เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 653 เดินตามท้าย + ตอนที่ 654 โม่เฉินผู้เย่อหยิ่งเย็นชาน่ารัก
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 653 เดินตามท้าย + ตอนที่ 654 โม่เฉินผู้เย่อหยิ่งเย็นชาน่ารัก
ตอนที่ 653 เดินตามท้าย
“นี่…” เฟิ่งจิ่วมองเขาอย่างขออภัยไปบ้าง “เช่นนั้น ข้าจะชดเชยให้เจ้าทีหลังแล้วกัน!”
“เจ้าชดใช้ไม่ไหวหรอก มันทอมาจากไหมสวรรค์ที่ปล่อยเส้นไหมสามปีครั้ง”
ได้ยินเช่นนี้มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุก เห็นท่าทางเขาสงบนิ่ง จึงเอ่ยถามหน้าเจื่อน “ชะ เช่นนั้นจะทำอย่างไร? ก็ของมันเสียไปแล้ว”
“เจ้าบอกว่าเจ้าอยู่สำนักยาเซียน” เขามองเด็กหนุ่มตรงหน้า น้ำเสียงใจเย็น
“เหอะ… ใช่ ข้าเพิ่งเข้ามายังกลั่นยาเซียนไม่เป็น” เธอรีบบอก กลัวอีกฝ่ายนึกว่าเธออยู่สำนักยาเซียน ดังนั้นจึงจะให้เธอช่วยกลั่นยาเซียน
โม่เฉินชายตามองเฟิ่งจิ่ว พอสะบัดมือกระดาษแผ่นหนึ่งก็แผ่หราอยู่บนมือ “ช่วยข้าตามหายาทิพย์ห้าอย่างในนี้”
เฟิ่งจิ่วไม่รับแต่ขมวดคิ้ว บอกว่า “เจ้าต้องการยาทิพย์ไปแลกเอาไม่ได้หรือ? สถานที่เช่นภูเขาลึกป่าทึบนี้ข้าจะไปหายาทิพย์ที่ไหนให้เจ้า! ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังมีเรื่องต้องทำ! แม้เสื้อผ้าเจ้ามีค่าก็เป็นแค่เสื้อผ้า อย่างมากข้าจะชดใช้ให้เจ้าทีหลังสิบชุดยังได้เลยกระมัง? ไหมสวรรค์คงไม่ล้ำค่ามากไปกว่าไหมน้ำแข็ง เดี๋ยวข้าออกจากสำนักศึกษาก็มีวิธีช่วยเจ้าเอามาเอง”
“ของพวกนี้ข้าต้องการแบบสดใหม่ ที่จุดแลกเปลี่ยนไม่มีหรอก”
ได้ยินเช่นนี้เธอก็มองเขา ในใจนึกสงสัย สดใหม่หรือ?
เธอยื่นมือไปรับมากวาดดูยาทิพย์ในนั้น เมื่อเห็นยาทิพย์ห้าอย่างนั้นก็ถลึงตาขึ้นทันใด กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ทั้งหมดนี้เป็นยาทิพย์ระดับสามขึ้นไป ที่นี่มียาทิพย์ระดับสามด้วยหรือ? ต่อให้มีอยากจะหาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย! อสรพิษวิญญาณสีน้ำเงินเป็นงูพิษระดับเก้า ตัวมันใหญ่เท่าแค่ตะเกียบ ความเร็วเอาสายฟ้ามาเทียบยังไม่ถือว่าเกินไป เจ้าต้องการนำเกล็ดสีน้ำเงินบนตัวมันมาทำยา? จะทำได้อย่างไรเล่า?”
“ยังมีเลือดกวางคู่ทรัพย์ สิ่งนี้มีค่าแค่ไหนเจ้ารู้หรือเปล่า? เลือดกวางเชียวนะ! เจ้าเอาเลือดข้าไปยังดีกว่า! ซักเสื้อผ้าเจ้าขาดแล้วต้องหาของบ้าๆ พวกนี้ให้เจ้า หากหาของพวกนี้พบข้าคงเก็บไว้เอง ต้องให้เจ้าด้วยหรือ?” เธอมองเขาราวกับมองคนโง่ ขยำกระดาษนั้นเป็นก้อนและยัดกลับอกเสื้อเขา
“ข้าคร้านจะสนใจเจ้า น้ำแกงเจ้าก็กินไปแล้ว เนื้อเจ้าก็กินไปแล้ว จึงถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดการขโมยอาหาร ข้าไม่กลัวเจ้าไปฟ้องหรอก” เธอแค่นเสียงหยัน แล้วเดินกร่างผ่านข้างกายเขาไป
“โอกาสหน้าคงได้พบกันอีก!”
น้ำเสียงเริงร่าลอยมาไกลๆ ก็เห็นเฟิ่งจิ่วเรียกพลังยกแขนพุ่งไปยังเทือกเขาหมื่นอสูร โดยไม่สนใจว่าตอนนี้ท้องฟ้ามืดลงแล้ว…
โม่เฉินมองร่างหนุ่มน้อยคนนั้นมุ่งไปยังเทือกเขาหมื่นอสูร แววตาฉายประกายเล็กน้อย อันที่จริงเขาให้หนุ่มน้อยช่วยเก็บสมุนไพรพวกนั้น แค่คิดว่าหลังจากตนเองหาพบจะให้หนุ่มน้อยช่วยเก็บ คล้ายกับเป็นผู้ช่วย แต่ยังพูดไม่ทันจบความรู้ของหนุ่มน้อยกลับทำให้เขาประหลาดใจมาก
ยามนี้เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นพุ่งไปยังเทือกเขาหมื่นอสูรราวกับสายลม นึกถึงว่าก่อนหน้านี้เขาบอกยังมีเรื่องต้องทำ คงจะไปที่เทือกเขาหมื่นอสูร ในเมื่อเป็นเช่นนี้…
เขาชำเลืองมองเสื้อคลุมที่ถูกโยนลงบนพื้น แล้วดึงสายตากลับมา จากนั้นค่อยสาวก้าวตามหลังหนุ่มน้อยคนนั้นไปยังเทือกเขาหมื่นอสูร
เฟิ่งจิ่วที่เดินทางอาศัยความมืดหลังจากเดินไปได้ระยะหนึ่งก็หันกลับไปมอง และใช้ดวงจิตค้นหาอย่างละเอียด มั่นใจว่าชายชุดขาวคนนั้นไม่ตามมาแล้ว ถึงจะฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ฝีเท้าเธอไม่หยุด ขณะที่เคลื่อนไหวความเร็วของย่างก้าวอันแปลกประหลาดช่างว่องไว
ร่างสีขาวค่อยๆ เดินออกมาจากหลังต้นไม้ มองฝีเท้าและความเร็วแปลกประหลาดของหนุ่มน้อยคนนั้น ในดวงตาเขาฉายแววแปลกๆ แล้วตามไปเงียบๆ
…………………
ตอนที่ 654 โม่เฉินผู้เย่อหยิ่งเย็นชาน่ารัก
แสงอาทิตย์แรกยามเช้าตรู่ส่องผ่านใบไม้ตรงตามเวลา เฟิ่งจิ่วที่เอนหลังนอนบนต้นไม้กำลังพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ทว่าเมื่อนึกถึงสถานที่ที่อยู่ตอนนี้ ถึงค่อยขยี้ตาหาวหวอดอย่างนิ่งไว้ไม่ไหวติง
“อากาศในป่าช่างดีจริงๆ!”
เธอหยีตาฟังเสียงลมเย็นยามเช้าพัดผ่านใบไม้ นกบนต้นไม้ร้องเจื้อยแจ้ว อารมณ์ไม่อาจผ่อนคลาย เพียงรู้สึกปล่อยวางเป็นอิสระ ในเวลานี้เองเมื่อหางตาเหลือบเห็นคนคนนั้นนั่งพิงบนกิ่งไม้ข้างกัน และกำลังมองเธออยู่เงียบๆ ทันใดนั้นก็ตกใจเสียจนแทบจะหัวทิ่มลงพื้น
เธอเกาะค้ำกิ่งไม้ไว้ พลางตบๆ อกมองเขาอย่างขุ่นเคือง “ทำไมเจ้ายังตามมาอีก? ไม่ส่งเสียงอะไรบ้างเล่า? ไม่รู้หรือว่าคนจะตกใจตายได้?” เช้าตรู่เช่นนี้นึกไม่ถึงว่าจะลืมตามาเห็นผู้ชายคนนี้
ยามนี้ในสายตาเธอคนคนนี้ไม่ใช่เทพจุติที่เจอกันตอนแรก แค่รู้สึกคล้ายกับวิญญาณที่มักจะปรากฏตัวข้างกายอย่างเทพไม่รู้ผีไม่เห็น นี่มันตั้งกี่ครั้งแล้ว?
“ข้าต้องการให้เจ้าช่วย”
โม่เฉินเอ่ยเสียงค่อย สายตาหยุดลงในป่า “ที่นี่มียาทิพย์ห้าอย่างที่ข้าต้องการ”
“อย่ามาล้อเล่นน่า กำลังเจ้าอยู่เหนือกว่าข้า ไหนเลยต้องให้ข้าช่วยอะไรด้วย?” เฟิ่งจิ่วโบกๆ มือ “ยาทิพย์ห้าอย่างนั้นทั้งหมดมีสี่อย่างต้องเก็บจากร่างสัตว์วิญญาณ เจ้าต้องไปจัดการเอง อย่าดึงข้าไปเกี่ยว ข้าไม่คิดจะชดใช้ด้วยชีวิตของข้า!”
โม่เฉินมองนาง บอกว่า “เจ้าไม่ต้องจับ แค่ต้องช่วยข้าเก็บ เป็นผู้ช่วย”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจเล็กน้อย มองเขาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยถาม “เจ้าเป็นนักเรียนสำนักพลังวิญญาณสินะ? นักเรียนสำนักพลังวิญญาณทำอะไรถึงต้องตามหาสมุนไพรพวกนั้น? หรือว่าเป็นสำนักยา? ไม่ใช่สิ บนตัวเจ้าไม่มีกลิ่นยา เป็นคนสำนักไหนกันแน่?”
โม่เฉินมองเฟิ่งจิ่ว ไม่ตอบคำถามแต่เอ่ยว่า “เจ้าซักชุดไหมสวรรค์ข้าขาด”
ได้ยินคำพูดนี้มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุก พร้อมหันหน้าหนีอย่างหมดคำพูด ทันใดนั้นเธอก็พบว่าชายชุดขาวคนนี้ช่างเหมือนเทพจุติจริงๆ และสง่างามไม่ธรรมดา แค่ซักเสื้อผ้าเขาขาดไม่ใช่หรือ? ต้องกล่าวโทษซ้ำๆ เช่นนี้เลย?
“เอาละๆ ข้าไม่ถามแล้วตกลงไหม? เจ้าพูดแล้วนะว่าจะไปจับเอง ข้าแค่รับผิดชอบเป็นผู้ช่วยให้เจ้า ข้ายังมีเรื่องของตนเองต้องทำ! ไม่มีธุระก็อย่ามารบกวนข้า” เธอพูดพลางเบ้ปาก กระโดดเบาๆ ลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองสิ่งแวดล้อมรอบข้าง จากนั้นค่อยนั่งลงบนพื้นและหยิบสมุนไหรออกมาเริ่มบด
ไปตามหาอสูรเพลิงเขาเดียวทั่วป่านั้นยุ่งยากเกินไป หากทำให้พวกมันมาหาเธออย่างว่าง่าย เช่นนั้นการเก็บมณีเพลิงคงง่ายขึ้นเยอะ
เห็นหนุ่มน้อยนั่งบดสมุนไพรบนพื้น เขาผงะไปนิดแล้วจึงถามว่า “เจ้าต้องการเวลาเท่าไร?”
“ครึ่งชั่วยาม” เธอพูดโดยไม่เงยหน้า
“ผ่านไปครึ่งชั่วยามค่อยตามข้าเข้ามาใจกลางเทือกเขาหมื่นอสูร” สมุนไพรพวกนั้นที่เขาต้องหาล้วนอยู่ใจกลางนั้น รอบนอกนี้ไม่มีหรอก
“รู้แล้วๆ ข้าก็ต้องไปที่นั่น” เธอพูดพลางจัดการสมุนไพรบนมืออย่างรวดเร็ว
ประมาณครึ่งชั่วยามผงยาเต็มๆ สองขวดก็ถูกเก็บเข้าแขนเสื้อ ถึงจะลุกขึ้นยืนตบๆ เสื้อคลุม บอกคนที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ตลอดว่า “ไปเถอะ!”
โม่เฉินเห็นเขาจัดการเรื่องในมือเรียบร้อยแล้ว ซ้ำยังได้ยินคำพูดเขา จึงสาวก้าวเดินไปข้างหน้า ทว่าฝีเท้าเพิ่งออกก้าวก็โดนหนุ่มน้อยดึงแขนเสื้อไว้
เขาหันกลับไปมอง สิ่งแรกที่มองไม่ใช่ใบหน้าเด็กหนุ่ม แต่เป็นมือที่คว้าแขนเสื้อเขา
“วางใจเถอะ มือข้าสะอาดแล้วน่า!” เฟิ่งจิ่วกลอกตามอง บอกว่า “เจ้าคงไม่คิดจะเดินเข้าไปกระมัง? ขี่กระบี่ไม่เป็นหรือ?”
………………………………………………….