เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2975 ตะลึง / ตอนที่ 2976 ประวัติไม่ชัดเจน
ตอนที่ 2975 ตะลึง
“อ้อ พูดจริงหรือ?”
เสียงของเฟิ่งจิ่วดังขึ้น ทั้งสองหันไปมองตามเสียง เห็นเฟิ่งจิ่วในชุดลำลองเดินสาวเท้าออกมาอย่างแช่มช้า
“นายท่าน” เหลิ่งหวาขานเรียก “ชายชราคนนี้นอนที่นี่เมื่อคืน รอบข้างไม่มีอะไรเสียหาย ไม่รู้เข้ามาได้อย่างไร”
“โอ้โห ฮูหยินอะไรกัน เป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตางดงามเหมือนเทพธิดาเดินได้นี่เอง” ชายชรายิ้มตาหยีจ้องเฟิ่งจิ่ว เขาสังเกตเฟิ่งจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้า “ถ้าอย่างไร ข้าเปลี่ยนเป็น เรียกว่าคุณหนูก็แล้วกัน”
เฟิ่งจิ่วเดินเข้ามา ก่อนถามชายชราคนนั้นว่า “ท่านไม่ยอมกลับ เอาแต่อยู่ที่จวนของข้าทำไมกัน ทั้งยังลักลอบเข้ามาในจวนของข้าอีก หรือคิดจะอยู่เป็นพ่อบ้านให้ข้าจริงๆ”
“ให้ข้าว ให้ที่พัก ให้เหล้า” ชายชรายิ้มตาหยีมองเฟิ่งจิ่ว “คุ้มค่ามาก”
“อยู่กับข้า มีกฎที่ไม่อาจแหกได้อยู่”
“วางใจ ข้าไม่ก่อปัญหาแน่นอน” ชายชราโบกมือกล่าว
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา บอกว่า “ในเมื่อพูดอย่างนี้แล้ว เช่นนั้นก็ตามข้ามา!” พูดจบ ก็หมุนตัวเดินเข้าไปข้างใน
ชายชราเห็นอย่างนั้นจึงเดินตามไป เฟิ่งจิ่วเดินอ้อมค่ายกลจนมาถึงลานประลอง ก่อนกล่าวว่า “เช้าๆ อย่างนี้ข้ากำลังอยากยืดเส้นยืดสายพอดี ท่านฝึกกับข้าหน่อยเป็นอย่างไร”
ชายชราที่เดินตามหลังมาชะงักเท้า เขามองไปรอบๆ ก่อนที่จะหันมามองเฟิ่งจิ่วแล้วหัวเราะในลำคอ “ฝึกซ้อมกับเจ้า? แต่ว่า ข้าทำใจลำบากน่ะสิ!”
เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก เหลือบมองเขาอย่างหมดคำพูด ได้ยินเสียงเขาพึมพำอย่างกลัดกลุ้มอยู่ตรงนั้น
“เจ้าว่า หากข้าสู้เต็มกำลัง เจ้าจะต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าแน่ แต่เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของข้า หากข้าชนะเจ้า แล้วเจ้าไล่ข้าไปเพราะความอับอายจะทำอย่างไร”
เฟิ่งจิ่วหนังตากระตุก ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ไม่หรอก”
“หากข้าจงใจไว้หน้าเจ้าด้วยการออมมือ อย่างนั้นเจ้าก็อาจจะรังเกียจว่าข้าไม่ได้เรื่อง และไม่ให้ข้าเป็นพ่อบ้านให้เจ้าอีก เจ้าว่าหากทำอย่างนี้ข้าก็เสียแรงเปล่าน่ะสิ”
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเขา นาทีต่อมา เงาร่างของนางพุ่งออกไปโจมตีเขาด้วยฝ่ามือ ความเร็วนั่นทำให้ชายชราอึ้งงันเล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลบการโจมตีของเฟิ่งจิ่วไปอย่างง่า ายดาย จากนั้นก็หมุนตัวสาวเท้าออกวิ่ง
“เดี๋ยวสิ! มีอะไรก็พูดกันดีๆ อย่าลงไม้ลงมือกันสิ” ชายชราตะโกน เขาหาที่หลบ แต่กลับเห็นว่าที่นี่เป็นพื้นที่โล่งกว้าง อยากซ่อนก็ไม่มีที่ซ่อน จึงโฉบตัวพุ่งเข้ามาพร้อมกับกำปั น
“โอ๊ย!”
เขาร้องครวญ ยกมือปิดเบ้าตาที่โดนเฟิ่งจิ่วต่อย “ข้าขอเตือนเจ้าเลยนะ อย่าเข้ามาอีก! หากเจ้ายังลงไม้ลงมืออีกล่ะก็ ข้า…ข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
“ข้าก็ไม่ได้ขอให้ท่านเกรงใจเสียหน่อย! ถึงท่านไม่ตอบโต้ ข้าก็ไม่ออมมือหรอก” เฟิ่งจิ่วว่า ก่อนจะเคลื่อนฝีเท้าแล้วตวัดกำปั้นใส่อีกครั้ง
“ได้! เจ้าบังคับข้าเองนะ!” ตาเฒ่าตะโกนด้วยความเดือดดาล มือที่คลายออกจากเบ้าตารวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณ ก่อนจะเหวี่ยงหมัดออกไป
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก ทั้งสองประลองกำลังกันในลานกว้าง การประลองครั้งนี้ทำให้นางค้นพบว่าวรยุทธ์ของชายชราลึกล้ำยากหยั่งถึง นางรู้สึกว่าวรยุทธ์ของเขาเหนือกว่านาง
ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ กลับวิ่งมาขอเป็นพ่อบ้านให้นางที่นี่อย่างไร้เหตุผลเนี่ยนะ?
เผลอแค่แวบเดียว นางก็ถูกซัดปลิวออกไปแล้ว นางหมุนตัวกลางอากาศ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างมั่นคง เหลิ่งหวาที่ดูอยู่กลั้นหายใจ ประกายตะลึงพรึงเพริดพาดผ่านดวงตาของเขา
………………………………….
ตอนที่ 2976 ประวัติไม่ชัดเจน
นายท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชราคนนั้น?
เฟิ่งจิ่วหันไปมองชายชราที่กำลังยิ้มแย้ม ถามว่า “จะอยู่ที่นี่จริงหรือ”
“อืม ข้าจะอยู่ที่นี่” เขาหัวเราะในลำคอ “ข้าจะเฝ้าประตูให้เจ้าก็แล้วกัน! รับประกันว่าแม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็เล็ดลอดเข้ามาไม่ได้”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ผู้แข็งแกร่งระดับท่าน ให้เฝ้าประตู จะเป็นการหมิ่นเกียรติกันเกินไปหรือไม่”
เขาโบกมือ “ไม่หรอก ข้าเองก็ไม่มีที่ไป จวนของเจ้าก็ดีด้วย ยังให้ข้าวกินให้บ้านอยู่แล้วก็ให้เหล้าด้วย นี่ก็ดีมากแล้ว”
เฟิ่งจิ่วจ้องเขาครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “ให้เรียกท่านว่าอย่างไร”
“ฮะๆ เรียกข้าว่าเหล่าเหมยก็ได้” เหล่าเหมยยิ้มบอก
“เหลิ่งหวา เจ้าจัดที่พักให้เขาหน่อย บอกเรื่องที่ต้องระวังในจวนของเราให้เขารู้ด้วย” เฟิ่งจิ่วหันไปกำชับเหลิ่งหวาที่อยู่ด้านหนึ่ง
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะหันไปพูดกับชายชรา “ตามข้ามาเถอะ!”
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนดี จะต้องรับข้าไว้แน่นอน” เขายิ้มตาหยีพูดกับเฟิ่งจิ่ว ก่อนจะหมุนตัวเดินตามเหลิ่งหวาไป พลางหัวเราะในลำคอแล้วกล่าวว่า “คราวนี้ดีล่ะ ในที่สุดก็ มีที่ลงหลักปักฐานเสียที ไม่ต้องพเนจรอีกแล้ว”
เฟิ่งจิ่วมองชายชราที่เดินจากไป กระทั่งไม่เห็นเงาร่างของเขาจึงเดินออกไป คนคนนี้อ่านไม่ออกเลย แต่มั่นใจได้ว่าเขาอยากอยู่ที่นี่จริงๆ เพียงแต่ เขาจะอยู่ที่นี่ไปทำไมกัน?
ในเมื่ออ่านไม่ออก อย่างนั้นก็รอดูไปก่อนแล้วกัน! เวลาผ่านไป ยังจะกลัวอ่านไม่ออกหรือ?
ชายชราเดินตามเหลิ่งหวาไปยังเรือนด้านใน เขามองไปรอบๆ เพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมในนี้ พอได้ยินเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของเด็กทารก สายตาเขาพลันไหวระริก ก่อนยิ้มถามว่า “ทำไมข้าได ด้ยินเสียงทารกด้วยล่ะ ในจวนมีเด็กทารกหรือ”
เหลิ่งหวาหันไปมองเขาแวบหนึ่ง เห็นใบหน้าของเขายิ้มแย้ม มีแววอยากรู้อยากเห็นอยู่รางๆ จึงบอกว่า “นั่นคือนายท่านน้อยของจวนเรา”
ชายชราไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแต่ตอนที่เดินเข้าไปข้างใน เขาเห็นหญิงชุดดำอุ้มทารกเดินออกมา
เหลิ่งซวงมองเหลิ่งหวาที่พาคนเข้ามา จึงถามขึ้นว่า “เขาเข้ามาได้อย่างไร”
“ท่านพี่ นี่คืออาวุโสเหมย” เหลิ่งหวาแนะนำ เขามองชายชราแวบหนึ่ง ก่อนบอกว่า “เช้านี้เขาแอบเข้าประตูใหญ่มานอนข้างใน นายท่านสั่งให้เขาอยู่เฝ้าประตูจวน ตอนนี้ข้าจะพาเขาไ ไปที่ห้องพัก ไว้ค่อยพาเขาไปหาท่าน”
เหลิ่งซวงไม่ได้ถามอะไรอีก เพียงพยักหน้า
“โอ้ เด็กน้อยคนนี้น่ารักจริงๆ อ้วนท้วนขาวเนียน น่ารักน่าชังจริงๆ” ชายชราก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องห้าวเอ๋อร์เหมือนเอ็นดูเขาเหลือล้น ก่อนถามขึ้นว่า “ข้าขออุ้มเขาหน่อยได้ หรือไม่ เขาน่ารักจริงๆ ตัวจะต้องนุ่มนิ่มมากแน่เลย”
เหลิ่งซวงอุ้มเด็กถอยหลังไปหนึ่งก้าว จ้องเขาอย่างหวาดระแวง “ต้องไปที่เรือนที่พักไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็รีบไปเสียเถอะ!”
ชายชราทำท่าเหมือนเสียดาย ปากก็พึมพำว่า “เจ้าเด็กอ้วนนั่นน่าสนใจจริงๆ ข้าอยากอุ้มเขาเล่นหน่อย! โธ่ แค่นี้ก็ไม่ให้แตะต้อง”
มองดูพวกเขาสองคนเดินออกไป เหลิ่งซวงอุ้มห้าวเอ๋อร์เดินไปที่เรือนหลัง พาเขาเดินเล่นรอบๆ พอเห็นเฟิ่งจิ่วเดิมมา จึงก้าวเข้าไปหาพลางขานเรียก “นายท่าน”
เฟิ่งจิ่วเอื้อมมือไปจับมือเสี่ยวห้าวเอ๋อร์ หยอกเล่นกับเขา ก่อนถามว่า “เจออาวุโสเหมยหรือยัง”
“เมื่อกี้เพิ่งบังเอิญเจอทางนั้น เขายังอยากจะอุ้มนายท่านน้อยด้วย ข้าไม่ให้เขาอุ้ม” เหลิ่งซวงเอ่ย ก่อนถามอีกว่า “นายท่าน คนผู้นั้นประวัติไม่ชัดเจน ให้เขาเข้ามาในจวนแบบน นี้จะเป็นอันตรายหรือไม่”