เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2855 ไม่เหมือนพวกเจ้า / ตอนที่ 2856 ต้องแยกจากกัน
ตอนที่ 2855 ไม่เหมือนพวกเจ้า
เห็นนางอุ้มเด็กทารก เซวียนหยวนโม่เจ๋อก็เดินไปด้านหน้าเรือบิน เขาทอดมองออกไปไกลๆ ผ่านไปครู่ใหญ่จึงทำท่าทางเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันกลับไปแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว ตอนแรกโม่เฉินจะมากับพวกเรา แต่ข้าปฏิเสธเขา ข้าคิดว่าเขาน่าจะล่วงหน้าไปที่เกาะเซียนเฝิงไหลก่อนแล้ว”
“โม่เฉินหรือ!” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ไม่ได้รู้สึกแปลกแต่อย่างใด “ปล่อยเขาไปเถอะ! ด้วยพลังและนิสัยใจคอของเขา น่าจะขึ้นบันไดสู่แดนเซียนได้เช่นกัน”
นางอุ้มเด็กทารกเดินไปยืนข้างกายเขา บอกว่า “พวกเราไปเยี่ยมพ่อของท่าน แล้วค่อยส่งพวกเฟิ่งเยี่ยกลับ จากนั้นก็ตรงไปที่เกาะเซียนเฝิงไหลกันเถอะ!”
“อืม” เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยักหน้า
เฟิ่งเยี่ยที่อยู่ข้างหลังเดินมาหาพวกเขา ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “เสี่ยวจิ่วจิ่ว บันไดสู่แดนเซียนคือสถานที่แบบใดกันหรือ ข้างบนบันไดสู่แดนเซียนมีอะไรอยู่กัน แล้วพวกเจ้าจะไปทำอะไรที่นั่น”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ที่นั่นเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังโลกอีกใบหนึ่ง แต่มีเพียงคนที่มีพลังและจิตใจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะขึ้นไปได้ เจ้ากลับไปแล้วต้องตั้งใจฝึกตนให้ดี อนาคตเจ้าเองก็ไปสามารถลองดูได้เช่นกัน”
“เช่นนั้นพวกเหลิ่งหวาก็จะไปด้วยหรือ” เขาหันไปมองพวกหลัวอวี่อย่างสงสัย
เฟิ่งจิ่วเม้มปากยิ้มๆ “พวกเขาขึ้นไปไม่ได้ แต่ข้ามีวิธีพาพวกเขาไปด้วย” เห็นท่าทางเขาเหมือนอยากพูดแต่ก็หยุดเอาไว้ เฟิ่งจิ่วรู้ทันทีว่าเขาต้องการจะพูดอะไร จึงลูบหัวเขาแล้วบอกว่า “เจ้ายังเด็ก ตั้งใจฝึกวรยุทธ์อยู่ที่นี่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโอกาส”
“แต่ว่าห้าวเอ๋อร์เด็กกว่าข้าอีก” เขาพึมพำเบาๆ
“ห้าวเอ๋อร์ไม่เหมือนกันนะ! เพราะเขาเด็กเกินไป ข้าจึงต้องพาเขาไปอยู่ข้างกายข้าด้วย” นางยิ้ม “เอาล่ะ เจ้าดูสิ หยางหยางนั่งสมาธิฝึกวรยุทธ์ด้วยตนเองอยู่ทางนั้น เจ้าเองก็จะแอบอู้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปวรยุทธ์ของเจ้าจะอ่อนแอกว่าหยางหยาง ต้องคอยให้เขาปกป้องตลอด เป็นเรื่องที่น่าอายนะ”
“ข้าไม่อ่อนแอกว่าหยางหยางหรอก ข้าจะเก่งกว่าหยางหยาง” เขารีบแย้ง ก่อนจะวิ่งกลับไปนั่งข้างๆ หยางหยาง จากนั้นก็นั่งสมาธิฝึกวรยุทธ์กับเขาด้วย
เรือบินแหวกว่ายผ่านชั้นเมฆ ลอยผ่านสถานที่มากมาย ด้านในเรือบิน เฟิ่งจิ่วทั้งพักผ่อน ฝึกวรยุทธ์ และกินเสบียงที่กักตุนไว้
กระทั่งพวกเขามาถึงราชวงศ์เซวียนหยวน เรือบินลงจอดลงหน้าประตูวัง
ทหารเฝ้าประตูวังพอเห็นเงาร่างหนึ่งดำหนึ่งขาว ต่างก็ตะลึงงันไป พวกเขาถึงกับลืมคารวะ รีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปในวังเพื่อรายงาน
ครั้นจักรพรรดิเซวียนหยวนได้ยินรายงานจากทหารว่าเซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
พวกเขากลับมาแล้วหรือ? เขาทั้งรู้สึกดีใจและประหม่า สองคนนี้ไปแผ่นดินใหญ่แถบเหนือแม่น้ำนานถึงเพียงนี้ ในที่สุดก็รู้จักกลับมาเยี่ยมเยือนเสียที
เซวียนหยวนโม่เจ๋อจูงมือเฟิ่งจิ่วเข้ามาในตำหนัก ทั้งสองค้อมกายคารวะ “ถวายบังคมเสด็จพ่อ”
“องค์จักรพรรดิ” เฟิ่งจิ่วขานเรียกเช่นกัน เพียงแต่นางอุ้มเด็กทารกไว้ จึงทำได้เพียงก้มหัวให้เล็กน้อยเท่านั้น
ยามจักรพรรดิเซวียนหยวนเห็นเด็กทารกในอ้อมแขนของเฟิ่งจิ่ว เขาเผยรอยยิ้มดีใจออกมาทันที “นะ…นี่เป็นลูกของพวกเจ้าสองคนหรือ หลานของข้าใช่หรือไม่ เร็วเข้า รีบอุ้มมาให้ข้าดู”
ทั้งสองมองหน้ากันยิ้มๆ เฟิ่งจิ่วอุ้มเด็กเดินเข้าไปหา หลังจากที่เขารับไปอุ้มด้วยความดีใจ ก็ถามขึ้นว่า “ทำไมหน้าตาไม่เหมือนพวกเจ้าสองคนเล่า”
ทั้งสองยิ้มตอบว่า “นี่เป็นเด็กที่พวกข้าเก็บมาเลี้ยง”
………………………………….
ตอนที่ 2856 ต้องแยกจากกัน
จักรพรรดิเซวียนหยวนได้ยินก็ตะลึง “ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพวกเจ้าหรือ”
“ไม่ใช่เพคะ พวกเราเก็บเด็กคนนี้มาเลี้ยง” เฟิ่งจิ่วตอบ
“ที่แท้ก็อย่างนี้เอง ไม่น่าเล่าถึงไม่เหมือนสักนิด แต่หน้าตาน่ารักไม่เบา” จักรพรรดิเซวียนหยวนยื่นเด็กคืนให้เฟิ่งจิ่ว ก่อนพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าสองคนเองก็เสียเวลาไปนานมากแล้ว ได้ยินว่าไม่กี่วันก่อนพี่ชายของเจ้าก็เพิ่งแต่งงาน เหตุใดพวกเจ้าสองคนจึงยังไม่คิดเรื่องแต่งงานเสียที”
“เสด็จพ่อ เรื่องนี้พวกเรายังไม่เร่งรีบ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อตอบ ก่อนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ที่จริงกลับมาครั้งนี้พวกเราตั้งใจมาเยี่ยมพระองค์ พวกเราอาจยังไม่สามารถกลับมาได้ในเร็วๆ นี้”
จักรพรรดิเซวียนหยวนตะลึง ถามว่า “เพราะเหตุใดกัน แผ่นดินใหญ่แถบเหนือแม่น้ำก็ใช่ว่าจะอยู่ไกลมาก แค่พวกเจ้าหาเวลาก็สามารถกลับมาได้แล้ว เหตุใดจึงบอกว่ากลับมาไม่ได้เล่า หรือพวกเจ้าพบเจอปัญหาอะไรที่นั่นหรือ”
“ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ พวกเราตั้งใจว่าจะไปขึ้นบันไดสู่แดนเซียนบนเกาะเซียนเฝิงไหล เพื่อไปฝึกตนที่โลกอีกใบหนึ่ง ฉะนั้นอาจไม่สามารถกลับมาได้ในช่วงหลายปีนี้” เซวียนหยวนโม่เจ๋ออธิบาย
จักรพรรดิเซวียนหยวนพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ที่นั่นมีตำนานเล่าขานมากมายจริงๆ เพียงแต่พวกเจ้าจะหาพบหรือ ได้ยินมาว่าบันไดสู่แดนเซียนนั้นไม่ได้ขึ้นกันง่ายๆ หากไม่ระวังอาจตกลงมาและสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมดไปได้”
“พวกหม่อมฉันหาพบแล้วเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันก็เคยไปมาก่อนแล้ว ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย” เฟิ่งจิ่วตอบ
“ในเมื่อพวกเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นข้าก็เคารพการตัดสินใจของพวกเจ้า เพียงแต่ไม่ว่าเรื่องใดล้วนต้องระวัง” จักรพรรดิเซวียนหยวนกำชับ “พวกเจ้าไม่ได้กลับมานานแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถอะ ค่ำๆ ข้าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ”
“ไม่ต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนค่ำข้าจะพาพวกเขาไปเดินเล่นในเมือง พรุ่งนี้ก็จะออกเดินทางแล้ว” เซวียนหยวนโม่เจ๋อว่า
จักรพรรดิเซวียนหยวนพยักหน้า “ก็ดี ตามใจพวกเจ้า ไปเถอะ!”
ทั้งสองถอยออกไป ก่อนจะพาทุกคนที่อยู่นอกตำหนักไปพักผ่อน
เฟิ่งเยี่ยที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยพาหยางหยางเดินไปทั่ววัง เหลิ่งหวาก็ตามพวกเขาสองคนไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองหนีออกจากวังในตอนที่ทุกคนไม่ทันระวัง
ส่วนพวกหลัวอวี่กำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว พวกเขาดื่มกินกันในสวนดอกไม้ เหลิ่งซวงกับไป๋ชิงเฉิงพาห้าวเอ๋อร์ไปพักผ่อนในเรือน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วดื่มสุรากันอยู่ในลานบ้าน ที่นี่ไม่ใช่จวนเฟิ่ง ด้วยเหตุนี้ เมื่อมาถึงที่นี่นางจึงเก็บเหล่าสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตไว้ในห้วงมิติ รอบข้างจึงเงียบสงบขึ้นไม่น้อย
“พรุ่งนี้ก็จะไปเลยหรือ รีบร้อนเกินไปหรือไม่ พวกเราไปแล้วคงไม่ได้กลับมาง่ายๆ” เฟิ่งจิ่วถาม ขณะคีบอาหารขึ้นมากิน
“อยู่ที่นี่นานก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ ไม่สู้ออกเดินทางเร็วหน่อยดีกว่า” เซวียนหยวนโม่เจ๋อตอบ ก่อนจะรินสุราดื่ม
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งสองกินดื่มอยู่ในลานบ้าน จากนั้นก็งีบหลับไปครู่หนึ่ง กระทั่งหัวค่ำจึงพาพวกเฟิ่งเยี่ยไปเดินเที่ยวในเมือง
เช้าตรู่วันต่อมา ท้องฟ้ายังไม่สว่าง พวกเขาก็นั่งเรือบินจากไปแล้ว…
หลายวันต่อมา เรือบินเข้าสู่เขตแผ่นดินใหญ่แถบเหนือแม่น้ำ เฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางเริ่มไม่มีอารมณ์ฝึกวรยุทธ์ต่อแล้ว เพราะพวกเขารู้ว่าใกล้ถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันแล้ว
เฟิ่งจิ่วสังเกตเห็นทุกอย่าง วันนี้จึงเรียกเด็กทั้งสองคนที่ห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวามาคุยด้วย นางยิ้มก่อนถามว่า “เป็นอะไรไป ไม่อยากกลับไปฝึกตนหรือ หรือว่าไม่อยากแยกจากพวกเรากัน”
“ไม่อยากแยกจากพวกเจ้า” เฟิ่งเยี่ยตอบเสียงอ่อยๆ เคยชินกับการมีพวกเขาอยู่ข้างๆ มานาน จู่ๆ ต้องแยกจากกัน ไม่แปลกที่จะรู้สึกอาลัยอาวรณ์
………………………………….