เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2877 เส้นทางแห่งลมเมฆ / ตอนที่ 2878 สายฟ้า
ตอนที่ 2877 เส้นทางแห่งลมเมฆ
ครั้นเห็นชายหนุ่มบุคลิกไม่ธรรมดาเดินไปที่บันไดสู่แดนเซียนอีกสองคน ผู้คนรอบข้างต่างก็มองด้วยสีหน้าแปลกๆ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ทำไมมีมาอีกสองคนเล่า เมื่อครู่ไม่ใช่ขึ้นไปห หมดแล้วหรือ”
“สองคนนี้เหมือนจะเป็นพวกเดียวกับพวกที่ขึ้นไปเมื่อครู่”
“อืม เหมือนจะใช่ เมื่อครู่สองคนนี้เพิ่งเดินไปหาชายชุดคลุมสีดำที่อุ้มเด็กทารกไว้ ก่อนจะเดินไปที่บันไดสู่แดนเซียน”
“คนกลุ่มนี้ช่างแปลกเสียจริง มีทั้งบุรุษและสตรี แม้แต่เด็กทารกก็ยังมี ท่าทางดูราวกับอ่อนแอแต่กลับแข็งแกร่งจนน่าทึ่ง คนอื่นขึ้นบันไดสู่แดนเซียนล้วนแต่ถูกแรงกดดันบีบให้ต้อง ลงมา หรือไม่ก็ต้องลงมาเองอย่างรวดเร็ว ท่วาคนพวกนี้กลับดีนัก ล้วนทะลวงขั้นพลังกันอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าไปโชคดีมาจากไหน”
“นี่ พวกเจ้าว่าสองคนนี้จะขึ้นไปได้ถึงไหน”
“บอกยาก พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน ไม่แน่อาจจะขึ้นไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยขั้นอีกก็ได้”
“อืม ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ สายตาจ้องตามสองคนที่กำลังเดินขึ้นบันได หนึ่งในนั้นยื่นเท้าออกไปเหยียบบนบันไดเมฆ ทว่าเท้าของเขากลับทะลุขั้นบันไดไป เหยียบลงบนความว่างเปล่า ตัวเขา าเซไปข้างหน้าเล็กน้อย ทำให้พวกเขามุมปากกระตุก
เจ้านั่นมาเล่นหรืออย่างไร? นั่นบันไดสู่แดนเซียนเชียวนะ ต้องใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณควบคุมร่างกายให้สมดุลก่อนจะก้าวขึ้นไป เขาเดินขึ้นไปเลยทั้งอย่างนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร?
เวลานี้เอง เฟิ่งเว่ยตบที่หน้าอกตนเอง ผ่อนลมหายใจเบาๆ “ฮู่ว์! ตกใจหมดเลย บันไดนี่เกิดจากเมฆก่อตัวกันจริงๆ หรือนี่!”
“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ! ขึ้นไปดูกันหน่อย” กู้โม่เอ่ย ก่อนจะก้าวขึ้นไปคนแรก
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งเว่ยจึงปรับกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างกายก่อนจะตามขึ้นไป
เฟิ่งจิ่วเห็นพวกเขาสองคนกำลังตามขึ้นมา นางยิ้มจางๆ ก่อนเดินลงไป ไม่นานก็มาถึงข้างกายพวกเขาพลางเอ่ยว่า “พยายามให้ดีที่สุดก็พอ ไม่ต้องฝืน”
“ขอรับ นายท่าน” ทั้งสองคนรับคำ ในใจกลับคิดไปว่าไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องขึ้นไปให้เกินร้อยขั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาที่เป็นถึงหัวหน้าองครักษ์เฟิ่ง ต่อไปจะกล้ามองหน้า ผู้อื่นได้อย่างไร
เฟิ่งจิ่วไม่รู้ความคิดของพวกเขา เพียงมองดูพวกเขาเดินขึ้นไป เมื่อเวลาผ่านไป เห็นเสื้อผ้าของพวกเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าเริ่มย่ำแย่ ลมหายใจเริ่มไม่สม่ำเสมอ ในตอนนี้ พวกเข ขาเดินมาถึงบันไดขั้นที่เก้าสิบสามแล้ว
เดิมทีนางตั้งใจจะบอกพวกเขาว่าอย่าฝืน แต่พอเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น คำพูดจึงถูกกลืนลงคอไป ล้วนแต่เป็นคนหนุ่มสาว ย่อมมีความคิดอยากแข่งขันท้าทายเป็นธรรมดา โดยเฉพาะพวก กเหลิ่งหวาเหลิ่งซวงกับฮุยหลางล้วนอยู่บนขั้นที่หนึ่งร้อยขึ้นไป พวกเขาในฐานะหัวหน้าองครักษ์เฟิ่ง หลัวอวี่กับฟั่นหลินไม่สามารถเดินขึ้นไปถึงขั้นที่หนึ่งร้อยเพื่อทะลวงขั้นพล ลังได้ พวกเขาย่อมอยากทำให้สุดความสามารถอยู่แล้ว
นางลอบถอนใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงยืนมองอยู่เงียบๆ กระทั่งพวกเขาก้าวข้ามบันไดขั้นที่หนึ่งร้อยก็กระอักเลือดออกมา ทั้งสองรีบหยิบยาออกมากินทันที
นางชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา พลางคิดว่าสองคนนี้ช่างไหวพริบดีนัก รู้จักกินยาในเวลานี้เสียด้วย
“ครืน!”
เสียงสายฟ้าปั่นป่วนดังขึ้น ชั้นเมฆบนท้องฟ้ายามราตรีเคลื่อนวน นางหรี่ตาลง มองดูพวกเขาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนขั้นบันได ก่อนจะถอยหลังลงไปสองสามก้าว ยืนดูเงียบๆ หลังจากสังเกตอย ยู่ครู่หนึ่ง นางจึงหมุนตัวเดินลงไป
ตอนนี้ไม่มีผู้ฝึกตนคนอื่นขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพวกเขาจะถูกลอบโจมตี ด้วยเหตุนี้นางจึงลงไปรอพวกเขาทะลวงขั้นพลังข้างล่าง
พอเดินลงมาถึงก็เห็นหลัวอวี่กำลังตักข้าวต้มที่สุกแล้วเข้ามาพอดี นางจึงนั่งลงข้างกายเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ก่อนยิ้มบอกว่า “พวกเขานับว่ามาไม่เสียเที่ยว”
………………………………….
ตอนที่ 2878 สายฟ้า
หลัวอวี่ที่อยู่ข้างๆ ได้ยินจึงเอ่ยขึ้นอย่างหดหู่ว่า “นายท่าน ข้ากับฟั่นหลินแล้วก็ตู้ฝานมาเสียเที่ยวแล้ว”
เฟิ่งจิ่วหลุดหัวเราะ “จะเป็นไปได้อย่างไร” นางยิ้มและมองหลัวอวี่ที่ทำหน้าเศร้า ก่อนอธิบายว่า “พวกเจ้าเองก็นับว่าเป็นคนที่เคยขึ้นบันไดสู่แดนเซียนแล้ว การฝึกฝนจิตใจมีพัฒนากา าร ภายหน้าหากประสบโอกาส ย่อมไม่ใช่ปัญหาต่อการทะลวงขั้นพลัง”
นางยิ้มก่อนเอ่ยต่ออีกว่า “อีกอย่าง พวกเจ้าติดตามข้าใช้ชีวิตอย่างราบรื่นมาตลอด ยามนี้ลิ้มรสความล้มเหลวบ้างก็เป็นเรื่องดี คนเราน่ะ ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างราบรื่นไปได้ตลอด ยิ งไม่ต้องพูดถึงเส้นทางการฝึกเซียน”
หลัวอวี่กับฟั่นหลินสะท้านไปทั้งใจ ราวกับถูกปลดผนึกอะไรบางอย่างในใจ พวกเขารู้สึกสบายไปทั้งตัว กลิ่นอายพลังวิญญาณขับเคลื่อนในร่างกาย พลังวิญญาณที่จุดตันเถียนพลันเคลื่อนไหว ร ราวกับท้องทะเลที่สงบนิ่งเกิดคลื่นลม ทำให้เลือดในร่างกายของพวกเขาเดือดพล่าน
“เอ๊ะ?”
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะยักคิ้ว “พวกเจ้าสองคน…”
“ดูท่าคำพูดของเจ้าจะทำให้พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ กอปรกับการฝึกจิตก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขาก็จะทะลวงขั้นพลังแล้วเช่นกัน” เซวียนหยวนโม่เจ๋ออุ้มเด็กทารกยืนขึ้น ก่อนเอ่ยกับเฟ ฟิ่งจิ่วว่า “ให้กลืนเมฆากับเหล่าไป๋คุ้มกันพวกเขาอยู่ตรงนี้ก็พอ พวกเราไปทางนั้นกันเถอะ!”
“ได้” เฟิ่งจิ่วรับคำ ก่อนจะประคองไป๋ชิงเฉิงที่หมดสติอยู่ขึ้นมา ขณะเดียวกันก็กำชับสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตสองตัวที่อยู่ข้างหลัง “คุ้มกันพวกเขาให้ดี อย่าให้คนอื่นลอบเล่นงานได้”
“ขอรับ นายท่าน”
เหล่าไป๋กับอสูรกลืนเมฆารับคำ อสูรกลืนเมฆาที่ตอนแรกหดตัวเล็กลงลุกขึ้นยืน มันสะบัดตัว ประกายแสงวาบผ่าน ก่อนที่จะกลับมาอยู่ในร่างของสัตว์เทวะขั้นสุดยอดอันน่าเกรงขามเหมือนเด ดิม เหล่าไป๋สะบัดหาง เดินไปเดินมารอบๆ
ครั้นเห็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ที่ดูไม่มีอะไรสะดุดตาในตอนแรกกลายเป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอดอันน่าเกรงขาม ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ต่างก็สูดปาก ลอบร้องในใจว่าช่างวิปริตนัก
มีสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ตัวนั้นก็นับว่าร้ายกาจมากแล้ว นึกไม่ถึงว่าสัตว์เลี้ยงตัวเล็กนั่นจะเป็นสัตว์เทวะขั้นสุดยอดด้วย? สตรีชุดแดงนางนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่? จึงได้แข็งแกร่ งถึงเพียงนี้?
ด้านพวกตู้ฝาน พอเห็นพวกเขาเดินเข้ามาก็รีบไปช่วยประคองไป๋ชิงเฉิงไปพักผ่อนที่ใต้ต้นไม้ ก่อนจะหันไปมองสองคนที่กำลังทะลวงขั้นพลัง “นายท่าน ทำไมพวกเขาสองคนทะลวงขั้นพลังแล้ วเล่า”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ถึงเวลาก็เท่านั้น”
ตู้ฝานถอนหายใจ “ดูท่า คงมีแค่ข้าคนเดียวที่ใช้ไม่ได้”
“เจ้ามีข้อดีของเจ้า ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องพวกนี้” เฟิ่งจิ่วบอกก่อนจะตบไหล่เขา แล้วเอ่ยอีกว่า “นั่งลงเถอะ! กินด้วยกัน”
“ได้” ตู้ฝานเอ่ย ไม่ได้ไปช่วยคุ้มกันพวกเขาทั้งสอง มีเหล่าไป๋กับอสูรกลืนเมฆาเฝ้าอยู่ที่นั่น ผู้ฝึกตนพวกนั้นกล้าเล่นตุกติกก็แปลกแล้ว
“นายท่าน พวกเขาทะลวงขั้นพลังอยู่ข้างบน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเสร็จพร้อมกันหรือไม่ หาไม่แล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็คงขึ้นไปไม่ได้แล้วกระมัง”
“อืม ไม่ต้องรีบร้อน มาถึงที่นี่แล้วก็ให้พวกเขาทะลวงขั้นพลังเสร็จแล้วพักผ่อนก่อน จากนั้นก็ค่อยไปต่อ” เฟิ่งจิ่วตอบ หันไปมองห้าวเอ๋อร์ที่กำปกเสื้อของเซวียนหยวนโม่เจ๋ออยู่ น นางยิ้มพลางบอกว่า “อุ้มนานขนาดนี้คงเหนื่อยแล้วกระมัง ข้าอุ้มบ้าง”
“ไม่ต้อง เจ้ากินอะไรก่อนเถิด!” เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอก
เฟิ่งจิ่วได้ยินดังนั้นก็ครุ่นคิด ก่อนพยักหน้ารับ “ได้”
ทั้งสามรวมถึงไป๋ชิงเฉิงที่หมดสติอยู่พักผ่อนตรงนั้น จนกระทั่งเช้าวันต่อมา สายฟ้าก็ผ่าลงมาจากท้องฟ้าสายแล้วสายเล่า…