เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2931 มีหญิงงามเคียงข้าง / ตอนที่ 2932 คนและสัตว์ร้ายประลองกัน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2931 มีหญิงงามเคียงข้าง / ตอนที่ 2932 คนและสัตว์ร้ายประลองกัน
ตอนที่ 2931 มีหญิงงามเคียงข้าง
สองพันเหรียญทอง? แม้แต่เหลิ่งหวากับหลัวอวี่เมื่อได้ยินราคานั้นก็อดเดาะลิ้นไม่ได้ นี่มันราคาสูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว! สำหรับชาวบ้านธรรมดา สองพันเหรียญทองใช้ทั้งชาติก็ใช้ไม่ห หมด แต่ที่นี่ เพียงวันเดียวก็ต้องใช้ถึงสองพันเหรียญทองแล้ว?
พวกเขาอดหันไปมองเจ้านายทั้งสองไม่ได้ ราคานี้แพงเกินไปจริงๆ
ส่วนเฟิ่งจิ่วกลับยิ้มเมื่อได้ยินราคาสองพันเหรียญทอง คิดในใจว่าที่นี่ช่างแพงจริงๆ! ไม่รู้ว่าคุ้มราคาหรือไม่
“เหลิ่งหวา” เซวียนหยวนโม่เจ๋อชำเลืองมองเหลิ่งหวา
“ขอรับ” เหลิ่งหวาก้าวออกมา หลังจากตามชายคนนั้นออกไปจ่ายเงิน ก็ได้รับป้ายหยกขาวมาจำนวนหนึ่ง รวมถึงหมายเลขเก้าอีกหลายแผ่น
อ่านนิยายก่อนใครได้ที่ novel-lucky
“แขกทั้งสองท่านนี้ เชิญทางนี้ขอรับ” ผู้ติดตามเอ่ยอย่างนอบน้อม เดินนำทางพวกเขาอยู่ข้างหน้า หลังจากมาถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายแห่งหนึ่ง ก็ให้พวกเขากำป้ายหยกขาวให้แตก จากนั้นพวกเ เขาก็พุ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความเร็วดุจแสง
เพียงพริบตาเดียว เมื่อหยัดยืนอย่างมั่นคง พวกเขาก็ราวกับยืนอยู่บนชั้นเมฆ เซวียนหยวนโม่เจ๋อโอบเฟิ่งจิ่วเดินไปดูตรงขอบ ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
มองลงไปก็จะเห็นเมฆหมอกลอยวนอยู่ด้านล่าง ขาวโพลนไปทั้งแถบ พวกเขาใช้ดวงจิตสำรวจดู ก็ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกร่ายเขตอาคมเอาไว้ เหมือนแผ่นดินที่ลอยอยู่กลางอากาศ
เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันก็คือที่นี่ไม่มีอย่างอื่น มีเพียงสนามหรูหรารูปวงกลมที่ถูกสร้างขึ้นให้มีสามชั้น ยังไม่ทันเดินเข้าไป ก็เห็นกำแพงด้านนอกสีทองอร่ามสะท้อนแสงวิบวับมาแต่ไก กลก่อนแล้ว หนำซ้ำยังมีพลังวิญญาณอันเข้มข้นลอยฟุ้งอยู่โดยรอบ เสียงดนตรีแว่วมาไกลๆ กระจายไปทั่วสนามที่ถูกโอบล้อมด้วยเมฆหมอกแห่งนี้ ราวกับแดนเซียนก็ไม่ปาน
พวกเขาถูกผู้ติดตามคนเดิมเชิญให้เข้าไปด้านใน หลังจากเดินผ่านถนนเส้นเล็กๆ ตรงไปยังห้องหมายเลขเก้า ผู้ติดตามก็คารวะอย่างนอบน้อมและกล่าวว่า “ทั้งสองท่าน ที่นี่นอกจากสามารถชมการ รประลองของสัตว์ร้าย ยังสามารถวางเดิมพันได้ด้วย โดยใช้ป้ายหมายเลขเก้าในมือพวกท่านเพื่อวางเดิมพัน อยู่ที่นี่นอกเสียจากว่าพวกท่านจะแสดงตัวเอง แขกคนอื่นจะไม่สามารถมารบกวนและไ ไม่สามารถมองเห็นพวกท่านได้ ขณะเดียวกัน พวกท่านก็จะมองไม่เห็นแขกคนอื่นเช่นเดียวกัน”
ผู้ติดตามหยุดอธิบายไปครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “แขกทั้งสองท่าน ต้องการให้หญิงงามมารับใช้หรือไม่?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกำลังจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่กลับได้ยินเฟิ่งจิ่วยิ้มกว้างและตอบรับก่อน “เรียกมาเถอะ!”
เขาจึงค้อมกายแล้วถอยออกไป ผ่านไปไม่นาน หญิงงามสองนางก็เดินเข้ามาจากข้างนอก พวกเขามองคนในห้องแวบหนึ่ง ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อและเฟิ่งจิ่ว
“คารวะคุณชาย คุณหนู” ทั้งสองคารวะ เพราะเห็นว่าข้างกายชายชุดคลุมสีดำมีหญิงชุดแดงคนนั้นอยู่ จึงก้มหน้าลงอย่างรู้หน้าที่
“พวกเจ้าสองคนทำอะไรเป็นบ้าง” เฟิ่งจิ่วถาม ขณะกวาดมองหญิงงามสองนางนั้น
“เรียนคุณหนู บ่าวเชี่ยวชาญด้านศิลปะ สามารถดีดพิณและต้มชาให้คุณชายและคุณหนูได้” หนึ่งในนั้นตอบคำ
“บ่าวเชี่ยวชาญในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระดูก สามารถกำจัดความเมื่อยล้าให้คุณหนูได้เจ้าค่ะ” หญิงอีกคนก็เป็นคนมีไหวพริบ เห็นชายชุดคลุมไม่แม้แต่จะหันมามองพวกนาง จึงตอบคำถามเ เฟิ่งจิ่วอย่างนอบน้อม
เมื่อได้ยินคำตอบของทั้งสอง เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ก่อนเอ่ยว่า “ที่นี่มีดนตรีคลอเคล้าอยู่แล้ว ดีดพิณคงไม่จำเป็น ต้มชาให้พวกข้าก็แล้วกัน!”
“เจ้าค่ะ” หญิงคนนั้นรับคำอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ผ่านไปไม่นาน นางก็ยกเครื่องถ้วยชาหนึ่งชุดเดินออกมา คุกเข่าอยู่ที่มุมหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มต้มชา
………………………………….
ตอนที่ 2932 คนและสัตว์ร้ายประลองกัน
ขณะเดียวกัน หญิงอีกคนก็ยืนอยู่ข้างหลังเฟิ่งจิ่ว กำลังนวดไหล่ทั้งสองข้างให้นาง ไม่นานนัก มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็มีหญิงอีกสองคนเดินเข้ามาในห้อง พวกนางยกขนมว่า างและสุราหอมเข้ามา ก่อนจะนั่งคุกเข่าปรนนิบัติอยู่ข้างๆ คนทั้งสอง
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “พวกเจ้าสองคนถอยออกไป ไม่มีคำสั่งไม่ต้องเข้ามา”
“เจ้าค่ะ” หญิงสองนางที่ยกขนมว่างเข้ามารับคำอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ถอยออกไป
“การประลองสัตว์ร้ายอยู่ตรงกลางนั้นหรือ” เฟิ่งจิ่วถาม
“เจ้าค่ะ หากคุณหนูสนใจ สามารถวางเดิมพันได้ด้วยนะเจ้าคะ” หญิงคนที่กำลังนวดไหล่ให้เฟิ่งจิ่วแนะนำด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ยกที่แล้วฝ่ายสีเขียวเป็นผู้ชนะ ยกต่อไปผู้ลงสนามฝ่ายสี แดงคือนักดาบสองคม เจ้าของฉายาไร้พ่าย”
เฟิ่งจิ่วประหลาดใจ “นี่คือการประลองระหว่างคนและสัตว์ร้ายหรือ?” การประลองสัตว์ร้าย นางนึกว่าจะเป็นการประลองระหว่างสัตว์ร้ายสองตัวเสียอีก แต่ฟังจากที่นางบอก เห็นได้ชัดว่าเป ป็นการประลองระหว่างคนและสัตว์ร้าย
“เป็นการประลองระหว่างคนและสัตว์ร้ายเจ้าค่ะ ฝ่ายสีเขียวเป็นสัตว์ร้าย ฝ่ายสีแดงเป็นผู้ฝึกตน” หญิงสาวตอบคำ ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “หากทั้งสองฝ่ายเข้าไปในกรงประลอง มีเพียง งฝ่ายหนึ่งสู้จนตัวตายถึงจะตัดสินแพ้ชนะได้เจ้าค่ะ”
“ไม่นึกเลยว่าจะเป็นการประลองของคนกับสัตว์ร้าย การประลองนี้ช่างโหดร้ายนัก” เฟิ่งจิ่วถอนหายใจเบาๆ นางมองลงไปข้างล่าง ฟังเสียงที่แว่วอยู่รอบๆ ไม่รู้กำลังคิดสิ่งใดอยู่
ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวอีกคนยกน้ำชาสองถ้วยมา “คุณชาย คุณหนู เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วรับไป ยกชาขึ้นดมกลิ่นหอม เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางบอกว่า “ดูท่าสองพันเหรียญทองนี้ก็คุ้มราคาอยู่เหมือนกัน”
“นี่เป็นชาวิญญาณ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอ่ย หลังจากจิบหนึ่งคำก็บอกว่า “ชาวิญญาณนี้ยามเข้าปากรสสัมผัสหวานสดชื่นและทิ้งกลิ่นหอมไว้ เมื่อไหลลงท้องพลังวิญญาณจะไหลเวียนไปทั่วร่า าง นับว่าไม่ธรรมดา”
“น้ำที่ใช้ในการต้มชา ก็คงไม่ใช่น้ำธรรมดากระมัง” เฟิ่งจิ่วมองหญิงสาวคนนั้น
“เรียนคุณหนู น้ำที่ใช้ต้มชานี้เป็นน้ำหิมะจากเขาวิญญาณ ใบชาเป็นชาวิญญาณจากยอดเขาสูง ทั่วทั้งเมืองสี่ทิศ มีเพียงเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ที่หาดื่มชาหิมะจากเขาวิญญาณได้เจ้าค่ะ”
“ต้มชาให้พวกเขาสองคนดื่มด้วย” เฟิ่งจิ่วสั่งให้นางต้มชาให้เหลิ่งหวากับหลัวอวี่ด้วย
ใบหน้าของหญิงสาวมีแววประหลาดใจพาดผ่าน แต่กลับยังคงรับคำด้วยความนอบน้อม “เจ้าค่ะ”
“นายท่าน ชานี้อร่อยขนาดนั้นจริงหรือ เมื่อครู่ข้าชิมสุราแล้ว สุรานี้เป็นสุราวิญญาณ รสชาติเข้มข้นมากทีเดียว นายท่านลองดื่มสักถ้วยหรือไม่” หลัวอวี่หัวเราะอย่างเบิกบาน
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ก่อนบอกว่า “ไม่ล่ะ พวกเจ้าสองคนดื่มเถอะ! แค่อย่าดื่มจนเมาก็พอ”
“ขอบคุณนายท่าน” ทั้งสองเอ่ย ก่อนจะนั่งลงดื่มสุรา และชมการร่ายรำที่อยู่ตรงกลางสนามด้านหน้า
จนกระทั่ง หญิงสาวที่ร่ายรำอย่างแช่มช้อยพวกนั้นถอยออกไป สนามว่างเปล่า กรงเหล็กนิลเข้ามาแทนที่ กรงเหล็กนั่นมีความสูงตั้งแต่ชั้นที่หนึ่งไปจนถึงชั้นที่สาม ความกว้างก็กินพื้นที ไปทั้งสนามเลยทีเดียว ชายในชุดรัดรูปคนหนึ่งปรากฏตัวก่อนเป็นคนแรก
เขาถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง เส้นผมสีเทาขาวถูกรวบตึง บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นสองเส้นตัดขวางกัน สายตาเยือกเย็นสะท้อนแววกระหายเลือด เพียงแวบเดียว เฟิ่งจิ่วก็สัมผัสได้ถึงความ กระหายเลือดรุนแรงที่แผ่ปกคลุมอยู่รอบตัวคนคนนี้ ดูท่า มือของเขาคงเปื้อนเลือดคนมาไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ผ่านไปไม่นาน อีกฝั่งหนึ่งของกรงเหล็ก สิงโตสองหัวตัวหนึ่งราวกับได้กลิ่นอายกระหายเลือดนั้น มันใช้กรงเล็บตะกุยกรงเหล็กและร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง
“คุณชาย คุณหนู หากต้องการลงเดิมพัน สามารถลงตอนนี้ได้เลย” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นวดขาให้ข้าหน่อย!” เฟิ่งจิ่วกล่าวพร้อมกับดื่มชาไปด้วย นางมองดูสถานการณ์ข้างล่าง มองแขกคนอื่นๆ ที่กำลังมุงดูอยู่รอบๆ
รวมไปถึงชายคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งกำลังมองมาที่นางโดยมีผ้าม่านผลึกหินกั้นอยู่…