เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2915 จัดการ / ตอนที่ 2916 ข้อดี
ตอนที่ 2915 จัดการ
“อาจารย์”
ซื่อเชวียเห็นเฟิ่งจิ่วออกมาก็รีบคารวะ ขณะเดียวกันก็ประคองกล่องในมือยื่นให้ “อาจารย์ นี่คือหญ้าหิมะวิญญาณพันปีที่ศิษย์เก็บไว้ อาจารย์โปรดรับไว้ด้วย”
เฟิ่งจิ่วไม่ได้รับไปแต่อย่างใด เพียงยืนเอามือไพล่หลังมองเขา ก่อนเอ่ยว่า “หญ้าหิมะวิญญาณนี้เจ้าเอากลับไปเถอะ! ข้าขุดยาทิพย์พันปีของเจ้ามาสามต้น เมื่อหลอมยาเมฆาแดงได้เมื่อใ ใด ย่อมจะส่งไปให้เจ้าหนึ่งเม็ด”
ซื่อเชวียหัวใจสะท้านไปทั้งดวง เขามองนาง “อาจารย์ ท่าน…” ยาเมฆาแดงไม่ได้ใช้แค่ยาทิพย์พวกนั้น เขาแค่มอบยาทิพย์พันปีสามต้นนั้นให้ ก็จะได้รับมาหนึ่งเม็ดแล้วอย่างนั้นหรือ?
“ขวดนี้ ถือเป็นของขวัญคารวะอาจารย์ให้เจ้าก็แล้วกัน!”
เฟิ่งจิ่วพลิกฝ่ามือ จากนั้นยาขวดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ “นี่ไม่ใช่ยาช่วยทะลวงขั้นพลัง แต่กลับเป็นยาที่สามารถช่วยชีวิตคนได้ มีทั้งหมดสามเม็ด หากกินภายใต้สถานการณ์อันตราย ย จะช่วยรักษาชีวิตเจ้าเอาไว้ได้”
“ขอบคุณท่านอาจารย์” เขายื่นมือออกมารับอย่างระมัดระวังและซาบซึ้ง เขามองกล่องในมือก่อนบอกขึ้นว่า “อาจารย์ หญ้าหิมะวิญญาณพันปีนี้ท่านรับเอาไว้เถอะ! ไม่อย่างนั้นศิษย์คงไม่สบ บายใจ” เขายื่นหญ้าหิมะวิญญาณพันปีให้อีกครั้ง
เฟิ่งจิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับไป “ในเมื่อเจ้าว่าอย่างนี้ เช่นนั้นอาจารย์ก็จะรับไว้ก็แล้วกัน!”
“ขอบคุณอาจารย์” เขาเผยยิ้มอย่างดีใจ ก่อนถามว่า “อาจารย์ พวกท่านจะไม่อยู่ในสำนักต่อจริงหรือ”
“อืม ตั้งใจว่าอีกสองสามวันก็จะไปแล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบ
“ไม่ทราบว่าอาจารย์อยากไปลงหลักปักฐานที่เมืองใดหรือ หากยังไม่มีที่ใดในใจ ศิษย์สามารถช่วยจัดหาให้อาจารย์ได้”
เดิมทีเฟิ่งจิ่วตั้งใจจะปฏิเสธ แต่นึกถึงที่พี่สาวของนางบอกว่าเบื้องหลังของซื่อเชวียกับมู่ซินนั้นมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่อยู่ จึงบอกว่า “ในเมืองทิศตะวันตกที่อยู่ใกล้สำนักเซียนแห่ง งนี้มากที่สุด ได้ยินว่าเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด หากมีคนรู้จัก เจ้าก็ให้คนหาจวนไว้ให้พวกเราสักหลังก็แล้วกัน!”
ซื่อเชวียรับคำอย่างนอบน้อม “อาจารย์วางใจ เรื่องนี้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของศิษย์เอง” เขาคารวะหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบกลับไปสั่งให้ลูกศิษย์คนหนึ่งของเขามุ่งหน้าไปยังเมืองทิ ศตะวันตกแห่งนั้นทันที
หลังกลับเข้ามาในถ้ำ เฟิ่งจิ่วเล่าเรื่องที่สั่งให้ซื่อเชวียไปทำให้เซวียนหยวนโม่เจ๋อกับหวันเหยียนเชียนหวาฟัง สุดท้ายก็บอกว่า “เห็นเขาถามอย่างนั้น ข้าก็เลยให้เขาไปจัดการ”
“ให้เขาจัดการก็ช่วยแก้ปัญหาไปได้ไม่น้อย ญาติของผู้อาวุโสซื่อเชวียอยู่ที่เมืองตะวันตกแห่งนั้น ขอแค่เขาออกคำสั่งก็พอ ในระหว่างนี้พวกเจ้าก็อยู่ที่นี่อย่างสบายใจไปก่อน รอ เขาจัดการทางนั้นเสร็จค่อยจากไปก็ยังไม่สาย” หวันเหยียนเชียนหวายิ้มเอ่ย ก่อนจะดื่มชาให้ชุ่มคอสักหน่อย
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำ นางหันไปมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ก่อนจะถามขึ้นอีกว่า “พี่สาว ก่อนที่พวกข้าจะมา ท่านเคยเจอผู้ชายที่ชื่อโม่เฉินมาที่นี่หรือไม่”
โม่เฉินมาถึงที่นี่ก่อนพวกเขา แต่พวกเขามาถึงที่นี่สองวันแล้ว กลับไม่เคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลย
“เมื่อครู่โม่เจ๋อก็ถามเรื่องนี้เช่นกัน ข้าไม่เคยเจอคนที่ชื่อโม่เฉิน แต่ช่วงก่อนได้ยินมาว่ามีคนลงจากบันไดสู่แดนเซียนมาเหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าคนคนนั้นไปไหนหลังจา ากนั้น” หวันเหยียนเชียนหวาตอบ
เฟิ่งจิ่วรู้สึกประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ลงจากบันไดสู่แดนเซียนจะมาปรากฏตัวที่สำนักนี้หรอกหรือ”
“โดยปกติแล้วเป็นอย่างนี้ แต่ก็มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ้าง” หวันเหยียนเชียนหวาหมุนถ้วยชาในมือเล่น ก่อนยิ้มบอกว่า “หากเขาปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่มีใครส สังเกตเห็นไปจากที่นี่ ย่อมไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเลือกจังหวะได้เหมาะเจาะเหมือนกับพวกเจ้า”
………………………………….
ตอนที่ 2916 ข้อดี
“เขาอาจมีเรื่องต้องไปทำ หลังจากสะสางธุระเสร็จ น่าจะมาหาพวกเราเอง” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอ่ยขึ้น เขายกชาขึ้นจิบหนึ่งคำ “เขารู้ว่าพวกเรามาถึงแล้ว”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “ก็อาจจะนะ!” เพียงแต่พอไม่เห็นเขาแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ข้าควรกลับแล้ว หากพวกเจ้าจะไปเมื่อใด ข้าค่อยไปส่งพวกเจ้าเข้าเมืองก็แล้วกัน!” หวันเหยียนเชียนหวาพูดขึ้นก่อนลุกขึ้นยืน
เฟิ่งจิ่วจึงลุกขึ้นตาม ก่อนจะเดินออกไปส่งนางกลับ
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเห็นกวางวิญญาณสองตัวนั้น จึงถามว่า “กวางวิญญาณสองตัวนี้มีประโยชน์อะไรหรือ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ข้าตั้งใจจะใช้พวกมันมาลากรถ ไว้หาเวลาทำรถม้าสักคัน แล้วให้กวางวิญญาณสองตัวนี้ลาก อยากออกไปข้างนอกเมื่อใดจะได้มีรถม้านั่ง”
นางยิ้มกว้างขณะบอกความตั้งใจของตนเองให้ฟัง “อีกอย่าง กวางวิญญาณทองม่วงทุกส่วนของร่างกายล้วนล้ำค่า ผงที่ขูดจากเขาของพวกมันเป็นยาล้ำค่าที่ใช้แก้ได้สารพัดพิษ ครั้งนี้ไ ได้กำไรเต็มๆ เลยจริงๆ”
“เจ้าได้ของพวกนี้มา แต่ก็มอบยาให้พวกเขาด้วยไม่ใช่หรือ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง อย่างไรเสียพวกเขาสองคนก็คารวะพวกเราเป็นอาจารย์แล้ว ของจำพวกยาน่ะพวกเราอยากได้เมื่อไรก็มี เอาของพวกนี้มาสร้างหนี้น้ำใจ นับว่าคุ้มค่ามาก” เฟิ่งจิ่ว วยิ้มตาหยี ก่อนจะบอกว่า “ท่านดู ซื่อเชวียยังเอาหญ้าหิมะวิญญาณพันปีมาให้ข้าอีก”
เฟิ่งจิ่วเอามือข้างหนึ่งชันแก้ม มืออีกข้างหยิบหญ้าหิมะวิญญาณพันปีออกมาดู “เจ้าสิ่งนี้เอาไว้ข้าหาเวลาหลอมยามอบให้เขาก็แล้วกัน!” หลังเอ่ยจบ นางก็ถามขึ้นอีกว่า “ใช่แล้ว ตำรารวบรวมกลุ่มอำนาจต่างๆ นั่น ท่านอ่านจบแล้วหรือ”
“ยังเหลืออีกหนึ่งในสาม” เซวียนหยวนโม่เจ๋อตอบ “แต่ก็พอจับทางได้คร่าวๆ แล้ว” เขาหยิบแผนที่ออกมา ก่อนบอกนางว่า “เจ้ามาดูนี่ ตรงนี้ก็คืออย่างนี้…”
ด้านในถ้ำ เซวียนหยวนโม่เจ๋ออธิบายเรื่องกลุ่มอำนาจรวมถึงสำนักต่างๆ บนแผ่นดินผืนนี้ให้นางฟังอย่างละเอียด ส่วนซื่อเชวียหลังจากที่สั่งให้ลูกศิษย์ลงเขาไปจัดการธุระเสร็จ เขาก็ถ ถูกประมุขเซียนเรียกตัวไปพบ
ผู้อาวุโสมู่ซินอยู่ในถ้ำ หลังจากกินยาเขาก็เข้าสู่ช่วงกักตัวฝึกตน กระทั่งเช้าวันต่อมา ในที่สุดเขาก็สามารถก้าวข้ามอุปสรรคในการทะลวงขั้นที่เขาไม่อาจก้าวข้ามมาได้ตลอด เขา รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ในฐานะผู้แข็งแกร่งระดับเซียนสวรรค์ขั้นสูงสุด การจะพัฒนาขึ้นอีกแม้เพียงก้าวเล็กๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับพวกเขา ตอนนี้ยาเพียงเม็ดเดียวกลับทำให้เขาสามารถก้าวข้ามก้า าวเล็กๆ นั้นไปได้
แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่อิงจากความเร็วในการฝึกวรยุทธ์ในยามปกติแล้ว ก้าวเล็กๆ นี้อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสิบปีกว่าจะสำเร็จได้ ตอนนี้กลับใช้เวลาเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนเท่ านั้น แล้วเขาจะไม่ดีใจจนแทบคลั่งได้อย่างไร?
เขาเดินออกจากถ้ำอย่างสดใสและกระปรี้กระเปร่า ขณะกำลังจะไปรายงานผลหลังจากกินยาให้อาจารย์ของเขาทราบ ก็เห็นลูกศิษย์คนหนึ่งรีบสาวเท้ามาหา
“ผู้อาวุโสมู่ซิน ท่านเซียนสั่งให้ศิษย์รออยู่ที่นี่ หากท่านออกจากการกักตัวให้เชิญท่านไปพบ ท่านเซียนมีเรื่องจะถามขอรับ” ศิษย์คนนั้นอธิบายอย่างนอบน้อม พลางลอบพิจารณาผู้อาวุโส มู่ซินเงียบๆ อยากรู้ว่าหลังจากกินยาแล้วจะมีอะไรต่างออกไป เพียงแต่เขามีวรยุทธ์ไม่สูง จึงดูไม่ออก
“ท่านเซียนเรียกหาข้าหรือ”
ผู้อาวุโสมู่ซินชะงัก เขาครุ่นคิดไม่นานก็คิดออกว่าเป็นเรื่องอะไร ฉะนั้นจึงตอบว่า “ก็ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” เอ่ยจบ เขาสะบัดแขนเสื้อ ขี่กระบี่บินมุ่งหน้าไปยังยอดเขาที่ประมุขเซ ซียนอยู่
หลังจากที่ผู้อาวุโสหลิงมู่รู้ข่าว เขาก็มาที่ยอดเขาใหญ่เช่นกัน ทันที่เข้าไปในตำหนักและเห็นผู้อาวุโสมู่ซิน เขาก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ ก่อนรีบสาวเท้าเร็วๆ เดินไปหา