เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2861 ไม่ควรมีเรื่องด้วย / ตอนที่ 2862 คนคุ้นเคย
ตอนที่ 2861 ไม่ควรมีเรื่องด้วย
ฟั่นหลินจึงขายยาให้เขาหนึ่งห่อ นั่นเท่ากับว่าเขาไม่ต้องเสียเงินสำหรับซื้อของในร้านขายยานี้เลย
ขณะที่พวกเขากำลังจะกลับก็เห็นตู้ฝานกับไป๋ชิงเฉิงเดินมาแต่ไกล ด้านหลังของพวกเขายังมีชายชุดผ้าไหมบนหลังม้า รวมทั้งผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียนสิบกว่าคนตามมาด้วย
“พวกเจ้าเสร็จหรือยัง” ตู้ฝานเห็นพวกเขาก็ตะโกนถามจากที่ไกลๆ
ฟั่นหลินกับเหลิ่งหวามองหน้ากันแวบหนึ่ง จากนั้นจึงเดินเข้าไป “กำลังจะกลับแล้ว พวกเจ้าทำอะไรน่ะ” ฟั่นหลินถาม สายตาหันไปมองพวกคนที่อยู่ด้านหลัง
ตู้ฝานยกพัดในมือปิดปากยิ้มๆ “คุณชายท่านนี้บอกว่าจะรับพวกเราไปอยู่ด้วย นี่ข้าก็เลยนึกถึงพวกเจ้าสองคน จึงพาเขามาเรียกพวกเจ้าไปด้วย”
ฟั่นหลินยิ้มๆ หันไปมองชายชุดผ้าไหมบนหลังม้าแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
เหลิ่งหวาเองก็เห็นแล้วเช่นกัน เขาจ้องพิจารณาชายชุดผ้าไหมแวบหนึ่ง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณชายท่านนี้ชื่ออะไรหรือ”
“นี่คือเจ้าเมืองน้อยของเรา!” ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น
“ที่แท้ก็เจ้าเมืองน้อยเองหรือ” เหลิ่งหวาพยักหน้า ก่อนถามอีกว่า “เจ้าเมืองน้อยอยากรับพวกเราไปอยู่ด้วยเพื่ออะไรหรือ”
“ทำไม? พวกเจ้าสองคนไม่อยากไปอยู่กับข้าอย่างนั้นหรือ” ชายชุดผ้าไหมแค่นเสียงเยาะหยัน ใบหน้าแสดงความไม่พอใจอยู่หลายส่วน
เหลิ่งหวายิ้มอย่างอ่อนโยน ตอบว่า “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! เจ้าเมืองน้อยต้องตาพวกเรา ถือเป็นบุญของพวกเรา เพียงแต่พวกข้ามีเจ้านายอยู่แต่แรกแล้ว ในเมื่อเจ้าเมืองน้อยอยากได้พวกข้า ไม่ทราบว่าจะไปถามนายท่านของพวกเราว่าจะยอมยกพวกเราให้ท่านหรือไม่?”
“พวกเจ้ามีเจ้านายแล้วหรือ” เขาขมวดคิ้ว มองตู้ฝานอย่างหงุดหงิด “ทำไมเมื่อครู่เจ้าไม่บอกข้า”
“เจ้าเมืองน้อยไม่ได้ถามนี่นา!” ตู้ฝานตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“เหอะ!”
เขาแค่นเสียง มองชายสามหญิงหนึ่งตรงหน้า จำต้องยอมรับว่าพอคนพวกนี้ยืนอยู่ด้วยกันแล้วโดดเด่นและไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง หากรับตัวพวกเขาไว้ บางทีอาจจะได้ใช้ประโยชน์จริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจ้านายของพวกเขาเป็นคนอย่างไร?
“เจ้านายของพวกเจ้าอยู่ที่ใด ข้าอยากเห็นนัก นอกจากข้าแล้ว ยังมีใครที่มีคุณสมบัติเป็นเจ้านายของพวกเจ้าอีก!” เขากล่าว ก่อนจะพยักหน้าให้พวกเขานำทาง
“อย่างนั้นก็เชิญเจ้าเมืองน้อยตามพวกเรามา! เจ้านายของพวกเราอยู่ในหอสุราข้างหน้านี้เอง” ตู้ฝานเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะโบกพัดในมือและเดินนำไปก่อน
ชายชุดผ้าไหมบนหลังม้าตามพวกเขาไปที่หอสุรา เขามองสี่คนที่เดินอยู่ข้างหน้า ในใจลอบหัวเราะหยัน
คิดหรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนพวกนั้นคิดอะไรอยู่? คงคิดว่าหากพาเขาไปหาเจ้านายของพวกตน แล้วอีกฝ่ายจะช่วยอะไรได้ แต่ในเมืองนี้ เขาหลิงเทียนอวี่กลัวใครที่ไหนกัน? ในฐานะเจ้าเมืองน้อยของเมืองนี้ เบื้องหลังยังมีท่านพ่อและท่านปู่เป็นแรงหนุนหลัง หลายปีที่ผ่านมานี้ คนเดียวที่เขาเคยกลัวก็มีแค่เจ้าบัดซบเฟิ่งจิ่วคนเดียวเท่านั้น
และเจ้านั่นก็คงไม่มีทางกลับมาที่นี่อีกตลอดชาตินี้ เขาย่อมไม่มีอะไรต้องกลัวอีก คนอื่นเมื่อเข้ามาในเมืองนี้ แม้จะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีวันบินหนีจากเงื้อมมือของเขาไปได้!
ชาวบ้านในเมืองเห็นว่ามีเรื่องสนุกให้ดู บางส่วนจึงจับกลุ่มคุยกันอยู่ข้างหลัง ท่ามกลางคนเหล่านั้นยังมีผู้ฝึกตนรวมอยู่ด้วย
“คนพวกนั้นดูวรยุทธ์ไม่ค่อยสูงเท่าไร เจ้าเมืองน้อยกลับถูกใจพวกเขา”
“แต่บุคลิกของพวกเขาไม่ธรรมดา ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด”
“ข้าดูแล้วคนกลุ่มนั้นไม่ควรไปมีเรื่องด้วย ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาเข้าเมือง ข้าเห็นพวกเขาด้วย นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีอีกหลายคน!”
………………………………….
ตอนที่ 2862 คนคุ้นเคย
เฟิ่งจิ่วและคนอื่นๆ ที่กำลังรออยู่ในหอสุราโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะใกล้จะเที่ยงแล้ว เวลานี้จึงมีคนเข้ามาที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ โต๊ะบนชั้นสองถูกนั่งเต็มในเวลาอันสั้น
คนที่ขึ้นมาบนชั้นสอง ต่างก็หันมามองพวกเฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อโดยไม่รู้ตัว ในแววตามีความตะลึง และมีสองสามคนที่ทำหน้าแปลกๆ
“นี่ พวกเจ้าดูผู้หญิงชุดแดงคนนั้นสิ เหมือนคนที่เคยเล่นงานเจ้าเมืองน้อยเมื่อครึ่งปีก่อนใช่หรือไม่”
ได้ยินอย่างนั้น คนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างหันไปมองหญิงงามชุดแดงโดยพร้อมเพรียงกัน ครั้นหันไปเห็นก็ต้องตกตะลึง “เหมือนจะใช่จริงๆ ข้าเคยเห็นหน้าคนผู้นั้น เหมือนจะเป็นคนนี้แหละ”
ชั่วขณะที่นึกถึงความเก่งกาจของคนผู้นั้นขึ้นมาได้ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะแอบมอง ครั้งนี้จะมีใครที่ไม่ดูตาม้าตาเรือหาเรื่องนางอีกหรือไม่นะ? ครั้งก่อนเจ้าเมืองน้อยเกือบถูกนางจับไปเป็นทาสแล้ว ต่อมาเพราะเจ้าเมืองออกหน้าจึงปกป้องเจ้าเมืองน้อยเอาไว้ได้
“ครั้งที่แล้วเจ้าก็มาที่นี่หรือ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม เพราะได้ยินคนกลุ่มนั้นคุยกัน จึงพอเดาได้ว่าตอนนั้นนางคงทำเรื่องที่คนยากจะลืมไว้
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ครั้งที่แล้วหรือ! ครั้งที่แล้วเจ้าเมืองน้อยหลิงเทียนอวี่เกือบได้กลายเป็นทาสของข้า นอกจากนี้ ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”
“เอ๊ะ? นายท่าน ภูตหมอ พวกตู้ฝานกลับมาแล้ว แต่เหมือนด้านหลังจะมีคนตามมาไม่น้อย” ฮุยหลางที่คอยสังเกตข้างนอกเห็นกลุ่มคนที่เดินมาบนถนน
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองถนนใหญ่ฝั่งนั้นแวบหนึ่ง เห็นว่านอกจากพวกตู้ฝานแล้ว ยังมีหลิงเทียนอวี่ผู้นั้นที่นางเพิ่งเอ่ยถึงอยู่ด้วย
“เจอคนคุ้นเคยอีกแล้ว โลกช่างแคบจริงๆ!” นางทอดถอนใจ ก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองออกไป สายตาจับจ้องไปที่ชายชุดผ้าไหมบนหลังม้า ถามขึ้นว่า “นั่นใครหรือ”
“เขาก็คือเจ้าเมืองน้อย หลิงเทียนอวี่” เฟิ่งจิ่วยิ้มมุมปาก มองเหตุการณ์ด้านล่าง ก่อนเอ่ยว่า “โรคเก่าคงกำเริบอีกแล้วกระมัง”
“โรคเก่าแบบใดหรือ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเลิกคิ้ว
“แย่งคนบนถนน” เฟิ่งจิ่วยิ้ม ได้ยินประโยคนั้นของนาง เซวียนหยวนโม่เจ๋อพลันหน้าตึงทันที เขาตวัดสายตามองหลิงเทียนอวี่อย่างเย็นชา
หมายความเจ้านั่นเคยมีความคิดที่จะแย่งอาจิ่วของเขาอย่างนั้นหรือ?
บนถนนใหญ่ ยามเห็นเงาร่างสีแดงที่นั่งริมหน้าต่างชั้นสองของหอสุราจากที่ไกลๆ หลิงเทียนอวี่ก็รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมรู้สึกเหมือนท่าไม่ค่อยดีเสียแล้ว?
เงาร่างสีแดงนั่นช่างดูคุ้นตานัก เหมือน…เหมือนจะเป็นเฟิ่งจิ่วนั่น?
จะเป็นไปได้อย่างไร! คนคนนั้นไปถึงไหนต่อไหนตั้งนานแล้วก็ไม่รู้ จะมาที่นี่อีกได้อย่างไรกัน? เขาต้องคิดมากไปเองแน่ๆ
ทว่าแม้เขาจะปลอบใจตัวเองอย่างนั้น หัวใจของเขาก็ยังคงกระวนกระวายไม่หาย โดยเฉพาะเมื่อเห็นสี่คนข้างหน้าเดินทอดน่องอย่างสบายใจ ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
สี่คนนี้ไม่รู้สึกกลัวหรือลนลานเลยตั้งแต่แรก ทั้งยังหลอกเขาให้ตามมาถึงที่นี่ นั่นเป็นเพราะมั่นใจแล้วว่าเจ้านายของพวกตนแกร่งกว่าเขาอย่างนั้นหรือ? นึกมาถึงตรงนี้ ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “เจ้าคนข้างหน้า ที่ถือพัดน่ะ”
ตู้ฝานหันกลับมา เอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “เจ้าเมืองน้อยเรียกข้าหรือ ข้าชื่อตู้ฝาน ไม่ได้ชื่อถือพัด”
“ใครอยากรู้กันว่าเจ้าชื่ออะไร! ข้าถามเจ้า เจ้านายของพวกเจ้าชื่ออะไร?” เขาถามขณะจ้องตู้ฝานนิ่งๆ
“เจ้านายของข้าอยู่แค่ข้างหน้านี้ อีกเดี๋ยวคุณชายเจอก็จะรู้เอง” ตู้ฝานยกพัดปิดปากเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
………………………………….