เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2909 หายาก / ตอนที่ 2910 ไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุ
ตอนที่ 2909 หายาก
ด้านในเขตอาคม กวางวิญญาณทองม่วงโตเต็มวัยสองตัวกำลังเดินอยู่บนพื้น บางครั้งก็เหินตัวกระโดดโลดเต้นกลางอากาศ กวางวิญญาณทองม่วงโตเต็มวัยร่างกายกำยำ อีกทั้งขาเรียวยาว พวก กมันราวกับมีพลังมหาศาล ทุกครั้งที่กระโดดล้วนเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา
ขนสีม่วงลวดลายสีทองบนตัวพวกมันดูเข้ากันเป็นอย่างดี ลวดลายดอกไม้ที่โดดเด่นและสีขนที่สะดุดตาทำให้พวกมันดูงดงามไม่ธรรมดา โดยเฉพาะเขากวางยาวๆ ที่กึ่งม้วนเข้าไปด้านในบนหัว วของพวกมันนั่น จุดสีม่วงและทองขึ้นตามเขากวาง ส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางแสงแดด งดงามราวกับไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์
“งดงามมากจริงๆ ไม่เสียแรงที่เป็นสัตว์ร้ายหายาก” เฟิ่งจิ่วอดอุทานในความงามของพวกมันไม่ได้ นางรู้สึกว่ากวางวิญญาณทองม่วงสองตัวนี้งามจนไม่มีสิ่งใดเทียบได้
“แน่อยู่แล้ว! ไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสมู่ซินจะหวงแหนขนาดนั้นหรือ” หวันเหยียนเชียนหวาหัวเราะเบาๆ ขณะมองดูกวางวิญญาณสองตัวนั้นกระโดดม้วนตัวไปมาอยู่กลางอากาศ “อีกอย่างพวกมันยัง งเป็นกวางวิญญาณที่แม้ไม่มีปีกก็สามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ พวกมันเปี่ยมด้วยกำลังวังชา พลังต่อสู้เองก็ไม่ได้อ่อนแอเลย!”
“ข้าขอเข้าไปลูบดูหน่อย” เฟิ่งจิ่วว่า ก่อนจะหายตัวเข้าไปในเขตอาคม นางเดินไปหากวางวิญญาณสองตัวนั้น
หวันเหยียนเชียนหวาอึ้ง มองเฟิ่งจิ่วที่ทะลุเข้าไปในเขตอาคม หลังจากอึ้งอยู่ไม่นานก็เดินเข้าไปพลางเอ่ยว่า “หรือว่าเขตอาคมนี้สามารถเข้าไปได้แล้ว?”
ขณะคิดอย่างนั้น นางกลับค้นพบว่าตนเองถูกพลังที่มองไม่เห็นดีดออกมาทันทีที่สัมผัสโดนเขตอาคม นางกระเด็นออกมาไกลหลายจั้ง พอยืนได้มั่นคงก็สะบัดแขนเสื้อมองเขตอาคมตรงหน้าอย่า างสงสัย
เฟิ่งจิ่วเข้าไปได้ทั้งที่เขตอาคมยังไม่ถูกเปิด?
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วที่กำลังไล่ตามกวางวิญญาณทองม่วงอยู่ในเขตอาคมนั้นดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สำหรับนางแล้ว นี่ไม่ใช่แค่กวางวิญญาณที่งดงามแข็งแกร่งและสามารถเหาะเหินได้ แต่ เป็นยาทิพย์สองตัวที่ล้ำค่ามากต่างหาก
ผงเขากวางของกวางวิญญาณทองม่วงนี้ ขอเพียงขูดออกมาเล็กน้อยก็กลายเป็นยาวิเศษที่สามารถแก้สารพัดพิษได้แล้ว หากเอามาทำเป็นยาน้ำหรือกลั่นเป็นยาเม็ด ประสิทธิภาพในการแก้พิษจะต ต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่ๆ
ฉวยโอกาสตอนที่มู่ซินยังไม่มา นางรีบขูดออกมาเก็บไว้ก่อนดีกว่า อีกเดี๋ยวค่อยหาวิธีเอากวางวิญญาณสองตัวนี้มาครอบครอง
ขณะที่กำลังคิดเช่นนั้น เงาร่างสีแดงโฉบไหว กวางวิญญาณหนึ่งตัวถูกจับได้แล้ว แรงกดดันเทวะโบราณถูกปล่อยออกไป ไม่นานกวางวิญญาณทองม่วงที่ทำท่าจะขัดขืนพลันหมอบลงอย่างว่าง่าย
“อย่างนี้สิ เด็กดี” นางลูบหัวของกวางวิญญาณทองม่วง และเอ่ยอย่างพึงพอใจ ขณะเดียวกันก็หยิบมีดเล็กและขวดออกมาจากห้วงมิติ จากนั้นก็ขูดผงเขากวางจากเขาของมันทีละชั้นๆ อย่าง ระมัดระวัง
กวางวิญญาณทองม่วงสองตัวนั้นจ้องเฟิ่งจิ่วตาปริบๆ ท่าทางน่าสงสาร ซ้ำยังส่งเสียงครางเบาๆ ออกจากปากด้วย
หลังจากที่ขูดผงเขากวางจากเขาทั้งสองข้างของมันมาได้ขวดเล็กๆ แล้ว เฟิ่งจิ่วตบหัวพวกมัน ก่อนจะพลิกฝ่ามือ ยาห่อหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ
“ถือว่าเป็นของชดเชยให้พวกเจ้า” นางยิ้มก่อนจะแกะห่อยาออก
ทันทีที่กวางวิญญาณทองม่วงได้กลิ่นนั้นก็พลันลิงโลด ประกายความดีใจพาดผ่านดวงตา มันอ้าปากแลบลิ้นออกไปตวัดยาที่อยู่กลางฝ่ามือของเฟิ่งจิ่วเข้าไปในปาก จากนั้นก็เอาหัวถูฝ่ามือ ของนางอย่างเอาอกเอาใจ
กวางวิญญาณทองม่วงอีกตัวได้กลิ่นยาชั้นดีนั่นก็เดินเข้ามาเอง มันใช้เขาของมันสะกิดเฟิ่งจิ่ว ยื่นเขาของตนเองมาให้เฟิ่งจิ่วถึงที่ แล้วยังมองเฟิ่งจิ่วด้วยดวงตาสุกใสราวกับมีห หยดน้ำกลอกกลิ้งอยู่ข้างใน เหมือนมันกำลังบอกว่ายอมให้นางขูดผงเขากวางเพื่อแลกกับยา
………………………………….
ตอนที่ 2910 ไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุ
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ลูบกวางวิญญาณทองม่วงตัวนั้น ก่อนจะเอาห่อยามาเปิดออก “กินเถอะ! ผงเขากวางข้าขูดมาพอแล้ว ไม่ต้องขูดอีกก็ได้”
“งี๊ดๆ”
กวางวิญญาณทองม่วงตัวนั้นร้องด้วยความดีใจ มันแลบลิ้นออกมาตวัดยาที่อยู่กลางฝ่ามือของเฟิ่งจิ่วไปกิน จากนั้นก็แลบลิ้นเลียฝ่ามือของเฟิ่งจิ่ว ทำเอานางหัวเราะออกมา
“ได้ยินว่าพวกเจ้านั้นวิ่งได้เร็วมาก แสดงให้ข้าเห็นหน่อยเถอะ! พวกเจ้าลองไล่ตามข้า ดูกันว่าจะเร็วแค่ไหน” นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางตบหัวกวางสองตัวนั้นเบาๆ “เข้าใจ หรือไม่”
“งี๊ด” กวางวิญญาณทองม่วงสองตัวพยักหน้า พวกมันลุกขึ้น ครั้นลุกขึ้นมาก็สูงเกินเฟิ่งจิ่วไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เฟิ่งจิ่วหันหน้าเหินตัวขึ้นกลางอากาศ “มาเร็ว!” สิ้นเสียง กวางวิญญาณทองม่วงสองตัวก็ไล่ตามนางไปทันที
หวันเหยียนเชียนหวาที่อยู่นอกเขตอาคมเห็นดังนั้นก็เบิกนัยน์ตางามกว้าง กวางวิญญาณทองม่วงที่ไม่ชอบให้คนเข้าใกล้กลับกำลังวิ่งไล่เฟิ่งจิ่วอยู่? นางทำอะไรกันแน่? ถึงได้ทำให้ กวางวิญญาณสองตัวเชื่อฟังได้เพียงนั้น?
อีกด้านหนึ่ง ซื่อเชวียที่ได้ยินลูกศิษย์มารายงานว่าเฟิ่งจิ่วไปที่สวนสมุนไพรของตนก็รีบมุ่งหน้าไปทันที แต่ตอนที่เขามาถึงสวนสมุนไพร ก็เห็นลูกศิษย์คนหนึ่งนั่งยองๆ อยู่ที่สวนสมุ นไพร เขามองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นเงาร่างของเฟิ่งจิ่ว จึงถามว่า “ไหนว่าบรรพจารย์ของพวกเจ้ามาไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงไม่เห็น…เฮือก!”
ยังพูดไม่ทันจบ ครั้นสายตามองไปที่แปลงสมุนไพรตรงหน้า เขาสูดหายใจเสียงดังเฮือก ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไป “ดอกเจ็ดใบเพลิงพันปีของข้าเล่า? เหตุใดจึงเหลือแค่หลุมเปล่า? ใคร? ใคร รช่างใจกล้าขนาดนี้? กล้าแอบขุดยาทิพย์พันปีของข้าไป!”
ลูกศิษย์คนนั้นตกใจจนหน้าซีด ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงขาดๆ หายๆ ว่า “ทะ…ท่านอาจารย์ ปะ…เป็นท่านบรรพจารย์ ท่านบรรพจารย์ขุดไป ยังมี…ยังมีอีกสองต้นทะ…ทางนั้น…” เขาชี้ไปอ อีกด้านหนึ่ง ก่อนที่จะไม่อาจพูดต่อให้จบประโยคได้อีก
ได้ยินอย่างนั้นกอปรกับเห็นหลุมเปล่าอีกสองหลุม ซื่อเชวียแทบจะลมจับ นี่เขา…นี่เขาต้องสูญเสียยาทิพย์อายุมากที่สุดสามต้นไปทั้งอย่างนี้หรือ?
“ไม่ได้การ! ข้าจะไปเอาคืน!” เขาหมุนตัวเดินออกไป ทว่ายังไม่ทันออกจากสวนสมุนไพรก็เจอมู่ซินที่เดินเข้ามาพอดี
ผู้อาวุโสมู่ซินเห็นเขาโมโหหน้าแดงจนเหมือนอยากจะฆ่าคน จึงถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า “ทำไมหรือ เกิดอะไรขึ้น”
“อาจารย์ตัวดีของพวกเราน่ะสิ! เขาขุดยาทิพย์พันปีสามต้นของข้าไปแล้ว!” ซื่อเชวียสูดหายใจลึกๆ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเพลิงโทสะในใจกำลังจะปะทุออกมา ทว่ากลับหาที่ระบายไม่เจอ
มู่ซินตะลึง “ยาทิพย์อายุพันปีสามต้นนั้นของเจ้าหรือ? ฮ่าๆๆ! สมน้ำหน้าแล้วที่โดนขุดไป ใครใช้ให้เจ้าปลูกยาทิพย์ที่มีค่าขนาดนั้นไว้ในสวนสมุนไพรแบบนี้เล่า ซ้ำยังปล่อยให้คนเข้ าออกได้ตามใจอีก หากรู้อย่างนี้ไยเจ้าไม่ร่ายเขตอาคมไว้แต่แรกเล่า”
“ไม่ได้การ! ข้าจะไปเอาคืน! ยาทิพย์สามต้นนั้นข้าตั้งใจว่าจะให้เจ้าเขาแห่งยอดเขายาช่วยกลั่นยาให้ข้า ตอนนี้นางเอาไปแล้ว ข้า…ข้า…” ซื่อเชวียยิ่งพูดก็ยิ่งร้อนรน มู่ซินที่อ อยู่ข้างๆ จึงต้องรีบปลอบใจ
“เอาล่ะๆ เจ้าอย่าเพิ่งใจร้อน อย่าเพิ่งใจร้อนน่า นางไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุเสียหน่อย เอาไปก็ไม่มีประโยชน์ เดาว่าคงอยากจะขุดอะไรในนั้นไปสักอย่าง” เขายิ้มๆ ก่อนเอ่ยอีกว่า “อี กเดี๋ยวข้าไปขอคืนจากอาจารย์กับเจ้าเอง”
ซื่อเชวียได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยๆ ใจเย็นลง ก็จริง นางไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุเสียหน่อย เอายาทิพย์พันปีไปก็ไม่มีประโยชน์ น่าจะสามารถขอคืนกลับมาได้