เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2973 เสนอตนเอง / ตอนที่ 2974 เข้ามาได้อย่างไร
ตอนที่ 2973 เสนอตนเอง
ชายฉกรรจ์คนนั้นปล่อยมือเพราะรู้สึกเจ็บ เขาโยนหญิงสาวลงบนพื้น หญิงสาวที่กำลังร้องไห้รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน คนที่เหลือทำท่าจะไล่ตามไป แต่จู่ๆ กลับย่อตัวลงอ อย่างเจ็บปวดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพียงชั่วขณะเดียว หญิงสาวคนนั้นก็ถือโอกาสหนีและหายลับเข้าไปท่ามกลางฝูงชนแล้ว
“บัดซบ! ฝีมือใครลอบโจมตีเรา!”
ชายฉกรรจ์พวกนั้นลุกขึ้นแล้วตะโกนเสียงดัง ตวัดสายตาคมกริบมองไปรอบๆ เห็นคนที่มุงดูอยู่ต่างก็ถอยหนี สายตาของพวกเขาจึงมองมาทางที่ฮุยหลางอยู่
เพียงแต่ พอชายคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเห็นกวางวิญญาณลากรถที่สวยงามจนเกินจริงสองตัวนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะมองรถลากหรูหราคันนั้น แต่กลับไม่กล้าถาม เขาหันไปตะโกนสั่งชายฉกรรจ์ที เหลือ “รีบตามไปสิ! จับนางกลับมา!”
พอเห็นคนพวกนั้นจากไป ฮุยหลางเกาหัว ฝีมือภูตหมอกระมัง? เพียงแต่เหตุใดภูตหมอจึงต้องช่วยหญิงสาวคนนั้น?
ผ่านไปไม่นาน เหลิ่งซวงซื้อของเสร็จก็กลับมา “นายท่าน ของซื้อครบหมดแล้ว ได้ยินว่าขนมอบของร้านนี้มีหลากหลายชนิดและรสชาติก็ดีด้วย ข้าจึงซื้อกลับมาให้นายท่านลองชิมดู”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยว่า “เอาเข้ามาเถอะ!”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงรับคำ หลังจากเปิดประตูรถม้าก็เปิดม่านแล้วเดินเข้าไป จากนั้นก็เอาขนมอบมาจัดวางบนโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ข้างใน
“ฮุยหลาง กลับกันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วสั่ง
“ขอรับ” ฮุยหลางรับคำ จากนั้นก็บังคับกวางวิญญาณทองม่วงสองตัวให้มุ่งหน้ากลับจวน
ทว่าในเวลานี้เอง ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม เขาเดินตามข้างหน้าต่างด้านขวาของรถลาก ถามว่า “ฮูหยิน ที่จวนต้องการพ่อบ้านหรือไม่ ข้าขอเสนอตัวเองหน่อยเป็น นอย่างไร”
เฟิ่งจิ่วที่กำลังกินขนมอบอยู่ข้างในได้ยินก็เลิกคิ้วเล็กน้อย นางยื่นเด็กทารกให้เหลิ่งซวง ก่อนจะเลิกผ้าม่านขึ้นแล้วมองออกไป เห็นว่าเป็นชายชราในชุดสีเทาธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด ด่นคนหนึ่งกำลังเดินตามรถลาก ฝีเท้าผ่อนคลาย ไม่ได้ช้าหรือเร็วไปกว่ารถลากแต่อย่างใด อีกทั้งใบหน้ายังยิ้มแย้มเบิกบาน เห็นนางเลิกผ้าม่านขึ้น เขาก็มองไปที่นาง
“ข้าไม่ขาดพ่อบ้าน” เฟิ่งจิ่วว่า ก่อนจะปล่อยผ้าม่านลง
“เดี๋ยวสิ! ไม่ขาดพ่อบ้าน ข้าก็ช่วยกวาดพื้นได้นะ ไม่อย่างนั้นจะให้ยกน้ำรินชาก็ได้ ข้าขอแค่ข้าวกิน ที่หลับที่นอน และมีเหล้าวิญญาณกินทุกวันก็พอแล้ว”
“เหล้าวิญญาณหนึ่งจินก็จ้างคนกวาดพื้นยกน้ำรินชาได้หลายคนแล้ว” เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา กินขนมอบไปหลายชิ้นแล้ว แต่ยังคงเห็นคนคนนั้นเดินตามรถลากมาอย่างไม่ลดละ
ต้องบอกก่อนว่ารถลากไม่ได้เคลื่อนไหวช้าเลย คนคนนี้กลับเดินตามได้อย่างสบายๆ เห็นได้ว่าพอมีความสามารถอยู่บ้าง เพียงแต่เมื่อครู่นางกลับมองวรยุทธ์ของชายชราไม่ออก
ซ่อนพลังเอาไว้หรือ? เขาเป็นใครอีกล่ะนี่? เหตุใดต้องเสนอตัวมาเป็นพ่อบ้านให้นางด้วย?
“ฮูหยิน ข้าตัวคนเดียว นี่ก็หิวโหยมาหลายวันแล้ว เจ้าช่วยเมตตารับข้าไว้หน่อยเถอะ!”
“ท่านแก่เกินไป เกรงว่ากวาดพื้นก็คงกวาดได้ไม่สะอาด ยกน้ำรินชาก็เกรงว่าจะทำหก ดูแล้วไร้ประโยชน์ จะรับท่านไว้เพื่ออะไรกัน” เฟิ่งจิ่วพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน นางเอนตัวบนตั่ง งเตี้ยแล้วสนทนากับตาเฒ่าที่อยู่ข้างนอก
“โบราณว่าไว้ ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด คนก็เหมือนกัน ยิ่งแก่ก็ยิ่งมากประสบการณ์ ฮูหยิน รับข้าไว้ไม่ผิดหวังแน่นอน ที่สำคัญกว่านั้นคือชาติกำเนิดของข้าขาวสะอาด บริสุทธิ์ดุจสายลม เย็น ฮูหยินไม่จำเป็นต้องกังวลว่าข้าจะมีเจตนาแอบแฝง ข้าแค่ต้องการหาที่กินที่พักเท่านั้น”
………………………………….
ตอนที่ 2974 เข้ามาได้อย่างไร
ตาแก่เดินไปด้วยพูดไปด้วย เห็นคนในรถม้าไม่ตอบคำ จึงพูดเองเออเองไปตลอดทาง กระทั่งตามมาถึงหน้าจวนของเฟิ่งจิ่ว ประตูใหญ่เปิดออก รถลากสัตว์วิญญาณเข้าไปด้านในแล้ว ส่วนชายชราถ ถูกทิ้งไว้ด้านนอก
“อ้าว จบอย่างนี้เลยหรือ ข้าแนะนำตัวเองมาตลอดทางขนาดนี้ กลับใจจืดใจดำได้ลงคอ?” ชายชราตะโกนเข้ามาจากข้างนอก เขาพึมพำกับตนเอง เดินวนไปวนมาอยู่หน้าจวนครู่หนึ่ง จากนั้นก็หา มุมนั่งพักข้างจวนของเฟิ่งจิ่ว
“นายท่าน ชายชราด้านนอกนั่นใครหรือ เขานั่งอยู่นอกจวนของเรา ดูท่าทางไม่คิดจะไปไหนแล้ว” เหลิ่งหวาถามขึ้น เห็นว่าตอนปิดประตู คนคนนั้นเดินวนไปวนมาไม่ยอมไปไหน
“ตามมาระหว่างทาง ไม่รู้มาจากไหนเหมือนกัน” เฟิ่งจิ่วตอบ พลางป้อนอาหารให้ห้าวเอ๋อร์ “ไม่ต้องสนใจเขา เข้ามาไม่ได้เดี๋ยวก็กลับไปเอง”
เหลิ่งหวาจึงไม่สนใจชายชราข้างนอกอีก “นายท่าน ชิงเฉิงเตรียมตัวออกเดินทางคืนนี้แล้ว พวกหลัวอวี่ก็ตั้งใจจะไปทำภารกิจพรุ่งนี้ พวกเขารับภารกิจแรกมาแล้ว เป็นภารกิจคุ้มกันระดับสอ อง”
“เข้าใจแล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบ หลังจากป้อนอาหารให้เสี่ยวห้าวเอ๋อร์เสร็จ ก็ส่งให้เหลิ่งซวงดูแลต่อ ส่วนตนเองก็กลับไปจัดสมุนไพรต่อที่เรือนหลัง
ยามค่ำคืนมาเยือน ไป๋ชิงเฉิงบอกลานาง ฉวยโอกาสออกจากหลังเขาไปตอนกลางคืน และเดินทางออกจากเมืองสี่ทิศไปในคืนเดียวกัน
เมื่อฟ้ามืด เพราะด้านนอกมีลมเย็นพัดผ่านและมีละอองฝนโปรยปรายลงมา ชายชราที่นั่งอยู่นอกจวนจึงลักลอบเข้ามาในจวน จากนั้นก็หาที่หลบลมฝนแล้วเอนตัวนอนพักผ่อนในจวน
คนในจวนไม่สังเกตเห็นว่าเขาเข้ามา เพราะที่นี่วางค่ายกลไว้ หากจะเข้ามาจากข้างนอกต้องผ่านค่ายกลก่อน แต่ค่ายกลในจวนกลับไม่มีสัญญาณเตือน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่รู้ว่าชายชราลั กลอบเข้ามาแล้ว
กระทั่งเช้าวันต่อมา เหลิ่งหวากำลังเดินสำรวจในจวน พอมาถึงลานบ้านด้านนอกก็เห็นชายชรากำลังนอนอยู่บริเวณประตู นัยน์ตาของเขาหดเล็กลง รีบเดินเข้าไปจ้องพิจารณาชายชราทันที ท ทว่าเวลานี้ชายชรากลับกำลังนอนหลับกรนเสียงดัง เหมือนไม่รู้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้แล้ว
“ท่านเข้ามาได้อย่างไร”
เหลิ่งหวาถามขณะจับจ้องชายชรา เขามองบริเวณรอบๆ ค่ายกลไม่ได้ถูกทำลาย และประตูก็ไม่ได้ถูกพัง เขตอาคมที่กางคุ้มกันจวนไว้ทั้งหลังก็ยังอยู่ดี เช่นนั้นแล้วคนผู้นี้เข้ามา อย่างเงียบงันได้อย่างไรกัน?
ชายชรานอนกรนเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงหลับสนิทอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
เหลิ่งหวาโบกมือ กระแสพลังสายหนึ่งพัดผ่าน พุ่งไปทางชายชรา ในตอนนี้เองชายชราที่กำลังหลับสนิทก็พลิกตัวกระเด้งตัวขึ้น หลบการโจมตีจากเขา ขณะเดียวกันก็ขยี้ตาแล้วมองเหลิ่งห หวาอย่างไม่พอใจ ก่อนเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าหนูคนนี้เหตุใดไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ทำไมถึงได้ลงไม้ลงมือกับคนแก่เช่นข้าอย่างนี้ หากข้าบาดเจ็บ ข้าจะตามตอแยอยู่กับเจ้าไม่ไ ไปไหนเลยนะ”
“ท่านเข้ามาได้อย่างไร”
เหลิ่งหวาถามเขา สามารถลักลอบเข้ามาในจวนของพวกเขาได้โดยไม่ถูกใครจับได้ ชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา เขาไม่ได้เห็นอีกฝ่ายเป็นแค่ชายชราทั่วไป
“ก็เข้ามาอย่างนี้น่ะสิ! จะเข้ามาอย่างไรได้อีก”
ชายชราเบ้ปาก สะบัดแขนเสื้อก่อนจะพูดว่า “เมื่อวานข้าก็บอกแล้ว ข้าเสนอตนเองเป็นพ่อบ้าน หากให้ข้าเป็นพ่อบ้าน จวนนี้จะไม่มีอะไรผ่านเข้ามาได้แม้แต่แมลงวันตัวเดียวเลยล่ะ เช ชื่อหรือไม่”