เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2801 ของขวัญพบหน้า / ตอนที่ 2802 ไร้ร่องรอย
ตอนที่ 2801 ของขวัญพบหน้า
โม่เฉินยิ้มๆ นั่งจิบชาหนึ่งคำ ก่อนเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ท่านทำงานของท่านไป ข้ายังต้องไปดูเด็กที่เรือนของเหลิ่งซวงอีก”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อจึงลุกขึ้น ไม่พูดอะไรกับเขาอีก เพียงเดินออกไปข้างนอก
โม่เฉินนั่งในห้องโถงอีกครู่หนึ่ง หลังจากดื่มชาหมดถ้วยหนึ่งก็เดินออกไปข้างนอก ตั้งใจว่าจะไปดูเด็กคนนั้นสักหน่อย…
พวกเขาในเวลานี้ไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เฟิ่งจิ่วถูกดูดเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย เปลวไฟลูกหนึ่งลุกขึ้นที่กลางฝ่ามือของนาง บังคับให้พลังสีดำสายนั้นที่รัดข้อมือนางถอยห่างออก ไป
ในตอนนั้นเอง ร่างของนางได้หลุดออกมาจากหลุมดำ เห็นว่าตนใกล้จะตกลงไปในค่ายกลที่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งไหลเวียนอยู่ นางพลันหันไปมองรอบๆ เห็นผู้ฝึกตนที่มีพลังแข ข็งแกร่งในชุดคลุมสีดำกำลังยืนล้อมวงรอนางอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น มีคนผู้หนึ่งสวมหน้ากากดอกบัวสีดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหนึ่ง ข้างกายมีคนคอยคุ้มกัน
ในชั่วพริบตาที่ตกลงมา ชายชุดดำที่ตกลงมาในหลุมดำพร้อมกับนางคิดจะคว้าจับและลากนางลงไปข้างล่าง เห็นดังนั้นเฟิ่งจิ่วจึงพลิกมือ กระบี่คมพยับพลันปรากฏกลางฝ่ามือในทันใด
“เงากระบี่ประกายพยับ!”
เสียงใสคำรามลั่น ประกายแสงสีเขียวแสบตาพร้อมไอกระหายเลือดพุ่งออกจากกระบี่คมพยับในมือนางไปยังคนชุดดำคนนั้น ความเร็วของกระบี่ดุจความเร็วแสง ทำให้คนชุดดำที่ถึงแม้จะมีวรยุทธ์ ไม่ธรรมดาก็ยังไม่อาจหลบพ้น ถูกฟันเข้าเต็มๆ
“ชิ้ง!”
“ซี๊ด อ๊าก!”
พลังกระบี่อันน่าพรั่นพรึงฟันเกราะป้องกันที่คนชุดดำรีบสร้างขึ้นจนแตกกระจาย เสียงระเบิดดังสนั่น ขณะเดียวกันหน้ากากของคนชุดดำยังถูกกระบี่คมพยับฟันขาด เผยให้เห็นโฉมหน้าท ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก
นั่นเป็นใบหน้าของคนอายุประมาณสามสิบปี ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียมชั่วร้าย ดวงตาเรียวเล็กยามนี้เบิกกว้างด้วยตวามตกตะลึง ราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
เขายืนนิ่งค้างหลังจากถูกกระบี่ฟาดฟัน ไม่อาจหลบเลี่ยง ไม่อาจหลีกหนี หนึ่งกระบวนท่าของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนสวรรค์ กอปรกับมีอาวุธเทวะโบราณในมือ ดาบนั้น แม้แต่เขาที่เป็นผู แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสเซียนก็ไม่อาจรับไหว
เลือดสายหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของเขาช้าๆ ไม่นาน ร่างกายของเขาก็ขาดเป็นสองท่อนก่อนล้มลงกระแทกพื้น ทำให้กลุ่มคนชุดดำข้างล่างที่ตั้งใจจะมาจับเฟิ่งจิ่วต่างตะลึงค้างไปทันที …
“ผู้ถือครองบัวดำ นี่เป็นของขวัญพบหน้าที่ข้าเฟิ่งจิ่วมอบให้เจ้า! แล้วพบกันใหม่!”
ขณะที่กลุ่มคนข้างล่างกำลังตกตะลึง จู่ๆ เสียงเย็นใสและเย่อหยิ่งของเฟิ่งจิ่วก็ดังขึ้น ในตอนที่พวกเขากำลังสงสัยในคำพูดของนาง ก็เห็นนางดิ่งตัวลงมาพร้อมกับตวัดกระบี่คมพยับไป ปรอบๆ พลังกระบี่แต่ละสายพวยพุ่งออกมา กลายเป็นเหมือนเกราะกระบี่
ทันใดนั้นเปลวไฟลูกหนึ่งพลันพวยพุ่งออกไปรอบๆ ทำให้ไม่อาจระบุตำแหน่งของนางได้ ในเวลานี้เอง กลุ่มคนข้างล่างสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าท่ามกลางเปลวไฟและเกราะกระบี่นั่น มีกลิ่นอายข ของค่ายกลกระจายออกมารางๆ เพียงแต่กลิ่นอายของค่ายกลนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว หากไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะไม่รู้สึก
ไม่นานนัก เหล่าผู้ฝึกตนชุดดำที่อยู่ข้างล่างพลันรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เพราะพวกเขาไม่เห็นเงาร่างของเฟิ่งจิ่วแล้ว! อีกทั้งเปลวไฟและเกราะกระบี่นั่นก็เหมือนจะค่อยๆ เลือนหายไป ปกลางอากาศ
“แย่แล้ว! มีบางอย่างผิดปกติ!”
ผู้ฝึกตนชุดดำคนหนึ่งตะโกนออกมา ก่อนจะเหินขึ้นไปกลางอากาศทันที
………………………………….
ตอนที่ 2802 ไร้ร่องรอย
แต่ทว่า พวกเขายังขึ้นไปไม่ถึงกลางอากาศ เปลวไฟและเกราะกระบี่ก็ค่อยๆ เลือนราง และหายลับไปในที่สุด กระทั่งเฟิ่งจิ่วที่เป็นคนตัวเป็นๆ ก็หายไปด้วย!
ผู้ฝึกตนชุดดำคนนั้นเบิกตาด้วยความตกตะลึง เขาเข้าไปตรวจสอบดูรอบหนึ่ง พบว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้วจริงๆ จึงอดที่จะหันกลับไปมองนายท่านที่อยู่ข้างล่างไม่ได้
ชายชุดดำสวมหน้ากากบัวดำที่นั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็หรี่ตาลงอย่างอันตราย เขาลุกขึ้นเพราะไม่อยากเชื่อสายตา มือที่อยู่ใต้แขนเสื้อกำเป็นหมัดแน่น
มาถึงนี่แล้วยังปล่อยให้นางหนีไปได้อีก?
“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป! ตามหา!”
เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้น น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยโทสะ กลิ่นอายรอบตัวแปรเปลี่ยนเป็นน่าพรั่นพรึง ทำให้ผู้ฝึกตนชุดดำที่อยู่รอบๆ ต่างเคลื่อนไหวทันที รีบถ่ายทอดคำสั่งให้ออกตามหาเฟิ งจิ่วทั่วทิศ
“นายท่าน ได้ยินมาว่าเฟิ่งจิ่วผู้นี้มีสมบัติล้ำค่าติดตัวมากมาย เกรงว่าคงจะใช้ค่ายกลห้วงมิติบางอย่างหลบหนีไปแล้ว” ชายชุดดำคนหนึ่งเสนอความเห็นแก่นายท่านของเขาที่ยามนี้กำ ำลังแผ่รังสีอำมหิตอยู่
สามารถหนีไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาที่มีกันเยอะขนาดนี้ได้ ซ้ำยังฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสเซียนคนนั้นอีก พลังและฝีมือของเฟิ่งจิ่วผู้นี้ช่างเหนือความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ
แต่ก่อนเคยได้ยินแต่ชื่อเสียงอันโด่งดังของเฟิ่งจิ่ว เล่าขานกันว่านางเก่งกาจเพียงใด เดิมพวกเขายังไม่เชื่อ แต่วันนี้พอได้เห็นกับตา ดั่งคำที่ว่าได้ยินร้อยหนไม่สู้เจอหน้าเพีย ยงครั้งจริงๆ
การสังหารในดาบเดียวนั่น ไม่เพียงสร้างความตกตะลึงให้แก่พวกเขา ยังทำให้พวกเขาสั่นสะท้านไปทั้งใจ ในใจเกิดคลื่นลมลูกใหญ่ซัดสาด เนิ่นนานก็ไม่อาจสงบลง เกรงว่าหลังจากนี้ไปอีกน นาน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภูตหมอเฟิ่งจิ่ว เหตุการณ์เมื่อครู่คงจะถูกนึกถึงขึ้นมาอีกเป็นแน่
“ข้าไม่เชื่อ มาถึงนี่แล้วนางจะยังหนีรอดไปจากเงื้อมมือข้าได้อีก!” ชายหน้ากากดอกบัวดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “บัวเขียวโบราณในตัวนาง ครั้งนี้ข้าจะเอามันมาให้ได้!”
“ขอรับ! ข้าจะพาคนไปตามหารอบๆ เดี๋ยวนี้!” ผู้ฝึกตนชุดดำที่อยู่ข้างๆ เอ่ย คารวะหนึ่งครั้งก่อนจะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ฝึกตนชุดดำที่อยู่บริเวณรอบๆ แบ่งเป็นสิบสองกลุ่มแยกย้ายกันออกค้นหา ผ่านไปไม่นานจุดที่เต็มไปด้วยผู้คน เหลืออยู่เพียงชายหน้ากากดอกบัวดำและผู้ฝึกตนชุดดำข้างกายเขาอีกสา ามสี่คน
“ฝังเขาเสีย” สายตาของเขาหันไปจับจ้องผู้ฝึกตนชุดดำที่ร่างขาดเป็นสองท่อนอยู่บนพื้น
“ขอรับ” หนึ่งในนั้นรับคำก่อนจะเรียกผู้ฝึกตนชุดดำอีกสองคนเข้ามาจัดการศพ
ชายหน้ากากดอกบัวดำยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง จ้องมองท้องฟ้านิ่งๆ ไม่รู้ในใจกำลังคิดสิ่งใด ไม่นานจึงค่อยหมุนตัวเดินจากไป
เฟิ่งจิ่วในตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ในห้วงมิติ นางอาศัยค่ายกลและเปลวไฟรวมถึงเกราะกระบี่มาบังตา เพื่อให้สามารถหนีมาได้ ทั้งยังไม่ให้ถูกจับได้ว่าหนีเข้ามาในห้วงมิติ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น หากตกลงไปข้างล่าง เกรงว่าอยากหนีก็คงยากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น สองหมัดยากต้านทานสี่มือ แม้ตอนนี้นางจะมีวรยุทธ์ระดับเซียนสวรรค์ แต่ผู้ฝึกตนชุดดำที่อยู่ ข้างล่างก็ไม่ได้อ่อนด้อยเลย ถึงพวกเขาจะไม่ได้มีวรยุทธ์สูงเช่นนาง แต่หากสู้กันนานเข้าอย่างไรนางก็ต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็ควรหลบหนีจากสถานการณ์อันตรายตรงหน้าก่อน จากนั้นก็ค่อยสืบดูว่าชายชุดดำที่ถือครองดอกบัวดำทำลายล้างเป็นใครกันแน่?