เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2881 เข้าสู่ประตูแสงนิล / ตอนที่ 2882 ปรากฏตัวอย่างงดงาม
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2881 เข้าสู่ประตูแสงนิล / ตอนที่ 2882 ปรากฏตัวอย่างงดงาม
ตอนที่ 2881 เข้าสู่ประตูแสงนิล
มีบางคนคิดว่าตาฝาดเพราะยังตื่นไม่เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ จึงลุกขึ้นนั่งก่อนขยี้ตา เมื่อเพ่งมองก็พบว่าเป็นสองคนนั้นจริงๆ ชายชุดคลุมสีดำที่มีใบหน้าเย็นชาดุจภูเขาน้ำแข็ง และหญิ งงามที่สวมชุดสีแดงนางนั้น
เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันออกไปก็คือหญิงชุดแดง วันนี้นางแต่งกายเป็นชาย แม้จะยังคงสวมชุดสีแดงทว่ากลับให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม
หากบอกว่าสตรีนางนี้ยามสวมใส่ชุดกระโปรงสีแดงแล้วดูงดงามล้ำเลิศ เช่นนั้นนางที่แต่งกายเป็นชายในตอนนี้ กลับดูเย่อหยิ่งมีเสน่ห์ บุคลิกเย่อหยิ่งสง่างามไร้ที่เปรียบนั่นทำให้ผู คนต่างก็รู้สึกสับสนในเพศของนาง หากไม่ใช่เพราะเคยเห็นนางสวมชุดประโปรงแต่แรก ยามนี้คงเชื่อไปแล้วจริงๆ ว่าคนตรงหน้าเป็นชาย
ยิ่งไปกว่านั้น คนและสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตพวกนั้นที่เคยติดตามพวกเขาก็หายไปแล้ว แม้แต่เด็กทารกที่พวกเขาเคยอุ้มอยู่ก็ไม่เห็นแล้วเช่นกัน พวกเขาคิดว่าบางทีคนเหล่านั้นอาจถูก ส่งกลับไป ก่อนที่ทั้งสองจะย้อนกลับมาลองขึ้นบันไดสู่แดนเซียนกระมัง!
เบื้องหน้าบันไดสู่แดนเซียน เซวียนหยวนโม่เจ๋อกำลังจูงมือของเฟิ่งจิ่ว เขามองหน้านางก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์ “พร้อมหรือยัง”
“อื้ม!”
เฟิ่งจิ่วรับคำ นางเผยรอยยิ้มออกมา นางเตรียมใจเผชิญหน้ากับดินแดนแปลกใหม่ตั้งแต่ที่มาถึงแล้ว แม้จะแปลกใหม่ แต่หากมีเขาอยู่ข้างกาย ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
พวกเขาจูงมือกันเดินขึ้นบันไดสู่แดนเซียน ฝีเท้าผ่อนคลายไม่เร่งรีบ แต่ละก้าวล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจราวกับว่าพวกเขาไม่ได้กำลังเดินอยู่บนบันไดสู่แดนเซียน ไม่ได้กำลังเดิน นอยู่บนเส้นทางที่นำไปสู่โลกใบใหม่ แต่กำลังเดินจูงมือกันอยู่ในสวนดอกไม้หลังบ้านอย่างไรอย่างนั้น…
ทั้งสองเดินเคียงไหล่กันขึ้นไป ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร รู้แค่ว่าก้าวขึ้นไปทีละก้าวๆ ไม่นาน ปลายทางก็เหมือนจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เฟิ่งจิ่วเคยมาที่นี่ นางจึงเดินได้อย่างผ่อนคลาย ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อแม้เพิ่งเคยมาครั้งแรกแต่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันแต่อย่างใด เพียงแต่เขาไม่ได้ทะลวงขั้นพลังบนบันไดสู่แดนเซียน เหมือนเฟิ่งจิ่ว
จนกระทั่งตอนที่ทั้งสองเดินจูงมือกันขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุด ทั้งสองหยุดเดินก่อนมองหน้ากันแวบหนึ่ง
“นี่ก็คือประตูแสงนิล เมื่อเดินเข้าไป ด้านหลังก็จะเป็นโลกอีกใบหนึ่ง” เฟิ่งจิ่วบอก นางมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อ “ครั้งก่อนตอนที่ข้าเดินมาถึงตรงนี้ ได้ยินตาเฒ่าหลายคนคุยกันอยู่ หลังประตูด้วย”
“น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งจากฟากนั้น” เซวียนหยวนโม่เจ๋อคาดเดา
“ไม่รู้ว่าหลังจากเดินข้ามประตูบานนี้ไป พวกเราจะไปปรากฏตัวอยู่ที่ไหน” นางสงสัย หากก้าวเท้าข้ามประตูบานนี้ไป จะมีสถานที่แบบใดรออยู่กันนะ? ตอนที่โม่เฉินเดินเข้าไป เขาจะไปปร รากฏตัวที่ไหน? เขาไปถึงที่นั่นเพียงลำพัง ตอนนี้จะอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้
“ไม่ว่าอยู่ที่ใด ข้าก็จะอยู่ข้างกายเจ้าเสมอ” เขาบีบมือนาง ก่อนพูดอีกว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราไปกันเถอะ!”
“อืม” นางรับคำ กุมมือเขาแน่นๆ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า
พวกเขาก้าวเท้าออกไปเป็นก้าวสุดท้าย ข้ามผ่านประตูแสงนิล รู้สึกเพียงมีพลังขุมหนึ่งดูดพวกเขาเข้าไป ประกายแสงวาบผ่านตรงหน้า โลกหมุนในชั่วพริบตา
แทบจะในชั่วขณะนั้นเอง เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอื้อมมือมาดึงเฟิ่งจิ่วเข้าไปกอด ใช้ชุดคลุมสีดำคลุมตัวนางไว้เพื่อปกป้องนางจากแสงที่เจิดจ้าแยงตา
………………………………….
ตอนที่ 2882 ปรากฏตัวอย่างงดงาม
ครั้นสังเกตดูดีๆ นัยน์ตาสีดำขลับนั้นไหวระริกเล็กน้อย แววตาดูแปลกใจ เขากระซิบบอกกับเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในอ้อมแขนเบาๆ ว่า “อาจิ่ว เหมือนว่าพวกเราจะมาอยู่ในสำนักของคนอื่นเสียแล้ว ว”
“หา?” เฟิ่งจิ่วชะโงกหน้าออกมาจากอ้อมแขนของเขา ครั้นมองดีๆ นางก็อึ้งไปเช่นกัน “คึกคักเชียว! พวกเราคงไม่ได้บังเอิญมาตอนที่พวกเขามีการประลองประจำปีพอดีหรอกกระมัง”
เห็นเพียงเบื้องล่างมีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน ทั้งหมดต่างสวมใส่ชุดที่แตกต่างกัน บนเวทีที่อยู่ตรงกลาง มีคนสองคนกำลังประลองฝีมือกันอยู่ พวกเขาชะงักค้างไปเพราะการปรากฏตัวขึ้นอ อย่างกะทันหันของพวกเฟิ่งจิ่ว
ในเวลานี้ ผู้คนเบื้องล่างต่างก็ตะลึงจนตาค้าง พวกเขาที่มาจากสำนักต่างๆ มาเข้าร่วมการประลองใหญ่ประจำปี ทันใดนั้นก็มีประกายแสงแยงตาวาบผ่านท้องฟ้า ก่อนปรากฏขึ้นเป็นหลุมอากาศ จา ากนั้นเงาร่างหนึ่งดำหนึ่งแดงก็ปรากฏขึ้นลำกลางแสงนั่น
แต่ทว่า พอพวกเขาเพ่งมองดีๆ กลับเห็นเป็นเงาร่างสีแดงกำลังชะโงกหน้าออกมาจากอ้อมแขนของชายชุดคลุมสีดำ พอสังเกตดูอย่างละเอียดอีกครั้ง กลับพบว่าในอ้อมแขนของชายชุดคลุมสีดำค คือเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
ในเวลากลางวันแสกๆ บุรุษสองคนโอบกอดกันต่อหน้าธารกำนัล ภาพนั้นแทบจะทำให้ผู้คนเบื้องล่างตะลึงค้างกันไปหมด พวกเขาเคยเห็นแต่บุรุษกอดสตรี ไม่เคยเห็นบุรุษกอดบุรุษมาก่อน!
“สองคนนี้มาจากที่ใดกัน”
“นี่คงไม่ได้ลงมาจากบันไดสู่แดนเซียนหรอกกระมัง”
“หากลงมาจากบันไดสู่แดนเซียน แล้วเหตุใดจึงกอดกันอยู่เช่นนั้น ซ้ำยังเป็นผู้ชายทั้งคู่อีก”
“หรือว่าคนจากแผ่นดินใหญ่ฝั่งนั้นนิยมแบบนี้?”
“อ๊ะ พวกเจ้าดูนั่น ชายชุดคลุมสีดำคนนั้นหน้าตาดู…ดู…จะบรรยายอย่างไรดีเล่า?”
ชายที่อยู่ข้างๆ พูดต่อว่า “ชายชุดคลุมสีดำมีบุคลิกน่าเกรงขาม แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งโอบล้อมรอบกาย สง่างามดุจผู้อยู่เหนือกว่า ดวงหน้างดงามทว่าไม่อาจลดทอนความแข็งกร้าวดุจชายชา าตรี อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่รูปร่างหน้าตาก็เอาชนะตงฟางเชียนเจวี๋ยซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของสี่สำนักเซียนใหญ่ได้แล้ว นึกไม่ถึงว่าสถานที่อย่างฟากฝั่งนั้น กลับสามารถให้กำเนิดบุ คคลที่งดงามดุจเซียนเช่นนี้ออกมาได้”
ขณะเดียวกัน เหล่าผู้อาวุโสในสำนักที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูง เมื่อเห็นคนสองคนที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน สายตาของพวกเขาไหวระริก โดยเฉพาะคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นดวงหน้างดงามที่ช ชะเง้อออกมาจากอ้อมแขนของชายชุดคลุมสีดำ สายตาของพวกเขาต่างเป็นประกายขึ้นมาทันที
เป็นนาง! แม่หนูที่พวกเขาเห็นครั้งก่อน!
ในเวลานี้เอง เซวียนหยวนโม่เจ๋อพาเฟิ่งจิ่วทิ้งตัวลงบนเวทีอย่างมั่นคง หลังจากยืนอย่างมั่นคงแล้วก็คลายมือที่โอบเอวเฟิ่งจิ่วไว้ จากนั้นก็ปล่อยนางออกจากอ้อมแขน
“เป็นอย่างไรบ้าง ไม่เจ็บตรงไหนใช่หรือไม่” เขาไม่สนใจคนรอบข้าง เพียงกระซิบถามเฟิ่งจิ่ว
“อืม ไม่เป็นไร” เฟิ่งจิ่วถาม กะพริบตาปริบๆ มองคนรอบๆ ขณะเดียวกันก็เดินออกจากอ้อมแขนของเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
“ต้องขออภัยจริงๆ เหมือนว่าพวกข้าจะรบกวนพวกท่านเสียแล้ว” เฟิ่งจิ่วกล่าวขออภัย ก่อนจะประสานมือไปยังสองคนที่อยู่บนเวที
ในตอนนี้เอง คนเหล่านั้นเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่แท้เด็กหนุ่มที่ซ่อนอยู่ในอ้อมแขนของชายชุดคลุมสีดำนั้นเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตางามล้ำจนแทบกระชากวิญญาณเลยทีเดียว!
เห็นเด็กหนุ่มในชุดสีแดงสะดุดตา เส้นผมสีหมึกถูกปล่อยสยายลงกลางหลัง ดวงตางามแย้มยิ้ม กลีบปากหยักยกเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ การกระทำผ่อนคลาย ท่าทางเหมือนคุณชายตระกูลผู้ดี คนหนึ่ง พวกเขาก็ได้แต่ตะลึงตาค้าง
เด็กหนุ่มคนนี้ ช่างงดงามจริงๆ!