เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2883 เถียงกัน / ตอนที่ 2884 ไม่เลว
ตอนที่ 2883 เถียงกัน
“ฮ่าๆๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะก้องกังกวานดังทำลายบรรยากาศแปลกๆ นั้น เห็นเพียงชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมตัวใหญ่ลุกยืนขึ้น ก่อนมองเฟิ่งจิ่วแล้วบอกว่า “เจ้าก็คือเฟิ่งจิ่วไม่ใช่หรือ ข้ารอเจ้า ามานานมากแล้ว”
“รอนางมานานอะไรกัน นางเป็นคนที่ข้าจองไว้แล้วต่างหาก” เฒ่าทารกอายุเจ็ดแปดสิบในชุดคลุมสีขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยค้านขึ้น เขายิ้มจนตาหยี จ้องเฟิ่งจิ่วพลางกวักมือ “ข้าเอ อง! จำเสียงข้าได้หรือไม่”
“เฟิ่งจิ่ว บันไดสู่แดนเซียนนี้ข้าเป็นคนเปิดไว้ตลอดโดยไม่สนใจคำค้านของทุกคน ฉะนั้นเจ้ามาที่นี่ได้ก็เป็นเพราะข้า เจ้าไม่ต้องสนใจพวกเขาก็ได้” หญิงงามนางหนึ่งเอ่ยขึ้น นางจ้ องเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาร้อนแรง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกชอบ
นึกไม่ถึงว่าแม่หนูคนนี้ยามแต่งกายเป็นหญิงจะงามล้ำเลิศ แต่พอเปลี่ยนมาแต่งกายเป็นชาย กลับน่าหลงใหลถึงเพียงนี้! นางจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วอย่างไม่วางตา ถึงขั้นมองข้ามเซวียนหยวนโม ม่เจ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ไป พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่เฟิ่งจิ่วเท่านั้น
“ไม่สนคำค้านของทุกคนอะไรกัน นี่เป็นข้อเสนอของพวกเราแท้ๆ” ชายชราที่อยู่ข้างๆ เอ่ยอย่างไม่พอใจ
“นั่นสิๆ พวกเราตกลงกันแล้ว หากนางข้ามมาฝั่งนี้แล้ว จะให้นางเลือกด้วยตนเอง” เฒ่าทารกเอ่ย น้ำเสียงชราพลันเปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงเล็กแหลมพลางหันไปเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วอย่างไร้เดีย ยงสา “เจ้าต้องเลือกข้านะ ข้าดีกว่าพวกเขา กราบข้าเป็นอาจารย์ ข้ารับรองว่าเจ้าจะสามารถรักษาความสาวไว้ได้ตลอดกาล”
“พรืด! หากเหมือนเจ้าก็แย่แล้ว โตก็โตไม่ไหว เจ้าว่าตาเฒ่าอย่างเจ้ากลับอยู่ในสภาพเด็กน้อยอย่างนี้น่าขยะแขยงหรือไม่เล่า? ตอนนี้ยังคิดจะลากคนอื่นไปซวยด้วยอีก” หญิงงามที่ยืนอ อยู่อีกด้านหัวเราะหยัน ก่อนจะเอ่ยคำพูดเสียดสีอย่างไม่ไว้หน้า
“น่าขยะแขยงเท่าเจ้าหรือไม่เล่า ทั้งที่เป็นยายแก่แล้ว ยังแสร้งทำตัวเป็นหญิงแรกแย้ม วันๆ เอาแต่แต่งตัวเป็นบุปผาเรียกแขก เจ้าคิดว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีความน่าเคารพเอาเ เสียเลย อยู่กับเจ้าสิจะซวยเอา”
“ตาเฒ่าหนังเหนียว เจ้าว่าอย่างไรนะ!”
“ข้าบอกว่าเจ้าเป็นยายแก่ ทำไมเล่า?”
“ตาเฒ่าหนังเหนียว!”
เห็นสองคนนั้นทะเลาะกันอยู่ตรงนั้น คนรอบข้างถึงกับตาค้าง นี่มันเรื่องอะไรกัน? เหตุใดอยู่ดีๆ ผู้อาวุโสผู้สูงส่งก็ทะเลาะกันต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้?
อีกอย่าง พวกเขารู้จักเด็กหนุ่มชุดแดงคนนี้หรือ? เหตุใดต้องแย่งตัวเขามาเป็นศิษย์ด้วย?
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเหตุการณ์ตรงหน้า ก่อนถามว่า “นี่คือคนพวกนั้นที่เจ้าเคยเล่าให้ฟังหรือ” เหตุใดจึงดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวรยุทธ์ของคนพวกนี้ล้ำลึกแ และคาดเดาไม่ได้
“ข้าไม่เคยเห็นหน้า แต่เคยได้ยินเสียงพวกเขา” นางตอบ เห็นพวกเขาทะเลาะกันอยู่ตรงนั้น จึงถามว่า “ทุกท่าน ขอถามก่อนสักประโยค”
ครั้นนางเอ่ยออกไป สองคนที่กำลังทะเลาะกันก็หยุดมือทันที ก่อนจะหันมามองเฟิ่งจิ่วอย่างพร้อมเพรียง เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา “เฟิ่งจิ่วเอ๋ย เจ้าอยากถามอะไรหรือ ถามเถอะๆ!”
เห็นดังนั้น ฝูงชนเบื้องล่างต่างก็อึ้งค้าง นี่ใช่ผู้อาวุโสผู้เย็นชาสองคนนั้นที่พวกเขารู้จักหรือไม่? เหตุใดจึงปฏิบัติต่อเด็กหนุ่มชุดแดงไม่เหมือนคนอื่นเล่า?
เขาหันไปมองเด็กหนุ่มชุดแดงคนนั้น พลางลอบสงสัยในใจ แม้เด็กหนุ่มชุดแดงจะรูปงามกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้ผู้อาวุโสสองท่านนั้นทะเลาะกันกระมัง?
………………………………….
ตอนที่ 2884 ไม่เลว
เห็นท่าทางพวกเขาสองคน เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ก่อนเอ่ยว่า “ข้าอยากถามว่าที่นี่คือที่ใด หากพวกเราจะออกไป ควรไปทางไหนหรือ”
เฒ่าทารกผู้นั้นได้ยินก็เบิกตากว้าง “ไป? พวกเจ้าจะไป? มาแล้วก็อยู่เสียเลย จะไปทำไมอีก”
“นั่นสิ อยู่ต่อแล้วกราบข้าเป็นอาจารย์ ถ้ำบนเขาของข้ารอเจ้าไปเป็นเจ้าของอยู่นะ” หญิงงามเอ่ยขึ้น
เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่อยู่ด้านข้างเห็นอย่างนี้จึงเอ่ยขึ้นว่า “จะไปหรือจะอยู่ค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ ตอนนี้พวกข้าไม่สมควรอยู่บนเวที หากยังคุยกันต่อไป การประลองบนเวทีนี้คงไม ม่อาจดำเนินต่อ”
ทั้งสองจึงได้สติกลับมา จริงด้วย! ยังอยู่ระหว่างประลองกันนี่นา! พวกเขาหันกลับไปมอง เห็นเจ้าสำนักทั้งสี่หันมองมาทางนี้ จึงยิ้ม “ก็จริง มาๆ พวกเจ้าตามพวกข้ามา อย่ายืนรบกวนการ รประลองของพวกเขาบนเวที ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้ารู้จัก”
ขณะเอ่ย ก็พยักหน้าให้เซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วเดินตามเขาไปยังที่นั่งของพวกตน พลางเอ่ยกับผู้ฝึกตนสองคนบนเวที “พวกเจ้าต่อเลย ต่อเลย”
ผู้ฝึกตนสองคนยิ้มอย่างขมขื่น การประลองดีๆ ถูกขัดจังหวะเสียแล้ว ตอนนี้จะมาบอกให้พวกเขาประลองต่อ? เหตุใดจึงรู้สึกว่าความสนใจของพวกเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แล้วจะต่ออย่างไรได้ อีก?
ขณะเดียวกันนั้น ทั้งสองก็พาเซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วมายังที่นั่งที่มีคนนั่งอยู่สิบกว่าคน พวกเขายิ้มพลางเอ่ยกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อและเฟิ่งจิ่วว่า “ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก ก็คือสี่เจ้าสำนักของสี่สำนักเซียนใหญ่ วันนี้พวกเจ้าโชคดีมาได้จังหวะ ได้พบพวกท่านพอดี ปกติท่านเซียนทั้งสี่ทั้งไม่ค่อยออกหน้าหรอกนะ”
“คารวะท่านเซียนทั้งสี่” เฟิ่งจิ่วคารวะ สายตาจ้องพิจารณาทั้งสี่คน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยักหน้าเบาๆ ทว่าไม่ได้คารวะ
เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสอง คนทั้งสิบที่นั่งอยู่สายตาไหวระริก ประกายแปลกประหลาดพาดผ่านสายตา พวกเขาพิจารณาสองคนนั้นตั้งแต่ปรากฏตัวแล้ว ด้วยวรยุทธ์ของพวกเขา ย่อมสามารถมองออกตั้งแ แต่แวบแรก เด็กหนุ่มชุดแดงคนนี้แท้จริงเป็นสตรี หนำซ้ำอายุกระดูกของสองคนนี้ยังน้อยมาก แต่วรยุทธ์กลับเทียบได้กับอาจารย์ในสำนักเซียนของพวกเขา
สตรีชุดแดงที่ชื่อเฟิ่งจิ่วคารวะพวกเขา แต่แววตากลับไม่ได้มีความเคารพนอบน้อมมากนัก ราวกับว่าสำหรับนางแล้ว นี่เป็นเพียงมารยาทพื้นฐานอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นมารยาทที่ผู้น น้อยพึงมีต่อผู้อาวุโส
ชายชุดคลุมสีดำยิ่งเย็นชาน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่าเป็นผู้มีตำแหน่งสูงส่ง เห็นพวกเขาก็เพียงพิจารณาแวบหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าให้เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้มีตำแหน่งสูงส่งที่ไม ม่กระทำเรื่องเช่นการก้มหัว
ก้มหัวอย่างนั้นหรือ?
ด้วยระดับวรยุทธ์หรืออายุของพวกเขา ย่อมมีคุณสมบัติมากพอที่จะรับการก้มหัวของอีกฝ่าย ทว่าความเย่อหยิ่งของคนหนุ่มนั้นทำให้เซียนทั้งสี่อดยิ้มบางๆ ไม่ได้
พวกเขาสี่คนไม่ได้ใส่ใจความเย่อหยิ่งของทั้งสอง แต่ผู้อาวุโสจากสี่สำนักกลับไม่ค่อยพอใจนัก โดยเฉพาะเมื่อเห็นทั้งสี่แย่งชิงสองคนนี้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก็ยิ่งอยากรู้ว่าสองค คนนี้มีอะไรพิเศษกันแน่?
“คนนี้คือเฟิ่งจิ่ว คนนี้คือ…” เฒ่าทารกหันไปถามเซวียนหยวนโม่เจ๋อว่า “เจ้าชื่ออะไร”
“เซวียนหยวนโม่เจ๋อ” เขาบอกชื่อของตนเอง
“อ้อ เซวียนหยวนโม่เจ๋อ” เขาพยักหน้า ก่อนเอ่ยกับท่านเซียนทั้งสี่ว่า “นี่ก็คือเซวียนหยวนโม่เจ๋อ สองคนนี้ไม่เลวทีเดียว ท่านเซียนทั้งหลายคิดว่าอย่างไร”
ได้ยินอย่างนั้น เซียนทั้งสี่ยิ้มบางๆ ก่อนลูบหนวดสีขาวพลางมองสองคนตรงหน้า “อืม ไม่เลวจริงๆ”