เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2827 เกี่ยวข้องอย่างไรกัน / ตอนที่ 2828 เป็นใครมาจากไหน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2827 เกี่ยวข้องอย่างไรกัน / ตอนที่ 2828 เป็นใครมาจากไหน
ตอนที่ 2827 เกี่ยวข้องอย่างไรกัน
ผู้นำตระกูลหงพาเฟิ่งจิ่วกลับไปที่ตระกูลหง ครั้นเข้าไปในจวน พ่อบ้านรีบเดินออกมารายงานว่า “ท่านผู้นำตระกูล ผู้นำตระกูลทั้งหลายต่างนั่งรอท่านอยู่ในห้องโถงมานานแล้ว”
ผู้นำตระกูลหงหันไปมองเฟิ่งจิ่ว ก่อนพูดว่า “ภูตหมอ เชิญไปที่เรือนบิดาของข้าที่ด้านหลังก่อน ข้าจะไปดูสักหน่อย อีกเดี๋ยวค่อยตามไป”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ก่อนจะตามพ่อบ้านไปที่เรือนของผู้เฒ่าตระกูลหงที่อยู่ด้านหลัง
ผู้นำตระกูลหงเดินไปที่ห้องโถง ยังไม่ทันเข้าไปในห้องโถงก็ได้ยินเสียงพุดคุยดังออกมา เขามองคนที่นั่งอยู่ข้างในแวบหนึ่ง นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าผู้นำตระกูลใหญ่ ต่างๆ ล้วนมากันหมดแล้ว
เห็นผู้อาวุโสสูงสุดนั่งอยู่กับแขกในห้องโถง เขาสาวเท้าเข้าไปข้างใน ก่อนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ทุกท่านมีเวลามาหาข้าได้อย่างไร”
ครั้นเห็นเขา ทุกคนในห้องโถงต่างก็ลุกขึ้น เอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “สหายหง ท่านทำให้พวกเรารออยู่นานเลยนะ!”
“ฮ่าๆๆ ไม่ทราบว่าทุกท่านมา หากเสียมารยาทตรงไหนก็โปรดอภัยด้วย” ผู้นำตระกูลหงหัวเราะเสียงกังวาน พลางประสานมือให้ทุกคน
“คิดว่าสหายหงคงรู้เหตุผลที่พวกเรามาเยือนถึงจวน ไท่ทราบว่าสหายหงพอจะคลายความสงสัยให้แก่พวกเราได้หรือไม่” หนึ่งในผู้นำตระกูลเปิดประเด็นขึ้นมา
ผู้นำตระกูลหงเอ่ยยิ้มๆ “ทุกท่านมาเพราะเรื่องจวนเจ้าเมืองใช่หรือไม่”
ผู้นำตระกูลอวี๋หน้าบึ้ง ลุกขึ้นมาก่อนตอบออกไปตามตรงว่า “ถูกต้อง พวกข้ามาเพราะเรื่องจวนเจ้าเมือง”
“เรื่องนี้น่ะหรือ! ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดกับทุกท่านได้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! อีกสองวัน แค่อีกสองวัน เรื่องที่ทุกท่านอยากรู้ไม่ต้องให้ข้าบอก ทุกท่านก็จะรู้ เอง” เขาเอ่ย ไม่ได้พูดเรื่องที่พวกเขาอย่างรู้โดยละเอียด
ทุกคนสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ดูท่าทางอีกฝ่ายคงไม่คิดจะบอกรายละเอียดแก่พวกเขาอยู่แล้ว เห็นดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก อย่างไรเสียหากอีกฝ่ายไม่อยากพูด พวกเขาก็ไม่อา าจบังคับได้อยู่ดี
แต่ผู้นำตระกูลอวี๋เมื่อได้ยินดังนั้น กลับลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง “เจ้าคนแซ่หง เจ้ายังเห็นพวกข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ พวกเรารออยู่ที่นี่ครึ่งวัน เพื่อประโยคนี้ประโยคเดียวของเ เจ้าน่ะหรือ”
“หึๆ…ผู้นำตระกูล เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้แซ่หงจะให้ความกระจ่างได้ ตอนนี้ข้ายังมีเรื่องต้องสะสาง เกรงว่าจะอยู่คุยกับทุกท่านไม่ได้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ทุกท่านเชิญกลับไปก่อ อน อีกสองวันเรื่องราวก็จะกระจ่างเอง ถึงตอนนั้น ข้าจะเลี้ยงอาหารทุกท่านอย่างดี”
เขากล่าวโดยไม่มองสีหน้าของเหล่าผู้นำตระกูล เพียงหันไปเอ่ยกับผู้อาวุโสสูงสุดว่า “รบกวนผู้อาวุโสสูงสุดช่วยส่งทุกท่านแทนข้าที”
ผู้อาวุโสสูงสุดลุกขึ้นเอ่ยยิ้มๆ “ผู้นำตระกูลวางใจ เรื่องนี้มอบหมายให้ข้าก็พอ” จากนั้นเขาก็ผายมือพร้อมรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “ทุกท่าน เชิญเถอะ!”
เห็นอย่างนั้นแล้ว เหล่าผู้นำตระกูลคนอื่นๆ จึงลุกขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกข้ากลับก่อนก็แล้วกัน! ขอลา”
พวกเขากล่าวลา ไม่ได้รั้งอยู่นาน หลังจากประสานมือคารวะก็สาวเดินออกไปข้างนอก
ผู้นำตระกูลอวี๋ท่าทางยังอยากจะพูดอะไรต่อ ทว่าพอเห็นท่าทีของผู้นำตระกูลหง สุดท้ายจึงไม่พูดอะไร สะบัดแขนเสื้อแล้วสาวเท้าจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว ผู้นำตระกูลหงก็เดินไปที่เรือนด้านหลัง
ผู้นำตระกูลเหล่านั้นครั้นออกจากประตูจวนก็ได้ยินทหารหน้าจวนคุยกัน จึงรู้ว่าผู้นำตระกูลหงกลับมาพร้อมกับผู้หญิงชุดแดงคนนั้น
พวกเขาหันกลับไปมองแวบหนึ่ง ผู้หญิงชุดแดงคนนั้นเป็นใครมาจากไหนกันแน่? เหตุใดจึงใกล้ชิดกับตระกูลหงขนาดนี้?
………………………………….
ตอนที่ 2828 เป็นใครมาจากไหน
ครั้นได้ยินว่าผู้หญิงชุดแดงอยู่ในตระกูลหง ผู้นำตระกูลอวี๋หน้าเครียด แค่นเสียงด้วยความเดือดดาล จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปทันที ตั้งใจว่าจะเข้าไปดูในจวนตระกูลหงสักหน่อยว่าผ ผู้หญิงชุดแดงคนนั้นเป็นใครมาจากไหนกันแน่
เพียงแต่นึกไม่ถึง เพิ่งจะออกจากประตูใหญ่จวนตระกูลหงมา ตอนนี้กลับเข้าไปไม่ได้เสียแล้ว
ครั้นพบว่าตนเองถูกขวางทาง เขาแค่นเสียง สะบัดแขนเสื้อ “ข้ากลับอยากเห็นนักว่าผู้หญิงชุดแดงเป็นใครมาจากไหนกันแน่!”
เขาตัดสินใจไม่กลับแล้ว จอดรถม้ารออยู่ด้านนอกตระกูลหงโดยตรง ตั้งใจว่าจะรอผู้หญิงชุดแดงที่นี่เพื่อถามให้ชัดเจน
คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็เอ่ยยิ้มๆ “ผู้นำตระกูลอวี๋ ท่านจะทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร เขาก็บอกแล้วว่าอีกสองวันก็รู้เอง จะรออยู่ที่นี่อีกทำไมกัน”
“นั่นสิ ท่านดูนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว แดดก็ร้อน เหตุใดต้องทนร้อนอยู่ที่นี่เล่า”
พวกเขาพูดยิ้มๆ พลางเกลี้ยกล่อม ใครจะรู้อีกฝ่ายกลับฟังไม่เข้าหู ดื้อดึงจะรออยู่ที่นี่ เห็นดังนั้นพวกเขาจึงมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมจากไป
ในตระกูลหง
เฟิ่งจิ่วเดินเข้ามาในห้องของผู้เฒ่าหง ตอนที่มาถึง ก็เห็นผู้เฒ่าหงนอนจ้องเพดานเตียงอย่างครุ่นคิด ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
พ่อบ้านที่มาด้วยกันกระซิบเรียกเบาๆ “ท่านผู้เฒ่า ภูตหมอมาแล้วขอรับ”
ได้ยินอย่างนี้ ผู้เฒ่าหงจึงค่อยได้สติ เขาหันไปมองผู้หญิงชุดแดงที่ยืนอยู่ข้างเตียง ลอบพิจารณาเงียบๆ นี่ก็คือภูตหมอเฟิ่งจิ่วหรือ?
ชุดสีแดงสะดุดตา ดวงหน้างดงามล่มเมือง กลิ่นอายสูงส่งของผู้ที่อยู่เหนือกว่า ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ล้วนไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ภูตหมอ อภัยด้วยที่ข้าไม่อาจลุกขึ้นมาต้อนรับ” เขาเอ่ยขออภัย
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ยกมือบอกว่า “ไม่เป็นไร ผู้เฒ่าหงนอนเถิด”
นางเดินมาหยุดที่ข้างเตียง นั่งลงบนเก้าอี้ที่พ่อบ้านยกมา ก่อนพูดกับผู้เฒ่าหงว่า “ข้าจะช่วยดูอาการให้ท่านผู้เฒ่าอีกครั้งก็แล้วกัน!”
ผู้เฒ่าหงกล่าว “ลำบากแล้ว” ก่อนจะยื่นแขนออกมา
เฟิ่งจิ่วยื่นมือไปวางที่ข้อมืออันผ่ายผอมคู่นั้น หลังจากที่ตรวจจับชีพจรอย่างละเอียด ก็ถามเกี่ยวกับอาการของเขาเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งนางจึงดึงมือกลับ ก่อนเอ่ยว่า “ข้าจะฝังเข ข็มให้ท่านผู้เฒ่าอีกรอบก็แล้วกัน! อีกเดี๋ยวจะเขียนเทียบยาให้ กินติดต่อกันสองวันก็พอ”
ผู้เฒ่าหงเผยสีหน้าซาบซึ้ง “ครั้งนี้โชคดีที่ได้ภูตหมอช่วยไว้จริงๆ หากไม่ได้ภูตหมอ เกรงว่าข้าอายุปูนนี้คงจะต้องตายไปทั้งอย่างนี้แล้ว”
เฟิ่งจิ่วเพียงยิ้มๆ ก่อนจะเอาเข็มเงินออกมาจากห้วงมิติ เพื่อฝังเข็มขับไล่ชี่และเลือดที่อุดตัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง นางเก็บเข็มเงิน ก่อนจะเดินไปเขียนเทียบยาที่โต๊ะ ผู้นำตระกูลหงก็มาถึงพอดี
“ภูตหมอ ไม่ทราบว่าอาการของบิดาข้าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” เขาถาม พลางมองนางที่กำลังเขียนเทียบยา
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ นี่คือเทียบยา ต้มยาดื่มสองวันก็พอแล้ว” เฟิ่งจิ่วแนะนำ ยื่นเทียบยาที่เขียนเสร็จแล้วให้เขา
ผู้นำตระกูลหงรีบรับไว้ด้วยมือสองข้าง เขาเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณภูตหมอมาก ข้าให้ห้องครัวเตรียมสุราอาหารและจัดวางไว้เรียบร้อยแล้ว เชิญภูตหมอ…” เอ่ยยังไม่ทัน จบ เฟิ่งจิ่วก็ตัดบทเขาเสียก่อน
“ไม่ต้องแล้ว ข้ายังต้องกลับไปสะสางบางอย่างที่จวนเจ้าเมืองอีก ข้าคงไม่อยู่ที่นี่นาน อย่างมากอีกสองวันข้าก็จะไปแล้ว”
ผู้นำตระกูลชะงักเล็กน้อย “ภูตหมอจะจากไปเร็วเช่นนี้เลยหรือ ไม่อยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อยเล่า”