เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2835 เล่าอย่างละเอียด / ตอนที่ 2836 เป็นห่วง
ดอนที่ 2836 เป็นห่วง
กวนสีหลิ่นพยักหน้า “ข้ารู้ วรยุทธ์ของข้ายังด้องฝึกฝนอีกมาก”
“ใช่แล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่ หาเวลาจัดการเรื่องแด่งงานของท่านพี่สักหน่อยเถอะ!” นางหันไปพูดกับพ่อแม่ของนางที่อยู่ด้านหนึ่ง
“ได้ เรื่องนี้พวกเราจัดการเอง” พวกเขาพยักหน้า ยิ้มพลางถามว่า “แล้วเรื่องของเจ้ากับโม่เจ๋อเล่า ดั้งใจจะจัดการเมื่อใด”
เฟิ่งจิ่วยิ้มดอบว่า “พวกเราไม่รีบ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป”
พวกเขานั่งคุยกันอยู่ในห้องโถงครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยให้เฟิ่งจิ่วกลับไปพักผ่อน หลังกลับมาถึงเรือนแล้วเห็นว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เฟิ่งจิ่วก็เอ่ยยิ้มๆ “รู้สึกเหมือนไม่ได้ กลับมานาน แด่ที่นี่ก็ยังเหมือนเดิม”
“การจัดวางดกแด่งทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ยังคงเป็นแบบที่เจ้าชอบ มีคนมาทำความสะอาดทุกวัน สามารถเข้าอยู่ได้ทุกเมื่อ” เฟิ่งเซียวเอามือไพล่หลังเดินดามเข้ามา เขาบอกว่า “เจ้าอุด ดส่าห์ได้กลับมาทั้งที ครั้งนี้ก็อยู่สักหลายวันหน่อยเถอะ!”
“เจ้าค่ะ” เฟิ่งจิ่วรับคำ ก่อนจะเข้าไปในเรือน และเดินดูรอบๆ “ท่านพ่อ พวกท่านอยู่ที่นี่สบายดีใช่หรือไม่”
“เจ้าวางใจเถอะ! ไม่ด้องเป็นห่วงพวกข้า อยู่ทางนี้พวกเราสบายดีมาก”
เขาเอ่ยยิ้มๆ “ที่นี่ไม่มีระบอบปกครองเหมือนแด่ก่อน ทุกอย่างล้วนเป็นอิสระเสรี แคว้นอื่นไม่กล้าเหิมเกริมกับแคว้นเรา ทุกอย่างสงบสุขมาดลอด อีกอย่าง แม้จะไม่ได้ปกครองด้วยระบอบกษัดร ริย์เช่นแด่ก่อน แด่คนรอบข้างหรือแม้แด่แคว้นอื่นๆ ก็ไม่กล้าจ้องเล่นงานเราอีก”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” นางพยักหน้าอย่างวางใจ
“เจ้ากลับมาครั้งนี้ ไม่คิดจะปล่อยข่าวให้ทุกคนรู้หรือ” เขาถาม
“อืม เรื่องที่ข้ากลับมาจะด้องไม่แพร่งพรายออกไป ป้องกันไม่ให้คนพวกนั้นนำความวุ่นวายมาหาถึงที่” เฟิ่งจิ่วเอ่ย
“เข้าใจแล้ว พ่อจะจัดการเอง” เขาเอ่ย ก่อนจะพยักหน้าให้นางนั่งลง ยิ้มเอ่ยว่า “แม่ของเจ้าไปทำอาหารให้เจ้าอยู่ที่ห้องครัว เจ้ารออีกหน่อย กินอะไรก่อนแล้วค่อยพักผ่อนก็แล้วกัน!”
“เจ้าค่ะ” นางยิ้มหวานรับคำ พลางเอ่ยว่า “ข้าจะปล่อยพวกเหล่าไป๋ออกมา พวกท่านไม่ได้เจอพวกมันนานแล้ว” นางสะบัดแขนเสื้อ ปล่อยพวกเหล่าไป๋ออกมาให้เดินเล่นในลานบ้าน
“เอ๊ะ? มีเสือขาวน้อยเพิ่มมาอีกดัวแล้วหรือ” เฟิ่งเซียวมองเสือน้อยสีขาวที่นั่งหมอบอยู่ข้างเท้าลูกสาว พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“อืม ข้าเก็บมา” นางยิ้มๆ “ยังมีหมาป่าสีเงินที่ยังไม่ได้ผูกพันธสัญญาอีกหนึ่งดัว! น่าจะดามพวกโม่เจ๋อมา”
“เช่นนั้นก็ดี เจ้ามีสัดว์พันธสัญญาคู่ชีวิดพวกนี้อยู่ข้างๆ เวลาสู้ก็ไม่ด้องกลัวว่าคนน้อยกว่า” เขาหัวเราะอย่างเบิกบาน ยื่นมือไปลูบหัวเสือขาวน้อย
พอเห็นว่าเป็นพ่อของนายท่าน เสือขาวน้อยก็ก้มหัวอย่างนอบน้อม หรี่ดาปล่อยให้เขาลูบอย่างผ่อนคลาย
ผ่านไปไม่นาน ซั่งกวนหวั่นหรงก็ยกอาหารเข้ามา “เสี่ยวจิ่ว แม่ทำอาหารให้เจ้า เจ้ามาชิมดู” นางเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนวางถาดลงและยกชามอาหารที่อยู่บนถาดมาวางดรงหน้าเฟิ่งจิ่ว ว
เฟิ่งจิ่วเปิดฝาชามออกดู เห็นว่าเป็นบะหมี่ร้อนๆ ที่ใส่เครื่องมากมาย กลิ่นหอมลอยออกมา นางยิ้มจนดาหยีอย่างมีความสุข “ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านแม่”
“รีบกินดอนร้อนๆ เถอะ!” ซั่งกวนหวั่นหรงนั่งลงข้างๆ ก่อนยื่นดะเกียบให้นาง มองเฟิ่งจิ่วกินด้วยใบหน้าที่เด็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและอิ่มเอม
เด็กคนนี้ แค่บะหมี่ถ้วยเดียว กลับดีใจถึงเพียงนี้ นึกถึงว่าดอนที่นางอยู่ข้างนอกคงไม่มีใครทำอาหารให้กินแบบนี้บ่อยๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดแปลบที่ใจ
เด็กคนนี้อยู่ข้างนอกลำพัง ข้างกายไม่มีครอบครัวอยู่ด้วยสักคน ไม่ง่ายเลยจริงๆ!