เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2789 ไม่พูด / ตอนที่ 2790 ไม่ใช่
ตอนที่ 2789 ไม่พูด
อวิ๋นเสวี่ยซินนอนอยู่บนเตียง ดวงหน้างดงามยามนี้ดูซีดขาวและอ่อนแรง นางหลับตา ขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนเจ็บแผล ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้า นางจึงค่อยๆ ลืมตาหันไปมองผู้มา
“รู้สึกอย่างไรบ้าง?” เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไปหา ลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
อวิ๋นเสวี่ยซินหันไปมองข้างหลังเธอ เห็นว่ามีแค่เหลิ่งซวง ศิษย์พี่ของนางกลับไม่ได้มาด้วย ความผิดหวังผุดขึ้นมาในใจ นางหลุบตาซ่อนอารมณ์ ก่อนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ยังไม่ตาย”
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก “แผลแค่นี้สำหรับเจ้ายังตายไม่ได้จริงๆ อย่างมากก็แค่นอนติดเตียงสิบวันถึงครึ่งเดือน แต่เป็นอย่างนี้ก็ดี เจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ ข้าย่อมทำใจให้เจ้าย้ายออกจากจวนเฟิ่งไม่ได้ พักที่นี่ไปก่อนชั่วคราวก็แล้วกัน หายดีแล้วค่อยว่ากัน”
นัยน์ตาลึกล้ำจับต้องไปที่ใบหน้านาง แต่กลับเห็นนางหลุบตาต่ำ สีหน้าเรียบเฉยไร้คลื่นอารมณ์ ดูอะไรไม่ออกสักนิด เห็นอย่างนั้นเฟิ่งจิ่วจึงเอนหลังพิงเก้าอี้ นั่งอย่างเกียจคร้าน มองนางที่อยู่บนเตียง ก่อนพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนแม่นางอวิ๋นถูกโจมตีได้อย่างไร? ใครกันที่ทำร้ายแม่นางอวิ๋น?”
“ข้าจะบอกศิษย์พี่คนเดียวเท่านั้น” นางเอียงหัวมามองเฟิ่งจิ่วเล็กน้อย “อยากรู้ก็ให้ศิษย์พี่มาพบข้าสิ!”
“หึๆ…”
เฟิ่งจิ่วหัวเราะในลำคอ เธอม้วนเส้นผมสีหมึกที่สยายตรงหน้าอกเล่นด้วยปลายนิ้วมือ น้ำเสียงอ่อนหวานแฝงไว้ด้วยแววเย้ยหยันและไม่ยี่หระ “วิธีการของแม่นางอวิ๋นทำให้ข้าได้เปิดโลกทัศน์จริงๆ บอกตามตรง ข้ายังไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างแม่นางอวิ๋นเลย”
เหลิ่งซวงรินน้ำชาให้เฟิ่งจิ่วถ้วยหนึ่ง เฟิ่งจิ่วรับไปก่อนจะยกขึ้นจิบคำหนึ่ง จากนั้นก็หมุนถ้วยชาเล่น พลางหันไปกำชับเหลิ่งซวงว่า “ถึงเวลาเปลี่ยนยาให้แม่นางอวิ๋นแล้ว”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงรับคำ ก่อนเข้าไปเปลี่ยนยาที่อยู่บนแผลของอวิ๋นเสวี่ยซิน
เฟิ่งจิ่วไม่พูดอะไรอีก เพียงใช้ฝาด้วยชาปาดน้ำชาเล่นไปพลางๆ หลุบตานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ อวิ๋นเสวี่ยซินที่อยู่บนเตียงปล่อยให้เหลิ่งซวงเปลี่ยนยาให้ นางก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไป เหลิ่งซวงเปลี่ยนยาบนแผลของอวิ๋นเสวี่ยซินจนเสร็จหมดแล้ว จึงกลับมายืนข้างกายเฟิ่งจิ่ว “นายท่าน เปลี่ยนยาเสร็จแล้ว”
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำเสียงเรียบ ก่อนหันไปถามอวิ๋นเสวี่ยซินว่า “แม่นางอวิ๋น เจ้ามีอาการบาดเจ็บภายใน เมื่อคืนข้าให้คนป้อนยาในให้เจ้าเม็ดหนึ่งแล้ว ไม่ทราบว่าบาดแผลที่อวัยวะภายในยังปวดอยู่หรือไม่?”
“ยาในเพียงเม็ดเดียวก็คิดว่าจะเห็นผลแล้วหรือ? ภูตหมอประเมินยาของตนเองสูงเกินไปหรือไม่” อวิ๋นเสวี่ยซินกล่าวเสียงเรียบ สีหน้าเฉยชา ไม่แม้แต่จะมองหน้าเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “จะว่าไปก็ใช่ บาดแผลภายในของเจ้าจะหายด้วยยาเม็ดเดียวได้ภายในวันเดียวได้อย่างไร ไม่เช่นนั้น ภายหน้าคงจะทิ้งผลกระทบไว้” เฟิ่งจิ่วเอ่ย ฝ่ามือพลิกหมุน ยาขวดหนึ่งปรากฏในมือของเธอ
“เห็นแก่ที่เจ้าเป็นศิษย์น้องของโม่เจ๋อ ข้าจะยอมเสียเปรียบหน่อยก็แล้วกัน!” เธอบอก ก่อนจะยื่นยาขวดนั้นให้เหลิ่งซวง
เหลิ่งซวงรับไป ก่อนเทยาออกมาแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอวิ๋นเสวี่ยซิน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แม่นางอวิ๋น กรุณาอ้าปากด้วย”
อวิ๋นเสวี่ยซินขมวดคิ้ว จ้องยาเมล็ดนั้นเขม็ง “นี่ยาอะไร? เหตุใดกลิ่นจึงแปลกเช่นนี้?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ควงถ้วยชาในมือเล่น ยักคิ้วมองนาง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน “แม่นางอวิ๋นคงไม่ได้คิดว่าข้าจะวางยาเจ้ากระมัง? คนฉลาดอย่างเจ้า เหตุใดจึงได้คิดเช่นนี้เล่า?”
………………………………….
ตอนที่ 2790 ไม่ใช่
เธอจิบน้ำชา ก่อนเอ่ยอย่างเฉื่อยๆ ว่า “หากเจ้าเป็นอะไรไปด้วยน้ำมือข้า ข้าก็ไม่มีหน้าไปอธิบายกับศิษย์พี่ของเจ้า เจ้าว่าใช่หรือไม่? ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นใคร? ข้าคือภูตหมอนะ ยาที่ข้ากลั่นออกมาจะเหมือนยาของนักเล่นแร่แปรธาตุทั่วไปได้อย่างไร? หากข้าจะทำร้ายเจ้าจริง ย่อมไม่ต้องยุ่งยากถึงขนาดนี้”
อวิ๋นเสวี่ยซินสายตาไหวระริก นางมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง บางทีอาจคิดว่าเธอพูดถูก นางจึงมองยาเม็ดนั้นแวบหนึ่ง ก่อนจะอ้าปากกลืนยาเม็ดนั้นลงไป
เห็นอย่างนั้นรอยยิ้มของเฟิ่งจิ่วยิ่งกว้างขึ้น “อย่างนี้สิถึงจะถูก” เธอเอ่ย แต่กลับไม่ออกไป เพียงยื่นถ้วยน้ำชาให้เหลิ่งซวง จากนั้นก็นั่งมองอวิ๋นเสวี่ยซินที่นอนอยู่ตรงนั้น
“เจ้ายังไม่ไปอีกหรือ?” อวิ๋นเสวี่ยซินขมวดคิ้วมองเธอ ยาก็เปลี่ยนแล้ว ยาในก็กินแล้ว นางยังนั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้อีก?
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ไม่รีบๆ ข้ายังต้องคอยดูยาออกฤทธิ์ก่อน!”
อวิ๋นเสวี่ยซินไม่สนใจเธออีก เพียงหลับตาพักผ่อน
“แม่นางอวิ๋นจะนอนแล้วหรือ? ไม่ใช่ว่าเพิ่งตื่นรึ? นอนมากไปไม่ดีนะ” เฟิ่งจิ่วเห็นอวิ๋นเสวี่ยซินขมวดคิ้วเพราะคำพูดของเธอ จึงอดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ในเมื่อแม่นางอวิ๋นจะหลับตาทำสมาธิ อย่างนั้นก็พอดีเลย ไม่แน่อีกประเดี๋ยวแม่นางอวิ๋นอาจนึกขึ้นได้ว่าใครเป็นคนทำร้ายเจ้า”
อวิ๋นเสวี่ยซินลืมตา ตวัดสายตามองเฟิ่งจิ่วอย่างเกรี้ยวกราด “เฟิ่งจิ่ว! เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่!” ครั้นนางแผดเสียงออกไปก็รู้สึกเจ็บแผลข้างใน ชั่วขณะหนึ่ง เหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วผุดขึ้นมาอาบน้ำผาก หน้าซีดเหมือนกระดาษ
เฟิ่งจิ่วยื่นมือไปสกัดจุดลมปราณของนาง “แม่นางอวิ๋น เจ้าบาดเจ็บอยู่ ไม่สมควรหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ อีกอย่าง อย่าขยับส่งเดช ไม่อย่างนั้นจะทำให้กระทบไปถึงซี่โครงที่หักของเจ้า หากเป็นอย่างนั้นต้องต่อกระดูกใหม่ ไม่ใช่แค่ยุ่งยาก ยังต้องเจ็บมากอีกด้วย”
ถูกสกัดจุดลมปราณ ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ อวิ๋นเสวี่ยซินถลึงตาจ้องเฟิ่งจิ่ว “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่! รีบคลายจุดลมปราณให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
“อย่าใจร้อนๆ” เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ถามนางว่า “แม่นางอวิ๋น ข้ามีอะไรอยากถามเจ้าหน่อย หากเจ้าตอบคำถามข้าหมดแล้ว ข้าย่อมคลายจุดลมปราณให้เจ้าเอง”
เฟิ่งจิ่วมองนาง นัยน์ตาหรี่เล็ก ยิ้มหวานขณะถามออกไปว่า “คนที่โจมตีแม่นางอวิ๋น แม่นางอวิ๋นรู้จักหรือไม่?”
อวิ๋นเสวี่ยซินแทบจะตอบออกไปทันทีโดยสัญชาตญาณว่า “รู้จัก” ทว่า ครั้นคำตอบหลุดออกจากปาก สีหน้านางพลันเปลี่ยนไป นางเม้มปากแน่น จ้องเฟิ่งจิ่วด้วยแววตาดุดันเกรี้ยวกราด แต่กลับไม่ยอมเปิดปาก ราวกับกลัวว่าหากตนเองเปิดปาก จะยิ่งควบคุมคำพูดได้ยาก
เฟิ่งจิ่วยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของนาง “ที่แท้ก็รู้จักหรือ! อย่างนั้น คนที่โจมตีเจ้า เป็นศัตรูของเจ้าหรือ?”
เหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วไหลอาบหน้าผากของอวิ๋นเสวี่ยซิน นางหน้าซีดเหมือนกระดาษ ราวกับจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ นางไม่ยอมพูด เอาแต่เม้มปากแน่น จ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาร้ายกาจ สายตานั่น ราวกับต้องการจะถลกหนังของเธอทั้งเป็น
เฟิ่งจิ่วไม่ใส่ใจ เพียงถอนหายใจเบาๆ แล้วถามอีกครั้งว่า “แม่นางอวิ๋น คนที่โจมตีเจ้า เป็นศัตรูของเจ้าหรือ?”
อวิ๋นเสวี่ยซินที่นอนนิ่งขยับตัวไม่ได้ราวกับรู้สึกได้ว่าในสมอง กระทั่งในใจมีความคิดที่อยากโพล่งคำตอบออกไป นางพยายามควบคุมอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายกลับตอบออกไปอย่างไม่อาจควบคุมได้ “ไม่ใช่…”