เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2837 ล่วงหน้ามา / ตอนที่ 2838 เสียงที่ไม่ได้ยินมานาน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2837 ล่วงหน้ามา / ตอนที่ 2838 เสียงที่ไม่ได้ยินมานาน
ตอนที่ 2837 ล่วงหน้ามา
“ท่านแม่ ฝีมือท่านแม่ดีจริงๆ” เฟิ่งจิ่วชมขณะกินบะหมี่ไปด้วย ไม่รู้เป็นเพราะว่าหิวหรืออะไร ถึงได้รู้สึกว่าอร่อยเป็นพิเศษ
ซั่งกวนหวั่นหรงขอบตาร้อนผ่าว “เด็กโง่ เจ้าชอบกิน แม่จะทำให้กินทุกวันเลย”
“ดี” เฟิ่งจิ่วยิ้มก่อนจะกินต่อ กระทั่งบะหมี่ชามใหญ่หมดเกลี้ยง นางจึงค่อยวางตะเกียบลง
“ฮู่ว์! อิ่มมาก” นางลูบท้อง
เฟิ่งเซียวกับซั่งกวนหวั่นหรงส่ายหน้ายิ้มๆ เวลานี้เอง เหล่าสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตก็รายล้อมเข้ามา “นายท่าน พวกข้าก็หิวแล้ว” เหล่าไป๋ส่ายหางไปมาขณะบอก
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! เสี่ยวจิ่วพักผ่อนเถอะ ข้าจะพาพวกมันไปข้างหน้า” เฟิ่งเซียวบอกพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้น
ซั่งกวนหวั่นหรงเองก็ลุกขึ้นตาม นางยกชามใส่ถาด “เจ้าพักผ่อนเถอะ! อยู่บ้านก็ผ่อนคลายเสีย ไม่ต้องห่วงว่าจะมีอันตรายอะไรอีก”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ลุกขึ้นส่งพวกเขา ก่อนจะกลับเข้ามาในลานบ้าน
เฟิ่งจิ่วเดินลูบท้องอยู่ในลานบ้าน นางไม่ได้พักผ่อนทันที แต่เดินไปที่หลังภูเขา พวกเขาบอกว่าหงส์ไฟกำลังฝึกวรยุทธ์อยู่ในถ้ำหลังเขา ตอนนี้มันยังไม่รู้ว่านางกลับมาแล้ว! ตอนน นี้กินอิ่มแล้ว ถือโอกาสเดินไปดูมันเสียหน่อย
ครั้นเดินมาถึงถ้ำหลังเขา เฟิ่งจิ่วเดินผ่านค่ายกลเข้าไป พอเห็นเขตอาคมที่ถูกสร้างไว้ นางก็ยิ้มออกมา ดูท่าแม้นางจะไม่อยู่ข้างมัน มันก็หมั่นฝึกฝนด้วยตนเองอยู่เสมอ
หงส์ไฟที่กำลังฝึกวรยุทธ์อยู่ในถ้ำสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคย มันชะงักงันก่อนจะลืมตาขึ้น เก็บงำกลิ่นอายและกระพือปีกบินออกจากถ้ำ พอเห็นเงาร่างสีแดงสะดุดตาที่กำลังจะหมุนตัว วเดินกลับไป มันก็ตะโกนเรียกขึ้นอย่างตื่นเต้น
“นายท่าน!” มันบินไปหาเฟิ่งจิ่วอย่างรวดเร็ว
เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินเสียงเรียกก็หันกลับมา เห็นหงส์ไฟกระพือปีกบินเข้ามาในอ้อมแขนของนาง นางยิ้มพลางยื่นมือออกไปกอดมันไว้ “ข้าเห็นเจ้ากำลังฝึกวรยุทธ์ จึงไม่อยากรบกวน”
“นายท่าน นายท่าน! ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว”
หงส์ไฟตะโกนอย่างลิงโลด ขณะนั้นเอง เสียงกะต๊ากๆ ก็ดังขึ้น มันหันกลับไปมองด้านหลัง เห็นสิ่งมีชีวิตสีเขียวตัวหนึ่งกำลังกระพือปีกพุ่งเข้ามา ซ้ำยังร้องกะต๊ากๆ ไม่หยุด
“นายท่าน! นายท่าน! กะต๊ากๆๆ…นายท่าน!”
เฟิ่งจิ่วตะลึง หันไปมองเจ้าขนเขียวที่พุ่งเข้ามา “อ๊ะ! เจ้าขนเขียวนี่นา!” นางเกือบลืมไปแล้วว่ามีไก่ขนเขียวอยู่ตัวหนึ่งด้วย
หงส์ไฟได้ยินเสียงของเจ้าขนเขียวก็รีบผละออกจากอ้อมกอดของเฟิ่งจิ่ว มันสะบัดปีก กระแสลมพัดออกไป พาเอาร่างเจ้าขนเขียวปลิวออกไป
“กะต๊ากๆๆ! นายท่าน!”
เฟิ่งจิ่วอดหัวเราะไม่ได้ “เอาล่ะๆ อย่าเอะอะโวยวายกันอีกเลย ในเมื่อออกมาแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้าออกไปด้านหน้าก็แล้วกัน! พวกเหล่าไป๋อยู่ที่จวน”
นางโบกมือเรียกหงส์ไฟกับเจ้าขนเขียวไปรวมตัวกับพวกเหล่าไป๋ที่จวน แต่พอมาถึงจวน เจ้าขนเขียวกลับเอาแต่วนเวียนอยู่ใกล้นางไม่ยอมไปไหน ตรงกันข้ามพอนางไปไหน มันก็เอาแต่ร้องกะต๊ ากๆ และเรียกเจ้านายๆ ตามหลังนางตลอด
เฟิ่งจิ่วสั่งให้เหล่าสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตรวมตัวกัน ส่วนตนเองกลับมาอาบน้ำและพักผ่อนที่เรือน จากนั้นก็เผลอหลับ ไปจนถึงเช้าของอีกวัน…
ในเวลาเดียวกันนี้เอง นางไม่รู้เลยว่าโม่เจ๋อกำลังอุ้มเด็กและพาพวกเหลิ่งซวงเข้ามาในอาณาเขตของราชวงศ์เฟิ่งหวงแล้ว พวกเขากำลังนั่งเรือบินมุ่งหน้ามาที่เมือง
มองดูจุดหมายปลายทางที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หัวใจของเซวียนหยวนโม่เจ๋อก็ตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วอยู่ที่ใด?
………………………………….
ตอนที่ 2838 เสียงที่ไม่ได้ยินมานาน
นางรอดพ้นจากอันตรายและกลับถึงบ้านแล้วหรือยังนะ?
นึกถึงตรงนี้ เขามองไปข้างหน้าอย่างกังวล หัวใจตึงเครียดเล็กน้อย กลัวว่าหากไปถึงที่นั่นแล้วจะไม่เห็นเงาร่างของนาง
เหลิ่งซวงและเหลิ่งหวานั่งอยู่ด้านหนึ่ง พวกเขามองเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่อุ้มเด็กและมองไปข้างหน้า สองพี่น้องมองหน้ากัน ก่อนที่เหลิ่งหวาจะเดินเข้าไปหาพลางเอ่ยว่า “เจ้าตำหนัก ก อีกครึ่งชั่วยามก็น่าจะถึงแล้ว พวกเราจะตรงเข้าเมืองเลย หรือจะจอดเรือบินไว้นอกเมือง”
“ตรงเข้าเมืองเลยก็แล้วกัน!” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะถอยไปยืนที่เดิม
ไป๋ชิงเฉิงมองไปข้างหน้า หัวใจตึงเครียดเล็กน้อย ที่นี่ก็คือที่นี่นายท่านเติบโตมาอย่างนั้นหรือ? นางไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มาเยือนสถานที่ที่นายท่านเติบโตมา ยิ่งไม่เคยคิด ดว่านายท่านจะเลือกนางจากบรรดาลูกน้องที่ภักดีขนาดนั้น และพานางไปยังโลกอีกใบหนึ่ง
ตอนที่นางรู้เรื่องนี้ หัวใจของนางนอกจากตกตะลึงแล้วก็มีเพียงความซาบซึ้ง ขณะเดียวกันก็คิดกับตนเองอย่างมาดมั่นว่า แม้ในอนาคตข้างหน้านางจะประสบความสำเร็จอีกมากแค่ไหนก็ตาม ทว่า นายท่านก็จะยังคงเป็นนายท่านของนางตลอดไป!
“เอิ้กๆ!”
เด็กน้อยในอ้อมแขนของโม่เจ๋อแกว่งมือเล็กๆ ไปมา ดวงหน้าประณีตละเอียดอ่อนแย้มยิ้มอย่างเบิกบาน ดวงหน้าและเสียงหัวเราะไร้เดียงสาของเด็กน้อยทำให้หัวใจที่ตึงเครียดของเซวียนหยวนโม่เ เจ๋อค่อยๆ ผ่อนคลายลง
เขาหยอกเด็กน้อยเล่น ก่อนเอ่ยว่า “พาเจ้าไปหาแม่ของเจ้า แม่ของเจ้ารอพวกเราอยู่ที่บ้าน!”
“เอิ้กๆๆ…”
เจ้าตัวน้อยแกว่งมือไปมา หัวเราะอย่างร่าเริง น้ำลายไหลอาบปากน้อยๆ
โม่เจ๋อหยักยิ้มเล็กน้อย หันไปเอ่ยกับเหลิ่งซวง “พาห้าวเอ๋อร์ไปป้อนข้าวเถอะ!”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงก้าวเข้ามารับเด็กไป
เขาลุกขึ้น ก่อนเดินไพล่หลังไปที่หัวเรือบิน เมฆขาวลอยเคลื่อนผ่านไป ภาพความเจริญรุ่งเรืองปรากฏขึ้นเบื้องหน้า…
เฟิ่งจิ่วในตอนนี้เพิ่งล้างหน้าล้างตาหลังจากตื่นนอน เมื่อกินมื้อเช้าเสร็จ นางเข้าห้องกลั่นยาเพื่อกลั่นยา ส่วนเหล่าสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตต่างเดินเล่นกันอยู่ในจวน แม้แต่หงส์ ไฟก็บินไปบินมาอย่างมีความสุขด้วย
เพราะนายท่านของมันกลับมาแล้ว พอนายท่านกลับมา มันก็ไม่อยากกลับไปฝึกวรยุทธ์ที่ถ้ำอีก
ผู้คนในจวนครึกครื้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ผู้เฒ่าเฟิ่งกับคนอื่นๆ กำลังหารือกันเรื่องการเตรียมสินสอดสู่ขอของกวนสีหลิ่น ขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งที่ไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นใ ในจวน
“ครืน!”
ตอนที่ได้ยินเสียงนี้ คนในจวนต่างก็อึ้งงัน เกิดอะไรขึ้น? คงไม่ใช่ว่ามีใครมาบุกโจมตีจวนของพวกเขากระมัง?
ครั้นนึกได้ดังนั้น พวกเขาจึงรีบเหินกายตามเสียงไปอย่างรวดเร็ว พอมาถึงห้องกลั่นยา หัวใจที่ตึงเครียดก็พลันผ่อนคลายลง “ที่แท้เสี่ยวจิ่วก็กำลังกลั่นยาอยู่นี่เอง เด็กคนนี้ ขน นาดกลั่นยายังทำให้คนอื่นตกใจได้”
“ฮ่าๆๆ ไม่ได้ยินเสียงเตาระเบิดมานานแล้ว ไม่ชินเลยจริงๆ!” เฟิ่งเซียวหัวเราะเสียงดัง มองดูเงาร่างที่สวมชุดลำลองเดินไอออกมาจากห้องกลั่นยาพลางยิ้ม ก่อนจะหันไปเอ่ยกับกลุ่มคนด้า านหลังว่า “แยกย้ายกันเถอะๆ อย่ารบกวนเวลานางกลั่นยาดีกว่า” เฟิ่งเซียวเอ่ยขณะเดินกลับไป
ด้วยเหตุนี้ ใช้เวลาไม่นานกลุ่มคนที่มาตามเสียงก็แยกย้ายกันกลับไป
“แค่กๆ” เฟิ่งจิ่วยกแขนขึ้นปิดจมูกพร้อมไอไปด้วย นางยกแขนเสื้ออีกข้างพัดควันในอากาศให้จางไป มองดูเตาที่ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ก่อนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอาเตาที่นาง งใช้กลั่นยาบ่อยๆ ออกมาจากห้วงมิติ
นางตั้งใจจะกลั่นยาวิญญาณใหม่อีกครั้ง “เมื่อครู่น่าจะใส่หญ้าสวรรค์กลืนมากเกินไป ลองดูอีกสักเตาก็แล้วกัน” นางพึมพำกับตนเอง ก่อนจะเริ่มลองใหม่อีกครั้ง