เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2821 สัตว์เทวะขั้นสุดยอด / ตอนที่ 2822 พลัง
ตอนที่ 2821 สัตว์เทวะขั้นสุดยอด
เฟิ่งจิ่วมาถึงเรือนรับรองแขก ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากข้างนอก
“นางปีศาจ! ออกมา!”
“ออกมา!”
เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว ก่อนลุกขึ้นเดินออกไป เมื่อประตูห้องเปิดออก ก็เห็นเหล่าไป๋กำลังถลึงตามองคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในลานบ้าน ที่ซึ่งขณะนี้เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนมากมายทั้งด้านในและนอ อก คะเนจากอายุและระดับวรยุทธ์ของพวกเขา นางรู้ได้ในทันทีว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นเสาหลักของจวนเจ้าเมืองแห่งนี้
“นางปีศาจ! ไสหัวออกไปจากจวนนี้เสีย! ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกันแน่!” ลูกชายเจ้าเมืองตะคอกเสียงดัง เพียงแต่พอเขาเห็นสายตาที่เฟิ่งจิ่วมองมาก็สะดุ้งตกใจ รีบเดินไปหลบข้างหลังอย่าง รวดเร็ว
ท่ามกลางคนเหล่านั้น ชายชราหลายคนพอเห็นเฟิ่งจิ่ว ประกายประหลาดใจพลันพาดผ่านดวงตา ผู้หญิงเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมหรือบุคลิกล้วนโดดเด่นอย่างยิ่ง ท่าทางห่างไกลจากคำว่านางปีศ ศาจโขนัก
ชายชราเหล่านั้นมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคนสงบลง หนึ่งในนั้นก้าวออกมาพร้อมถามขึ้นว่า “แม่นางอยู่ในจวนเจ้าเมืองไม่ยอมไปเช่นนี้ ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใดหรือ”
เฟิ่งจิ่วเดินไปนั่งข้างโต๊ะหิน พอได้ยินคำถามก็ยิ้ม ก่อนตอบไปว่า “ไม่ใช่ข้าไม่ไป แต่เจ้าเมืองของพวกท่านขอให้ข้าพักที่นี่”
ชายชราถามอีกว่า “เจ้าเมืองของพวกเรายังไม่ตื่น ไม่ทราบเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแม่นางหรือไม่”
“ถูกต้องแล้ว” เฟิ่วจิ่วพยักหน้าตอบไปตามตรง
ได้ยินนางตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทุกคนกลับตะลึงค้าง “เหตุผลที่แม่นางทำเช่นนี้คืออะไร”
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก ก่อนจะกวาดสายตามองผ่านพวกเขา “เจ้าเมืองเป็นคนของพวกท่าน ข้าคิดว่าพวกท่านน่าจะรู้จักเขาดีไม่ใช่หรือ”
ครั้นเฟิ่งจิ่วเอ่ยประโยคนี้ออกไป สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเจ้าเมืองเป็นคนอย่างไร เพียงแต่…
“เหอะ! ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคุยกับนางอีก! ผู้หญิงเช่นนี้ ฆ่าก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งก้าวออกมา เขาชักดาบในมือ ก่อนพุ่งเข้ามาแทงไปยังเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วเพียงนั่งนิ่งๆ อยู่ที่เดิม นิ้วมือเคาะโต๊ะเบาๆ ประกายเยือกเย็นพาดผ่านดวงตา ได้ยินนางเอ่ยขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “เหล่าไป๋”
พอสิ้นเสียง เหล่าไป๋ที่รออยู่ด้านหนึ่งก็คำรามขานรับ “ข้ารอมานานแล้ว!” มันกระโจนเข้าไป หลบการโจมตีจากคนผู้นั้น ก่อนที่กีบเท้าม้าจะเตะคนผู้นั้นจนกระเด็นออกจากลานบ้าน
จู่ๆ เห็นม้าขาวตัวนั้นพูดออกมา ทุกคนพากันตกตะลึง ยังไม่ทันได้สติดี ก็เห็นผู้ฝึกตนคนนั้นถูกถีบกระเด็นออกไป และนอนล้มกระอักเลือดอยู่บนพื้นแล้ว
“อึก!”
ชายคนนั้นร้องครวญ สีหน้าย่ำแย่ ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขากลับสู้ม้าตัวเดียวไม่ได้ หากลือออกไปจะไม่ขายหน้าแย่หรือ?
“เจ้าสัตว์เดรัจฉาน! คอยดูเถอะ บิดาจะเชือดเจ้าเสีย!” ผู้ฝึกตนคนนั้นลุกขึ้น ตวัดกระบี่ในมือพุ่งตัวเข้ามาอีกครั้ง
“ข้าสิปู่ของเจ้าน่ะ! ไม่ใช่ บรรพบุรุษของเจ้าเลยต่างหาก!”
เหล่าไป๋แค่นเสียงเย้ยหยัน หลบการโจมตีจากชายคนนั้นอย่างว่องไว ขณะเดียวกันก็โจมตีกลับไปด้วย มันบีบคั้นเข้าไปทีละก้าว ทำให้ผู้ฝึกตนคนนั้นไร้หนทางถอย กระทั่งสุดท้ายก็ล้มลงไ ไปอย่างหมดสภาพ คลานหนีอย่างล้มลุกคลุกคลาน พลางตะโกนใส่เหล่าไป๋ด้วยความหวาดกลัว “เจ้าอย่าเข้ามานะ! อย่าเข้ามา!”
“นี่สัตว์กลายพันธุ์หรือ” ชายชราคนหนึ่งเอ่ยด้วยสีหน้าหนักใจ เขาจ้องเหล่าไป๋ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “เกรงว่าจะเป็นสัตว์กลายพันธุ์ระดับสัตว์เทวะเสียด้วย”
“สัตว์เทวะเช่นนั้นหรือ ข้าเป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอดแล้ว!” เหล่าไป๋เชิดหน้า สะบัดหางไปมา เอ่ยด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
………………………………….
ตอนที่ 2822 พลัง
สัตว์เทวะขั้นสุดยอด?
ทุกคน ณ ที่แห่งนั้นต่างก็ตกตะลึง ม้าตัวนี้เป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอดแล้วหรือ? เช่นนั้นผู้หญิงชุดแดงคนนั้น…
ชั่วขณะหนึ่ง หลายคนเริ่มเกิดความลังเลขึ้นมา ตั้งแต่พวกเขามาถึงที่นี่ ยังไม่เห็นท่าทีหวาดกลัวของผู้หญิงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย นางไม่แม้กระทั่งลงมือเอง ม้าตัวนั้นเป็นสัตว์เทวะขั นสุดยอด เกรงว่าพลังของเจ้าของมันคงไม่ธรรมดาเช่นกัน
เพียงแต่ อีกฝ่ายน่าจะปกปิดพลังของตนเองไว้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะดูระดับวรยุทธ์ของนางไม่ออก
“แม่นางคิดจะทำอะไรกันแน่” ชายชราถามเฟิ่งจิ่ว เขาไม่กล้าลงไม้ลงมือส่งเดช
“ปลดเจ้าเมืองของพวกท่าน หาคนมาแทนตำแหน่งของเขา” เฟิ่งจิ่วบอกความตั้งใจของตนเองออกมาตรงๆ ครั้นเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพวกเขา จึงยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า “พวกท่านจะคัดค้านก็ได้ แต่คัดค้านไปก็ไม่มีประโยชน์”
“แม่นางจะเข้ามายุ่งมากเกินไปหรือไม่ แม้จะแม่นางมีวรยุทธ์สูงส่งแค่ไหน แต่ก็คงไม่คิดว่าจะสามารถสู้พวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้หรอกกระมัง”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยยิ้มๆ “เปล่า ข้ากำลังเสนอทางรอดให้พวกท่านอยู่” นางมองพวกเขา ก่อนกล่าวว่า “อาศัยแค่เรื่องที่เจ้าเมืองของพวกท่านกล้าจับข้ากลับมา วางยา ทั้งยังคิดจะล่วงเกินข้ า ฆ่าล้างตระกูลพวกท่านก็ยังไม่นับว่าเกินไป”
ชายชราเหล่านั้นหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาไม่พูดอะไรต่อ เพียงขมวดคิ้วมองหน้านางเงียบๆ
แต่ขุนนางในจวนที่อยู่ข้างหลังกลับก้าวออกมาอย่างทนไม่ไหว “นางหญิงสามหาว! พวกข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะเก่งกาจสักแค่ไหน! ถึงได้กล้าพูดจาเช่นนี้ออกมา!”
“คิดจะให้นายท่านของข้าลงมือเอง พวกเจ้ายังมีคุณสมบัติไม่พอหรอกนะ!” เหล่าไป๋ว่า มันแค่นเสียงก่อนตั้งท่าจะพุ่งเข้าโจมตี
“เหล่าไป๋ หลบไปก่อน” เฟิ่งจิ่วสั่ง นางลุกขึ้นปัดชุดกระโปรงสีแดงพร้อมกล่าวว่า “ก็ดีเหมือนกัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้ประจักษ์ในความเก่งกาจของข้าเอง” เอ่ยจบ เงาร่างสีแดงพลันวาบผ ผ่าน พุ่งเข้าไปหาพวกเขาด้วยความเร็วดุจภูตผีปีศาจ
ขุนนางเหล่านั้นเห็นเพียงเงาร่างสีแดงโฉบผ่าน ขณะกำลังจะลงมือ หนึ่งในนั้นก็กรีดร้องขึ้นมาเสียก่อน จากนั้นก็ตัวอ่อนล้มลงไปชักกระตุกอยู่บนพื้น เสียงกรีดร้องแรกยังไม่ทันจบ เส สียงกรีดร้องต่อมาก็ดังขึ้น
เสียงกรีดร้องโหยหวนมากมายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนคนที่ล้มอยู่บนพื้น ทำให้ทุกคนผงะถอยหลังไปด้วยความตกใจ พวกเขามองเงาร่างสีแดงที่ถอยกลับไปนั่งที่โต๊ะ ในดวงตาฉายแว ววหวาดกลัว
“ซี๊ด!”
พวกคนที่ล้มอยู่บนพื้นยังคงกรีดร้องไม่หยุด พวกเขาในเวลานี้เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ บางคนดูแก่ลงทันตา บางคนก็ผอมแห้ง กลิ่นอายพลังวิญญาณในตัวพวกเขาล้วนถูกกำจัดทิ้ง วรย ยุทธ์หายไปในชั่วพริบตา จากผู้แข็งแกร่งอันสูงส่ง ร่วงตกลงมาบนพื้น กลายเป็นคนที่อ่อนแอเสียยิ่งกว่าคนธรรมดา
ขุนนางหลายคนที่มีวรยุทธ์สูง ต่างก็ถูกกำจัดวรยุทธ์ทั้งหมดทิ้งภายในไม่กี่อึดใจ หนำซ้ำยังไม่ทันได้แตะชายเสื้อของหญิงชุดแดงเลยด้วยซ้ำ ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ไม่ต้องบอกก็ คงรู้
เหล่าชายชราที่เห็นเหตุการณ์ต่างสูดหายใจลึกๆ นาทีนี้ในที่สุดก็เชื่อแล้วว่าผู้หญิงชุดแดงที่อยู่ตรงหน้ามีความสามารถที่จะฆ่าล้างตระกูลพวกเขาได้ทั้งตระกูลจริงๆ
หลังจากทบทวนและหารือกันแล้ว เหล่าชายชราหันไปโบกมือสั่งผู้ฝึกตนที่ขวัญหายเหล่านั้นพร้อมเอ่ยว่า“พวกเจ้าถอยออกไป”
“ขอรับ” คนเหล่านั้นอยากรีบออกไปจากที่นี่ไวๆ จึงพากันประคองคนที่ล้มอยู่ขึ้นมาก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังพวกเขาออกไปแล้ว เหล่าชายชราจึงหันมาถาม “ไม่ทราบว่า ท่านอยากให้ใครมาเป็นเจ้าเมือง”
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนตอบว่า “ผู้นำตระกูลหง”