เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2833 กลับเวิ้งสวนท้อ / ตอนที่ 2834 เสี่ยวจิ่วกลับมาแล้ว
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2833 กลับเวิ้งสวนท้อ / ตอนที่ 2834 เสี่ยวจิ่วกลับมาแล้ว
ตอนที่ 2833 กลับเวิ้งสวนท้อ
หลังได้รับอนุญาตจากเฟิ่งจิ่ว พวกเขาจึงพาผู้นำตระกูลอวี๋เข้ามา จากนั้นก็ยืนดูเฟิ่งจิ่วรักษาผู้นำตระกูลอวี๋ในลานบ้านนั้นเอง…
ยามพลบค่ำ ตอนที่ผู้นำตระกูลอวี๋ถูกส่งตัวกลับไป ปากของเขาหายเบี้ยวแล้ว แม้ร่างกายครึ่งซีกจะยังไม่สามารถควบคุมได้ เขาก็รู้สึกซาบซึ้งมากแล้ว เพราะภูตหมอบอกเขาว่า ขอเพียงบ บำรุงรักษาร่างกายสักครึ่งเดือนก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ผลลัพธ์เช่นนี้จะไม่ทำให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไร?
หลังจากกลับจวนไป เขาได้ส่งคนนำของขวัญแทนคำขอบคุณมามอบให้ เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยงที่จะรับไว้
วันนี้ คนของตระกูลหงเป็นคนจัดแจงเลือกวันมงคลย้ายเข้าไปอยู่ในจวนเจ้าเมือง และทางจวนเจ้าเมืองเองก็ได้กระจายข่าวเรื่องการเปลี่ยนตัวเจ้าเมือง โดยมีผู้นำตระกูลหงรับตำแหน่งต่ อ
ครั้นข่าวถูกปล่อยออกไป ชาวบ้านในเมืองต่างโห่ร้องด้วยความยินดี บอกได้เพียงว่า คนของตระกูลหงได้รับใจของผู้คนในเมืองไปเต็มๆ การที่เขาได้เป็นเจ้าเมือง ก็นับว่าเป็นความปรารถ ถนาของพวกเขา
วันต่อมา พอคนของตระกูลหงมาที่เรือนที่เฟิ่งจิ่วพักอยู่อีกครั้ง กลับพบว่าม้าขาวรวมไปถึงเจ้านายของมันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว…
ขณะเดียวกัน ในเวิ้งสวนท้อของอดีตราชวงศ์เฟิ่งหวง เงาร่างสีแดงดุจเทพเซียนกำลังเดินทอดอารมณ์อยู่ในสวนท้อ สายลมพัดผ่านเบาๆ ดอกท้อร่วงโรยไม่ขาดสาย ชุดสีแดงพลิ้วไหวไปตามย่างก้า าวของนางราวกับบุปผาเบ่งบาน ในขณะเดียวกันก็คล้ายระลอกคลื่นที่กระจายเป็นวงกว้าง งดงามอย่างยิ่ง
ตั้งแต่จากไปครั้งนั้น นางก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย ตอนนี้พอได้เห็นอีกครั้ง ให้รู้สึกราวกับว่าทุกอย่างยังคงเดิม ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปเลย นางทอดถอนใจ ความรู้สึกมากมายประดังประเด ดเข้ามา
ขณะที่นางกำลังเดินอยู่ในสวนท้อ ก็ได้ยินเสียงพูดคุยที่คุ้นเคยดังมารางๆ
“ที่นี่เป็นเวิ้งสวนท้อของเสี่ยวจิ่ว แต่ก่อนนางชอบมาพักที่นี่ พวกเจ้าอุตส่าห์มีโอกาสได้มาที่นี่ทั้งทีก็เดินชมให้ทั่วๆ เถอะ!” เสียงของกวนสีหลิ่นดังขึ้นในสวนท้อ
ตอนที่ได้ยินเสียงนี้ เฟิ่งจิ่วชะงักไปก่อนจะยิ้มออกมา ที่แท้ก็เป็นพี่ชายของนางนี่เอง? เขาพาพวกเฟิ่งเยี่ยมาเที่ยวที่นี่หรือ?
นางครุ่นคิดในใจ ก่อนจะเก็บซ่อนกลิ่นอายแล้วเดินตามเสียงไป ครั้นมาถึงมุมหนึ่งของสวนท้อ นางก็เห็นพวกเขาอยู่ตรงนั้นจริงๆ เพียงแต่พี่ชายของนางอยู่ใต้ต้นไม้ ในขณะที่เฟิ่งเยี่ยกั บจ้าวหยางกำลังนั่งแกว่งขาอยู่บนต้นท้อต้นหนึ่ง
นางยิ้มๆ ก่อนจะซ่อนเงาร่างของตนเองอย่างมิดชิด เด็ดดอกท้อขึ้นมาหนึ่งดอกแล้วขว้างใส่เฟิ่งเยี่ย กวนสีหลิ่นที่อยู่ใต้ต้นไม้เห็นดังนั้นก็ตวาดเสียงดังลั่น “ใครน่ะ!” ขณะเดียวกัน นก็ยกมือขึ้นปัดป้องดอกท้อดอกนั้น
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นรอยยิ้มก็ยิ่งกว้างขึ้น นางขว้างดอกท้อออกไปอีกหลายท้อ และครั้งนี้ ไม่เพียงขว้างไปทางเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางเท่านั้น ยังขว้างใส่กวนสีหลิ่นอีกด้วย
กวนสีหลิ่นปัดป้องได้ส่วนหนึ่ง ก่อนค้นพบว่าดอกท้อเหล่านั้นไม่ได้พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงนัก ทั้งยังไร้ซึ่งไอสังหาร ในใจนึกสงสัย เขาถอยหลังเล็กน้อย ก่อนเห็นว่าดอกท้อเหล่านั นพุ่งไปทางเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางเท่านั้น แทนที่จะบอกว่าโจมตี บอกว่าแกล้งพวกเขาเล่นจะเหมาะกว่า
เขาหันไปมองทางจุดที่ดอกท้อพุ่งเข้ามา เห็นชายชุดกระโปรงสีแดงรางๆ กวนสีหลิ่นตะลึง ก่อนที่ความดีใจเหลือล้นจะเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว เป็นเสี่ยวจิ่วหรือ? เสี่ยวจิ่วมาถึงแล้ว วหรือ? เด็กคนนี้มาถึงแล้วแต่กลับไม่ยอมแสดงตัว ยังซ่อนตัวแกล้งพวกเขาจากในที่มืดอีก
เขาส่ายหน้าเงียบๆ ก่อนจะเห็นเฟิ่งจิ่วโน้มตัวออกมาโบกมือให้เขา ในตอนนี้เอง เฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางก็ตะโกนขึ้น “ใครหน้าไหนกล้าโจมตีข้า!”
ทั้งสองกระโดดลงมาจากต้นท้อ พลางหลบเลี่ยงไปด้วย กระทั่งดอกท้อที่พุ่งเข้ามาหยุดลง พวกเขาจึงเห็นเงาร่างสีแดงที่เดินออกมาจากด้านหลังต้นท้อ
“อ๊ะ! หลานสาวตัวน้อยเองหรือ!” เฟิ่งเยี่ยยิ้มตาหยี
………………………………….
ตอนที่ 2834 เสี่ยวจิ่วกลับมาแล้ว
ได้ยินคำว่าหลานสาวตัวน้อย เฟิ่งจิ่วอดที่จะรู้สึกขนลุกขนพองไม่ได้ ถูกเจ้าเด็กเปรตที่อายุน้อยกว่าตนเองขนาดนั้นเรียกว่าหลานสาวตัวน้อย ช่างเสียเปรียบจริงๆ!
“พี่สาวเฟิ่ง” จ้าวหยางเห็นนางแล้วดีใจมาก วิ่งเหยาะๆ มาหยุดยืนข้างนาง ก่อนจะขานเรียก
เฟิ่งจิ่วยื่นมือออกไปลูบหัวเขา “หยางหยางฝึกท่าร่างได้ไม่เลว ต้องหมั่นฝึกซ้อมต่อไปนะ!”
“อื้มๆ” จ้าวหยางยิ้มอย่างมีความสุข พลางพยักหน้ารับ
“เสี่ยวจิ่ว มาถึงตั้งแต่เมื่อใด เจ้ามาคนเดียวหรือ แล้วพวกโม่เจ๋อเล่า” กวนสีหลิ่นเดินเข้ามาพร้อมถาม
“ข้าไม่ได้มาพร้อมกับพวกเขา” เฟิ่งจิ่วตอบ
กวนสีหลิ่นได้ยินอย่างนั้นก็ถามอีกว่า “หลังจากที่พวกเราออกเดินทางมา เกิดอะไรขึ้นอีกใช่หรือไม่ เจ้าไปบันไดสู่แดนเซียนมาแล้วหรือยัง”
“ไปมาแล้ว เรื่องนี้ไว้ข้าค่อยเล่าให้ท่านฟัง ตอนนี้คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคคงเล่าได้ไม่หมด” นางเอ่ยยิ้มๆ “ข้าเองก็เพิ่งมาถึง ได้ยินเสียงจึงรู้ว่าพวกท่านก็อยู่ที่นี่”
“ใช่! ข้าอยากพาพวกเขามาเดินชมที่นี่ หลังจากนั้นสองสามวันค่อยส่งพวกเขากลับไป” กวนสีหลิ่นเอ่ย ก่อนจะพูดอีกว่า “ท่านปู่กับคนอื่นๆ เห็นเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางกลับมาก็ดีใจมากเลย ยล่ะ”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “ได้เจอกันก็ดีแล้ว”
“เสี่ยวจิ่ว พวกเรากลับบ้านพร้อมกันเถอะ! หากท่านพ่อกับท่านแม่ของข้ารู้ว่าเจ้ากลับมาแล้วจะต้องดีใจมากแน่ๆ อ้อ ยังมีพี่ชายกับพี่สะใภ้ของข้าด้วย” เขายักคิ้วหลิ่วตา พูดด้วยใ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เด็กบ้า” เฟิ่งจิ่วเคาะหัวกะโหลกของเขาหนึ่งที
“ข้าเป็นท่านอาน้อยของเจ้านะ” เฟิ่งเยี่ยค้าน
“เจ้าค่ะ ท่านอาน้อย ไปกันเถอะ! กลับบ้านกัน” นางยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มๆ ของเขา ก่อนจะจูงมือของเขาแล้วหันไปมองกวนสีหลิ่น “ท่านพี่ เยี่ยจิงเล่า”
“นางกลับบ้านไปแล้ว” กวนสีหลิ่นตอบ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “กลับไปก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็ปลอดภัย แล้วท่านตั้งใจจะไปสู่ขอนางเมื่อใด”
“เรื่องนี้…” เขาหัวเราะอย่างเคอะเขิน “ข้าตั้งใจว่าจะไปหาท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมให้พวกเขาจัดแจงให้ เพียงแต่พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย”
“อย่างนั้นก็หาเวลาจัดการให้เรียบร้อยเถอะ! อย่าปล่อยให้เยี่ยจิงรอนาน” นางยิ้มบอก
“อืม ข้ารู้” เขาพยักหน้า ที่จริงกลับมาครั้งนี้เขาก็ตั้งใจจะกลับมาจัดการเรื่องนี้เช่นกัน
พวกเขาออกจากเวิ้งสวนท้อ ขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่ที่ตีนเขา มุ่งหน้าไปยังจวนเฟิ่ง…
ครั้นรถม้ามาจอดที่หน้าประตูจวน เฟิ่งจิ่วลงจากรถม้า คนเฝ้าประตูเห็นแล้วก็ตะลึง ก่อนรีบวิ่งเข้าไปรายงานด้านใน “คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว! คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วขอรับ!”
คนในจวนได้ยินก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ พอทราบเรื่องก็รีบไปรายงานที่เรือนต่างๆ ทันที
“ใครนะ แม่หนูเฟิ่งหรือ เจ้ากำลังบอกว่าแม่หนูเฟิ่งกลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ” เฟิ่งซานหยวนได้ยินก็ดีใจ
“เร็ว พวกเราไปดูกัน” ซู่ซีลุกขึ้น ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับพวกเขา
ในเรือนอีกหลัง เฟิ่งเซียวพอได้ยินข่าวก็รู้สึกเหนือความคาดหมาย “เสี่ยวจิ่วกลับมาแล้วหรือ”
ซั่งกวนหวั่นหรงที่กำลังเย็บปักถักร้อยเพื่อฆ่าเวลาอยู่นั้น ครั้นได้ยินว่าเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้วก็ทำเข็มทิ่มนิ้วตนเอง นางลุกขึ้นด้วยความดีใจ “เสี่ยวจิ่วหรือ เสี่ยวจิ่วกลับมาแล้ วจริงหรือ”
“ฮูหยิน พวกเรารีบไปดูกันเถอะ เด็กคนนี้ไม่ได้กลับมานานแล้ว ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง” เฟิ่งเซียวเอ่ย ก่อนจะจูงมือนางเดินออกไป ครั้นเห็นฝีเท้าของนางเร็วกว่าเขาเสียอีก ก ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “ฮูหยิน ไม่ต้องร้อนใจ อย่างไรก็ได้เจอ”
ตอนที่เฟิ่งจิ่วเข้ามาในลานสวน ก็เห็นคนในครอบครัวของนางกำลังสาวเท้าเร็วๆ มาหานาง…