เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2863 โรคเก่า / ตอนที่ 2864 เชิญไม่มา
ตอนที่ 2863 โรคเก่า
เห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไร หลิงเทียนอวี่ก็ลังเลเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อเห็นเงาร่างสีแดงที่ยืนอยู่บนหอสุราชัดขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของเขาก็ยิ่งบีบรัด
คงไม่ใช่ว่าเป็นเฟิ่งจิ่ว โรคจิตคนนั้นจริงๆ หรอกกระมัง?
เขาดึงสายบังเหียนม้า จ้องขึ้นไปบนหอสุราโดยไม่ยอมเข้าไปใกล้อีก แต่เพราะทัศนวิสัยถูกบดบัง จึงมองเห็นไม่ค่อยชัด แต่ในขณะที่เขากำลังจะละสายตาออกไปนั้นเอง กลับเห็นเงาร่างสีแดง งชะโงกตัวออกมาข้างนอก ยืนพิงราวกั้นอย่างสบายใจ ตอนที่เห็นหน้าคนคนนั้นชัดๆ เขาก็อุทานออกมาด้วยความตกใจจนถึงขั้นตกจากหลังม้าเลยทีเดียว
“เจ้าเมืองน้อย”
ทุกคนนึกไม่ถึงว่าอยู่ดีๆ เขาจะตกจากหลังม้า ต่างก็รีบเข้าไปประคอง
“ไป ไปเร็ว!” เป็นโรคจิตคนนั้นจริงๆ ด้วย! เป็นเฟิ่งจิ่วนั่นจริงๆ! ไม่ได้การ เขาต้องรีบหันหลังกลับ หากถูกเห็นเข้าต้องไม่ได้กลับไปแน่ๆ
“คุณชาย ไม่ไปแล้วหรือ” ตู้ฝานหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ
“อะแฮ่ม” หลิงเทียนอวี่กระแอม บอกว่า “จู่ๆ ข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องต้องสะสาง เรื่องวันนี้ให้แล้วกันไป เร็วเข้า ไปๆๆ”
“หลิงเทียนอวี่ โรคเก่าของเจ้ากำเริบอีกแล้วหรือ”
บนชั้นสอง เฟิ่งจิ่วเห็นหลิงเทียนอวี่ที่ลุกลี้ลุกลนหันหลังกลับก็หัวเราะ พลางตะโกนขึ้นว่า “ครั้งนี้หมายตาคนของข้าหรือ ดูท่าเจ้าคงจำบทเรียนที่ข้าสั่งสอนเจ้าคราวก่อนไม่ได้แล้ วกระมัง”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หลิงเที่ยวอวี่ก็แข็งค้างไปทั้งตัว ชั่วขณะนั้น จะไปก็ไม่ได้ จะอยู่ก็ไม่ดี ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ทว่าขณะนั้นเอง กลับมีเสียงตะคอกขององครักษ์ที่ไม่ด ดูตาม้าตาเรือคนหนึ่งดังขึ้น
“สามหาว! กล้าเรียกชื่อเจ้าเมืองน้อยของเราตรงๆ!” องครักษ์คนหนึ่งตวาด แต่เขาเพิ่งจะตะโกนออกไปก็ถูกตบหัวทันที
“เจ้าโง่! เจ้าอยากตายหรือไร!” หลิงเทียนอวี่ด่าพร้อมถลึงตาใส่ เขาหันไปมองบนชั้นสอง ก่อนจะกัดฟันทำใจดีสู้เสือ หมุนตัวกลับมา
พอมาถึงชั้นสองของหอสุรา เห็นเฟิ่งจิ่วในชุดกระโปรงสีแดงนั่งพิงบนเก้าอี้ สายตาพลันไหวระริกเล็กน้อย เขารู้ตั้งแต่ครั้งก่อนแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นสตรี แต่นึกไม่ถึงว่าเวลาใส่ชุด ของสตรีแล้วจะสวยกระชากวิญญาณถึงเพียงนี้
ขณะกำลังจ้องมอง จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่ามีสายตาคมปลาบคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เขาพร้อมกับแรงกดดันอันแข็งแกร่ง กดทับจนแทบหายใจไม่ออก เขารีบดึงสติแล้วหันไปมอง จึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าข ข้างกายเฟิ่งจิ่วยังมีชายชุดคลุมสีดำรูปร่างหน้าตาไม่ธรรมดาคนหนึ่งนั่งอยู่ และในขณะนี้เองชายคนนั้นก็กำลังจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาดำขลับลึกล้ำยากคาดเดา สายตานั้นทำให้เขาขนลุ กไปทั้งตัว
“นายท่าน ตอนที่พวกข้าไปซื้อของก็ได้พบกับคุณชายท่านนี้เข้า เขาบอกว่าจะรับพวกข้าไปอยู่ด้วย พวกข้าจึงคิดว่าต้องกลับมาถามนายท่านก่อน” ตู้ฝานอธิบายด้วยรอยยิ้ม ก่อนหันไปม มองหลิงเทียนอวี่อย่างขบขัน
หลิงเทียนอวี่หนังศีรษะชาหนึบไปในทันที ร่างกายแข็งทื่อ เขาถลึงตาจ้องตู้ฝาน ก่อนแย้งว่า “หากเจ้าบอกข้าแต่แรกว่าเจ้านายของเจ้าคือโรคจิตคนนี้ ข้าจะหมายตาพวกเจ้าได้อย่างไร!”
“อ้อ? เช่นนั้นหรือ ข้าไม่รู้เลย” ตู้ฝานส่ายหน้าขณะโบกพัดในมือ
หลิงเทียนอวี่ขบกราม ไม่สนใจเขาอีก หลังจากสูดหายใจลึกๆ เขาก็หันไปมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้ามาทำอะไรที่นี่อีก ไม่กลัวเจอคนที่ไล่ล่าเจ้าตอนนั้นแล้วหรือ”
เฟิ่งจิ่วมองเขาด้วยหางตา บอกว่า “ทำไม ครั้งนี้เจ้าหมายตาคนของข้า คิดจะท้าประลองอีกหรือ”
“เปล่า” เขาตอบ เสียท่าไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาจะกล้าทำอีกได้อย่างไร
………………………………….
ตอนที่ 2864 เชิญไม่มา
เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าพวกเขามีกันสิบกว่าคน จึงถามขึ้นว่า “พวกเจ้าเพิ่งมาถึงหรือ จะไปพักที่จวนเจ้าเมืองสักสองสามวันหรือไม่ หากขาดเหลืออะไร ข้าจะให้คนช่วยจัดเตรียม” อย่างไร รก็รู้จักกัน เขาไม่ถือสาหากจะยื่นมือช่วยเหลือสักหน่อย
“ไม่ล่ะ พวกข้าตั้งใจจะพักที่โรงเตี๊ยม” เฟิ่งจิ่วตอบ ก่อนจะละสายตาออกไป แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว เจ้าก็กลับไปเถอะ! จะให้ดีก็แก้นิสัยเดิมของเจ จ้าเสีย หากครั้งหน้าข้าเจอเรื่องเช่นนี้อีก เจ้าคงรู้ว่าจะเป็นอย่างไร”
เขารู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “ข้ารู้แล้ว” กล่าวจบก็รีบหมุนตัวจากไป ไม่กล้ารั้งอยู่นาน
หลังเขาจากไป ตู้ฝานยิ้มก่อนเอ่ยว่า “นายท่าน เด็กนั้นเหมือนกลัวท่านมาก”
“เขาเคยพลาดท่าให้ข้าครั้งหนึ่งแล้ว จะไม่กลัวได้หรือ” เฟิ่งจิ่วว่า ก่อนหันไปมองพวกเขา “ซื้อของครบหมดแล้วหรือ”
“ซื้อครบหมดแล้ว”
“อย่างนั้นก็หาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันเถอะ! พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทาง” พูดจบก็หันไปมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อ “ไปกันเถอะ!”
“อืม” เซวียนหยวนโม่เจ๋อรับคำ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปพร้อมกับนาง ข้างหลังมีเหลิ่งซวงที่อุ้มเด็กและคนอื่นๆ เดินตามมา
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่หลิงเทียนอวี่กลับมาที่จวนเจ้าเมือง เขาก็มาพบพ่อของตน แล้วเล่าว่า “ท่านพ่อ วันนี้ข้าเจอโรคจิตเฟิ่งจิ่วนั่นข้างนอกอีกแล้ว” เขาว่า พลางหยิบชาบนโต๊ ะขึ้นมารินดื่ม
เจ้าเมืองหลิงที่กำลังดื่มชาพอได้ยินลูกชายพูดก็สำลักออกมา เขากระแอมสองสามทีแล้วรีบถามว่า “เจ้าว่าอะไรนะ”
“ข้าบอกว่าวันนี้ข้าเจอตัวซวยเฟิ่งจิ่วที่ข้างนอกอีกแล้ว ดวงซวยจริงๆ คนที่ข้าหมายตาวันนี้กลับเป็นคนของนาง หากไม่ใช่ว่าข้าไหวตัวหนีออกมาทัน คงต้องมีปัญหาอีกเป็นแน่” เขา ขมวดคิ้ว นึกถึงคนของเฟิ่งจิ่วเหล่านั้น แต่ละคนล้วนโดดเด่น ยิ่งชายชุดคลุมสีดำนั้นยิ่งสะดุดตา
ก่อนหน้านี้เขาสังเกตเห็น เหมือนมีสตรีนางหนึ่งอุ้มเด็กทารกอยู่ด้านหลัง สตรีชุดแดงหน้าตางดงามล้ำเลิศทั้งยังโดดเด่นปานนั้นไม่รู้ว่าไปมีลูกตั้งแต่เมื่อใด คิดแล้วก็ให้รู้สึกสับ บสนว้าวุ่นนัก
อยากจะไปดูเสียให้รู้เรื่อง แต่ก็กลัวถูกเฟิ่งจิ่วจับได้และถูกสั่งสอนอีก แต่หากไม่ไปดู ก็รู้สึกสงสัยจนยากจะทานทน
“ฟะ…เฟิ่งจิ่วมาอีกแล้วหรือ นางมาทำอะไรอีก” เจ้าเมืองหลิงตกตะลึง เขารู้สึกสงสัยนัก ต้องบอกก่อนว่าครั้งที่แล้วหลังนางจากไป เขาก็ส่งคนไปสืบข่าวดู ก่อนจะรู้ว่านางได้ไปอย ยู่กับตระกูลเซี่ยของอีกเมืองหนึ่ง ทั้งยังสร้างเรื่องไว้ที่นั่นอีกด้วย
ดูจากท่าทางแล้ว ตอนนั้นน่าจะไปบันไดสู่แดนเซียน แต่ตอนนี้กลับมาที่นี่ทำไมอีก?
“ข้าจะไปรู้หรือว่านางกลับมาอีกทำไม? แต่ดูท่าคราวนี้เหมือนจะพาคนในครอบครัวมาด้วย ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรที่ไหน” หลิงเทียนอวี่พูดขึ้นอย่างสงสัย
“พาครอบครัวมาด้วยหรือ เช่นนั้นทำไมเจ้าไม่เชิญนางมาที่จวนเล่า”
“ข้าเชิญแล้ว นางไม่มา บอกว่าจะไปพักที่โรงเตี๊ยม นางไม่มาแล้วจะให้ข้าบังคับลากนางมาหรือ อีกอย่าง ข้างกายนางมีชายชุดคลุมสีดำคนหนึ่ง ราศีของเขา…” หลิงเทียนอวี่เงียบไปครู่ หนึ่ง ราวกับไม่รู้ว่าควรจะบรรยายอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำใดดี
“เป็นอย่างไรหรือ” เจ้าเมืองหลิงถาม
เขามองหน้าผู้เป็นพ่อ ก่อนตอบว่า “ค่อนข้างน่ากลัว เขามองข้าแวบหนึ่ง เพียงแวบเดียวก็ทำให้ข้ารู้สึกราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง หวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ”
เจ้าเมืองหลิงครุ่นคิด “ตามหลักแล้ว พวกเราควรเชิญพวกเขามาที่จวน แต่ในเมื่อนางไม่อยากมา เช่นนั้นก็ช่างเถอะ”