เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2925 เข้าอยู่ / ตอนที่ 2926 ผู้แซ่ถาน
ตอนที่ 2925 เข้าอยู่
เฟิ่งจิ่วยิ้ม “ก็ดีเหมือนกัน เตรียมรถม้าธรรมดาไว้คันหนึ่ง ข้ายังสั่งให้ฮุยหลางไปทำรถม้าดีๆ ไว้อีกคันด้วย ต่อไปจะเอาไว้ใช้เหาะเหินกลางอากาศ”
“เหาะเหิน?” เหลิ่งหวาตะลึง ถามว่า “นายท่านจะใช้สัตว์ร้ายมาลากรถม้าบินหรือ?” เหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีสัตว์ร้ายบินได้ที่จะเอามาลากรถม้านะ?
“อ้อ ข้ามีกวางวิญญาณทองม่วงสองตัว ตั้งใจว่าจะเอามาลากรถม้า กวางวิญญาณทองม่วงสามารถเหาะเหินกลางอากาศได้ ซ้ำยังรวดเร็วและมีเรี่ยวแรงมหาศาลด้วย ใช้พวกมันสองตัวเหมาะที่สุดแ แล้วล่ะ” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ นึกถึงกวางวิญญาณทองม่วงสองตัว รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งกว้างกว่าเดิม
“นายท่าน หลัวอวี่มาถึงแล้ว” เหลิ่งหวาเห็นรถม้าที่จอดอยู่ด้านล่าง จึงหันมาบอกเฟิ่งจิ่ว
“อย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วหันไปเรียกเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
เซวียนหยวนโม่เจ๋อลุกขึ้น เอื้อมมือไปจูงมือของนาง จากนั้นก็พานางเดินลงจากชั้นสอง
“นายท่าน เจ้าตำหนัก” หลัวอวี่ขานเรียก เขาลงจากรถม้าแล้วเลิกผ้าม่านเพื่อให้คนทั้งสองขึ้นไป
ทั้งสองขึ้นรถม้าก่อนจะรับห้าวเอ๋อร์มาจากเหลิ่งซวง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่จวน หลัวอวี่ที่อยู่บนรถม้าบังคับรถม้าอยู่ ส่วนเหลิ่งซวงกับไป๋ชิงเฉิงก็นั่งขนาบซ้ายขวา เหลิ่งหวา กับพวกฮุยหลางเดินตามอยู่สองฝั่งของรถม้า พวกเขาแต่งกายไม่ธรรมดา หน้าตาโดดเด่น แม้จะก้าวเดินด้วยฝีเท้าเร่งรีบ ก็ยังดึงดูดสายตาของคนจำนวนมากอยู่ดี
ระหว่างที่มุ่งหน้ายังจวนหลังนั้น รถม้าเคลื่อนผ่านซอยๆ หนึ่ง เห็นสองฟากฝั่งเต็มไปด้วยจวนหรูหราตั้งตระหง่านดังว่าจริงๆ และในซอยเส้นนี้ก็ไม่ค่อยมีคนภายนอกเดินเพ่นพ่าน
“ที่นี่เรียกได้ว่าแยกออกมาจากที่อื่นเลยทีเดียว อยู่ในเขตร่ำรวยของเมืองนี้ เงียบสงบดีจริงๆ” เฟิ่งจิ่วว่า ก่อนจะปล่อยม่านรถม้าที่นางเลิกขึ้นเพื่อดูข้างนอกลงมา
“จวนที่ซื่อเชวียสั่งให้คนหาให้ ไม่น่าจะแย่หรอก” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอ่ยขึ้น เขาหยอกเล่นกับห้าวเอ๋อร์ ก่อนพูดอีกว่า “เจ้าว่า ห้าวเอ๋อร์เป็นลูกหลานของตระกูลใดกันนะ?”
เฟิ่งจิ่วมองห้าวเอ๋อร์ในอ้อมแขนของเขาที่กำลังกะพริบตาปริบๆ ฟังพวกเขาพูดคุยกันอยู่ ก่อนยิ้มบอกว่า “ต้องไม่ใช่ตระกูลธรรมดาแน่นอน”
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่บนรถม้า เมื่อมาถึงก็รู้สึกว่าระยะทางไม่ได้ไกลมาก พอรถม้าหยุดจอด พวกเขาก็รู้ทันทีว่ามาถึงหน้าจวนแล้ว
“นายท่าน มาถึงแล้ว” หลัวอวี่บอก เขาเลิกผ้าม่านขึ้น เหลิ่งซวงเข้ามารับห้าวเอ๋อร์ไปจากเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
ทั้งสองลงจากรถม้า มองพิจารณาจวนที่อยู่ตรงหน้า สายตาของเซวียนหยวนโม่เจ๋อจับต้องไปที่รูปปั้นสิงโตสองตัวที่อยู่หน้าจวน พูดขึ้นว่า “รูปปั้นสิงโตสองตัวนี้ หากมีชีวิตก็คงดีก กว่านี้”
เฟิ่งจิ่วอดยิ้มไม่ได้ “เปลี่ยนเป็นสัตว์ร้ายสองตัวมาเฝ้าประตูที่นี่? ท่านก็คิดได้นะ”
หลัวอวี่หัวเราะอย่างเบิกบาน “เจ้าตำหนัก ข้าก็คิดว่าสิงโตสองตัวนี้ดูกำยำมาก หากเปลี่ยนเป็นสิงโตจริงๆ มาเฝ้าประตูได้ คงน่าเกรงขามไม่น้อย”
“รอมีเวลาเมื่อใด ไปเดินดูในเมืองกัน ซื้อสิงโตสองตัวกลับมาเฝ้าประตูดีกว่า” เซวียนหยวนโม่เจ๋อพูดกับเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ “ได้สิ! อย่างนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปเดินดูในเมืองกัน”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อยิ้มๆ ก่อนจะจูงมือนางเดินเข้าไปข้างใน พอเข้าไปข้างใน ฮุยหลางกับคนอื่นๆ ต่างอดไม่ได้ที่จะอุทาน “จวนหลังนี้ใหญ่มาก แล้วยังประณีตหรูหรามากด้วย”
“พวกเจ้าไปเดินดูกันเองเถอะ! เลือกที่พักกันเองเลย” เฟิ่งจิ่วบอกให้พวกเขาไปเลือกเรือนของตนเอง
“ขอบคุณนายท่าน”
“ขอบคุณภูตหมอ”
พวกเขารับคำ ก่อนจะมองหน้ากันยิ้มๆ จากนั้นก็แยกย้ายกันเดินเข้าไปด้านใน
“พวกเจ้าก็ไปเถอะ!” นางหันไปพูดกับเหลิ่งซวงและไป๋ชิงเฉิง
“นายท่าน” ตู้ฝานกับกู่โม่เดินออกมาจากข้างใน
………………………………….
ตอนที่ 2926 ผู้แซ่ถาน
“นายท่าน พวกเราเพิ่งไปเดินดูที่ภูเขาด้านหลังมา พบว่าพื้นที่ภูเขาด้านหลังก็กว้างมากเหมือนกัน พวกข้าก็เลยวางค่ายกลไว้ที่นั่นด้วย ส่วนรอบๆ จวนยังไม่ได้วางค่ายกลเลย” ตู้ ฝานบอก
“อืม อีกเดี๋ยวข้าไปดูหน่อย ไม่ต้องรีบก็ได้” นางบอก จากนั้นก็ค่อยๆ เดินชมในจวนไปพร้อมกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ หลังจากทำความคุ้นเคยกับที่นี่แล้ว ทั้งสองก็เดินไปที่เรือนหลัก พอ อผลักประตูเข้าไปก็พบว่าข้างในสะอาดสะอ้านไม่มีฝุ่นแม้แต่น้อย
นางยิ้มบอกว่า “ดูท่าก่อนที่พวกเราจะเข้ามาพักที่นี่ มีคนทำความสะอาดไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่จวนใหญ่ขนาดนี้แค่พวกเราคงไม่พอ ยังต้องซื้อคนกลับมาเพิ่มอีกถึงจะได้”
“ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเถอะ! เราไม่ได้อยู่ที่นี่กันแค่วันสองวัน พวกเรายังมีเวลาอีกมาก” เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอก เขาสังเกตเรือนของพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนบอกว่า “ข้าไปดูที่ภูเขาด้า านหลังหน่อย จะได้ถือโอกาสวางค่ายกลเสียเลย เจ้าพักสักหน่อยเถอะ!”
“ไม่ล่ะ ข้าจะไปกับท่าน” เฟิ่งจิ่วบอก จากนั้นก็เดินคล้องแขนเขาไปที่ภูเขาด้านหลัง ขณะเดียวกันก็กำชับตู้ฝานให้วางค่ายกลในจวนด้วย
พวกเขาง่วนอยู่กับการวางค่ายกล รู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลาหัวค่ำแล้ว
ไป๋ชิงเฉิงลงมือเตรียมมื้อค่ำให้ทุกคนด้วยตนเอง กู่โม่รับหน้าที่เตรียมน้ำอาบให้ทุกคน วันนี้ทั้งวันพวกเขายุ่งวุ่นวายกันจนแทบหมดแรง
เช้าวันต่อมา เฟิ่งจิ่วที่เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าสตรีออกจากจวนไปพร้อมกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ นอกจากกู่โม่ที่เป็นคนบังคับรถม้า และอิ่งอีที่คอยติดตามอย่างลับๆ แล้ว ก็มีเพียงเหลิ่ง งหวากับเว่ยเฟิงที่ติดตามพวกเขา คนอื่นๆ อยู่ในจวน มีเพียงฮุยหลางที่รับหน้าที่ออกไปสั่งทำรถม้า
“นายท่าน ด้านหน้าก็ถึงตลาดค้าทาสแล้ว รถม้าของเราเข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่จอดไว้ข้างนอกเท่านั้น” เสียงของเหลิ่งหวาดังมาจากนอกหน้าต่าง
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ในรถม้าได้ยินอย่างนั้นก็บอกว่า “อย่างนั้นก็จอดไว้ตรงนี้แล้วกัน!”
พอจอดรถม้า เฟิ่งจิ่วหันไปมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ก่อนถามว่า “ท่านจะรอข้าอยู่บนรถม้าหรือไม่ เลือกคนเสร็จข้าก็กลับมาแล้ว”
“ก็ได้” เซวียนหยวนโม่เจ๋อตอบ เขาไม่ได้ลงจากรถม้าแต่สั่งให้เหลิ่งหวากับเว่ยเฟิงติดตามไปด้วย เขากับกู่โม่รออยู่บนรถม้า
ทันทีที่เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงเพริศพริ้งเดินเข้าไปในตลาดค้าทาส ก็ดึงดูดสายตาจ้องพิจารณาจากคนข้างในได้เป็นอย่างดี ด้านหน้ากรงเหล็กขังทาส ชายวัยสามสิบปีในชุดหรูกำลังยืนเอา ามือไพล่หลังคุยกับชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ครั้นหางตาเหลือบไปเห็นเฟิ่งจิ่วที่เดินเข้ามา แววตาก็พลันปรากฏความตะลึงลานในความงามขึ้น
เขาหันมาก่อนจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาพิจารณา จากนั้นจึงค่อยเดินเข้ามาหา “คุณหนูต้องการเลือกทาสหรือ?”
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา ก่อนตอบว่า “ใช่”
“ฮะๆ ข้าน้อยแซ่ถาน เป็นเจ้าของที่นี่ คุณหนูต้องการเลือกทาสแบบใดหรือ ข้าสามารถช่วยได้” ชายหนุ่มยิ้มเสนอ วาจาเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
“ทาสหญิงอายุตั้งแต่สิบสี่ถึงยี่สิบปี จะให้ดีขอที่มีวรยุทธ์บ้างเล็กน้อย” เฟิ่งจิ่วบอก นัยน์ตาสุกใสกวาดมองรอบๆ สังเกตทาสที่ถูกขังไว้ในกรงเหล็กแถวๆ นั้น
“คุณหนูมาได้จังหวะพอดี เมื่อวานเพิ่งมีเข้ามาหนึ่งกลุ่ม ข้าจะพาคุณหนูไปดูเอง!” เขาหัวเราะด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะทำท่าผายมือ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามไป พอมาถึงสถานที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางแห่งหนึ่ง เขาโบกมือสั่ง ไม่นานก็เห็นคนพาเด็กสาวห้าสิบคนที่ถูกโซ่เหล็กล่ามไว้เข้ามา
“คุณหนูเชิญเลือก! ทาสหญิงเหล่านี้หากขายให้คนอื่นข้าคิดหนึ่งร้อยเหรียญทองต่อหนึ่งคน แต่ถ้าคุณหนูต้องการ ข้าคิดให้คนละห้าสิบเหรียญทองก็พอ” เขายิ้มเสนอราคา ยืนเอามือไพล่หล ลังอยู่ข้างๆ เฟิ่งจิ่ว
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		