆ
“แม่นางคนนั้นน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ ไม่เคยเห็นนางมาก่อนเลย นางก็ช่างโชคร้าย ออกมาคนเดียวแล้วดันบังเอิญเจอมังกรตาเดียวที่ถนนเส้นนั้น แถวนี้ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับมังกรตาเด ดียวนั่นหรอก”
“ข้าเห็นแม่นางคนนั้นหน้าตาก็ดูเป็นคนดี เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
“บุคลิกนางโดดเด่นขนาดนั้น ดูแล้วคงเป็นคุณหนูจากตระกูลผู้ดี เดาว่าอาจมีอำนาจหนุนหลังอยู่เหมือนกัน ไม่แน่มังกรตาเดียวนั่นอาจเหยียบแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว!”