เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2803 แฝงตัว / ตอนที่ 2804 ลงมือ
ตอนที่ 2803 แฝงตัว
ด้วยเหตุนี้ ขณะที่คนข้างนอกกำลังตามหานางให้วุ่น นางกลับฝึกวรยุทธ์อยู่ในห้วงมิติ จนกระทั่งผ่านไปหลายวัน ดวงจิตสายหนึ่งของนางออกไปสำรวจข้างนอก พบว่าที่นั่นไม่มีคนแล้ว มีเ เพียงคนชุดดำคนสองคนที่คอยเดินลาดตระเวนอยู่เท่านั้น
นางลุกขึ้นก่อนถอดเสื้อสีแดงของตนออก รัดเนินอกที่เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิงจนแน่น เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งตัวเหมือนคนที่อยู่ข้างนอกเหล่านั้น ข้างเอวแขวนป้ายห้อยแผ่นหนึ่ ง
หลังจากหยิบหน้ากากออกมา นางเก็บซ่อนกลิ่นอายพลังก่อนหายตัวออกมาจากห้วงมิติ ไปปรากฏตัวอยู่กลางค่ายกลนั่น ก่อนจะโฉบกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว และสังเกตการเคลื่อนไหวโดยร รอบ
ผ่านไปไม่นาน คนชุดดำกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา พวกนั้นเดินผ่านใต้ต้นไม้ไป ครั้นผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป ก็มีคนชุดดำอีกกลุ่มเดินผ่านด้านล่างไปอีก
หลังสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง นางคำนวณในใจ สถานที่แห่งนี้เหมือนอยู่ในป่า รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ทึบ นอกจากคนกลุ่มนี้แล้ว คล้ายจะไม่มีคนอื่นปรากฏตัวอีก
ดูจากลักษณะพื้นที่ ที่นี่น่าจะเป็นฐานทัพของพวกมัน นางน่าจะสามารถเริ่มตรวจสอบจากตรงนี้ได้
หลังจากตัดสินใจดังนั้น นางกระโดดลงมาจากต้นไม้ ขณะกำลังจะโฉบตัวไปยังอีกจุดหนึ่ง ก็เห็นชายชุดดำวิ่งเหยาะๆ เข้าไปปลดทุกข์ในป่า นางจึงแอบตามหลังอีกฝ่ายไปอย่างเงียบๆ…
“ยังไม่มีร่องรอยของภูตหมอเฟิ่งจิ่วอีกหรือ คนทั้งคน แม้จะใช้ค่ายกลก็ไม่น่าจะหนีไปได้ไกล เพิ่มกำลังคนกระจายพื้นที่ค้นหา! ลากตัวนางออกมาให้ได้!”
“ขอรับ!” ผู้ฝึกตนชุดดำรับคำ ก่อนจะพากำลังคนออกตามหาไปทั่วทิศ
ขณะที่เฟิ่งจิ่วตั้งใจจะเดินไปอีกทาง สายตาของผู้ฝึกตนชุดดำคนนั้นพลันจับจ้องมาที่นาง
“เจ้าคนนั้นน่ะ มานี่!” เขาตะโกนเรียกพร้อมกวักมือเรียกเฟิ่งจิ่ว เฟิ่งจิ่วยังไม่ทันเข้าไปใกล้ก็ถูกถามขึ้นว่า “เจ้าทำอะไรอยู่ตรงนั้นคนเดียว”
เฟิ่งจิ่วรีบเดินเข้าไปหา ก้มหน้าตอบอย่างนอบน้อม “ข้าน้อยเพิ่งไปปลดทุกข์มาขอรับ” เพราะนางกดเสียงให้ต่ำ จึงฟังราวกับเป็นคนละคน ไม่ว่าใครได้ยินก็ไม่คาดคิดว่าเป็นเสียงของผู้ห หญิง
ผู้ฝึกตนชุดดำคนนั้นจ้องมองนาง ก่อนพูดขึ้นว่า “ป้ายห้อยเอวของเจ้า!”
เฟิ่งจิ่วรีบดึงป้ายห้อยเอวแล้วยื่นให้เขา เมื่อครู่นางฆ่าผู้ฝึกตนไปคนหนึ่ง จึงเปลี่ยนป้ายห้อยเอวของอีกฝ่ายมาด้วย
ผู้ฝึกตนชุดดำดูป้ายห้อยเอวของนางแวบหนึ่งก็ยื่นคืนให้ “กลับกลุ่มของเจ้าไป!”
“ขอรับ!” เฟิ่งจิ่วรับคำ ก่อนจะเดินไปหากลุ่มที่ผู้ฝึกตนชุดดำคนเมื่อครู่วิ่งออกมา
ผู้ฝึกตนชุดดำละสายตาออกไป หันไปตะโกนสั่งกลุ่มอื่นๆ “เคลื่อนไหวเร็วหน่อย! ขยายพื้นที่ค้นหา! เจ้าคนนั้นน่ะ มัวยืนอึ้งอะไรอยู่”
เฟิ่งจิ่วตามกลุ่มเล็กๆ นั้นออกไป กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเฝ้ายาม พอถึงเวลาก็ไปเปลี่ยนเวรยาม นางถูกส่งไปเฝ้าอยู่ที่จุดหนึ่ง นางหันไปมองตรงนั้นแวบหนึ่ง เหมือนจะเป็นถ้ำ น่าจะเป็นที อยู่ของผู้ถือครองบัวดำ
เฟิ่งจิ่วยืนหลังตรงอยู่ข้างนอก เหมือนผู้ฝึกตนชุดดำคนอื่นๆ เมื่อเวลาผ่านไป ชายหน้ากากดอกบัวดำเดินเอามือไพล่หลังออกมาจากตรงนั้นจริงๆ
เขามองดูผู้ฝึกตนชุดดำที่กำลังเดินขวักไขว่กันอยู่ข้างนอก ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เป็นอย่างไรบ้าง”
ชายชุดดำสาวเท้าเดินเข้าไปหาเร็วๆ “นายท่าน ยังไม่พบร่องรอยขอรับ” ขณะรายงาน เขาอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าต่ำลงไปอีก น้ำเสียงเบาลง ผ่านไปครึ่งวันแล้ว พวกเขาก็ยังไม่พบร่องรอยขอ องเฟิ่งจิ่ว
………………………………….
ตอนที่ 2804 ลงมือ
ราวกับว่านางหายตัวไป หาอย่างไรก็หาไม่เจอ
ได้ยินคำพูดของชายชุดดำ แรงกดดันกระจายออกมารอบกายของผู้ถือครองดอกบัวดำ น้ำเสียงเย็นเยียบทุ้มต่ำ “ไม่เคยมีอะไรที่ข้าอยากได้แล้วไม่ได้มาก่อน!”
ครั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันแข็งแกร่งที่กระจายออกมาโดยรอบ ผู้ฝึกตนชุดดำครุ่นคิด ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “นายท่าน มีข่าวส่งมาจากเกาะเซียนเฝิงไหล บอกว่าเหมือนจะเห็นเฟิ่งจิ่วปรากฏตัว วอยู่ที่นั่น เหมือนว่า…”
ผู้ถือครองดอกบัวดำหัวเราะหยัน “หากไม่มีเหตุการณ์ที่นางปรากฏตัวขึ้นที่นี่ แล้วบอกว่านางอยู่ที่นั่นยังพอเชื่อได้ ตอนนี้นางถูกค่ายกลเคลื่อนย้ายดูดเข้ามา เจ้ายังคิดว่าคนที่ ปราฏตัวที่นั่นเป็นนางอีกหรือ”
ผู้ฝึกตนชุดดำก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรต่อ เขาก็รู้สึกแปลกเช่นกัน ตอนแรกเฟิ่งจิ่วอยู่ที่เมืองร้อยนทีแท้ๆ ต่อมาก็ถูกค่ายกลเคลื่อนย้ายกลางอากาศดูดเข้ามาที่นี่ แล้วจะไปปรากฏตัว วที่เกาะเซียนเฝิงไหลได้อย่างไร?
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เสนอความเห็นขึ้นมาว่า “แต่ว่านายท่านขอรับ คนของพวกเราตามนางไปที่เกาะเซียนเฝิงไหลตลอด เป็นไปได้หรือไม่ที่คนที่เราจับตัวผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายมา าเป็นแค่ร่างแยกหนึ่งของเฟิ่งจิ่วเท่านั้น”
ผู้ถือครองดอกบัวดำชะงักไปเล็กน้อย “ร่างแยก แม้แต่ข้ายังสร้างตัวตนที่เหมือนจริงอย่างนั้นขึ้นมาไม่ได้ ข้ามั่นใจว่าเฟิ่งจิ่วที่พวกเราจับตัวมาไม่ใช่แค่ร่างแยกแน่นอน!”
เขาเดินเอามือไพล่หลัง พลางเอ่ยว่า “คนที่ไปเกาะเซียนเฝิงไหลก็คือนางเช่นกัน เพียงแต่ฟังจากที่พวกเขาบอก ไม่นานหลังจากนั้นจู่ๆ เฟิ่งจิ่วก็กลับไปที่เมืองร้อยนที แสดงว่านางจะต ต้องมีสิ่งของที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในพริบตาแน่นอน”
เขาหรี่ตาแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า “เหมือนกับที่นางสามารถหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเรา” เขาว่า พลางเดินกลับเข้าไปในถ้ำ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายกลับเข้าไปในถ้ำ มุมปากของเฟิ่งจิ่วภายใต้หน้ากากหยักยิ้มเล็กน้อย กระทั่งถึงยามเที่ยงคืน มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาเปลี่ยนเวรยามกับพวกเขา กลุ่มของพวกเขาจึงได้พักผ่อ อน
กลางดึกสงัด เปลวไฟสว่างไสว เฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่กับคนชุดดำกลุ่มนั้นกำลังฟังพวกเขาคุยกัน คอยเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่ตรงนั้น…
หลายวันต่อมา ยังคงไร้ร่องรอยของเฟิ่งจิ่ว วันนี้ผู้ถือครองดอกบัวดำออกจากที่นี่หลังได้รับแจ้งข่าวสารหนึ่ง และในวันเดียวกันนี้เอง เฟิ่งจิ่วก็เริ่มเคลื่อนไหว
“เจอศพในป่าทิศตะวันออกหลายศพ!” ผู้ฝึกตนชุดดำคนหนึ่งตะโกนขึ้น
คนสองกลุ่มมุ่งหน้าไปตรวจสอบ แต่ใครจะรู้ สองกลุ่มที่จำนวนคนรวมกันแล้วมีถึงยี่สิบกว่าคนไปครึ่งวันแล้วก็ยังคงไร้วี่แวว
คนทางนี้สังเกตได้ถึงความผิดปกติ จึงพาคนมุ่งหน้าไปทางป่าทิศตะวันออก หัวหน้ากลุ่มในชุดคลุมสีดำไม่ได้นำหน้าเข้าไป แต่กลับโบกมือสั่ง “พวกเจ้าเข้าไปดูหน่อย!”
ผู้ฝึกตนสองคนเดินเข้าไป หลังเดินเข้าไปหลายจั้งแล้วพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงหันกลับไปบอกว่า “ไม่มี…”
ไม่ทันพูดจบ หนึ่งในนั้นก็ถูกอสูรกลืนเมฆาที่กระโจนออกมากัดคอขาด ส่วนอีกคนเห็นเพียงประกายดาบพุ่งเฉียดด้านข้างไป ไม่นานตรงลำคอก็มีเลือดไหลออกมา ก่อนที่เขาจะล้มลงไปและ สิ้นใจตายในทันที
“แย่แล้ว!”
คนที่เหลือเมื่อเห็นเหตุการณ์ต่างก็ผงะถอยหลัง เบิกตากว้างจ้องสัตว์เทวะสองตัวที่กระโจนออกมาอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่! สองตัวนี้ไม่ใช่สัตว์เทวะ! แต่เป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอดหนึ่งตัว และอสูรกลายพันธุ์อีกหนึ่งตัว!
“ไปรายงานนายท่านเร็วเข้า!” หนึ่งในผู้ฝึกตนชุดดำตะโกนสั่ง