เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2841 พบกัน / ตอนที่ 2842 น้ำลายไหลแล้ว
ตอนที่ 2841 พบกัน
พวกหลัวอวี่เดินเที่ยวตลาดอยู่ข้างนอก พวกเฟิ่งซานหยวนกำลังเล่นกับเสี่ยวห้าวเอ๋อร์อยู่ในจวน ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อเองก็กำลังรอเฟิ่งจิ่วอยู่ด้านนอกห้องกลั่นยา
ได้กลิ่นหอมของยาลอยออกมาจากด้านใน เซวียนหยวนโม่เจ๋อยกยิ้ม ความรู้สึกที่รู้ว่านางกำลังกลั่นยาอยู่ด้านในนั้นช่างเป็นความรู้สึกที่สงบสุขและสบายใจยิ่งนัก
กระทั่งท้องฟ้าเริ่มมืด เสียงในห้องจึงเงียบลง เฟิ่งจิ่วเดินออกมาในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ใบหน้าประดับรอยยิ้มแห่งความสุข
ยามนางเดินออกมาแล้วเห็นเงาร่างที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในลาน ก็พลันชะงักไปเล็กน้อย “เจ๋อ?”
“ข้าเอง” เซวียนหยวนโม่เจ๋อรับคำ ลุกขึ้นเดินไปหานาง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีใช่หรือไม่”
“เป็นท่านจริงๆ หรือ!” เฟิ่งจิ่วยิ้มอย่างดีใจ ก่อนตอบว่า “ข้าสบายดี ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วงข้า ใช่สิ พวกท่านมาถึงตั้งแต่เมื่อใด”
“มาถึงตอนใกล้เที่ยง ได้ยินท่านลุงเซียวบอกว่าเจ้ากำลังกลั่นยาอยู่ จึงมารอเจ้าอยู่ที่นี่” เขายื่นมือไปเช็ดผงยาที่ติดบนหน้านาง พูดอีกว่า “เห็นเจ้าไม่เป็นไร ข้าก็วางใจแล้ว ”
“ท่านก็จริงๆ เลย เหตุใดรอข้าอยู่ที่นี่นานถึงเพียงนี้ ไม่กลับไปพักผ่อนที่เรือนก่อนเล่า” นางจูงมือเขา ถามว่า “เหนื่อยหรือไม่”
“ไม่เหนื่อย” เขาเผยยิ้ม
“พวกเรากลับเรือนกันเถอะ! ข้ากลั่นยามาทั้งวัน กลิ่นยาติดไปทั้งตัว กลับไปอาบน้ำก่อนแล้วพวกเราค่อยคุยกัน”
“ดี” เขารับคำ ก่อนจะจูงมือนางเดินกลับเรือน
“ใช่แล้ว เสี่ยวห้าวเอ๋อร์เล่า เหลิ่งซวงดูแลเขาอยู่หรือ ระหว่างทางเขาเป็นเด็กดีหรือไม่” เฟิ่งจิ่วเดินไปด้วย ถามไปด้วย
เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยักหน้า “อืม เขาเป็นเด็กดีตลอดทาง พอมาถึงที่นี่ ก็ถูกพ่อแม่ของเจ้าอุ้มเล่นอยู่ ตอนนี้ก็ยังอยู่กับพวกเขา”
“ในบ้านไม่มีเด็กน้อยอย่างนี้มานานแล้ว พวกเขาเองก็ชอบเด็กด้วย เห็นห้าวเอ๋อร์น่ารักขนาดนี้ จะเอ็นดูจนวางไม่ลงก็เป็นธรรมดา” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี เอ่ยว่า “ท่านพี่ของข้ากำลังจะ ะแต่งงานแล้ว วันนี้ข้าจึงตั้งใจจะกลั่นยาเม็ดและยาน้ำให้เขาใช้เป็นสินสอดสู่ขอสักหน่อย”
“ท่านลุงเซียวบอกข้าแล้ว แม้จะเป็นเรื่องแต่งงานของพี่ชายเจ้า แต่เจ้าก็ต้องพักผ่อนบ้าง อย่าเอาแต่กลั่นยาทั้งวัน ร่างกายจะทนไม่ไหว” เขากำชับอย่างไม่วางใจ
“อื้มๆ ข้ารู้” นางยิ้มกว้าง
กลับมาถึงเรือน เฟิ่งจิ่วสั่งสาวรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อน จากนั้นก็นั่งแช่ในอ่างอาบน้ำด้านหลังฉากบังลม ขณะที่ด้านนอกของฉากบังลม เซวียนหยวนโม่เจ๋อกำลังเอนกายหลับตาอยู่บนเตียง ฟังเสียงน้ำในห้องอาบน้ำ เขาถามว่า “เจ้าไปถึงทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ได้เจอผู้ถือครองดอกบัวดำหรือไม่ แล้วเจ้าหนีออกมาได้อย่างไร”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาลืมตาก่อนเอียงหน้ามองไปทางฉากบังลม เห็นเงาร่างของนางรางๆ เส้นผมสีหมึกปล่อยสยาย ข้อมือเล็กๆ กำลังวักน้ำขึ้นอาบ ความงามอันเลือนรางนั่น ทำให้เขาไม่อาจละ ะสายตาออกไปได้
“ข้าไม่ได้ตกอยู่ในกำมือเขา หากตกอยู่ในกำมือของเขา เดาว่าสถานการณ์อย่างนั้นหากจะหนีออกมาคงต้องใช้เวลาไม่น้อย”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ กวักน้ำขึ้นมาแล้วเอ่ยอีกว่า “ค่ายกลที่อยู่กลางท้องฟ้านั่นดูดข้าเข้าไป จากนั้นก็ส่งข้าไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ข้าฆ่าผู้ฝึกตนชุดดำคนนั้นตอนที่ข้าร่วงลงไป จากนั้น ก็ใช้วิชาพรางตาทำให้พวกเขาคิดว่าข้าหนีไปแล้ว แต่ที่จริงข้าหลบเข้าไปในห้วงมิติ พวกเขานึกว่าข้าใช้อาวุธวิเศษเคลื่อนย้ายหนีออกมาแล้ว!”
………………………………….
ตอนที่ 2842 น้ำลายไหลแล้ว
“ท่านรู้หรือไม่ ตอนนั้นด้านล่างมีผู้ฝึกตนชุดดำมากมายยืนอยู่ พลังของคนพวกนั้นไม่ได้อ่อนแอเลย แต่ หึๆ…”
นางยิ้ม “สุดท้ายก็ถูกข้าสังหารหมด ข้าไม่ได้สู้กับผู้ถือครองดอกบัวดำ แต่เมื่อไร้คนเหล่านั้น เขาก็ไม่ต่างอะไรกับเสือไร้กรงเล็บ หากคิดจะเล่นงานข้าอีก เดาว่าคงต้องวางแผ ผนใหม่หมดแล้วกระมัง! จากนั้นข้าจึงถือโอกาสตอนที่ผู้ถือครองดอกบัวดำยังไม่กลับมาลอบหนีออกมาก่อน ข้าเดินเล่นไปตามทางอยู่สองสามวัน ถือโอกาสเตะเจ้าเมืองคนหนึ่งลงจากตำแหน่ง จากน นั้นก็คิดว่าพวกท่านคงใกล้มาถึงแล้ว จึงใช้แกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงกลับมาที่นี่ก่อน”
นางเล่าขณะนั่งแช่น้ำในอ่าง ส่วนทางเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่กำลังฟังอยู่บนเตียงนั้น พอได้ยินเรื่องที่นางประสบพบเจอมา หัวใจของเขาก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง เขาหลับตาลงและไม่นานก็ หลับไปอย่างสะลึมสะลือ
เฟิ่งจิ่วอาบน้ำเช็ดผมเสร็จก็เดินมาที่ข้างเตียง เห็นเขาหลับไปแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ นางเอนตัวนอนบนเตียงอย่างเบาเสียงที่สุด จากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวพวกเขาทั้งสอง อิงแอ อบในอ้อมแขนของอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตานอนพักผ่อนเช่นกัน
วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณไปไม่น้อย ตอนนี้พอได้อาบน้ำแล้วนอนบนเตียง ไม่นานก็หลับไป
จนกระทั่งประมาณยามเฉิน ตอนที่เฟิ่งจิ่วลืมตาตื่นขึ้นมา ก็เห็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่นอนอยู่ข้างๆ หันหน้ามาทางนาง เขาใช้มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะไว้พลางจ้องมองนาง
“ตื่นแล้วหรือ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์เปล่งออกจากริมฝีปากของเซวียนหยวนโม่เจ๋อ เห็นนางที่เพิ่งตื่นนอนทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความง่วงงุน กลีบปากของเขาก็หยักโค้งขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มเบ่งบา านบนใบหน้า แม้แต่นัยน์ตาดำขลับก็อาบย้อมไปด้วยความรักใคร่
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำ นางขยี้ตามองเขาพร้อมถามว่า “ท่านตื่นแต่เช้าทว่ายังไม่ยอมลุกจากเตียง เอาแต่จ้องข้าอยู่ทำไมกัน”
“เพราะเจ้าน้ำลายไหลแล้ว ข้ากำลังคิดว่าจะปลุกเจ้าดีหรือไม่” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน
“หา?” เฟิ่งจิ่วตะลึง ยกมือขึ้นเช็ดปาก เห็นว่ามีคราบน้ำอยู่จริงๆ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคอะเขิน “ข้าไปล้างหน้าก่อน” เอ่ยจบก็รีบกระเด้งตัวลงจากเตียง
เซวียนหยวนโม่เจ๋อส่ายหน้ายิ้มๆ เมื่อกี้ตอนที่นางกำลังหลับสนิท กลับอ้าปากและละเมอพูดว่าอะไรอร่อยสักอย่าง หนำซ้ำยังน้ำลายไหลอีกด้วย เขาได้แต่มองอย่างตกตะลึง
หากไม่ได้อยู่ใกล้ชิดอย่างเขา คงไม่ได้เห็นนางตอนที่นอนหลับสนิทไร้ภาพพจน์ใดๆ อย่างนั้น
เวลานี้ เขาเองก็ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า พลางเอ่ยว่า “วันนี้พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ! ไม่ได้มาเมืองนี้นานแล้ว เจ้าอยากกินอะไร ข้าพาเจ้าไป”
“แต่ข้ายังต้องเตรียมสินสอดให้ท่านพี่อีกนะ” เฟิ่งจิ่วที่ล้างหน้าเสร็จเดินออกมา บอกกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่กำลังคาดสายรัดเอว
หลังจากคาดสายรัดเอวเสร็จ เซวียนหยวนโม่เจ๋อกล่าวว่า “ไม่เป็นไร สินสอดของเขายังไม่ต้องรีบร้อนใช้ในทันที พวกเราออกไปดูก่อน หากเห็นของดีอะไร ก็สามารถถือโอกาสซื้อให้เขาได้ด้วย ย”
เฟิ่งจิ่วดวงตาเป็นประกาย “ความคิดดี แต่หากอยากได้ของดี อย่างนั้นก็ต้องไปที่ตลาดมืดแล้วล่ะ”
“อืม อย่างนั้นก็ไปตลาดมืด หรือไปดูที่แคว้นอื่นก็ได้ อย่างไรเสียก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่มาก ด้วยความเร็วของพวกเรา หนึ่งวันก็กลับมาแล้ว” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเสนอ ก่อนจะเดินไปล้าง งหน้าล้างตาเช่นกัน
“ไปตลาดมืดก็แล้วกัน! ไปดูที่ตลาดมืดก่อน ความจริงหลายปีมานี้ท่านพี่ก็สะสมของดีไว้ไม่น้อยแล้วเช่นกัน!” เฟิ่งจิ่วเอ่ยยิ้มๆ