เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2953 มอบของขวัญ / ตอนที่ 2954 ปิดประตูขอบคุณแขก
ตอนที่ 2953 มอบของขวัญ
“น้องรองบอกว่า ผู้อาวุโสซื่อเชวียกับผู้อาวุโสมู่ซินมีอาจารย์เพิ่มมาสองท่าน” เขาพูดด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อว่า “อีกทั้งก็คือสองคนนั้น”
“เจ้ากำลังบอกว่า สองคนนั้นที่ลงมาจากบันไดสู่แดนเซียนกลายเป็นอาจารย์ของผู้อาวุโสซื่อเชวียกับผู้อาวุโสมู่ซินอย่างนั้นหรือ” ผู้นำตระกูลอวี่เหวินลุกขึ้นด้วยความตกตะลึง เสียง งของเขาสูงขึ้นเล็กน้อย “ผู้อาวุโสสองท่านนั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเซียนสวรรค์! เป็นไปได้อย่างไร…”
อวี่เหวินเฮ่อพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน “ได้ยินว่าตอนที่สองคนนั้นลงมาจากบันไดสู่แดนเซียน มีผู้อาวุโสหลายคนพยายามแย่งตัวพวกเขาไปเป็นศิษย์ ผู้อาวุโสซื่อเชวียกับผู้อาวุโสมู่ซินเ เองก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่หลังจากการประลองฝีมือ ผู้อาวุโสซื่อเชวียกับผู้อาวุโสมู่ซินกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ฉะนั้นจึงต้องคารวะสองคนนั้นเป็นอาจารย์”
“ซี๊ด!”
ผู้นำตระกูลอวี่เหวินสูดหายใจ “พะ…แพ้หรือ? พวกเขาสองคนเป็นผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักแล้วนะ แต่กลับแพ้ให้สองคนนั้นที่ลงมาจากบันไดสู่แดนเซียนเช่นนั้นหรือ? แล้ว วยังคารวะพวกเขาเป็นอาจารย์อีก? นะ…นี่มัน ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่?”
“ข่าวที่น้องรองส่งกลับมาน่าจะไม่ผิดขอรับ” อวี่เหวินเฮ่อตอบ “ในจดหมายน้องรองยังบอกอีกว่า หนึ่งในสองคนนั้น คนชุดแดงชื่อเฟิ่งจิ่ว คนชุดคลุมสีดำคือเซวียนหยวนโม่เจ๋อ แล ละเฟิ่งจิ่วก็เป็นผู้สูงศักดิ์โอสถ เขาบอกว่าหากพวกเราได้พบสองคนนั้น ให้คิดหาทางผูกสัมพันธ์ไว้ให้ได้”
ผู้นำตระกูลอวี่เหวินสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง คนที่สามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับเซียนสวรรค์ขั้นสูงสุด มีสัตว์เทวะขั้นสุดยอดหนึ่งตัว ซ้ำยังเป็นอาจารย์ของผู้แข็งแกร่งระด ดับเซียนสวรรค์ขั้นสูงสุดสองคนในสำนักเซียน อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้สูงศักดิ์โอสถที่หาตัวจับได้ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนสามารถทำให้เมืองสี่ทิศสะท้านสะเทือนได้
เพียงแต่คนอย่างนี้ แม้จะอยากผูกสัมพันธ์ ก็เกรงว่าคงจะไม่อาจทำได้กระมัง
“ข่าวนี้ เดาว่าไม่ต้องใช้เวลานานศิษย์ในสำนักคงจะส่งกลับไปให้ตระกูลของตนเอง เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลใหญ่ต่างๆ ก็จะรู้ข่าว” เขาเอามือไพล่หลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องโถง ครุ่นคิด ดอยู่ครู่หนึ่งก็ตะโกนออกไปข้างนอก “ไป เรียกเหล่าผู้อาวุโสและผู้ดูแลทุกท่านมา ข้ามีเรื่องจะหารือด้วย”
“ขอรับ” พ่อบ้านที่อยู่ข้างนอกรับคำ ก่อนจะรีบออกไป
“ท่านพ่อตั้งใจจะทำเช่นไร” อวี่เหวินเฮ่อถาม
“จะทำอย่างไรได้อีก ย่อมต้องหาวิธีผูกสัมพันธ์อยู่แล้ว คนเช่นนี้ แม้จะผูกสัมพันธ์ไม่ได้ก็ห้ามผูกความแค้น ไว้ข้าจะต้องออกคำสั่งลงไป ห้ามคนในตระกูลล่วงเกินพวกเขาเด็ดขาด”
อวี่เหวินเฮ่อไม่พูดอะไรอีก เขานั่งลงที่ด้านหนึ่งพลางนึกถึงหญิงชุดแดงหน้าตางดงามคนนั้น ที่แท้ชื่อของนางก็คือเฟิ่งจิ่วนี่เอง
วันต่อมา
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเข้าไปกักตัวฝึกตนในถ้ำหลังเขา เฟิ่งจิ่วเองก็เริ่มต้นหลอมยา เรื่องต่างๆ ในจวนมอบให้พวกเหลิ่งหวาเป็นคนจัดการ
แต่ทว่า กลับมีคนทยอยมาเยี่ยมถึงบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เห็นของขวัญกองพะเนินในห้องโถง ตู้ฝานได้แต่สะบัดพัดในมือยิ้มๆ “ของขวัญมากมายขนาดนี้ นายท่านออกมาเห็นไม่รู้จะว่าอย่างไรบ้ าง”
หลัวอวี่กลับหยิบของขวัญชิ้นหนึ่งขึ้นมาดู ก่อนเอ่ยว่า “คนพวกนี้ก็ช่างแปลกจริงๆ ก็บอกไปแล้วว่าไม่รับแขก ไม่รับของขวัญ แต่กลับเอาของแพงๆ พวกนี้วางไว้หน้าประตูแล้วกลับไป สมกับเป็นคนมีอันจะกิน!”
เหลิ่งหวากลับมองของพวกนั้นแล้วเอ่ยว่า “ของพวกนี้เอาไปวางไว้ในห้องเก็บของก่อนก็แล้วกัน! รอนายท่านออกมาแล้วค่อยจัดการ”
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงช่วยกันขนของขวัญในห้องโถงย้ายไปไว้ในห้องเก็บของ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับถอนหายใจ ทว่าไม่นานกลับได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากทางประตูใหญ่
………………………………….
ตอนที่ 2954 ปิดประตูขอบคุณแขก
“เดาว่าคงมีคนมาอีกแล้ว” ตู้ฝานยิ้มๆ ขณะมองออกไปข้างนอก
“ข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน!” เหลิ่งหวาว่า ก่อนจะเดินไปด้านหน้า
ครั้นมาถึงประตูใหญ่ ยามมองผ่านช่องเล็กๆ ของประตูแล้วเห็นว่าคนข้างนอกคืออวี่เหวินเฮ่อ เหลิ่งหวาชะงักไปเล็กน้อย อวี่เหวินเฮ่อเป็นนายน้อยของตระกูลลอวี่เหวิน เมื่อวานตอน นอยู่บนเมืองลอยฟ้า ท่าทีที่เขาแสดงต่อนายท่าน ทำให้เจ้าตำหนักไม่พอใจมาก นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะมาหาถึงจวนแล้ว
คนในเมืองนี้ แต่ละคนไม่ธรรมดาจริงๆ ใช้เวลาไม่นานก็สืบรู้ประวัติความเป็นมาของพวกเขาแล้ว
แต่ก็ไม่แปลก นายท่านมาถึงที่นี่อย่างเอิกเกริกขนาดนี้ ซ้ำยังรับผู้อาวุโสในสำนักเซียนเป็นศิษย์อีกสองคน ถึงจะอยากอยู่อย่างเงียบๆ ก็คงทำไม่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งหาก คนเราทำตัวสงบเสงี่ยมเกินไป มีแต่จะทำให้ถูกคนเพิกเฉยและข่มเหง
นายท่านของพวกเขาและเจ้าตำหนักมีความสามารถพอที่จะทำตัวเอิกเกริก ย่อมไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยม
เหลิ่งหวาเปิดประตูจวน ก่อนจะถามอวี่เหวินเฮ่อที่อยู่ข้างนอกว่า “คุณชายอวี่เหวินมีธุระอะไรหรือ”
อวี่เหวินเฮ่อเห็นว่าเป็นชายหนุ่มผู้มีบุคลิกอ่อนโยนคนนี้อีกแล้ว จึงตอบว่า “ข้าได้รับคำสั่งจากท่านพ่อ ให้มาเยี่ยมเยียนเจ้าของจวนหลังนี้ ไม่ทราบว่าจะขอพบได้หรือไม่”
“ต้องขออภัยจริงๆ นายท่านของข้ามีคำสั่ง ปิดประตูส่งแขก” เหลิ่งหวาตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ยืนมองเขาอยู่ข้างประตูจวนที่แง้มเปิดเพียงเล็กน้อย
อวี่เหวินเฮ่อท่าทางคล้ายไม่ได้แปลกใจนัก เขาเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ รบกวนรับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ นี้ไปแทนด้วย” เขาพยักหน้า สั่งให้ผู้ติดตามที่อยู่ข้างหลังยื่นของขวัญให้
เหลิ่งหวายิ้มๆ “ข้าจะรายงานนายท่านแน่นอน” ขณะเดียวกันก็รับของเหล่านั้นมา
“ขอลา” อวี่เหวินเฮ่อประสานมือคารวะ เขาไม่ได้รั้งอยู่นาน หมุนตัวเดินกลับไปทันที
เหลิ่งหวาปิดประตู จากนั้นก็ถือของเหล่านั้นเดินเข้าไปข้างใน หลังจากเอาของไปวางไว้ที่ห้องเก็บของ จึงค่อยไปหาคนอื่นๆ ข้างใน แต่ตอนนั้นเอง เขากลับเห็นตู้ฝานกับหลัวอวี่เดิน ตบฝุ่นที่แขนเสื้อมาจากเรือนหลัง เหลิ่งหวาถามขั้น “มีคนบุกเข้ามาในจวนอีกแล้วหรือ?”
“อืม มีคนไม่กลัวตายบุกเข้ามาอีกสองคน นี่ก็นับเป็นคนกลุ่มที่ห้านับตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” ตู้ฝานเอ่ย เขาสะบัดพัดในมือ “คนพวกนี้รู้ทั้งรู้ว่าบุกเข้ามาไม่ได้ก็ยังจะทำ เจ้าว่า หากไม่ใช่พวกเขาเบื่อชีวิตที่ยืนยาวแล้วจะเป็นอะไรไปได้อีก?”
“จวนเรามีการรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ทั้งยังมีค่ายกลกับเขตอาคมที่เจ้ากับนายท่านสร้างขึ้นมาอีก คนทั่วไปจะบุกเข้ามาได้อย่างไรกัน ข้าว่าอย่างมากก็คงจะมีคนพยายามบุกเข้ามา าแค่ช่วงไม่กี่วันนี้เท่านั้น ผ่านไปสักระยะก็คงไม่มีแล้ว” เหลิ่งหวายิ้ม ก่อนหันไปมองพวกเขา “เจ้าตำหนักเสนอว่าให้เอาสัตว์ร้ายสองตัวมาเฝ้าประตูจวน บอกตามตรง หากมีสัตว์ร้ายส สองตัวมาเฝ้าหน้าประตูจวนจริงๆ เดาว่าคงไม่มีใครกล้าเฉียดเข้าใกล้ประตูใหญ่ในระยะสามจั้งแน่นอน”
“น่าเสียดายจริงๆ! เหมือนจะไม่เคยได้ยินว่าเมืองสี่ทิศแห่งนี้มีสัตว์ร้ายที่ยอดเยี่ยมอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นหากเอากลับมาได้สักสองตัวคงไม่เลว” หลัวอวี่เอ่ย เขาเท้าแขนบนไหล่ของ ตู้ฝานที่อยู่ข้างๆ “ไปๆ พวกเราไปดื่มสักแก้วสองแก้ว เหลิ่งหวา เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่”
เหลิ่งหวาส่ายหน้า “ข้าไม่ไปล่ะ ข้ายังต้องไปห้องครัว และต้องไปดูทางพี่สาวของข้าสักหน่อย พวกเจ้าไปเถอะ!”
“ก็ได้” ทั้งสองรับคำ ก่อนจะเดินออกไป
เหลิ่งหวาไปดูที่ห้องครัวรอบหนึ่ง จากนั้นก็ไปที่เรือนของพี่สาวเขา เห็นนางกำลังสอนนายท่านน้อยเดิน จึงขานเรียก “ท่านพี่”
เหลิ่งซวงเงยหน้า นัยน์ตางามเป็นประกายฉายแววอ่อนโยน “เรื่องด้านหน้าสะสางเสร็จหมดแล้วหรือ”
เหลิ่งหวายิ้มๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่ด้านหนึ่ง “เสร็จหมดแล้ว วันนี้มีคนเอาของขวัญมาให้มากมาย ข้าจดไว้หมดแล้ว ทั้งยังเอาของพวกนั้นไปเก็บไว้ในห้องเก็บของแล้วด้วย”