เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 641 แลกแผลด้วยแผล + ตอนที่ 642 กลับดำเป็นขาว
ตอนที่ 641 แลกแผลด้วยแผล
เห็นเช่นนี้ กวนสีหลิ่นไม่ถอยกลับตั้งรับ กลิ่นอายพลังเร้นลับบนร่างพุ่งพล่านขึ้นมา ร่างพุ่งออกไปราวพยัคฆ์ร้าย พร้อมเหวี่ยงหมัดจู่โจมไปทางอาจารย์คนนั้น
ตอนอยู่ข้างนอกฝึกวิชามามาก กลายเป็นคนรักศักดิ์ศรีและจิตใจเด็ดเดี่ยวไปเสียแล้ว อาจารย์คนนี้แค่เห็นต่างก็ใช้กำลัง ซ้ำยังรังแกกันด้วยพลังระดับบรรพชนนักรบ ต่อให้สู้ไม่ไหวแล้วเขาจะถอนตัวได้อย่างไร?
“ผัวะ!”
หมัดทั้งสองคนชกเข้าหากันอย่างรุนแรง สองกระแสลมและพลังต่างผลักออก กวนสีหลิ่นพลันถอยออกไปไกลหลายเมตร ส่วนอาจารย์คนนั้นก็ถอยไปสองก้าว
เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ ตกตะลึง อับอายและโกรธเคืองอยู่บ้าง นักเรียนคนหนึ่งกล้าต่อสู้กับเขา ซ้ำยังกระเทือนเขาถอยไปสองก้าว ช่างน่าขายหน้านัก!
“เจ้าหนู ดูท่าวันนี้ข้าต้องสั่งสอนเจ้าสักหน่อย!”
อาจารย์คนนั้นตะโกนด้วยความรู้สึกอับอายจนโกรธ แล้วพุ่งไปทางกวนสีหลิ่นอีกครั้ง ขณะที่ร่างขยับไป กลิ่นอายพลังเร้นลับที่มองเห็นด้วยตาเปล่าก็ปะทุขึ้นบนร่างปานวังวน เสียงโหยหวนรุนแรงราวกับคลื่นกระหน่ำกลางทะเลใหญ่ พัดคลื่นสูงพันชั้นโถมขึ้นมา ก่อนจะตรงไปหาคนตรงหน้าด้วยพลังบ้าคลั่งรุนแรง
“เฮือก! แย่แล้ว!”
คนอื่นข้างๆ เห็นเช่นนี้ต่างสูดหายใจ หนึ่งคนในนั้นก้าวถอยหลัง หันมองรอบข้างอย่างรวดเร็วแล้วสับขาวิ่งไป
เห็นว่าหมัดที่อาจารย์ชกมามีกระแสลมเอ่อล้นมากกว่าก่อนหน้านี้ แววตากวนสีหลิ่นเคร่งเครียดเล็กน้อย ครั้งนี้เขาไม่ได้รับการโจมตีซึ่งหน้า หลังจากเรียกรวมพลังเร้นลับในร่างก็แวบหลบอย่างรวดเร็ว พยายามหลบเลี่ยงการจู่โจมของศัตรู
แต่ถึงอย่างไรศัตรูก็เป็นอาจารย์ ซ้ำกำลังยังอยู่ระดับบรรพชนนักรบ กำลังแค่ยอดปรมาจารย์นักรบของเขายากจะเทียบเคียง โดยเฉพาะเมื่อแรงกดดันนั้นถาโถมมา ก็กัดเขาไว้ประหนึ่งพยัคฆ์ร้าย หากไม่ใช่เพราะสองสามเดือนนี้เขาอยู่ข้างนอกจนมีกำลังต้านทานเล็กน้อย ยามเผชิญหน้ากับอาจารย์ระดับบรรพชนนักรบเบื้องหน้าคงไม่มีแม้แต่โอกาสจะลงมือแน่นอน
เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ดี กำลังเขามีขีดจำกัด คิดจะโจมตีศัตรูก็ต้องแลกแผลด้วยแผล!
ดังนั้นขณะที่กำลังแวบถอยไป เขาจึงเผยจุดอ่อน จุดอ่อนนี้ปกติมากในสายตาคนทั่วไป ถึงอย่างไรเขาก็เป็นยอดปรมาจารย์นักรบ เผยจุดอ่อนต่อหน้าบรรพชนนักรบจะแปลกอะไร?
อาจารย์ระดับบรรพชนนักรบคนนั้นเห็นจุดอ่อนนี้ก็หัวเราะเสียงเย็น เหวี่ยงหมัดชกไปตรงหน้าอกอีกฝ่ายอย่างแรง ทว่าในเวลานี้เอง กวนสีหลิ่นกลับขยับร่างหลบ หมัดกำแน่นพร้อมรวบรวมพลังลึกลับชกไปตรงซี่โครง อาจารย์คนนั้นตกใจ ขณะที่ตกตะลึงคิดจะถอยห่างก็ไม่ทันการณ์แล้ว
“ผัวะ!”
“ผัวะ!”
สองเสียงหมัดที่ชกลงอย่างแรงดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย เสียงกระดูกหักสองเสียงลอยตามมาเข้าหูคนอื่นข้างๆ พวกเขาตกใจจนเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ และนิ่งมองภาพตรงหน้านั้น
สองหมัดชกออกไป หมัดอาจารย์ที่เดิมทีควรชกเข้าตรงอกกวนสีหลิ่นกลับพลาดโดนเพียงแขน กระดูกแขนคงหักภายใต้การโจมตีรุนแรง
ส่วนอาจารย์คนนั้นยามนี้พลันก้าวเท้าถอย ก้มหน้าลงอย่างยากจะเชื่อ มือหนึ่งประคองซี่โครงที่หักไปแล้ว เหมือนนึกไม่ถึงว่าตนจะโดนนักเรียนคนหนึ่งทำให้บาดเจ็บ ขณะที่ตกตะลึงเขายิ่งโกรธเคืองไม่มีสิ้นสุด ไฟโทสะเปี่ยมล้นพุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง แววตาเย็นเยียบแฝงด้วยความโกรธเกรี้ยวมองไปทางเด็กหนุ่มชุดดำที่ถอยไปไกลหลายเมตรทันที
แลกแผลด้วยแผล ความประมาทเล็กน้อยไม่ง่ายดายแค่บาดแผลเล็กๆ เด็กหนุ่มคนนี้ช่างกำเริบเสิบสานและหาญกล้าจริงๆ! แม้แต่อาจารย์ยังกล้าทำร้าย หากวันนี้ไม่ทำให้เขานอนหมอบบนพื้นจนลุกไม่ขึ้น ภายหน้าเขาจะยืนอยู่ในสำนักศึกษาอย่างไร?
ความโกรธและพลังเร้นลับผสานเข้าด้วยกัน กลิ่นอายน่าสะพรึงทำให้นักเรียนพวกนั้นอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปรามในที่สุด
……………………
ตอนที่ 642 กลับดำเป็นขาว
“ท่านอาจารย์ ท่านอย่าเพิ่งโกรธ อย่ามีเรื่องกับคนไม่รู้ความเช่นเขาเลยขอรับ”
“จริงด้วยท่านอาจารย์ ผู้ใหญ่อย่างท่านไม่ควรถือสาคนผู้น้อย อย่าเอาเรื่องเขาเลยขอรับ”
“ท่านอาจารย์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรใช้กำลัง ขอท่านรีบยั้งมือไว้ก่อนเถอะ!”
“อย่าสู้กันอีกเลย หากสู้ต่อไปจะเป็นเรื่องใหญ่”
“หุบปาก!”
อาจารย์คนนั้นได้ยินเสียงคนอื่นห้ามปราม แววตาดุร้ายจึงกวาดมอง ตะโกนเสียงเข้ม เสียงดุจสายฟ้ามีแรงกดดันเอ่อล้น ทำให้พวกเขาหน้าซีดเผือดไม่กล้าปริปากอีกเสียดื้อๆ
“เด็กคนนี้โอหังอวดดี หากวันนี้ไม่สั่งสอนเจ้าดีๆ ข้าก็ไม่สมควรเป็นอาจารย์!”
เขาตะคอกเสียงเกรี้ยว เอ่ยอย่างน่าเกรงขามและมีความชอบธรรม กลับไม่รู้ว่าคำพูดนั้นคนอื่นได้ยินถึงหูแล้วช่างน่าขัน ขณะที่เขาจะสู้ต่อ กลับได้ยินเสียงหนึ่งลอยมา
“เร็วเข้าๆ พวกเขาจะสู้กันแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นโดนซ้อมจนตายแน่!”
ทุกคนมองไป ที่แท้เป็นชายคนนั้นที่สับขาวิ่งออกไปก่อนหน้านี้ไปตามอาจารย์คนหนึ่งมาช่วย
อาจารย์คนนั้นเห็นภาพเช่นนั้นไกลๆ ก็แปลกใจเล็กน้อย รีบเปลี่ยนมาลากชายคนนั้นแทน แล้วเรียกพลังกระโจนมาเบื้องหน้าทุกคน เขามองอาจารย์ที่ไฟโกรธลุกโชนและใช้มือหนึ่งกุมตรงซี่โครงไว้ ถามอย่างแปลกใจเล็กน้อยว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ข้าได้ยินว่าเจ้าจะสู้กับนักเรียนที่มาลงชื่อสอบประเมินหรือ?”
ตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ เขายังนึกว่าเด็กหนุ่มคนนั้นแกล้งหลอกเขา กลับไม่นึกว่าจะตามมาเห็นทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดจริง อาจารย์สู้กับนักเรียน? ช่างไร้เหตุผลจริงๆ
“หึ!”
เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่คืออาจารย์สำนักศึกษา อาจารย์คนนั้นแค่นเสียงหยันหนักๆ ชี้ที่กวนสีหลิ่น “เด็กคนนี้โอหังเหิมเกริมเหลือเกิน! ถึงกับกล้าขวางทางข้าและอาศัยตอนที่ข้ายังไม่ตั้งตัวมาลอบทำร้ายข้า การกระทำเช่นนี้ช่างน่าไม่อาย!”
ได้ยินคำพูดนี้ เด็กหนุ่มคนอื่นข้างๆ ที่มองมาตั้งแต่ต้นจนจบต่างมีสีหน้าอึ้งงัน กะ การกลับดำเป็นขาวเช่นนี้จะไร้เหตุผลเกินไปแล้วกระมัง?
กวนสีหลิ่นได้ยินแล้วก็เพียงยกมุมปากขึ้น เดินทางฝึกฝนวิชาข้างนอก เห็นหน้าค่าตามามากมายหลายแบบ อาจารย์คนนี้ไม่มีท่าทางเช่นอาจารย์ ปากมีแต่คำพูดเพ้อเจ้อกลับดำเป็นขาว คาดไว้แล้วว่าจะเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา
“ไม่ใช่ขอรับๆ เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นเช่นนั้น” เด็กหนุ่มที่ไปตามอาจารย์มาช่วยรีบบอก แต่เพิ่งเอ่ยปากก็ถูกสายตาหนึ่งจ้องมองอย่างดุร้าย สายตานั้นทั้งหนาวเหน็บและเย็นเยียบ ทำให้เขาราวกับถูกพิษ หัวใจหยุดเต้นพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
“อาจารย์เหออย่ายุ่งเรื่องนี้เลย รอข้าสั่งสอนเจ้าเด็กไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน!” อาจารย์คนนั้นตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนต่อไป ไม่สนว่าอาจารย์คนนั้นยังอยู่ข้างๆ กลิ่นอายเพิ่มพุ่งพรวด ร่างถลาเข้าเหวี่ยงหมัดโจมตีไปทางกวนสีหลิ่น
“หยุด!”
เสียงตะโกนดุจฟ้าผ่าดังมาจากท้องฟ้า แรงกดดันทรงพลังสะเทือนจนอาจารย์คนนั้นถอยไปดื้อๆ และหยุดยั้งการโจมตีของเขาที่หมายจะเอาชีวิตไว้ ทุกคนเงยหน้าอย่างประหลาดใจท่ามกลางเสียงดุจฟ้าร้องกระหึ่ม เห็นชายชราคนหนึ่งลอยมากลางอากาศ
“ทะ ท่านรองเจ้าสำนัก…” อาจารย์คนนั้นหน้าขาวซีดเล็กน้อย ยามนี้ถึงจะมีอารมณ์ตื่นตระหนก
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? เป็นถึงอาจารย์ทำไมถึงลงมือกับนักเรียน?” ชายชราลงมาที่พื้นอย่างมั่นคง หลังแววตาดุดันมองผ่านเด็กหนุ่มชุดดำที่แขนข้างหนึ่งลู่ลงไร้เรี่ยวแรง ก็หยุดสายตาลงบนร่างอาจารย์ผู้มีสีหน้าซีดเผือด
เด็กหนุ่มคนนั้นที่ไปตามกำลังเสริมได้ยินคำเรียกจากอาจารย์คนนั้น จึงรู้ว่ารองเจ้าสำนักมา รีบร้อนบอกว่า “ท่านรองเจ้าสำนัก อาจารย์คนนี้ทำร้ายคนไม่แยกแยะถูกผิดขอรับ!”
ได้ยินเช่นนี้ รองเจ้าสำนักก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม “เล่ามาอย่างละเอียดซิ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่? หากโกหกปิดบังจำต้องถูกลงโทษ!”
………………………………………………….