เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2961 โอกาส / ตอนที่ 2962 กล่าวขอบคุณ
ตอนที่ 2961 โอกาส
เฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงสุดด้วยกัน ที่นั่งเยื้องลงไปด้านซ้ายและขวาคือคนจากตระกูลเซ่าทั้งสี่ รวมถึงอาวุโสเจียงและชิวเฉิ งไห่
คนจากตระกูลเซ่าทั้งสี่เพราะรู้ฐานะของคนทั้งสอง เวลานี้แม้นั่งอยู่ในห้องโถงก็ไม่กล้าทำตัวผ่อนคลาย ตรงกันข้ามกลับประหม่าและเกร็งไปทั้งตัว พวกเขานั่งตัวตรงหลังไม่ติดเก้าอี้
ส่วนอาวุโสเจียงเองก็ประหม่าจนต้องยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดเหงื่อเป็นระยะ เทียบกับความเกร็งของคนจากตระกูลเซ่าแล้ว อาการประหม่าของเขามีความกังวลปนอยู่ด้วย เพราะนี่เกี่ยวข้องกับ บความเป็นความตายของตัวเขาเอง
ชิวเฉิงไห่เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีท่าทีปกติที่สุดในหมู่พวกเขาแล้ว เขานั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนว่างมาก บางครั้งก็ยกน้ำชาขึ้นจิบ บางครั้งก็หมุนถ้วยชาในมือเล่น และลอบสังเกตค คนจากตระกูลเซ่าที่นั่งอยู่ตรงนั้น
เมื่อครู่เขาได้ยินคนเหล่านั้นเรียกสองคนที่นั่งอยู่บนนั้นว่าบรรพจารย์ บรรพจารย์? สองคนนี้กับตระกูลเซ่า? เขาหลุบตาต่ำพลางหมุนถ้วยชาในมือเล่น นั่งเงียบๆ รอฟังอยู่ตรงนั้น น
เฟิ่งจิ่วจิบชาคำหนึ่ง ก่อนจะหันมองอาวุโสเจียงและถามขึ้นว่า “ท่านต้องการยาทะลวงขั้นหรือ”
อาวุโสเจียงตะลึงงัน ชิวเฉิงไห่เองก็เงยหน้าขึ้นด้วยจิตใต้สำนึกเช่นกัน คนของตระกูลเซ่าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มองอาวุโสเจียงด้วยสายตาตะลึงเช่นกัน
“มะ…ไม่ใช่”
อาวุโสเจียงรีบอธิบาย “ข้าต้องการยาทะลวงขั้นก็จริง แต่ข้าไม่ได้คิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อขอยาทะลวงขั้น แต่เพราะข้าอยากเจอแม่นางสักครั้งก็ยังทำไม่ได้ ฉะนั้นจึงอยากฉวยโอกาสนี้ พบหน้าแม่นางสักครั้ง จะได้มีโอกาสขอยาจากแม่นาง”
เขากล่าวก่อนจะเอ่ยอธิบายเสริมอีกว่า “ข้ามีโรคเก่า ทำให้วรยุทธ์ถดถอย ตอนนี้อายุขัยใกล้หมดแล้ว รู้ดีว่าหากไม่อาจผ่านพ้นเคราะห์กรรมครั้งนี้ไปได้ หนึ่งปีหลังจากนี้ข้าต้องตายอ อย่างแน่นอน ฉะนั้นจึงอยากเข้ามาช่วย”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “นี่น่าจะเป็นความจริง”
“ไม่กล้าปิดบังแม่นางจริงๆ” อาวุโสเจียงรีบเอ่ยขึ้น
“คนที่อยากได้ยาทะลวงขั้นไม่ได้มีเพียงคนเดียว ท่านว่า ทำไมข้าต้องยกยาทะลวงขั้นให้ท่านด้วย? หรือเพราะการที่ท่านยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในวันนี้?” เฟิ่งจิ่วถาม พร้อมกับจ้องเ เขานิ่งๆ
“มิกล้า”
อาวุโสเจียงลุกขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจหนักแน่น “ข้าแค่อยากพบแม่นางสักครั้ง เพื่อให้แม่นางได้รู้ว่าข้าอยากมาขอยาด้วยใจจริง อีกอย่างขอเพียงแม่นางเอ่ยเงื่อนไขมา ข้าจะทำอ อย่างสุดความสามารถ”
เฟิ่งจิ่วเอนตัวไปข้างหลัง ก่อนขานเรียกในขณะที่ดวงตายังคงจ้องเขานิ่ง “เหลิ่งหวา”
เหลิ่งหวาก้าวเข้ามา หยิบใบรายการหนึ่งออกจากแขนเสื้อยื่นให้อาวุโสเจียง จากนั้นก็ถอยไปยืนข้างหลัง
“หากหาของพวกนี้ได้ครบภายในหนึ่งปี ท่านสามารถเอามาแลกยาทะลวงขั้นเม็ดหนึ่งได้” เฟิ่งจิ่วเอ่ยอย่างแช่มช้า ก่อนจะหลุบตาดื่มชา
อาวุโสเจียงดีใจ รีบก้มหน้าอ่านรายการ แต่พออ่านดูแล้วก็อดยิ้มอย่างขมขื่นไม่ได้ ของเหล่านี้ไม่ใช่ของธรรมดาเลย! เกรงว่าจะหาได้ไม่ง่าย
ชิวเฉิงไห่ที่อยู่ข้างๆ ชะโงกหน้าเข้ามาดู ก่อนจะพูดกับอาวุโสเจียงว่า “อย่างไรเสียนี่ก็นับว่าเป็นโอกาสรอด วางใจเถอะ! ข้าจะช่วยหาเอง”
“ทั้งสองท่านเชิญกลับไปก่อนเถอะ! ข้ายังมีเรื่องต้องสะสางอีก”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่มองพวกเขาอีก สองคนนี้ฉวยโอกาสยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พูดไม่ได้เต็มปากว่าไร้แผนการในใจ แต่ในเมื่อพวกเขากล้าเสี่ยงอันตราย หากจะให้นางมอบย ยาให้เปล่าๆ นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ จึงได้มอบโอกาสในการหาสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกับยาแทน
………………………………….
ตอนที่ 2962 กล่าวขอบคุณ
เหลิ่งหวาส่งทั้งสองออกไป ก่อนจะบอกว่า “นายท่าน พวกเขากลับไปแล้ว”
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำ ก่อนหันไปมองคนของตระกูลเซ่า “ผู้นำตระกูลเซ่า”
“ขอรับ” ผู้นำตระกูลเซ่ารีบลุกขึ้น ก่อนขานรับอย่างนอบน้อม
“เรื่องที่พวกท่านช่วยเหลือ ข้าจะหาโอกาสบอกกับซื่อเชวียเอง” เฟิ่งจิ่วเอ่ยเสียงนุ่มนวล
ผู้นำตระกูลเซ่าเผยยิ้มออกมา ก่อนจะรีบบอกว่า “ท่านบรรพชนกำชับไว้ พวกข้าไม่กล้าละเลยคำสั่ง ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พวกเราสมควรทำอยู่แล้ว ท่านบรรพจารย์ไม่จำเป ป็นต้องใส่ใจ”
“พวกท่านได้รับบาดเจ็บ กลับไปพักผ่อนเถอะ! พักฟื้นร่างกายให้หายดี ภายหน้าหากมีเรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้ มารายงานที่จวนได้”
“ขอบคุณท่านบรรพจารย์” ผู้นำตระกูลเซ่าขอบคุณด้วยความดีใจ
“ขอบคุณท่านบรรพจารย์” คนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณตาม
“เหลิ่งหวา ส่งพวกเขากลับเถอะ!” เฟิ่งจิ่วสั่ง
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะหันไปทำท่าผายมือเชิญคนตระกูลเซ่า
หลังจากที่พวกเขากลับไป เฟิ่งจิ่วถามว่า “ห้าวเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง”
“นายท่านวางใจ นายท่าน้อยมีเหลิ่งซวงกับอิ่งอีคอยคุ้มกัน ปลอดภัยดี” ตู้ฝานตอบ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า มองพวกเขาแวบหนึ่ง เห็นพวกเขาล้วนได้รับบาดเจ็บจึงบอกว่า “พวกเจ้าถอยไปเถอะ!”
“ขอรับ” พวกเขาคารวะก่อนจะถอยออกไป เหลือเพียงเฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
“ไหนว่าจะกักตัวฝึกตน เหตุใดได้ยินเสียงก็ออกมาแล้วเล่า” เฟิ่งจิ่วจับมือเซวียนหยวนโม่เจ๋อ พลางยิ้มถาม
“เจ้าหลอมยาทีก็เอิกเกริกขนาดนั้น ข้ารู้ว่าอย่างไรก็ต้องดึงดูดคนมามากมาย จึงกังวลใจไม่มีสมาธิฝึกตน อยากออกมาดูหน่อย” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนบอกว่า “พวกเราเพิ่งมาถึงที่นี่ ยังไม่เคยมีความแค้นกับใคร คนพวกนี้เป็นใครกัน”
“ผู้ฝึกตนระดับเซียนสวรรค์สามคน เห็นได้ว่าเป็นกลุ่มอำนาจที่ไม่ธรรมดา อีกทั้งพวกเขายังบอกว่าจะจับเป็นข้า น่าจะเล็งเห็นความสามารถในการกลั่นยาของข้า ส่วนจะเป็นใครนั้น เดา ได้ยากจริงๆ” นางถอนหายใจเบาๆ “เอาเป็นว่าต่อไปต้องระวังตัวหน่อยแล้ว”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองนางก่อนจะกำชับอย่างไม่วางใจ “อย่างนั้นเจ้าต้องระวังตัวให้มากหน่อย อย่าให้คนอื่นสบโอกาสได้”
“อืม ข้ารู้” นางยิ้มบางๆ ก่อนถามว่า “ท่านยังไม่กลับไปฝึกตนในถ้ำหลังเขาอีกหรือ”
“รอก่อนเถอะ! ไม่ต้องรีบก็ได้” เพราะความเป็นห่วงจึงไม่อาจมุ่งมั่นกับการฝึกได้ แม้นางจะรับมือได้ แต่พอนึกว่าเขาไม่ได้อยู่เคียงข้างนางตอนที่มีอันตราย เขาก็ไม่อาจวางใจได้เลย ย
“ใช่แล้ว ครั้งก่อนซื่อเชวียให้หญ้าวิญญาณหิมะพันปีข้ามาหนึ่งต้น ข้าใช้มันเป็นส่วนผสมในการหลอมยาในเก้าหน ตอนนี้หลอมสำเร็จแล้ว ความบริสุทธิ์สูงกว่าและดีกว่าที่ผ่านมามาก”
ขณะเอ่ย นางหยิบยาที่ถูกห่อด้วยขี้ผึ้งหนาๆ ยื่นให้เขา “เม็ดนี้ท่านเก็บไว้”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อตอบว่า “ครั้งที่แล้วที่เจ้าให้มายังมีอยู่”
เฟิ่งจิ่วกลอกตา “มีอยู่ก็ต้องรับไว้อีกสิ! เขาเรียกว่าเผื่อฉุกเฉิน พกไว้มากหน่อยย่อมดีกว่าอยู่แล้ว”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อจึงรับไว้ เห็นใต้ตาของเฟิ่งจิ่วมีรอยคล้ำ สีหน้าดูเหน็ดเหนื่อย จึงบอกว่า “เจ้าหลอมยาครั้งนี้ไม่ได้นอนมากี่วันแล้ว รีบไปพักผ่อน ข้าจะให้ห้องครัวเตรียมอาหาร ที่เจ้าชอบกินไว้ ตื่นนอนจะได้กินเลย”
“ได้ อย่างนั้นอีกเดี๋ยวท่านไปดูห้าวเอ๋อร์หน่อย ข้าไปพักผ่อนก่อน” นางลุกขึ้นขยับคอไปมา ก่อนจะเดินออกไป
ขณะเดียวกัน ตระกูลใหญ่ทั้งหลายในเมือง…