เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2955 มาขอพบ / บทที่ 2956 สายฟ้าสามเส้น
ตอนที่ 2955 มาขอพบ
“นายท่านกับเจ้าตำหนักคนหนึ่งกักตัวฝึกตน อีกคนกำลังหลอมยา เรื่องในจวนเจ้าต้องดูแลให้มากหน่อย โดยเฉพาะคนที่เอาของขวัญมาให้ในพักนี้ รวมถึงข่าวต่างๆ ที่ลือกันอยู่ข้างนอ อกด้วย ล้วนต้องสั่งให้คนลอบสืบอย่างลับๆ เราต้องรู้เรื่องทุกอย่าง นายท่านจะได้ไม่ผิดหวังที่ฝากฝังเรา”
นางกำชับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ได้เฝ้ามองการเติบโตในหลายปีมานี้ของน้องชายนาง นางเองก็ปลาบปลื้มยิ่งนัก
“ท่านพี่ ท่านวางใจเถอะ! ข้ารู้” เหลิ่งหวายิ้มรับอย่างอ่อนโยน
เขารู้ดีกว่าใคร ที่พวกเขามีทุกวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะพวกเขาได้ติดตามเจ้านายที่ดี เพื่อที่จะได้ติดตามนายท่านไปตลอด เขาพยายามและรอบคอบมากกว่าคนอื่นในทุกเรื่อง เรื่องที่นา ายท่านต้องการจะทำ เขามักจัดแจงไว้ล่วงหน้าเสมอ เรื่องจิปาถะในจวน เขาก็จะจัดการให้สมบูรณ์แบบเช่นกัน ทำให้นายท่านไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
เขารู้ว่าเป็นเพราะอย่างนี้ พวกเขาสองพี่น้องจึงได้ถูกนายท่านเลือกและพามาที่นี่ท่ามกลางคนมากมายเหล่านั้น
“ท่านพี่ ข้าได้ยินมาว่านอกจากสี่สำนักเซียนใหญ่ ยังมีอีกสี่สำนักที่แข็งแกร่งมาก นายท่านตั้งใจจะหาสำนักดีๆ สักแห่งให้ชิงเฉิงไปกราบอาจารย์และฝึกวรยุทธ์ ช่วงนี้ข้าจะหาข้อมูล และเรียบเรียงมาให้นายท่าน ข้าเดาว่าโอกาสที่ชิงเฉิงจะได้ไปที่สี่สำนักใหญ่นี้มีค่อนข้างสูง”
“อืม อย่างนั้นช่วงนี้เจ้าก็ตรวจสอบให้แน่ชัด รอนายท่านออกจากห้องหลอมยาเมื่อใดเจ้าก็เอาข้อมูลให้นาง จากนั้นค่อยให้นางตัดสินใจเองก็แล้วกัน!” เหลิ่งซวงว่า “เจ้าไปทำงานต่อเถอะ ! ข้ากล่อมนายท่านน้อยหลับแล้วจะฝึกวรยุทธ์ต่อ”
“ได้” เหลิ่งหวารับคำแล้วลุกขึ้นเดินออกไป
ยามหัวค่ำ ณ เรือนหลอมยา เมื่อกลิ่นยาฉุนๆ กระจายออกมา บ่าวรับใช้ในจวนต่างอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึกๆ และมองเข้าไปเรือนด้านในอย่างตกตะลึง ประกายความอยากรู้อยากเห็นวาบผ่านดว วงตา
หลังจากที่ถูกนายท่านซื้อตัวกลับมา ในหมู่พวกนางมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าออกเรือนด้านในได้ แต่พวกนางก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่กล้าผิดกฎ พวกนางรู้เพียงว่าจวนหลัง นี้ใหญ่มาก คนในจวนไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายล้วนโดดเด่นและลึกลับเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเจ้านายทั้งสองท่าน
เวลานี้ พอบ่าวรับใช้ที่กำลังกวาดพื้นอยู่ที่ลานบ้านได้กลิ่นหอมของยาที่กระจายออกมาจากเรือนด้านใน พวกนางอดฉงนไม่ได้ ข้างในนั้นทำอะไรกันอยู่นะ? เหตุใดจึงมีกลิ่นหอมของยาล ลอยออกมาเช่นนี้?
ตู้ฝานกับคนอื่นได้กลิ่นหอมของยาก็รู้ว่านายท่านคงจะหลอมยาเสร็จแล้ว พวกเขามองหน้ากันยิ้มๆ ก่อนจะดื่มเหล้าเคล้าบทสนทนากันต่อ
ด้านนอกจวน ชายวัยกลางคนและชายชราคู่หนึ่งมาถึงหน้าประตูจวน ขณะกำลังจะเคาะประตู ก็ได้กลิ่นหอมของยาลอยออกมาจางๆ
ทั้งสองหยุดชะงัก แววตาดูประหลาดใจ “นี่เป็นกลิ่นหอมของยา? กลิ่นหอมเข้มข้นขนาดนี้เชียว? นี่หรือว่า…กำลังหลอมยาอยู่?”
ทั้งสองไม่อาจปกปิดแววตาแห่งความตกตะลึงเอาไว้ได้ ต่างก็ชะงักค้างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเข้าไปเคาะประตู
ยังคงเป็นเหลิ่งหวาที่ออกมารับหน้า เขามองผ่านช่องเล็กๆ บนประตู เห็นคนทั้งสองยืนอยู่ด้านนอกจึงเปิดประตูออกมา ก่อนถามด้วยรอยยิ้มว่า “ทั้งสองท่านมีธุระใดหรือ”
กลิ่นที่ลอยออกมาจากข้างในเป็นกลิ่นหอมของยาจริงๆ ด้วย!
ทั้งสองสูดหายใจลึกๆ แค่ได้กลิ่นหอมของยาก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรกันแน่? พวกเขาสองคนยืนชะโงกหน้าเข้าไปข้างใน ท่าทางเหม่อลอยไปเล็กน้อย
“ทั้งสองท่านมีธุระใดหรือ” เหลิ่งหวาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง
พอได้ยิน พวกเขาสองคนก็ได้สติ ชายวัยกลางคนยิ้มพลางตอบว่า “คุณชายเหลิ่งใช่หรือไม่ ข้าชื่อชิวเฉิงไห่ ท่านนี้คือสหายผู้เฒ่าของข้าชื่ออาวุโสเจียง พวกเราตั้งใจมาเยี่ยมเจ้าของ งจวนหลังนี้”
………………………………….
บทที่ 2956 สายฟ้าสามเส้น
“ขออภัย นายท่านของข้ามีคำสั่ง ไม่พบแขก” เหลิ่งหวาตอบคำ ก่อนจะส่งรอยยิ้มเชิงขอโทษให้แก่ทั้งสอง
“คุณชายเหลิ่ง ข้าบอกตามตรงอย่างไม่ปิดบัง ข้ามาขอซื้อยา”
อาวุโสเจียงมองเขา ก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่มาอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเหลืออายุขัยไม่มากแล้ว เพราะเห็นว่าไร้หนทางที่จะต่ออายุขัยของตนเอง ทว่ายาทะลวงขั้นระดับหกสามารถช่วยให้ข้า ผ่านเคราะห์กรรมนี้ไปได้ ฉะนั้นได้โปรดบอกนายท่านของเจ้าด้วย ไม่ว่านางจะมีเงื่อนไขอะไร ข้าล้วนยอมรับ ขอเพียงนางมอบยาทะลวงขั้นระดับหกให้ข้าสักเม็ด”
เหลิ่งหวามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนตอบว่า “ได้ ข้าจะบอกนายท่านให้”
พอได้ยินเขารับปาก ทั้งสองไม่ได้รู้สึกโล่งใจเลย ตรงกันข้ามกลับกังวลขึ้นมาเสียอีก รับปากง่ายดายเกินไปแล้ว ราวกับไม่ได้เก็บไปใส่ใจอย่างไรอย่างนั้น
อาวุโสเจียงสูดหายใจลึกๆ ก่อนถามว่า “คุณชายเหลิ่ง ไม่ทราบพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่า โอกาสที่ข้าจะได้ยาทะลวงขั้นมีมากน้อยเพียงใด?”
เพราะรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ผู้ติดตามธรรมดาทั่วไป ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มเขาจึงปฏิบัติตัวอย่างเกรงอกเกรงใจ ทว่าทั้งสองไม่รู้เลยว่า เหลิ่งหวาที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาใน ยามนี้ วรยุทธ์ที่มีไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย
เหลิ่งหวามองชายชราด้วยสายตาลึกซึ้ง ก่อนตอบอย่างนุ่มนวลว่า “เรื่องนี้ พูดยาก”
ทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนที่ชายชราจะถามอีกว่า “อย่างนั้นโอกาสที่ข้าจะได้พบเจ้าของจวนหลังนี้มีมากน้อยเท่าใด”
เหลิ่งหวายิ้มๆ เพียงตอบว่า “นายท่านของข้าไม่พบแขก”
ชายชราเริ่มร้อนใจขึ้นมา อยากซื้อยาก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ อยากขอพบด้วยตนเองก็ไร้หนทางอีก นี่หรือว่าจะไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย?
“ทั้งสองท่าน เชิญกลับไปก่อนเถิด” เหลิ่งหวาเอ่ย พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วปิดประตูจวน
มองดูประตูจวนปิดลง อาวุโสเจียงสีหน้ากลัดกลุ้ม “นี่จะทำอย่างไรดี”
ชิวเฉิงไห่ดมกลิ่นหอมจางๆ ที่กระจายอยู่ในอากาศ ก่อนบอกว่า “ข้าดูออกตั้งแต่อยู่บนเมืองลอยฟ้าแล้วหญิงสาวชุดแดงคนนั้นมีนิสัยแปลกประหลาด นางไม่พบแขกก็ไม่แปลก พวกเราคิดหาวิธ ธีอื่นกันเถอะ!”
“ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้แล้ว เพียงแต่ ยังจะหาวิธีไหนได้อีกเล่า?” อาวุโสเจียงถอนหายใจเบาๆ อย่างจนใจ
“คนในจวนนี้ล้วนไม่ธรรมดาจริงๆ!” ชิวเฉิงไห่เอ่ยขณะเอามือไพล่หลัง “เจ้าดูสิ จวนหลังนี้ร่ายเขตอาคมไว้ ถึงอยากจะบุกเข้าไปก็คงทำไม่ได้”
ทั้งสองยืนอยู่นอกประตูครู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
ขณะเดียวกันในจวน เฟิ่งจิ่วเข้าห้องหลอมยาคราวหนึ่งก็จะไม่ก้าวเท้าออกนอกห้องเลยเป็นเวลาหลายวัน หลายวันมานี้ แทบจะทุกตระกูลและกลุ่มอำนาจในเมืองแห่งนี้ทยอยเอาของขวัญมามอบ บให้ แม้แต่คนของตระกูลเจียงก็ส่งคนมาด้วย สุดท้ายเนื่องจากมีคนมาหามากเกินไป เหลิ่งหวาจึงได้แต่ห้อยป้ายไม่รับแขกไว้หน้าประตูจวน ทุกอย่างจึงสงบลงมา
เช้าตรู่ของวันนี้ ฟ้ายังไม่ทันสว่าง สายฟ้าสายหนึ่งก็ฟาดลงกลางเมืองสี่ทิศ เสียงฟ้าผ่าดังครืนกลางท้องฟ้า บางคนพลิกตัวขณะกำลังหลับอย่างสะลึมสะลือ ปากก็พึมพำว่า “ฟ้าผ่าแล้ว ฝนกำลังจะตกแล้ว”
ทว่า พอสายฟ้าสายที่สองผ่าลงมา คนที่กำลังหลับใหลกลับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ลุกจากเตียงสวมเสื้อคลุมเดินพรวดพราดออกไปข้างนอก กระโดดขึ้นตรวจสอบบนหลังคา
ขณะเดียวกัน ตระกูลใหญ่ทั้งหลายในเมืองสี่ทิศก็แตกตื่นเพราะสายฟ้านั่นเช่นกัน พวกเขาพากันกระโดดขึ้นไปสังเกตการณ์บนหลังคาบ้านของตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จนกระทั่ง เสียงฟ้าผ่าครั้งที่สามดังขั้น ทุกคนหันไปมองทิศที่สายฟ้าผ่าลงไป ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตะลึง “ปะ…เป็นพวกเขา?”